ครู่ต่อมา
"ต้นหนาวครับเหนื่อยหรือยังลูก"
ปลายฝนนั่งดูลูกชายเธอเล่นอยู่พักใหญ่แล้วแต่ดูท่าลูกชายของเธอจะไม่หมดพลังไปกับการเล่นรถแข่งง่ายๆ
"ม่ายเหนื่อยฮับ.. บู้น.บู้นน"
"ปลาย"
ฟรานซิสเดินมานั่งข้างๆปลายนทั้งมองลูกชายตัวกลมนั่งเล่นด้วยรอยยิ้ม
"อ้าวคุณฟรานทำไมวันนี้กลับไวล่ะคะ"
"งานเสร็จเร็วก็กลับเร็วไม่ได้หรือไง"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะทำไมต้องกวนประสาทด้วยล่ะ"
ปลายฝนรู้สึกว่าชายหนุ่มจะใช้คำพูดคำจาเล่นลิ้นกับเธอบ่อยขึ้นเสียเหลือเกินในพักหลังมานี้
"ต้นหนาวเล่นคนเดียวมานานแล้วนะ"
ฟรานซิสแกล้งกระซิบข้างหูหญิงสาว
"ค่ะพักใหญ่แล้วฉันว่าจะพาลูกเข้าไปหาคุณย่าแล้วล่ะคะ"
ปลายฝนพยักหน้าเบาๆ
"ฉันหมายถึงอยากให้ต้นหนาวมีน้องตัวเล็กๆมาเล่นเป็นเพื่อนน่ะ"
ฟรานซิสอธิบายให้เธอได้ฟังเสียใหม่ว่าความหมายที่เขาพูดถึงมันคนละอย่างกัน
"อืม...คุณอยากมีลูกอีกคนเหรอคะ"
"ใช่"
"ให้ฉันขโมยสเปริ์มคุณอีกดีรึเปล่า"
ปลายฝนแอบกระซิบข้างหูชายหนุ่มกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าทะเล้น
"ตอนนี้เธอไม่ต้องใช้วิธีนั้นแล้วฉันให้เธอด้วยความเต็มใจเหมือนเมื่อคืนไง"
ฟรานซิสพูดด้วยสีหน้าระรื่นเล่นเอาหญิงสาวแก้มแดงเป็นลูกตำลึง
"ไม่คุยด้วยแล้ว..ต้นหนาวไปหาคุณทวดกันดีกว่าครับ"
"ฮับมี๊"
ด้วยความเคอะเขินปลายฝนจึงเดินจากเก้าอี้ไปชวนลูกชายของเธอกลับไปหาคุณย่าทันที
"รอฉันด้วยสิ"
ฟรานซิสเดินตามหลังมาโอบคนหญิงสาวและเดินกลับไปเข้าไปที่คฤหาสน์พร้อมกัน
21.30 น.
ก๊อกๆๆ
"เข้ามา"
"คุณย่าเรียกผมมามีอะไรครับ"
ลอเลนโซเดินเข้ามาหาคุณย่าของเขาในห้องเพราะย่าของเขาให้คนไปตามบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย
"พรุ่งนี้ไปรับหนูลินที่สนามบินให้ย่าหน่อยนะ"
"เธอกลับมาแล้วเหรอครับ.. แล้วทำไมต้องให้ผมไปรับ"
ลอเลนโซใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวกำลังจะกลับมาแต่ไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าของเขาต้องให้เขาไปรับเธอด้วย
วันต่อมา
16.00 น.
สนามบินxxx
"รถตู้สีดำทะเบียนxxx...อืม..อยู่ตรงไหนน้า...อ๋อนั่นไง"
ลัลลลิลลงจากเครื่องได้ก็เดินออกมาหารถที่ปลายฝนส่งข้อความมาบอกว่าคุณย่าให้มารับเมื่อเดินออกมาตามลานจอดด้านหน้าก็เห็นรถตู้สีดำทะเบียนเดียวกับที่ปลายฝนส่งมาให้จึงรีบเดินไปเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่ง
"....."
