"นายครับ"
"มีอะไร"
ฟรานซิสกำลังนั่งกุมมือปลายฝนอยู่ด้วยสีหน้าหดหู่เมื่อเห็นลูกน้องเดินเข้ามาหน้าตาตื่นจึงต้องรีบถามว่ามีเรื่องอะไร
"ตอนนี้มีข่าวว่าพิรัชฆ่าตัวตายเพราะไม่เหลืออะไรครับ"
ข่าวล่าสุดที่อีธานพึ่งจะได้รู้มาก็คือว่าพิรัชตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพราะสาเหตุที่ตนเองไม่เหลืออะไรแถมพี่ชายก็ดันต้องมาติดคุก
"อืม...ถ้าไม่คิดจะงัดข้อกับฉันตั้งแต่แรกคงไม่เป็นแบบนี้"
ฟรานซิสพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"แล้วเรื่องคดีของภูผากับภัทรินทร์ล่ะครับ"
"ให้ตำรวจจัดการฉันว่าคงไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยพวกมันแล้วล่ะ"
ฟรานซิสไม่อยากจะยุ่งอะไรกับคนพวกนี้ทั้งนั้นให้กฎหมายเป็นคนจัดการจะดีกว่าเพราะในหัวของเขาตอนนี้ยังกังวลเรื่องของปลายฝนอยู่อย่างมาก
"ครับ"
ครู่ต่อมา
"แดดดี๊"
"ครับ"
ต้นหนาวเดินเข้าห้องมาพร้อมกับเฮเลนเพื่อมาเยี่ยมคนเป็นแม่
"มี๊เป็นราย"
เด็กชายมองไปยังคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียงพรางหันมาถามพ่อเจ้าตัวว่าแม่เป็นอะไร
"มามี๊ไม่สบายต้องนอนพักผ่อนเยอะๆครับ"
"นอนนานไหม"
"อืม...คงไม่นานมั้งครับ"
ฟรานซิสตอบพร้อมลูบหัวต้นหนาวเบาๆรู้ว่าลูกชายคงอยากจะให้แม่ตื่นมาเล่นด้วยเป็นแน่
"ท่าจะอยากเล่นกับแม่แล้วล่ะมั้ง"
เฮเลนอมยิ้มพลางมองต้นหนาวอย่างเอ็นดู
"คงงั้นครับ"
"นี่ย่าพาต้นหนาวไปดูโรงเรียนมาแล้วนะเลือกเอาโรงเรียนนานาชาติใกล้บ้านเรานี่แหละจะได้ไปกลับสะดวก"
"ลำบากคุณย่าอีกแล้วสิครับ"
"ลำบากอะไรกันทั้งพ่อทั้งแม่เจ็บทั้งคู่ย่าก็ต้องดูแลเหลนย่าอยู่แล้ว"
"แล้วนี่เจ้าเล็กของคุณย่าไม่มาด้วยเหรอครับ"
"รายนั้นตั้งแต่ขาแขนเค้าใช้งานได้เกือบปกติก็เห็นง่วนอยู่กับการสร้างโปรเจคงานอะไรของเค้านั่นแหละ"
"ท่าจะจริงจังหรือเปล่าครับเนี่ย"
ฟรานซิสดูท่าครั้งนี้น้องชายของเขาดูจะจริงจังขึ้นมากเป็นพิเศษ
