Share

ตอนที่45 ยังไม่รู้ใจตัวเอง

"คิดถึงเมืองไทยบ้างหรือเปล่า"

ชายหนุ่มอยากจะรู้ว่าปลายฝนคิดถึงเมืองไทยบ้างหรือไม่เพราะจากที่นั่นมาร่วมสองเดือนแล้ว

"คิดถึงค่ะฉันถึงรีบฝึกให้เดินคล่องเร็วๆจะได้กลับเมืองไทยเร็วๆไงคะ"

ปลายฝนคิดถึงบ้านเกิดเธออยู่ตลอดเวลาแต่ที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่เพราะเธออยากรักษาตัวให้หายเร็วๆเธอจะได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น

"อืม..งั้นวันนี้เดินทั้งวันเลยดีไหม"

"นี่อยากให้ฉันกลับเร็วๆเหมือนกันใช่ไหมคะ"

ปลายฝนบุ้ยปากใส่ฟรานซิสเล็กน้อยที่เขาจะใฟ้เธอหัดเดินโดยไม่ยอมให้พัก

กรุงเทพมหานคร

08.00 น.

"นายเล็กยังไม่ลงมาเลยครับหมอลิน"

อีธานได้รับคำสั่งจากฟรานซิสว่าให้ช่วยดูแลความเรียบร้อยในวันเปิดบริษัทของลอเลนโซ

แต่ตอนนี้ก็ใกล้จะสายแล้วแต่เขายังไม่เห็นนายเล็กของเขาจะลงมาจากห้องเห็นเพียงแค่ลัลลลิลเท่านั้น

"อ้าวเหรอคะเดี๋ยวฉันไปตามให้ค่ะ"

ลัลลลิลรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องชายหนุ่ม

ก๊อกๆๆ

"คุณแต่งตัวเสร็จหรือยังวันนี้คุณต้องเข้าบริษัทวันแรกนะ"

แกร๊กกก

"มานี่หน่อยสิคุณ"

ลอเลนโซเปิดประตูออกมาพร้อมดึงมือหญิงสาวเข้าไปในห้องเพื่อให้เธอตัดสินใจช่วยอะไรบางอย่าง

"อะไรนี่มันจะสายแล้วนะ"

ลัลลลิลบ่นอุกเพราะนี่ก็ใกล้เวลาที่จะต้องออกไปที่บริษัทแล้วแต่ชายหนุ่มยังไม่อยากจะแต่งตัวยังใส่เพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงนอนอยู่เลย

"ผมจะใส่ชุดไหนดี"

ลอเลนโซเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้าของเขาออกให้หญิงสาวได้เห็นชุดสูทข้างในที่เรียงรายกันอยู่พร้อมให้เธอเลือกให้

"นี่เรื่องชุดก็ต้องถามฉันหรือไง"

"ก็ผมเลือกไม่ถูกนี่"

"โอ้ยย..จะสายแล้วด้วย..เอางี้ใส่ชุดนี้.."

ลัลลลิลมองดูนาฬิกาครู่หนึ่งจึงเดินเข้าไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกสูทให้ชายหนุ่มเธอเอื้อมมือดึงสูทสีเทาออกมายื่นให้ชายหนุ่มให้เขาไปเปลี่ยน

"ดีเหรอ"

ลอเลนโซถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกรอบ

ครู่ต่อมา

"อืม..ดี..เนคไทอยู่ไหน"

เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้วลัลลลินจึงถามหาเนคไทเพราะรู้สึกว่าชุดมันขาดอะไรไปบางอย่าง

"ลิ้นชัก.."

"อืม..สีนี้ละกัน"

หญิงสาวเลือกเนคไทในลิ้นชักภายในเวลาไม่กี่วินาทีแล้วจึงรีบผูกให้ลอเลนโซอย่างรวดเร็ว

"ขอบคุณนะ.."

ลอเลนโซรู้สึกมั่นใจทุกขึ้นมากเมื่อมีหญิงสาวอยู่ใกล้ๆทั้งยังขอบคุณเธอจากหัวใจแม้ตอนนี้ดูถ้าเธอจะไม่ใส่ใจฟังก็ตาม

"อืม..รีบไปเถอะเดี๋ยวสาย"

ลัลลลิลไม่ได้ทันฟังคำพูดอะไรของชายหนุ่มทั้งนั้นเธอห่วงแค่อย่างเดียวว่ากลัวว่าจะพาตัวเขาไปไม่ทันเวลาเท่านั้น

สองวันต่อมา

ซานตาบาบารา

"ตาเล็กเป็นอย่างไรบ้างล่ะ"

เฮเลนจิบกาแฟยามเช้ากับหลานชายคนโตอย่างสบายอารมณ์กับบรรยากาศดีๆในตอนนี้

"เห็นอีธานบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีครับคุณย่า"

จากที่อีธานบอกกับเขามาทุกอย่างราบรื่นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะลอเลนโซมีลัลลลิลคอยแนะแนวทางให้อยู่

"กลับไปคราวนี้ต้องขอบคุณหมอลินซะหน่อยที่ช่วยตาเล็กให้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้"

เฮเลนเห็นว่าจะมีลัลลลิลนี่แหละที่ควบคุมพฤติกรรมของลอเลนโซได้

"ผมยังมองไม่ออกเลยนะครับคุณย่าว่าจะมีผู้หญิงคนไหนช่วยเจ้าเล็กอย่างไม่หวังผลได้ขนาดนี้"

