แกร้กกก
"นี่เธอจะทำอะไร"
ปลายฝนใช้ความไวของเธอหยิบปืนจากบอดี้การ์ดของชายหนุ่มแล้วต่อปากกระบอกปืนไปที่เขาอย่างรวดเร็วจนบอดี้การ์ดต่างก็ยื่นมายื่นมือห้ามเธอให้ใจเย็นๆ
"ออกไปกันให้หมดไม่งั้นฉันยิงจริงๆด้วย"
ปลายฝนหันมาสั่งพวกบอดี้การ์ดชุดดำเสียงแข็งให้เขาออกไป
"วางปืนลงเธอใช้มันไม่เป็นหรอก"
ฟรานซิสยังทำหน้านิ่งเฉยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งยังพูดเสียงแข็งกับหญิงสาวว่าเธอนั้นใช้ปืนนี้ไม่เป็น
ปั้งงง
"นี่ไงฉันใช้มันเป็น"
ปลายฝนเล็งปืนไปที่แจกันราคาแพงในห้องรับแขกของชายหนุ่มแล้วยิงแล้วลั่นไกให้คนตรงหน้าได้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนกระจอก
"คุณผู้หญิงใจเย็นๆนะครับ"
เมื่อพวกบอดี้การ์ดเห็นดังนั้นก็ยิ่งลนลานหนักขึ้นไปอีกทันทีเพราะเห็นว่าเธอนั้นใช้ปืนเป็นและเจ้านายของเขาก็อาจจะเป็นอันตรายได้
"ออกไป.."
ปลายฝนสั่งบอดี้การ์ดเสียงแข็งอีกรอบด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจัง
"พวกนายออกไปก่อนฉันจัดการได้"
ฟรานซิสปัดมือให้ลูกน้องของเขาออกไปทั้งหมดเพราะคิดว่าเขาเอาอยู่
"พาฉันไปหาลูก"
บอดี้การ์ดชุดดำออกไปทั้งหมดแล้วปลายฝนจึงจ่อปืนไปที่ชายหนุ่มแล้วบังคับให้เขาพาเธอไปหาลูกชายของเธอ
"ทำแบบนี้คิดดีแล้วจริงๆเหรอ"
ชายหนุ่มเตือนหญิงสาวอีกรอบที่เธอทำแบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเลิกรังควานเธอง่ายๆหากเธอได้ลูกคืนกลับไปในวันนี้ยังไงเขาก็ต้องตามไปเอาลูกคืนจากเธออยู่ดี
"อย่าเข้ามานะฉันจะพาลูกกลับบ้าน"
เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูห้องนอนของเขาที่มีลูกชายตัวกลมนอนอยู่หญิงสาวจึงรีบเข้าไปในห้องไม่วายปากกระบอกปืนยังเล็งไปที่ชายหนุ่มเพื่อป้องกันตัวเอง
"เธอคิดว่าวันนี้เธอรอดไปได้แล้ววันหน้าเธอจะรอดอย่างนั้นเหรอ"
ฟรานซิสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเตือนหญิงสาวอย่างใจเย็น
"คุณก็อย่ามายุ่งกับฉันแล้วก็ลูกของฉันสิ"
เธอจะรอดเงื้อมมือของเขาได้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็ต่อเมื่อชายหนุ่มเลิกยุ่งกับเธอและลูก
"หึ่..ลูกของเธอคนเดียวเหรอพูดออกมาได้"
ฟรานซิสสบถขำออกมาเล็กน้อยที่ดูเธอจะลืมอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า
"เงียบไปเลยคุณไม่มีเค้าคุณอยู่ได้แต่ถ้าฉันไม่มีเค้าฉันต้องตรอมใจตายแน่"
ปลายฝนพูดพร้อมอุ้มลูกชายเธอพาดบ่าเอาไว้
"เรื่องของเธอ"
นั่นมันคือปัญหาของหญิงสาวไม่ใช่ปัญหาของเขา
"เอางี้คุณต้องการเท่าไร.. ฉันจะซื้อค่าสเปิร์มของคุณน่ะ"
ปลายฝนยินดีที่จะจ่ายหากเขาต้องการค่าเสียหาย
"นี่เธอ... ฉันล่ะเชื่อเธอเลยจริงๆ"
ฟรานซิสไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวจะมีความคิดที่แปลกพิกลกว่าคนอื่นซะเหลือเกินก็จริงถ้าหากไม่แปลกเธอก็คงไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้
"ฉันไปก่อนอย่าตามมานะ.. ไม่งั้นยิงจริงๆด้วย"
ปลายฝนค่อยๆเดินออกจากห้องชายหนุ่มโดยที่ไม่ทันระวังตัว
"อะ... อ๊ายยย"
ฟรานซิสเห็นว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีเพราะเธอยังดูเป็นห่วงลูกที่อุ้มอยู่เพราะฉะนั้นเธอจงจึงไม่มีเวลาโฟกัสอยู่กับเขามากเท่าไหร่หนักจึงถือโอกาสนี้แย่งกระบอกปืนจากมือของเธอและรั้งเธอไม่ให้หนีออกไป
"อื้อ.."