"ครั้งนี้ดูจริงจังอยู่นะย่าก็อยากเห็นเจ้าเล็กทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที"
"แล้วผมจะรอดูนะครับ"
คฤหาสน์ฮันส์
"โทรตามฉันมามีธุระด่วนเรื่องอะไร"
ลัลลลิลเดินหน้าบึ้งเข้ามาในคฤหาสน์หรูเพราะจู่ๆลอเลนโซก็โทรมาบอกเธอว่ามีธุระด่วนจะคุยด้วยแถมเธอถามเรื่องอะไรก็ไม่ยอมตอบโทรกลับก็ไม่รับทำให้เธอโมโหแล้วต้องถ่อมาถึงที่นี่
"คุณช่วยเลือกโลโก้บริษัทให้ผมหน่อยสิคุณ"
ลอเลนโซหันหน้าโน๊ตบุ้คให้หญิงสาวดูเมื่อเธอมาถึง
"เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ"
ลัลลลิลเท้าเอวอย่างไม่พอใจ
"แค่นี่อะไรนี่เรื่องใหญ่เลยนะโลโก้มันต้องอยู่กับบริษัทผมตลอดไปเลยนะ"
ลอเลนโซยังคงแสร้งทำหน้าตาเฉยเมื่อเห็นหญิงสาวโมโหลมออกหู
"เห้อ.. คุณนี่ทำฉันเสียเวลาจริงๆ"
"ช่วยผมเลือกหน่อยก็คนอื่นเค้าก็ยุ่งกันหมดมีแค่คุณเท่านั้นแหละที่ผมเห็นว่าว่างพอที่จะช่วยผมวันนี้วันหยุดคุณไม่ใช่เหรอ.. นะๆ"
ชายหนุ่มทำสีหน้าและน้ำเสียงอ้อนวอนเรียกร้องความสงสาร
"ก็ได้ก็ได้"
ลัลลลิลเห็นว่าไหนๆเธอก็มาถึงแล้วจช่วยชายหนุ่มเลือกๆจะได้จบๆ
สามวันต่อมา
โรงพยาบาล
"อือ..อืมม."
"..ปลายฝน.."
ฟรานซิสนั่งเฝ้าปลายฝนด้วยความหวังว่าเธอจะต้องตื่นขึ้นมาเจอเขาและแล้ววันนี้ความหวังก็เป็นจริงตอนนี้หญิงสาวเริ่มขยับตัวขึ้นมาเขาจึงรีบกดเรียกหมอกับพยาบาลให้เข้ามาดูเธออย่างรวดเร็ว
ครู่ต่อมา
"เป็นยังไงบ้าง"
รัชตะถามปลายฝนด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะสายตาที่เธอมองเขานั้นเหมือนดูจะแปลกใจอยู่มาก
"ปวดหัว"
ปลายฝนฟื้นขึ้นมาพร้อมคำถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแล้วคนในห้องนี้เป็นใครกันเพราะว่าเธอไม่รู้จักเลยสักคนรู้แค่ว่าผู้ชายที่ถามเธอเมื่อครู่เป็นหมอเพราะชุดที่เขาใส่ยิ่งครุ่นคิดเท่าไรมันก็พาให้เธอปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนต้องยกมือกุมหัวเอาไว้
"ปลายฝน"
ฟรานซิสรีบเข้ามาจับมือปลายฝนด้วยสีหน้ากังวล
"พวกคุณเป็นใคร"
ปลายฝนหันมาถามฟรานซิสอย่างสงสัย
"หืม..."