ลอเลนโซทำหน้าที่คนขับเขาเห็นหญิงสาวขึ้นมาบนรถแล้วแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเธอ
"พาฉันไปหาคุณย่าเลยค่ะ"
"...."
เมื่อสิ้นคำสั่งของหญิงสาวเขาก็รีบขับรถออกจากสนามบินทันที
ครู่ต่อมา
"คุณคะนี่มันไม่ใช่ทางไปร้านอาหารที่คุณย่านัดฉันนี่คะ"
ลัลลลิลนั่งรถมาครู่หนึ่งเธอถึงกับต้องขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวไปบอกคนที่ขับรถว่าเขาน่าจะมาผิดทาง
"ผมก็ไม่ได้พาคุณไปร้านนั้นนี่ครับ"
"คุณลอส!!"
ลัลลลิลจำได้ทันทีว่านี่คือเสียงของใคร
"ใช่ผมเอง"
"นี่คุณจะพาฉันไปไหน"
"ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ"
สิบนาทีต่อมา
วัดxxx
ลอเลนโซเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของวัดแล้วดึงมือหญิงสาวม่ที่หน้าพระประธานในโบถส์
"พาฉันมาวัดทำไม"
ลัลลลิลสงสัยว่าชายหนุ่มจะพาเธอเข้าวัดมาเพื่ออะไร
"ผมแค่อยากถามอะไรคุณสักหน่อย"
"มีอะไร"
ลัลลลิลเริ่มขมวดคิ้ว
"หนีผมไปสวิตทำไมไม่บอกกันบ้างติดต่อก็ยากเย็นซะเหลือเกิน"
"ฉันก็แค่ไปเที่ยวอีกอย่างก็อยากมีเวลาส่วนตัวไม่อยากติดต่อกับใคร"
หญิงสาวตอบอีกฝ่ายทั้งยังไม่ยอมมองหน้าคนที่คุยด้วยดีๆ
"ไม่ติดต่อกับใครแต่ติดต่อกับเพื่อนคุณได้เนี่ยนะ...ตอบมาดีๆอย่าโกหกต่อหน้าพระนะคุณ"
ลอเลนโซเท้าเอวเอียงคอถามหญิงสาว
"นี่คุณจะมาเค้นเอาคำตอบอะไรจากฉันนักหนาเล่าฉันแค่ขี้เกียจคุยกับคุณเลยไม่รับสายก็เท่านั้น"
"แล้วทำไมถึงขี้เกียจคุยกับผมมีปัญหาอะไร"
"ไม่มีฉันจะกลับแล้วพาฉันกลับเดี๋ยวนี้เลย"
ลัลลลิลไม่อยากจะตอบว่าที่เธอไปสวิตเซอร์แลนด์นั้นก็เพียงแค่หนีไปพักใจเพราะรู้ว่าหากชายหนุ่มกลับไปคุยกับเคลี่ก็มิวายมาขอคำปรึกษากับเธออีกเป็นแน่จึงรีบเดินหนีชายหนุ่มหมายจะกลับไปที่รถแต่ก็ถูกมือของเขาดึงเอาไว้
"เดี๋ยวคุณ"
"ปล่อย.."