ลูกชายตัวกลมของหญิงสาวตอนนี้กำลังสะลึมสะลือรู้สึกตัวขยี้หัวขยี้ตาเหตุเพราะว่ามีเสียงดังเกินไป
"โอ๋ๆๆๆ...นอนนะคร้าบบบ...ชู่ววว"
ปลายฝนต้องอุ้มโอ๋ลูกเธอเอาไว้ก่อนในเวลานี้เพราะไม่อย่างนั้นต้นหนาวจะงอแงไม่หยุด
"..."
ฟรานซิสมองดูหญิงสาวปลอบปะโลมลูกน้อยอย่างอ่อนโยนความรู้สึกนี้ทำให้เขานึกถึงคนเป็นแม่ขึ้นมาเมื่อตอนวัยเด็กแม่ของเขาก็ชอบปลอบเขาแบบนี้เช่นกันในตอนที่เขานั้นหลับแล้วผวาตื่น
"ออกไปได้แล้ว"
ฟรานซิสแยกลูกมาจากหญิงสาวออกจากมือมาอย่างง่ายดายและพาต้นหนาวไปนอนที่เตียง
"ไม่..อย่าเสียงดังเดี๋ยวต้นหนาวตื่นจะงอแงหนัก"
ปลายฝนใส่หัวพร้อมพูดกระซิบกระซาบเพราะกลัวว่าลูกชายเธอจะตื่นขึ้นมาและก็ยังดึงดันว่าเธอจะไม่ไปจากที่นี่แน่นอน
"อืม...งั้นเธอออกมาคุยกับฉันข้างนอก"
ฟรานซิสรู้สึกว่าเขาควรที่จะลองคิดอะไรใหม่ดูเพราะถ้าหากเขาหักดิบให้หญิงสาวทิ้งลูกไปเลยลูกชายของเขานั้นอาจจะงอแงไม่เอาใครเลยก็เป็นได้สู้ให้เธออยู่จนเขานั้นคุ้นชินกับลูกชายของเขาก่อนจะดีกว่าหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที
"อืม.."
ปลายฝนพยักหน้ารับพร้อมเดินตามชายหนุ่มออกไปด้านนอกกับเขาทันที
"เอาเป็นว่าฉันจะให้เธออยู่บ้านเล็กมาหาลูกได้บางเวลาที่ฉันกำหนดเท่านั้นส่วนลูกนับแต่นี้จะอยู่ที่บนคฤหาสน์กับฉัน"
"อะไรของคุณเนี่ย"
ดูท่าข้อเสนอของชายหนุ่มจะไม่เป็นที่ตรงใจกับเธอเอาซะเลยทั้งที่ลูกควรจะเป็นสิทธิ์ขาดของเธอทุกอย่างเขาไม่ควรมายุ่งอะไรด้วยซ้ำ
" ถ้าไม่เอาเธอก็ออกไปแล้วถ้าคิดหนีหรือตุกติกชีวิตของเธอไม่มีความสุขแน่เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันทำได้ทุกอย่าง"
ฟรานซิสพูดกับหญิงสาวด้วยท่าทีที่สบายอารมณ์เขาล้วงมือหนาเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับหันหน้ามาคุยกับเธอด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์รู้ว่าเธอจะต้องยอมแน่นอนเพราะเธอคงเป็นคนที่ฉลาดพอที่คิดว่าไม่ควรมาต่อรองอะไรกับเขาในเมื่อเขาให้สิทธิ์เธอขนาดนี้แล้ว
" โถ่เอ้ย...ทำไมต้องมาเจอคนอย่างคุณด้วยนะ"
ปลายฝนต้องพ่นลมหายใจออกมาแรงๆอย่างขัดอะไรไม่ได้ในเมื่อเขาให้สิทธิ์เธอแบบนี้และในเวลานี้เธอคิดแล้วว่ายังไงเธอก็เสียเปรียบเขาอยู่ดีตอนนี้เธอต้องรับข้อเสนอเขาเอาไว้ก่อนแล้ววันหลังเธอค่อยคิดแผนการใหม่ว่าเธอจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดีและเธอจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจเขาอยู่แบบนี้นานแน่นอน
"เรื่องนี้เธอเป็นคนเริ่มเองทั้งหมดใครใช้ให้เธอผลิตลูกของฉันออกมากันล่ะ"
ฟรานซิสเห็นว่าหญิงสาวจะทำหน้ายุ่งเขาเลยอยากเตือนให้เธอรู้ว่าเรื่องนี้เธอนั้นเป็นคนก่อมันขึ้นมาเองและเธอก็ควรจะรับผลที่มันจะตามมา
"คุณ.. คืนนี้ฉันขอนอนกับต้นหนาวได้ไหม"คืนนี้ปลายฝนยังห่างลูกเธอไม่ได้จริงๆเพราะเธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องเลี้ยงลูกไม่เป็นแน่ๆเธอจึงใช้ไม้อ่อนออดอ้อนขอร้องเขาให้เธออยู่ที่นี่กับลูกก่อน".... "ฟรานซิสมองหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างคาดเดาไม่ถูก"นะๆๆๆ.. คุณน้า...คุณหน้าตาหล่อปานนี้จิตใจก็ต้องหล่อตามด้วยสิจริงไหม.. "ปลายฝนใช้มารยาหญิงออดอ้อนสุดฤทธิ์ยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้อยู่กับลูกให้ได้ไม่อย่างนั้นเธอต้องนอนไม่หลับแน่" ก็ได้เธอบอกจะนอนที่นี่เองนะห้ามเปลี่ยนใจ"ฟรานซิสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหญิงสาวและถามเธอให้แน่ใจ" หึ.. ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน"ปลายฝนส่ายหัวหงึกหงักเบิกตาโพรงดีใจที่ดูท่าชายหนุ่มจะอนุญาตเธอ" อืมม.. "ฟรานซิสพยักหน้าพร้อมกับเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาและถอดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างช้าๆต่อหน้าหญิงสาวที่เดินตามหลังเข้ามา"น.. นี่.. ทำอะไร"ปลายฝนกระซิบกระซาบกับชายหนุ่มตาโตด้วยท่าทีรุกรี้รุกรนเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรหวังว่าจะไม่คิดไม่ดีกับเธอหรอกนะ" จะถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำนอนแล้วที่นี่ห้องฉัน.. "ฟรานซิสทำท่ากระซิบกระซาบกับหญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์ทั้งยังตลกสีหน้าของหญิงสาวในตอนนี้อีกด้วย
"แอ้..แง้งงงง...นมมมมม..มี๊...นมมมม..แง้งงงง""โอ..โอ๋...ปลายฝนอยู่ไหน"ต้นหนาวร้องไห้ไม่หยุดทั้งร้องหาแม่ทั้งร้องหิวนมจนฟรานซิสต้องเปิดประตูไปถามบอดี้การ์ดว่าหญิงสาวอยู่ไหน"อยู่ที่ครัวครับ"บอดี้การ์ดหนุ่มบอกกับเจ้านายของเขาทั้งยังตะลึงกับภาพเจ้านายของเขาที่เห็นตรงหน้าที่ไม่ได้แตกต่างกับพ่อลูกอ่อนเลยสักนิด"หื้มมม...."ฟรานซิสถอนหายใจเล็กน้อยทั้งยังรีบอุ้มลูกชายของเขาลงบันไดไปที่ครัวเพื่อหาหญิงสาวทันที"เอ่อ.."บอดี้การ์ดหนุ่มเกาหัวแกรกๆเพราะมาดพ่อลูกอ่อนของเจ้านายของเขาตอนนี้พวกเขาก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน"ดูนายสิเหมือนพ่อลูกอ่อนเลย""อืม..ท่าทางนายน้อยจะอารมณ์เหมือนพ่อนะ"บอดี้การ์ดสองคนสุมหัวกันต่างก็คิ้วขมวดเพราะดูท่านายน้อยของพวกเขาจะเอาอารมณ์อยากอยู่เหมือนกัน"จะเอาอยู่ไหมนั่นน่ะ""แอ้... แง้งงๆๆ"ต้นหนาวยังส่งเสียงร้องอยู่ไม่ขาด"นี่เธอทำอะไรอยู่"ฟรานซิสเดินเข้ามาหาปลายฝนอย่างหัวเสีย"อ้าวต้นหนาวตื่นแล้วเหรอลูกนมได้พอดีเลยไปนอนกันนะคะ"ปลายฝนรีบเข้ามาอุ้มลูกน้อยของเธอและเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของชายหนุ่มพูดคุยหยอกล้อกับลูกชายโดยมองผ่านหน้ายุ่งๆของชายหนุ่มไปเหมือนเป็นธาตุ