ฟรานซิสถึงกับมือไม้อ่อนกับคำถามของหญิงสาวที่ดูท่าเธอจะจำเขาไม่ได้เสียอย่างนั้น
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
"ฉันเป็นอะไรแก...แล้วทำไมแกอยู่ในชุดคุณหมอล่ะ"
ปลายฝนถามลัลลลิลด้วยสีหน้าสงสัยในตอนนี้เธอจำได้คนเดียวก็คือลัลลลิลเพื่อนเธอเท่านั้น
"นี่แกจำอะไรได้บ้างไหนลองพูดมาซิ"
ลัลลลิลลองทดสอบความจำของปลายฝนให้ละเอียดอีกครั้ง
"ก็จำได้ว่ากำลังฉลองกันที่ร้านปิ้งย่างที่เรากำลังจะได้เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันไงแล้วก็จำอะไรไม่ได้แล้วอะ"
ปลายฝนพูดในสิ่งที่เธอจำได้ล่าสุด
"โหนั่นมันตอน23เลยนะ"
ลัลลลิลหน้าเจื่อนเล็กน้อยเพราะเรื่องราวที่เพื่อนเธอจำได้มันก่อนที่จะเข้าทำงานที่โรงพยาบาลเสียอีกเธอคิดว่าเรื่องนี้เธอต้องอธิบายอะไรๆให้เพื่อนเธอฟังยาวเลยล่ะ
"แสดงว่าความทรงจำหายไป"
รัชตะจดรายละเอียดที่ปลายฝนได้เล่ามาล่าสุด
"ทำไมขาฉันขยับไม่ได้เลยแล้วตกลงฉันเป็นอะไรแน่"
ปลายฝนรู้สึกว่าเธอไม่มีความรู้สึกที่ขาของเธอเลยจึงหันหน้าไปถามลัลลลิลอย่างกังวล
"แกฟังฉันนะตอนนี้แกจะสามสิบแล้ว..แกมีลูกหนึ่งคน..กับสามีแกคุณฟรานซิสที่เค้าอยู่ในห้องนี้ตอนแกตื่นนั่นแหละ"
"หา..."
"แล้วที่แกเป็นแบบนี้เพราะสามีแกดันไปมีศรัตรูทำให้พวกมันจับตัวแกไปเพื่อที่จะหลอกคุณฟรานซิสให้ตามหาแกเพื่อที่จะฆ่าแล้วแกก็ดันห่วงเขาจนโดนยิง...แล้วก็เรื่องหัวแกก็เป็นเพราะ........"
ลัลลลิลร่ายยาวเรื่องที่เธอต้องผ่าตัดสมองเพราะอะไรและมีลูกได้อย่างไรจนคนฟังนั่งอึ้งตะลึงตัวเองไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรอย่างที่เพื่อนเธอพูดได้ขนาดนั้น
"โห...วีรกรรมฉันมันเยอะขนาดนี้เชียวหรือเนี่ยแต่ฉันมีลูกแล้วจริงๆเหรอ....ลูกฉันต้องน่ารักมากๆเลยใช่ไหม"
ปลายฝนรู้สึกว่าเธอจะจำความไม่ได้ไปหลายปีเลยถ้าหากเป็นอย่างที่เพื่อนเธอพูดที่เธอดีใจอย่างมากก็เห็นจะเป็นคำว่ามีลูกแล้วนี่แหละมันเป็นความฝันของเธอเลยที่อยากจะมีลูกสักคน
"อืม.. ต้นหนาวกำลังน่ารักเลยล่ะ"
ลัลลลิลพยักหน้าตอบเพื่อนเธอ
ทางด้านฟรานซิสหน้าห้องปลายฝน"ตาใหญ่ทำไมออกมานั่งตรงนี้ล่ะ"เมื่อรู้ว่าปลายฝนฟื้นแล้วจากปากหลานชายของเธอจึงรีบหอบเหลนชายมาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึงก็เห็นฟรานซิสมีสีหน้ากังวลอยู่หน้าห้องจึงถามด้วยความสงสัยว่าทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่อยู่ด้านในห้องกับปลายฝน"หมอเรียลกับหมอลินกำลังเชคอาการของปลายฝนอย่างละเอียดน่ะครับดูท่าเธอจะความจำเสื่อมจำผมไม่ได้ไปเสียแล้ว"ฟรานซิสนั่งก้มหน้าพูดเสียงอ่อนหัวใจของเขาตอนนี้อ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"อะไรนะ"เฮเลนถึงกับหน้าเสียเมื่อรู้ว่าปลายฝนมีอาการข้างเคียงเช่นไรไม่รู้ว่าหลานชายกับหลานสะใภ้ของเธอจะได้มีความสุขกันจริงๆเสียทีเมื่อไรผ่านครั้งนี้ไปเธอก็ขอภาวนาว่าอย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองอีกเลยเชื่อว่าฟ้าคงทดสอบคนสองคนมากพอแล้ว"หามามี๊"ต้นหนาวยืนเกาะประตูที่ปิดสนิทหน้ามุ่ยเพราะเด็กชายต้องการจะเข้าไปหาคนเป็นแม่ด้านใน"เดี๋ยวก่อนครับต้นหนาวคุณหมอกำลังตรวจมามี๊อยู่นะครับ"ฟรานซิสต้องดึงมือลูกชายของเขาเอามาอุ้มไว้ที่ตักมาอธิบายว่าทำไมถึงยังเข้าไม่ได้เพราะกลัวว่าจะงอแงทั้งพรมจูบที่กระหม่อมลูกชายของเขาหนึ่งทีเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง"ฮับ"ต้
อาทิตย์ต่อมาโรงพยาบาล"นี่หมอชาร์ลมาทำธุระที่เมืองไทยพอดีเป็นหมอที่เก่งมากเรื่องเส้นประสาทที่ไขสันหลังเคสของปลายฝนหมอชาร์ลรับปากว่าจะดูแลให้ถ้าพร้อมก็กลับอเมริกาพร้อมเขาในอีกสองวันข้างหน้าเลย"รัชตะแนะนำหมอชาร์ลเป็นเพื่อนของเขาที่อยู่อเมริกาเมื่อหมอชาร์ลมาทำธุระที่นี่จึงแนะนำให้ปลายฝนกับฟรานซิสได้รู้จักหมอชาร์ลเป็นหมอฝีมือดีวิธีรักษาคนเป็นอัมพาตหายไปแล้วนะต่อนัก"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"ฟรานซิสยื่นมือไปทักทายกับหมอหนุ่ม"ฉันพร้อมค่ะ"ปลายฝนตอบกลับรัชตะอย่างมั่นใจเพราะเธอเองก็อยากหายเร็วๆเหมือนกัน"...."ฟรานซิสถึงกับชะงักเล็กน้อยอันที่จริงเขาอยากให้หญิงสาวอยู่ที่นี่อีกสักพักมากกว่าเพราะเขายังมีงานที่ต้องสะสางคิดว่าถ้าหากเสร็จงานแล้วก็จะเป็นคนพาเธอไปหาหมอชาร์ลเองแต่ดูท่าหญิงสาวจะใจร้อนเสียเหลือเกินสองวันต่อมา21.00น.เมื่อปลายฝนตัดสินใจที่จะไปรักษาที่อเมริกากะทันหันฟรานซิสจึงขอให้เธอมาพักที่บ้านก่อนที่จะไปเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับเธอเต็มที่"พรุ่งนี้เธอก็จะต้องไปรักษาตัวที่อเมริกาแล้วฉันคงคิดถึงเธอแย่สินะ"ชายหนุ่มนอนกอดคนเป็นภรรยาด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวเพราะเขาต้องรอประชุมกับหุ้นส่ว
"คุณฟราน"ปลายฝนไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพาลูกมาหาเธอกะทันหันจึงมองด้วยสีหน้าแปลกใจ"พักก่อนก็ได้ครับ.. เชิญพวกคุณตามสบายครับเดี๋ยวผมขอเข้าไปเตรียมยาให้คุณปลายก่อน"หมอชาร์ลประคองหญิงสาวนั่งที่เก้าอี้สวนหย่อมหน้าบ้านเขารู้อยู่แล้วว่าฟรานซิสจะมาเพราะมอแกนติดต่อมาหาเขาเมื่อสามวันก่อนโดยกำชับว่าห้ามบอกหญิงสาวเพราะต้องการเซอร์ไพรซ์"ครับ"ฟรานซิสหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับปลายฝนทั้งตอบหมอหนุ่มโดยที่สายตายังจ้องอยู่ที่ปลายฝนเขม็งเรื่องที่เธอไม่ติดต่อเขาบ้างยังไม่สะสางเขาก็ดันมาเจอเธอมีทีท่าสนิทสนมกับหมอชาร์ลอีกยิ่งทำให้เขาน้อยใจในใจไม่น้อย"เป็นยังไงบ้างอาการดีขึ้นบ้างไหม"เฮเลนรู้ดีว่าอาการของหลานชายเธอที่ทำเงียบขรึมแบบนี้คืออะไรจึงรีบหาเรื่องคุยกับปลายฝนทำลายบรรอากาศเงียบงันนี้เสียก่อน"หมอชาร์ลเก่งมากเลยค่ะตอนนี้หนูเริ่มขยับขาได้เยอะแล้วค่ะคุณย่า"ปลายฝนตอบคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงบ่งบอกว่าเธออยู่ที่นี่ค่อนข้างที่จะมีความสุขอย่างมาก"แสดงว่าหมอชาร์ลเก่งมากๆเลยนะเนี่ยจริงไหมตาใหญ่"เฮเลนหันไปถามความเห็นจากหลานชายคนโต"ครับ"ฟรานซิสยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไรเมื่อมีคำถามมาคำก็ตอบคำเท่านั้น
"คิดถึงเมืองไทยบ้างหรือเปล่า"ชายหนุ่มอยากจะรู้ว่าปลายฝนคิดถึงเมืองไทยบ้างหรือไม่เพราะจากที่นั่นมาร่วมสองเดือนแล้ว"คิดถึงค่ะฉันถึงรีบฝึกให้เดินคล่องเร็วๆจะได้กลับเมืองไทยเร็วๆไงคะ"ปลายฝนคิดถึงบ้านเกิดเธออยู่ตลอดเวลาแต่ที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่เพราะเธออยากรักษาตัวให้หายเร็วๆเธอจะได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น"อืม..งั้นวันนี้เดินทั้งวันเลยดีไหม""นี่อยากให้ฉันกลับเร็วๆเหมือนกันใช่ไหมคะ"ปลายฝนบุ้ยปากใส่ฟรานซิสเล็กน้อยที่เขาจะใฟ้เธอหัดเดินโดยไม่ยอมให้พักกรุงเทพมหานคร08.00 น."นายเล็กยังไม่ลงมาเลยครับหมอลิน"อีธานได้รับคำสั่งจากฟรานซิสว่าให้ช่วยดูแลความเรียบร้อยในวันเปิดบริษัทของลอเลนโซแต่ตอนนี้ก็ใกล้จะสายแล้วแต่เขายังไม่เห็นนายเล็กของเขาจะลงมาจากห้องเห็นเพียงแค่ลัลลลิลเท่านั้น"อ้าวเหรอคะเดี๋ยวฉันไปตามให้ค่ะ"ลัลลลิลรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องชายหนุ่มก๊อกๆๆ"คุณแต่งตัวเสร็จหรือยังวันนี้คุณต้องเข้าบริษัทวันแรกนะ"แกร๊กกก"มานี่หน่อยสิคุณ"ลอเลนโซเปิดประตูออกมาพร้อมดึงมือหญิงสาวเข้าไปในห้องเพื่อให้เธอตัดสินใจช่วยอะไรบางอย่าง"อะไรนี่มันจะสายแล้วนะ"ลัลลลิลบ่นอุ
วันต่อมา08.30 น"ลินล่ะ"ลอเลนโซเตรียมตัวไปทำงานในช่วงเช้าแต่วันนี้เขาไม่อยากจะเห็นลัลลลินจึงถามอีธานว่าเธออยู่ไหน"เก็บกระเป๋ากลับไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับนายเล็ก""ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ..."ลอเลนโซขมวดคิ้วกับคำตอบของอีธาน"นายเล็กจะไปไหนครับวันนี้ต้องเข้าบริษัทนะครับ"อีธานเห็นว่าลอเลนโซเดินจ้ำอ้าวไปที่รถส่วนตัวจึงรีบวิ่งไปดักหน้า"นายไปก่อนเดี๋ยวฉันตามเข้าไป""เอ่อ...