"สองคนนี้มาทะเลาะอะไรกันในเขตวัดสามีภรรยาก็อย่างนี้ล่ะน้า...าาาเหมือนลิ้นกับฟันมันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดารีบๆคุยกันให้จบทะเลาะกันข้ามวันมันจะไม่ดีนะ"
หญิงชราคนนึงที่มาทำบุญวัดเอ่ยปากเตือนทั้งคู่ด้วยความหวังดีและเดินออกไปจากทั้งสองส่ายหัวให้กับความอารมณ์ร้อนเอะอะไม่ยอมกันของหนุ่มสาวสมัยนี้
"ม..ไม่ใช่ค่ะ...เห็นไหมคุณพาฉันกลับเดี๋ยวนี้"
"ก็ได้ๆ"
ลัลลิลพยายามจะอธิบายกับหญิงชราคนนั้นแต่ก็มีมือหนาดึงเธอเอาไว้ไม่ให้ตามไปเธอจึงแผดเสียงใส่ชายหนุ่มอย่างโมโหจนเขาต้องยอมพาเธอกลับ
ครู่ต่อมา
"จอดรถทำไม"
ลัลลลิลมีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาอีกรอบเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มจู่ๆก็จอดรถทั้งที่ยังไม่ถึงบ้านเธอด้วยซ้ำเธอจึงรีบปลดล็อคประตูหมายจะออกไป
"คุยกันให้รู้เรื่องก่อน"
ลอเลนโซดึงแขนหญิงสาวก่อนที่เธอจะเปิดประตู
"คุยอะไรของคุณ"
"ที่คุณหนีผมไปแบบนั้นเพราะคิดว่าผมจะกลับไปคุยกับเคลี่ใช่ไหม"
"แล้วทำไมต้องคิดว่าฉันหนีคุณด้วยเหตุผลนี้ด้วยล่ะ"
ลัลลลิลพยายามแกะมือชายหนุ่มออกทั้งยังมีสีหน้าบึ้งตึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"ก็เพราะว่าคุณชอบผมไง"
ลอเลนโซจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง
"อ.. อะไรของคุณคิดเองเออเอง"
ลัลลลิลตอบปฏิเสธอึกๆอักๆที่เขานั้นดันมารู้ความในใจของเธอ
"ตอนแรกผมก็ไม่คิดแบบนั้นหรอกนะแต่การกระทำของคุณมันชวนคิด"
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดแบบนี้แต่เมื่อคืนนี้เขาได้ฟังคำพูดของคุณย่าของเขาหลายๆอย่างกับการกระทำของเธอที่ดีต่อเขาโดยไม่หวังผลตอบแทนจึงทำให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นมีใจให้เขาจริงๆและเขาก็ได้รู้ใจตัวเองว่าเขานั้นก็มีใจให้เธอเหมือนกัน
"เลิกเวิ่นเว้อแล้วไปส่งฉันซะที"
ลัลลลิลพยายามทำหน้าเคร่งขรึมกลบความรู้สึก
"ยอมรับมาก่อนว่าคุณชอบผม...เพราะผมก็รู้สึกดีกับคุณเหมือนกัน"
"...พูดอะไรของคุณ..."
ลัลลลิลเบิกตาโพรงไม่คิดว่าคำนี้จะออกมาจากปากของเขา
"คุณเป็นคนที่อยู่ข้างๆผมในวันที่ผมไม่เอาไหนที่สุดและก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดเวลาที่ผมต้องการใครสักคนเวลานี้ผมเป็นคนใหม่แล้วและผมก็อยากให้คุณอยู่ข้างๆผมนะลิน"
"..อื้มมม.."
ลอเลนโซไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้พูดอะไรเขาบดจูบเธออยู่พักใหญ่จนหญิงสาวมือไม้อ่อนเคลิบเคลิ้มไปกับเขาแต่ลอเลนโซยังให้เกียรติเธอเขาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้เมื่อบทจูบได้จบลงทั้งคู่ก็ต่างคนต่างเงียบและลอเลนโซก็ไปส่งหญิงสาวที่บ้านของเธอ
หลายเดือนต่อมา"อุ้บ...แหวะ...""ปลาย...ปลาย...โอเคไหม""โอเคค่ะ""ดูท่าท้องนี้จะแพ้หนักเอาการนะ"ฟรานซิสต้องคอยลูบหลังให้คนเป็นภรรยาวันละหลายๆรอบเพราะตอนนี้เธอท้องได้สามเดือนแล้วและช่วงนี้ก็รู้สึกว่าเธอจะแพ้ท้องหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยจนเฮเลนเองก็เป็นห่วงกลัวว่าเหลนในท้องเธอจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเพราะปลายฝนเล่นกินอะไรไม่ได้เลยเย็นของวันสองสาวนั่งคุยกันที่โซฟาของห้องโถงในคฤหาสน์"เป็นไงบ้างเห็นคุณย่าว่าแพ้ท้องหนัก"ลัลลลิลแวะมาหาเพื่อนเธอในช่วงเย็นหลังจากเลิกงานเพราะเห็นเฮเลนโทรไปบอกเธอว่าปลายฝนแพ้ท้องหนัก"อืม..ก็แทบกินอะไรไม่ได้เลยล่ะ""อีกเดี๋ยวก็คงดีขึ้น..""อืม..""เออ...แกริตากลับมาไทยแล้วนะฉันว่าจะไปเยี่ยมริตาบ้างแกจะไปด้วยไหม"ลัลลลิลรู้ว่าตอนนี้เฌอริตาเพื่อนของพวกเธอกับลูกกลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว"ก็ดีนะฉันว่าจะไปหาหลานด้วยไม่รู้โตขนาดไหนแล้ว"ปลายฝนเองก็คิดถึงเพื่อนเธอกับหลานเหมือนกันเพราะตั้งแต่กลับมาจากออสเตรเลียก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย"งั้นพรุ่งนี้เลยดีไหม""ก็ได้...แล้วเรื่องแกกับคุณลอสล่ะเห็นว่าได้ฤกษ์แต่งแล้วนี่วันไหนไม่เห็นบอกฉันบ้างเลย"ปลายฝนหันไปถามลัลลลิลอย่างสง
สนามบินXXXเวลานี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มที่สนามบินมีคนค่อนข้างจอกแจกจอแจอยู่ไม่ขาดสามปีกว่าแล้วที่ปลายฝนไม่ได้กลับมาที่ประเทศไทยและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอพาลูกชายวัยสองขวบของเธอกลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้งหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงที่ตั้งท้องหญิงสาวตัวเล็กหุ่นบางหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูผมยาวดัดลอนใหญ่เข้ากับใบหน้าของเธออุ้มลูกน้อยวัยสองขวบตัวกลมตาน้ำข้าวใบหน้าลูกครึ่งแก้มยุ้ยของเธอพาดบ่าเอาไว้อีกมือก็ลากกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเลเดินเยื้องย่างอย่างสบายอารมณ์รอรถแท็กซี่ที่เรียกมารับ“ปลายฝน..”หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมหันหลังกลับไปมองคนที่ส่งเสียงเรียกเธอวินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุนใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นกลัวเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นฟรานซิสผู้ชายลูกครึ่งร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดสูทสีเทาตาสีน้ำข้าวของเขามองมาทางเธอด้วยสายตาเยือกเย็นเธอไม่ได้อยากจะเจอหน้าเขาอีกเลยในชีวิตนี้ไม่รู้ว่าเขาโผล่มาที่นี่และยืนชี้หน้าเธออยู่ได้อย่างไรแต่เท่าที่ในสมองของเธอบอกกับเธอก็คือจะต้องวิ่งหนีคนๆนี้ไปเสียก่อน“อารายฮับมามี๊”ต้นหนาวทำหน้างงเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนเป็นแม่ก็ทิ้งกระเป๋าพร
แกร้กกก"นี่เธอจะทำอะไร"ปลายฝนใช้ความไวของเธอหยิบปืนจากบอดี้การ์ดของชายหนุ่มแล้วต่อปากกระบอกปืนไปที่เขาอย่างรวดเร็วจนบอดี้การ์ดต่างก็ยื่นมายื่นมือห้ามเธอให้ใจเย็นๆ"ออกไปกันให้หมดไม่งั้นฉันยิงจริงๆด้วย"ปลายฝนหันมาสั่งพวกบอดี้การ์ดชุดดำเสียงแข็งให้เขาออกไป"วางปืนลงเธอใช้มันไม่เป็นหรอก"ฟรานซิสยังทำหน้านิ่งเฉยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งยังพูดเสียงแข็งกับหญิงสาวว่าเธอนั้นใช้ปืนนี้ไม่เป็นปั้งงง"นี่ไงฉันใช้มันเป็น"ปลายฝนเล็งปืนไปที่แจกันราคาแพงในห้องรับแขกของชายหนุ่มแล้วยิงแล้วลั่นไกให้คนตรงหน้าได้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนกระจอก"คุณผู้หญิงใจเย็นๆนะครับ"เมื่อพวกบอดี้การ์ดเห็นดังนั้นก็ยิ่งลนลานหนักขึ้นไปอีกทันทีเพราะเห็นว่าเธอนั้นใช้ปืนเป็นและเจ้านายของเขาก็อาจจะเป็นอันตรายได้"ออกไป.."ปลายฝนสั่งบอดี้การ์ดเสียงแข็งอีกรอบด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจัง"พวกนายออกไปก่อนฉันจัดการได้"ฟรานซิสปัดมือให้ลูกน้องของเขาออกไปทั้งหมดเพราะคิดว่าเขาเอาอยู่"พาฉันไปหาลูก"บอดี้การ์ดชุดดำออกไปทั้งหมดแล้วปลายฝนจึงจ่อปืนไปที่ชายหนุ่มแล้วบังคับให้เขาพาเธอไปหาลูกชายของเธอ"ทำแบบนี้คิดดีแล้วจริงๆเหรอ"ชายหนุ่มเตือนห
"คุณ.. คืนนี้ฉันขอนอนกับต้นหนาวได้ไหม"คืนนี้ปลายฝนยังห่างลูกเธอไม่ได้จริงๆเพราะเธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องเลี้ยงลูกไม่เป็นแน่ๆเธอจึงใช้ไม้อ่อนออดอ้อนขอร้องเขาให้เธออยู่ที่นี่กับลูกก่อน".... "ฟรานซิสมองหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างคาดเดาไม่ถูก"นะๆๆๆ.. คุณน้า...คุณหน้าตาหล่อปานนี้จิตใจก็ต้องหล่อตามด้วยสิจริงไหม.. "ปลายฝนใช้มารยาหญิงออดอ้อนสุดฤทธิ์ยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้อยู่กับลูกให้ได้ไม่อย่างนั้นเธอต้องนอนไม่หลับแน่" ก็ได้เธอบอกจะนอนที่นี่เองนะห้ามเปลี่ยนใจ"ฟรานซิสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหญิงสาวและถามเธอให้แน่ใจ" หึ.. ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน"ปลายฝนส่ายหัวหงึกหงักเบิกตาโพรงดีใจที่ดูท่าชายหนุ่มจะอนุญาตเธอ" อืมม.. "ฟรานซิสพยักหน้าพร้อมกับเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาและถอดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างช้าๆต่อหน้าหญิงสาวที่เดินตามหลังเข้ามา"น.. นี่.. ทำอะไร"ปลายฝนกระซิบกระซาบกับชายหนุ่มตาโตด้วยท่าทีรุกรี้รุกรนเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรหวังว่าจะไม่คิดไม่ดีกับเธอหรอกนะ" จะถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำนอนแล้วที่นี่ห้องฉัน.. "ฟรานซิสทำท่ากระซิบกระซาบกับหญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์ทั้งยังตลกสีหน้าของหญิงสาวในตอนนี้อีกด้วย
"แอ้..แง้งงงง...นมมมมม..มี๊...นมมมม..แง้งงงง""โอ..โอ๋...ปลายฝนอยู่ไหน"ต้นหนาวร้องไห้ไม่หยุดทั้งร้องหาแม่ทั้งร้องหิวนมจนฟรานซิสต้องเปิดประตูไปถามบอดี้การ์ดว่าหญิงสาวอยู่ไหน"อยู่ที่ครัวครับ"บอดี้การ์ดหนุ่มบอกกับเจ้านายของเขาทั้งยังตะลึงกับภาพเจ้านายของเขาที่เห็นตรงหน้าที่ไม่ได้แตกต่างกับพ่อลูกอ่อนเลยสักนิด"หื้มมม...."ฟรานซิสถอนหายใจเล็กน้อยทั้งยังรีบอุ้มลูกชายของเขาลงบันไดไปที่ครัวเพื่อหาหญิงสาวทันที"เอ่อ.."บอดี้การ์ดหนุ่มเกาหัวแกรกๆเพราะมาดพ่อลูกอ่อนของเจ้านายของเขาตอนนี้พวกเขาก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน"ดูนายสิเหมือนพ่อลูกอ่อนเลย""อืม..ท่าทางนายน้อยจะอารมณ์เหมือนพ่อนะ"บอดี้การ์ดสองคนสุมหัวกันต่างก็คิ้วขมวดเพราะดูท่านายน้อยของพวกเขาจะเอาอารมณ์อยากอยู่เหมือนกัน"จะเอาอยู่ไหมนั่นน่ะ""แอ้... แง้งงๆๆ"ต้นหนาวยังส่งเสียงร้องอยู่ไม่ขาด"นี่เธอทำอะไรอยู่"ฟรานซิสเดินเข้ามาหาปลายฝนอย่างหัวเสีย"อ้าวต้นหนาวตื่นแล้วเหรอลูกนมได้พอดีเลยไปนอนกันนะคะ"ปลายฝนรีบเข้ามาอุ้มลูกน้อยของเธอและเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของชายหนุ่มพูดคุยหยอกล้อกับลูกชายโดยมองผ่านหน้ายุ่งๆของชายหนุ่มไปเหมือนเป็นธาตุ
คฤหาสน์ฮันส์" อีธาน"" ครับ"" ปลายฝนไปไหน"ฟรานซิสเดินออกมาจากห้องนอนของเขาถามอีธานคนสนิทว่าหญิงสาวหายไปไหนแต่เช้าเพราะเห็นปล่อยให้เขานอนอยู่กับลูกสองคนเขาหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ"คุณปลายให้มอแกนพาออกไปข้างนอกครับไม่ทราบว่าไปไหน"อีธานเองเห็นหญิงสาวออกไปพร้อมมอแกนเมื่อตอนรุ่งสางแต่เขาไม่รู้จริงๆว่าหญิงสาวจะให้มอแกนพาไปที่ไหน" คุณตื่นแล้วเหรอ"ปลายฝนรีบเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มที่เห็นว่าเขาตื่นแล้ว" ไปไหนของเธอแต่เช้าแถมใช้คนของฉันอีก"ฟรานซิสยืนขมวดคิ้วถามคำถามหญิงสาวทั้งยังต่อว่าเธอที่ใช้คนของเขาโดยพละการอีกด้วย"อ้าวก็เมื่อคืนคุณบอกว่าฉันจะทำอะไรก็ตามสบายนี่นา"ปลายฝนเถียงกลับไปว่าเธอไม่ได้ทำอะไรโดยพละการเพราะว่าเมื่อคืนเขาเองที่เป็นคนอนุญาตเธอให้ทำอะไรก็ได้ตามสบาย"หื้มม..เธอนี่"ฟรานซิสยืนเท้าเอวขมวดคิ้วอย่าระอาเขาเองที่เป็นคนพูดคำนั้นแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเอารวมไปเสียทุกเรื่องพร้อมเดินกลับไปที่ห้องนอนอย่างหัวเสียเล็กน้อย"คุณฉันขอมาอยู่ในนี้กับลูกนะ..คุณก็เห็นนี่เวลาต้นหนาวไม่เห็นหน้าแม่จะเป็นยังไง"ปลายฝนเริ่มออดอ้อนชายหนุ่มเพราะว่าวันนี้เธอจะต้องไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กอย่างที่เขาบ