คฤหาสน์ฮันส์" อีธาน"" ครับ"" ปลายฝนไปไหน"ฟรานซิสเดินออกมาจากห้องนอนของเขาถามอีธานคนสนิทว่าหญิงสาวหายไปไหนแต่เช้าเพราะเห็นปล่อยให้เขานอนอยู่กับลูกสองคนเขาหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ"คุณปลายให้มอแกนพาออกไปข้างนอกครับไม่ทราบว่าไปไหน"อีธานเองเห็นหญิงสาวออกไปพร้อมมอแกนเมื่อตอนรุ่งสางแต่เขาไม่รู้จริงๆว่าหญิงสาวจะให้มอแกนพาไปที่ไหน" คุณตื่นแล้วเหรอ"ปลายฝนรีบเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มที่เห็นว่าเขาตื่นแล้ว" ไปไหนของเธอแต่เช้าแถมใช้คนของฉันอีก"ฟรานซิสยืนขมวดคิ้วถามคำถามหญิงสาวทั้งยังต่อว่าเธอที่ใช้คนของเขาโดยพละการอีกด้วย"อ้าวก็เมื่อคืนคุณบอกว่าฉันจะทำอะไรก็ตามสบายนี่นา"ปลายฝนเถียงกลับไปว่าเธอไม่ได้ทำอะไรโดยพละการเพราะว่าเมื่อคืนเขาเองที่เป็นคนอนุญาตเธอให้ทำอะไรก็ได้ตามสบาย"หื้มม..เธอนี่"ฟรานซิสยืนเท้าเอวขมวดคิ้วอย่าระอาเขาเองที่เป็นคนพูดคำนั้นแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเอารวมไปเสียทุกเรื่องพร้อมเดินกลับไปที่ห้องนอนอย่างหัวเสียเล็กน้อย"คุณฉันขอมาอยู่ในนี้กับลูกนะ..คุณก็เห็นนี่เวลาต้นหนาวไม่เห็นหน้าแม่จะเป็นยังไง"ปลายฝนเริ่มออดอ้อนชายหนุ่มเพราะว่าวันนี้เธอจะต้องไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กอย่างที่เขาบ
"ขอบคุณฮับ.."เด็กชายตัวกลมยกมือป้อมพนมมือขอบคุณคนเป็นพ่อแล้วรีบรับขวดนมมากอดไว้ในอกก่อนจะยื่นมือไปที่ใบหน้าของคนตรงหน้าเพราะอยากสำรวจ"หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ"ฟรานซิสไม่ได้ว่าอะไรที่ลูกชายของเขาเอามือมาแตะที่หน้าแต่แค่อยากรู้ว่าหน้าเขามีอะไรผิดปกติจึงหันไปถามหญิงสาว"อยู่เฉยๆค่ะต้นหนาวก็แค่อยากสำรวจ"ปลายฝนส่งยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมบอกกับเขาให้อยู่เฉยๆเพราะว่านี่คือการสำรวจในสิ่งคิดว่าแปลกใหม่ของลูกชายเธอ"ฟอดดดด.."สายตาที่ไร้เดียงสาของลูกชายของเขาทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ดั่งต้องมนต์ในความน่ารักของลูกชายตัวกลมในตอนนี้ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเหมือนเห็นตัวเองในตอนเด็กใบหน้าทุกอย่างนี้เหมือนกับเขาอย่างกับแกะแต่มีบางอย่างที่เขาไม่มีเช่นกันคือรอยยิ้มหวานๆของลูกชายเขานั่นเองที่ท่าจะเหมือนปลายฝนเสียมากกว่าชายหนุ่มอดใจไม่ได้ที่จะกดจมูกไปที่แก้มย้วยๆของลูกชายของเขาฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วตัดใจรีบไปทำงานเพราะว่าวันนี้เขามีประชุม"อืม..อื้ออ..."ต้นหนาวบุ้ยน่าขยี้หัวขยี้ตานิดหน่อยพอรู้สึกว่าอะไรหนวดของคนเป็นพ่อนั้นมันช่างจั้กกะจี้เสียเหลือเกิน"แดดดี๊ค่อยกลับมาให้สำรวจนะครับตอนนี้แ