ครับๆ"ลอเลนโซจะให้ลัลลลิลไปโดยไม่มีคำตอบแบบนี้ไม่ได้บ้านณฤดีลอเลนโซใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ขับรถมาถึงบ้านแม่ของลัลลลิล"คุณแม่ครับ""มีอะไรหรือเปล่าคุณลอสมาแต่เช้าเลย""ลินอยู่ไหนครับ"ชายหนุ่มถามหาหญิงสาวด้วยท่าทีร้อนรน"ลินบินไปที่สวิตตั้งแต่เช้าแล้วนะแล้วน้องไม่ได้บอกเราเหรอ"ณฤดีเห็นว่าทั้งสองน่าจะมีอะไรแปลกๆหากเดาไม่ผิดก็อาจจะทะเลาะกันตามประสาลิ้นกับฟัน"เอ่อ...เปล่าครับ""ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า""เปล่าครับเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่"ลอเลนโซไม่รู้ว่าลัลลลินไม่อยู่ที่นี่จึงขอตัวแม่ของเธอกลับอย่างรวดเร็วจนณฤดีเรียกไว้ไม่ทัน"อ้าว..เดี๋ยวๆ"ณฤดีส่ายหัวให้กับความใจร้อนของเด็กสมัยนี้จริงๆบริษัทxxx"ทำไมติดต
ครู่ต่อมา"ต้นหนาวครับเหนื่อยหรือยังลูก"ปลายฝนนั่งดูลูกชายเธอเล่นอยู่พักใหญ่แล้วแต่ดูท่าลูกชายของเธอจะไม่หมดพลังไปกับการเล่นรถแข่งง่ายๆ"ม่ายเหนื่อยฮับ.. บู้น.บู้นน""ปลาย"ฟรานซิสเดินมานั่งข้างๆปลายนทั้งมองลูกชายตัวกลมนั่งเล่นด้วยรอยยิ้ม"อ้าวคุณฟรานทำไมวันนี้กลับไวล่ะคะ""งานเสร็จเร็วก็กลับเร็วไม่ได้หรือไง""ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะทำไมต้องกวนประสาทด้วยล่ะ"ปลายฝนรู้สึกว่าชายหนุ่มจะใช้คำพูดคำจาเล่นลิ้นกับเธอบ่อยขึ้นเสียเหลือเกินในพักหลังมานี้"ต้นหนาวเล่นคนเดียวมานานแล้วนะ"ฟรานซิสแกล้งกระซิบข้างหูหญิงสาว"ค่ะพักใหญ่แล้วฉันว่าจะพาลูกเข้าไปหาคุณย่าแล้วล่ะคะ"ปลายฝนพยักหน้าเบาๆ"ฉันหมายถึงอยากให้ต้นหนาวมีน้องตัวเล็กๆมาเล่นเป็นเพื่อนน่ะ"ฟรานซิสอธิบายให้เธอได้ฟังเสียใหม่ว่าความหมายที่เขาพูดถึงมันคนละอย่างกัน"อืม...คุณอยากมีลูกอีกคนเหรอคะ""ใช่""ให้ฉันขโมยสเปริ์มคุณอีกดีรึเปล่า"ปลายฝนแอบกระซิบข้างหูชายหนุ่มกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าทะเล้น"ตอนนี้เธอไม่ต้องใช้วิธีนั้นแล้วฉันให้เธอด้วยความเต็มใจเหมือนเมื่อคืนไง"ฟรานซิสพูดด้วยสีหน้าระรื่นเล่นเอาหญิงสาวแก้มแดงเป็นลูกตำลึง"ไม่คุยด้วยแล้ว..ต