"ขอบคุณฮับ.."เด็กชายตัวกลมยกมือป้อมพนมมือขอบคุณคนเป็นพ่อแล้วรีบรับขวดนมมากอดไว้ในอกก่อนจะยื่นมือไปที่ใบหน้าของคนตรงหน้าเพราะอยากสำรวจ"หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ"ฟรานซิสไม่ได้ว่าอะไรที่ลูกชายของเขาเอามือมาแตะที่หน้าแต่แค่อยากรู้ว่าหน้าเขามีอะไรผิดปกติจึงหันไปถามหญิงสาว"อยู่เฉยๆค่ะต้นหนาวก็แค่อยากสำรวจ"ปลายฝนส่งยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมบอกกับเขาให้อยู่เฉยๆเพราะว่านี่คือการสำรวจในสิ่งคิดว่าแปลกใหม่ของลูกชายเธอ"ฟอดดดด.."สายตาที่ไร้เดียงสาของลูกชายของเขาทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ดั่งต้องมนต์ในความน่ารักของลูกชายตัวกลมในตอนนี้ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเหมือนเห็นตัวเองในตอนเด็กใบหน้าทุกอย่างนี้เหมือนกับเขาอย่างกับแกะแต่มีบางอย่างที่เขาไม่มีเช่นกันคือรอยยิ้มหวานๆของลูกชายเขานั่นเองที่ท่าจะเหมือนปลายฝนเสียมากกว่าชายหนุ่มอดใจไม่ได้ที่จะกดจมูกไปที่แก้มย้วยๆของลูกชายของเขาฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วตัดใจรีบไปทำงานเพราะว่าวันนี้เขามีประชุม"อืม..อื้ออ..."ต้นหนาวบุ้ยน่าขยี้หัวขยี้ตานิดหน่อยพอรู้สึกว่าอะไรหนวดของคนเป็นพ่อนั้นมันช่างจั้กกะจี้เสียเหลือเกิน"แดดดี๊ค่อยกลับมาให้สำรวจนะครับตอนนี้แ
แกร็กกก"นี่มันอะไรกัน"ฟรานซิสเปิดประตูเข้าห้องของเขามาในขณะที่กำลังเดินก้าวเข้าห้องเขาก็ต้องชะงักงันกับสิ่งใหม่ที่อยู่ในห้องที่มันไม่เหมือนเดิมแม้แต่นิดเดียวแม้กระทั่งเตียงนอนของเขาที่ไปอยู่อีกมุมหนึ่งและเฟอร์นิเจอร์แปลกใหม่ก็เข้ามาในห้องเขาแทบจะเต็มไปหมดจนเขาต้องถามหญิงสาวด้วยท่าทีที่ไม่พอใจนัก"แดดดี๊"ต้นหนาวที่กำลังนั่งเล่นกับคนเป็นแม่อยู่เมื่อเห็นคนเป็นพ่อเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปจูงมือพ่อของเจ้าตัวมานั่งที่เตียงทั้งยังเรียกขึ้นไปนั่งตักทำตาแป๋วใส่พฤติกรรมของต้นหนาวทำให้เขาคลายความโกรธได้อยู่บ้างแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาคาดโทษให้หญิงสาวอยู่ดี"คุณมาก็ดีเลยนี่ฉันวางตู้ของฉันตรงนี้นะคะแล้วเปลของต้นหนาวฉันก็สั่งมาใหม่อีกหลังเอาไว้ด้านล่างหลังนี้เอาไว้ที่ห้องนอน"ปลายฝนเหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีคนกำลังไม่พอใจเธอยังคงพรีเซ้นเฟอร์นิเจอร์และของต่างๆที่เธอสั่งมาให้เขาได้ดู"จะเปลี่ยนอะไรในห้องทำไมไม่บอกฉันก่อน"ฟรานซิสมองหญิงสาวสายตาแข็งกร้าวและถามเธอเสียงแข็งแต่ไม่ดังมากเพราะว่าลูกชายของเขานั่งอยู่บนตักจึงไม่อยากแสดงอารมณ์โมโหมากนัก"อ้าว.. ก็คุณบอกจะมำอะไรก็ได้อย่าพาลูกหนีก็พอนี่คะ"ป