แกร็กกก"นี่มันอะไรกัน"ฟรานซิสเปิดประตูเข้าห้องของเขามาในขณะที่กำลังเดินก้าวเข้าห้องเขาก็ต้องชะงักงันกับสิ่งใหม่ที่อยู่ในห้องที่มันไม่เหมือนเดิมแม้แต่นิดเดียวแม้กระทั่งเตียงนอนของเขาที่ไปอยู่อีกมุมหนึ่งและเฟอร์นิเจอร์แปลกใหม่ก็เข้ามาในห้องเขาแทบจะเต็มไปหมดจนเขาต้องถามหญิงสาวด้วยท่าทีที่ไม่พอใจนัก"แดดดี๊"ต้นหนาวที่กำลังนั่งเล่นกับคนเป็นแม่อยู่เมื่อเห็นคนเป็นพ่อเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปจูงมือพ่อของเจ้าตัวมานั่งที่เตียงทั้งยังเรียกขึ้นไปนั่งตักทำตาแป๋วใส่พฤติกรรมของต้นหนาวทำให้เขาคลายความโกรธได้อยู่บ้างแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาคาดโทษให้หญิงสาวอยู่ดี"คุณมาก็ดีเลยนี่ฉันวางตู้ของฉันตรงนี้นะคะแล้วเปลของต้นหนาวฉันก็สั่งมาใหม่อีกหลังเอาไว้ด้านล่างหลังนี้เอาไว้ที่ห้องนอน"ปลายฝนเหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีคนกำลังไม่พอใจเธอยังคงพรีเซ้นเฟอร์นิเจอร์และของต่างๆที่เธอสั่งมาให้เขาได้ดู"จะเปลี่ยนอะไรในห้องทำไมไม่บอกฉันก่อน"ฟรานซิสมองหญิงสาวสายตาแข็งกร้าวและถามเธอเสียงแข็งแต่ไม่ดังมากเพราะว่าลูกชายของเขานั่งอยู่บนตักจึงไม่อยากแสดงอารมณ์โมโหมากนัก"อ้าว.. ก็คุณบอกจะมำอะไรก็ได้อย่าพาลูกหนีก็พอนี่คะ"ป
"แดดดี๊.."ต้นหนาวนั่งเล่นอยู่กับคนเป็นพ่อสองคนเพราะว่าตอนนี้ปลายฝนกำลังอาบน้ำอยู่"ว่าไงครับ""หิวนม"เด็กชายหันมาบอกคนเป็นพ่อว่าตัวเองหิวให้พ่อของเขาไปหยิบนมมาให้พลางใช้มือป้อมชี้ไปที่โต๊ะที่วางขวดนม"เดี๋ยวแดดดี๊หยิบให้นะครับ"ฟรานซิสเห็นว่าในขวดนมมีแต่น้ำเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงเลยเดินไปเคาะประตูห้องน้ำเพื่อที่จะถามหญิงสาวก๊อกๆๆ"อะไรคุณ..."ปลายฝนเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จพอดีเธอจึงพันผ้าขนหนูกระโจมอกเอาไว้แล้วเปิดประตูออกมาถามชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขาเรียกเธอทำไม"ต้นหนาวหิวนม"ฟรานซิสหลบสายลงมองไปทางอื่นเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้อยากมองเธอในสภาพนี้สักเท่าไหร่นักเขาก็ผู้ชายกลัวว่าอารมณ์อะไรๆแบบผู้ชายของเขามันจะเกิดขึ้นมาซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก"ตอนนี้เหรอ""อืม""โอเคๆ.. คุณมานี่เดี๋ยวฉันสอน"หญิงสาวจูงมือฟรานซิสมาที่โต๊ะวางขวดนมเธอถือโอกาสนี้สอนเขาเสียเลยครั้งหน้าหากเธอไม่ว่างเขาจะได้ทำเป็น"อืมม..""นี่คือชั้นที่ฉันแบ่งนมเอาไว้คุณก็แค่ใช้น้ำต้มสุกในกระบอกนี้ใส่ให้ถึงขีดบนสุดแล้วก็เทนมผงใส่เขย่าก็ได้แล้วแต่ถ้านมในชั้นหมดในกระปุกนมมีช้อนตวงอยู่ตักใส่สี่ช้อนต่อหนึ่งขวดเข้าใจใช่ไหมคะ.. "ปลาย