ฟรานซิสคิดว่าน้องชายของเขาโชคดีที่เจอคนอย่างลัลลลิล

"อืม.. ย่าว่าก็คงจะเหมือนกับหนูปลายที่ช่วยเราอย่างไม่หวังผลล่ะมั้ง"

เฮเลนพูดพร้อมอมยิ้ม

"คุณย่าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ"

ฟรานซิสรู้สึกว่าย่าของเขาต้องมีอะไรนัยๆในคำพูดแน่ๆแต่ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ

"แดดดี๊ฮับ"

"ปลายฝน"

ฟรานซิสหันไปตามเสียงเรียกของลูกชายของเขา

"ทำไมจูงลูกเดินออกมาคนเดียวแบบนี้"

ชายหนุ่มต้องรีบลุกไปช่วยจูงคนเป็นภรรยาเพราะเห็นว่าเธอเดินมากับลูกชายเพียงสองคนโดยไม่มีใครตามหลังมาด้วย

"ฉันแค่อยากท้าทายตัวเองดูน่ะค่ะ"

ปลายฝนอยากลองดูว่าเธอจะเดินเองได้ไกลขนาดไหน

"ค่อยๆเดินนะ"

"มี๊เดินตามหนาวมาฮับ"

ต้นหนาวเดินตัวป้อมนำหน้าคนเป็นแม่ไปหาคุณทวดของเขาทั้งยังเรียกคนเป็นแม่ให้เดินทางอย่างน่าเอ็นดูจนเฮเลนอดขำไม่ได้

"ฮ่าๆๆ...เดินนำมามี๊เลยเหรอ"

"ฮับจุนทวด"

คฤหาสน์ฮันส์

18.30 น.

โต๊ะอาหาร

"เป็นไงบ้างคุณทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า"

ลัลลลิลและลอเลนโซนั่งทานอาหารกันคนอยู่ที่โต๊ะอาหารในช่วงเย็นหญิงสาวเพิ่งจะกลับจากโรงพยาบาลอยากรู้ว่าวันนี้งานของลอเลนโซเรียบร้อยดีหรือไม่

"อืมก็ดี.. ตอนนี้เซลของผมก็เริ่มเข้าไปคุยตามโรงพยาบาลแล้ว"

ตอนนี้งานของเขาทุกอย่างเรียบร้อบดีและท่าทางจะมีแนวโน้มว่าจะดียิ่งขึ้นอีกด้วยเพราะแทบทุกโรงพยาบาลหรือคลินิคต่างๆให้เสียงยอมรับกับมาตรฐานสินค้าของเขาเป็นอย่างดีและเริ่มมีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ

"ดีแล้วล่ะ..ทีนี้ฉันก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้วสินะ"

ลัลลลิลพยักหน้าเบาๆ

"เบื่อหน้าผมแย่แล้วล่ะสิ"

"หึ่..รู้ตัวด้วยเหรอ"

หญิงสาวเบ้หน้าใส่ชายหนุ่มเล็กน้อย

"ช่อดอกไม้ครับนายเล็ก"

"ของใคร"

"เห็นว่าจากคุณเคลี่ครับ"

ลอเลนโซรับช่อดอกไม้มาด้วยท่าทีที่ไม่ยินดียินร้ายและเปิดดูการ์ดที่เสียบอยู่

"...."

ลัลลลิลมองช่อดอกไม้นั้นด้วยสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าใครส่งมาให้เขา

"เธอว่าไงบ้าง"

"เธอแค่แสดงความยินดีเรื่องที่ผมเปิดบริษัทน่ะ"

"คุณไม่ลองติดต่อเธอไปตอนนี้เห็นว่าเธอยกเลิกงานหมั้นแล้วนี่"

ลัลลลิลไมรู้ว่าทำไมสมองเธอต้องสั่งให้พูดกับเขาแบบนี้ทั้งที่ในใจของเธอไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยสักนิด

"ผมควรทำแบบนั้นเหรอ"

ลอเลนโซขมวดคิ้วถามหญิงสาวอย่างสงสัย

"คุณยังรู้สึกดีกับเธออยู่ไม่ใช่หรือไงเธอเห็นคุณเริ่มจริงจังกับชีวิตเธอน่าจะยอมกลับมาคุยกับคุณนะ"

"ผม.. ขอคิดดูก่อน"

ลอเลนโซไม่มีความนึกอยากจะกลับไปคุยกับเคลี่แล้วและยังนึกไม่ออกอีกว่าเขายังรู้สึกกับเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า

"แล้วอย่าลืมแก้ข่าวว่าเลิกกับฉันแล้วด้วยล่ะฉันจะได้ไม่ต้องโดนใครจับตามองซะที"

"...."

ลอเลนโซพยักหน้ารับหญิงสาวเบาๆเขารู้สึกไม่ค่อยชอบคำพูดของเธอเมื่อครู่เลยสัดนิดแต่นั่นมันก็เป็นสัญญาที่เขาได้ให้กับเธอไว้ตั้งแต่คราแรก

"ฉันอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะ"

ลัลลลิลรู้สึกกลืนอะไรไม่ค่อยจะลงจึงขอตัวออกจากโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วและเดืนกลับไปที่ห้องของเธอด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว

21.00​น.

"....."

ลอเลนโซนั่งมองมือถือของเขาอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าที่คิดไม่ตกว่าเขาจะกลับไปคุยกับเคลี่ดีหรือไม่เพราะในตอนนี้เขารู้สึกว่าความรู้สึกของเขาที่มีแต่เธอนั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status