หลายเดือนต่อมา"อุ้บ...แหวะ...""ปลาย...ปลาย...โอเคไหม""โอเคค่ะ""ดูท่าท้องนี้จะแพ้หนักเอาการนะ"ฟรานซิสต้องคอยลูบหลังให้คนเป็นภรรยาวันละหลายๆรอบเพราะตอนนี้เธอท้องได้สามเดือนแล้วและช่วงนี้ก็รู้สึกว่าเธอจะแพ้ท้องหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยจนเฮเลนเองก็เป็นห่วงกลัวว่าเหลนในท้องเธอจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเพราะปลายฝนเล่นกินอะไรไม่ได้เลยเย็นของวันสองสาวนั่งคุยกันที่โซฟาของห้องโถงในคฤหาสน์"เป็นไงบ้างเห็นคุณย่าว่าแพ้ท้องหนัก"ลัลลลิลแวะมาหาเพื่อนเธอในช่วงเย็นหลังจากเลิกงานเพราะเห็นเฮเลนโทรไปบอกเธอว่าปลายฝนแพ้ท้องหนัก"อืม..ก็แทบกินอะไรไม่ได้เลยล่ะ""อีกเดี๋ยวก็คงดีขึ้น..""อืม..""เออ...แกริตากลับมาไทยแล้วนะฉันว่าจะไปเยี่ยมริตาบ้างแกจะไปด้วยไหม"ลัลลลิลรู้ว่าตอนนี้เฌอริตาเพื่อนของพวกเธอกับลูกกลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว"ก็ดีนะฉันว่าจะไปหาหลานด้วยไม่รู้โตขนาดไหนแล้ว"ปลายฝนเองก็คิดถึงเพื่อนเธอกับหลานเหมือนกันเพราะตั้งแต่กลับมาจากออสเตรเลียก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย"งั้นพรุ่งนี้เลยดีไหม""ก็ได้...แล้วเรื่องแกกับคุณลอสล่ะเห็นว่าได้ฤกษ์แต่งแล้วนี่วันไหนไม่เห็นบอกฉันบ้างเลย"ปลายฝนหันไปถามลัลลลิลอย่างสง
สนามบินXXXเวลานี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มที่สนามบินมีคนค่อนข้างจอกแจกจอแจอยู่ไม่ขาดสามปีกว่าแล้วที่ปลายฝนไม่ได้กลับมาที่ประเทศไทยและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอพาลูกชายวัยสองขวบของเธอกลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้งหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงที่ตั้งท้องหญิงสาวตัวเล็กหุ่นบางหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูผมยาวดัดลอนใหญ่เข้ากับใบหน้าของเธออุ้มลูกน้อยวัยสองขวบตัวกลมตาน้ำข้าวใบหน้าลูกครึ่งแก้มยุ้ยของเธอพาดบ่าเอาไว้อีกมือก็ลากกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเลเดินเยื้องย่างอย่างสบายอารมณ์รอรถแท็กซี่ที่เรียกมารับ“ปลายฝน..”หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมหันหลังกลับไปมองคนที่ส่งเสียงเรียกเธอวินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุนใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นกลัวเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นฟรานซิสผู้ชายลูกครึ่งร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดสูทสีเทาตาสีน้ำข้าวของเขามองมาทางเธอด้วยสายตาเยือกเย็นเธอไม่ได้อยากจะเจอหน้าเขาอีกเลยในชีวิตนี้ไม่รู้ว่าเขาโผล่มาที่นี่และยืนชี้หน้าเธออยู่ได้อย่างไรแต่เท่าที่ในสมองของเธอบอกกับเธอก็คือจะต้องวิ่งหนีคนๆนี้ไปเสียก่อน“อารายฮับมามี๊”ต้นหนาวทำหน้างงเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนเป็นแม่ก็ทิ้งกระเป๋าพร