วันต่อมาบริษัทxxx"นี่เธอยัยเลขาหน้าห้องภัทรินทร์อะไรนั่นเค้าจะไม่เข้าสังคมเลยหรือไง"ดาริกาสาวหน้าหวานฝ่ายพีอารู้สึกไม่ค่อยชอบหน้าภัทรินทร์เท่าไหร่เพราะเธอดูจะเริ่ดเชิดหยิ่งกับทุกคนเสียเกินไป"โอ้ยย..ไม่อยากจะเม้าเมื่อก่อนที่เข้ามาใหม่ๆมือไม้อ่อนแต่พอเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไปเป็นเลขาได้ก็เดินเชิดไม่มองดินเลยจ่ะ"โยษิตาหญิงสาวฝ่ายบัญชีเป็นเพื่อนกับดาริกาเธอเป็นสาวห้าวประจำบริษัทเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องใครแต่หากเป็นเรื่องของภัทรินทร์เธออดที่จะพูดไม่ได้เพราะเธอได้ไปรู้อะไรดีๆมา"ขนาดนั้นเลยเหรอ.. ว่าแต่ที่ว่าเหยียบหัวเหยียบหัวใครเหรอ"มีนาสาวสวยหุ่นบอบบางทำงานอยู่พีอากับดาริกาเธออยากจะรู้นักว่าหญิงสาวเหยียบหัวใครขึ้นไปถึงตำแหน่งนั้นได้"อ้าวก็คุณวีกิจน่ะสิตอนนั้นแทบจะเลียแข้งเลียขาให้คุณวีกิจช่วยงานจนตัวเองมีผลงานเตะตาแต่พอได้ขึ้นเป็นเลขาก็ถีบหัวส่งไม่เชื่อไปถามคุณวีกิจหัวหน้าฝ่ายบัญชีดูสิ"โยษิตาพูดได้เต็มปากเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเกิดกับหัวหน้าเธอเองจนตอนนี้หัวหน้าเธอดูจะเข้าหน้ากันไม่ติดกับภัทรินทร์มานานแล้ว"จะบ้าหรือไงใครจะกล้าถาม"มีนาส่ายหัวหงึกหงักเรื่องแบบนี้ใครจะไปกล้
เธอไม่อยากให้ประเด็นแค่เธอมาหาเขาที่นี่เพราะอยากกินข้าวกลางวันด้วยมาอันดับหนึ่งเธอจึงแสร้งพูดโยงไปเรื่องอื่นอันที่จริงจุดประสงค์หลักก็คืออยากจะมาประกาศศักดาให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับเขาจะได้ไม่มีสาวสวยคนไหนในที่นี้กล้ายุ่งกับเขาหรือหากจะยุ่งก็น่าจะฉุกคิดสักนิดว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว"นั่นอะไร"ฟรานซิสอุ้มต้นหนาวออกมานั่งตรงเก้าอี้ของโต๊ะที่หญิงสาวกำลังจัดแจงกล่องอาหารอยู่"สเต็กแซลมอนค่ะฉันทำมาห้ากล่องเผื่อคนของคุณด้วย.. ต้นหนาวชิมแล้วบอกแดดดี๊สิครับว่าอร่อยไหม"ปลายฝนตักแซลมอนเข้าปากลูกชายของเธอคำไม่ใหญ่นัก"ฮับ.. อืม... อาหย่อย.. "เจ้าเด็กชายตัวกลมของอะไรที่เป็นฝีมือแม่เข้าปากได้ก็อร่อยไปเสียทุกอย่าง"อร่อยทุกอย่างสินะตัวถึงได้กลมแบบนี้เสื้อน้อย"ฟรานซิสอมยิ้มมองไปที่ลูกชายบนตักของเขาพลางคิดว่าเหตุนี้สินะที่ทำให้ลูกชายของเขาตัวตันแบบนี้" นี่ค่ะของคุณ.. ฉันป้อนให้คุณอุ้มต้นหนาวอยู่คงจะจับช้อนไม่ถนัด"ปลายฝนตักแซลมอนในกล่องของเขายื่นป้อนให้ชายหนุ่ม“อืม.. "ฟรานซิสมองหน้าหญิงสาวที่กำลังฉีกยิ้มท่าจะมีความสุขดวงตาของเธอตอนนี้เป็นประกายสะกดสายตาของเขาได้เป็นอย่างดีเมื่อหลุดจากภวังค