ครู่ต่อมา
"คุณฟรานคะ"
ปลายฝนเดินถือถุงกล่องอาหารเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่มในช่วงพักกลางวัน
"ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องมา"
ฟรานซิสยกยิ้มอย่างพอใจเขารู้ดีว่ายังไงเธอก็ต้องมาหาเขาอยู่ดีแต่แปลกใจว่าวันนี้ทำไมเธอถึงไม่พาลูกมาด้วย
"มากินข้าวกลางวันกับคุณไงคะ"
"ต้นหนาวล่ะ"
"ตอนแรกก็จะพามาด้วยแต่คุณย่าสิคะท่าจะติดเหลนบอกว่าไม่อยากให้พาต้นหนาวออกมาข้างนอกบ่อยๆ"
"ดีแล้วล่ะตอนนี้ทางที่ดีอย่าพาลูกออกไปไหนมาไหนบ่อยเลย"
"ทำไมเหรอคะ"
ปลายฝนทำหน้าสงสัยพร้อมเข้าไปนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม
"ก็...อืม...ช่วงนี้มลพิษค่อนข้างเยอะอยู่บ้านจะดีกว่า"
ฟรานซิสยังไม่อยากบอกอะไรเธอตอนนี้หากได้จังหวะดีๆแล้วค่อยบอกเธอว่าทำไมเขาจึงอยากให้เธอระวังตัว
"อ๋อ..เข้าใจแล้วค่ะ"
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจพร้อมแกะกล่องอาหารวางตรงหน้าของเขาพร้อมกับของเธอ
"กินข้าวดีกว่านะคะ"
"ป้อนสิ"
ฟรานซิสเลื่อนโต๊ะมานั่งฝั่งเดียวกับหญิงสาวทั้งยังทำสีหน้าออดอ้อนเธอให้ป้อนข้าวเขาอีกด้วย
"คะ"
ปลายฝนเอียงหน้าอย่างแปลกใจที่วันนี้ดูท่าเขาจะอ้อนเธอเป็นพิเศษ
"อยากให้เธอป้อน"
"เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งนะคะ"
ปลายฝนหลี่ตาลงเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะป้อนเขา
"คนมีแฟนจะอ้อนแฟนบ้างไม่ได้หรือไง"
"ได้เลยค่ะคุณแฟน"
ปลายฝนตักข้าวผัดจนพูนช้อนยื่นไปใกล้ๆปากของชายหนุ่มพร้อมยกมืออีกข้างรองเอาไว้เพราะกลัวว่าข้าวจะหก
"ตอนนี้ได้เป็นแฟน...ตอนไหนจะเป็นเมีย"
ฟรานซิสพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลทั้งยังมีสีหน้าที่เย้าหยอกยักคิ้วล้อเธอเล่นอย่างทะเล้นอีกต่างหาก
"คุณฟรานน..."
ปลายฝนก้มหน้างุดตอนนี้เธอหน้าแดงแทบจะเป็นลูกตำลึงอยู่แล้ว
"เธอเขินน่ารักดีนะ...นึกว่าน่ารักเฉพาะตอนทำหน้าตกใจ...ว่าแต่...เธอ..เขินแบบนี้คิดลึกอะไรอยู่รึเปล่า"
ชายหนุ่มยังมิวายแกล้งคนที่กำลังเขินเล่นอีกครา
"คุณฟราน....กินข้าวไปเลยค่ะ"
ปลายฝนรีบยื่นช้อนข้าวเข้าไปในปากของชายหนุ่มก่อนที่เขาจะพูดอะไรที่ทำให้เธอเขินไปกว่านี้
คฤหาสน์ฮันส์
"จุนอา"
ต้นหนาวนั่งเล่นอยู่ที่ห้องโถงใหญ่กับเฮเลนเมื่อเห็นคนเป็นอาลงมาด้านล่างจึงรีบวิ่งเข้าไปเกาะรถเข็นของลอเลนโซอย่างรวดเร็ว
"ไงเจ้าเสือ.."
ลอเลนโซเห็นหลานตัวกลมมายืนเกาะทำตาแป๋วจึงบกมือลูบหัวด้วยความเอ็นดู
"ไปจับรถฮับ"
ต้นหนาวเอียงคอพูดกับคนเป็นอาด้วยท่าทีตื่นเต้น
"เห็นหน้าอาเป็นต้องให้พาไปขับรถให้อาหายก่อนนะครับ"
ลอเลนโซสบถขำเขานึกว่าหลานเขาลืมไปเสียแล้ว
"หายตอนไหนฮับ"
ต้นหนาวถามอย่างอยากรู้
"ไม่รู้เลยครับ"
ลอเลนโซส่ายหัวเล็กน้อยเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับไปขับรถเมื่อไหร่
"....."
ต้นหนาวมีสีหน้าผิดหวังแล้วจึงเดินกลับมานั่งเล่นที่เดิมข้างๆคุณทวดของเขา
"ต้นหนาวมาหาคุณทวดครับมากินข้าวกลางวันกันดีกว่า"
"ฮับ"
"นี่หมอประจำตัวผมเค้าหายไปไหนกันครับ"
ลอเลนโซแกล้งเปรยถามคนเป็นย่าว่าลัลลลิลหายไปไหนตั้งแต่ช่วงสายแล้วในขณะที่ย่าของเขากำลังป้อนข้าวต้นหนาวอยู่
"หมอลินน่าจะเบื่อหน้าคนไข้ล่ะมั้งเลยขี้เกียจอยู่"
เฮเลนตอบหน้าตาเฉยในขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่กับการป้อนข้าวเหลนชาย
"โถ่คุณย่าครับ"
ลอเลนโซรู้ว่าย่าของเขายังคงเคืองๆเรื่องวันนั้นอยู่จึงไม่ค่อยจะพูดดีกับเขาสักเท่าไร
"เธอกลับไปที่บ้านเห็นว่าแม่โทรเรียกให้เข้าไปคุยเรื่องที่เราทำเรื่องเอาไว้"
"เธอไม่เห็นบอกผมเลยครับคุณย่า"
ลอเลนโซถามย่าของเขาด้วยสีหน้าสงสัย
"หึ่..เธอคงขี้เกียจคุยกะเราอะ"
เหตุผลนี้ไม่ต้องให้ลัลลลิลบอกเฮเลนก็เข้าใจได้ด้วยตัวเอง
บ้านณฤดี
"กว่าจะเข้ามาหาแม่ได้นะเราน่ะ"
ณฤดีคุณหญิงวัยห้าสิบกว่าที่ยังคงความสาวความสวยดั่งคนที่อายุสามสิบต้นๆณตอนนี้เธอยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่หน้าบ้านเพราะกว่าลูกสาวเธอจะกลับเข้ามาบ้านได้ก็เล่นเอาเธอร้อนใจไปหลายวันอยู่เหมือนกัน
"ก็หนูต้องดูแลคนไข้นี่คะคุณแม่"
ลัลลลิลอ้างกับคนเป็นแม่พร้อมเข้ามาหาแม่เธอกอดแขนอย่างออดอ้อนและไปนั่งคุยกันด้านในกว่าเธอจะทำใจกลับมาได้ก็คิดแล้วคิดอีก
"อธิบายมาเลยตอนโทรถามแม่ก็ไม่เคยได้ตำตอบพูดมาเลยตอนนี้อย่าโอ้เอ้"
ณฤดีไม่พูดพร่ำทำเพลงเรื่องที่เธออยากรู้เธอก็ต้องรู้ในตอนนี้เพราะหลังจากที่เธอคิดเค้นจากลูกสาวก่อนหน้าในตอนที่คุยโทรศัพท์ก็ไม่เห็นจะได้คำตอบอะไร
"คือ..เรื่องทั้งหมดหนูไม่รู้ว่าทำไมคุณลอสเค้าพูดกับสื่อแบบนั้น"
ลัลลลิลก้มหน้างุด
"คือยังไง"
ณฤดียังคงเค้นลูกสาวเธออยู่เรื่อยๆแต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรแม่บ้านก็เดินเข้ามาบอกเรื่องมีคนมาเสียก่ออน
"คุณนาฏคะคุณลอเลนโซมาขอพบค่ะ"
"ให้เค้าเข้ามา"
ณฤดีเห็นว่าตัวการเกิดเรื่องมาพร้อมกันพอดีจึงให้เขารีบเข้ามาด้านในเพื่อที่จะได้ถามความจริงเสียทีเดียว
"ชิ..มาทำไมกันนะ"
ลัลลลิลหลับตาปี๋ภาวนาขอให้วันนี้เธอแก้ปัญหาทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น
"สวัสดีครับคุณแม่"
ลอเลนโซนั่งรถเข็นเข้ามาพร้อมกับแม่บ้านของณฤดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"....."
ลัลลลิลส่งสายตามองค้อนให้ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
"คุณมาที่นี่ก็ดีแล้วอธิบายกันมาเลยว่าเรื่องมันเป็นยังไง"
ณฤดีถามชายหนุ่มด้วยความอยากรู้หากทั้งสองจะคบหรือถึงขั้นแต่งอะไรเธอก็ไม่ว่าแต่อย่างน้อยก็ขอให้บอกเธอก่อนก่อนที่จะมีข่าวแบบนี้ออกมา
"คือผมจะแต่งงานกับเธอจริงๆครับ"
ลอเลนโซตอบณฤดีหน้าตาเฉย
"อะไรของคุณเนี่ยคุณลอส"
ลัลลลิลลุกขึ้นตวาดชายหนุ่มที่เขาพูดอะไรเพ้อเจ้อแทนที่จะพูดความจริงออกมา
"เงียบเลยเราน่ะ.."
ณฤดีปรามลูกสาวของเธอให้นั่งลงและเงียบเพราะเธอจะฟังจากปากลอเลนโซ
"แต่ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะคุณแม่เรื่องแต่งงานเค้าก็พูดเองเออเองทั้งนั้น"
ลัลลลิลยังคงค้านหัวชนฝา
"ผมมีอะไรกับเธอแล้วครับ"
ลอเลนโซแกล้งตีหน้าเศร้าคิดว่ายังไงแม่ของหญิงสาวก็ต้องเชื่อเขาอยู่ดี
"อะไรนะ??"
ณฤดีถึงขั้นแทบจะลมจับลัลลลิลเลยรีบเข้าไปนั่งข้างๆแม่ของเธอพยุงตัวแม่เธอเอาไว้
"นี่คุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ... คุณแม่คะไม่จริงนะคะเค้าโกหก""ยังไงคุณก็ต้องแต่งงานกับผม""หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย.. โอ้ยแม่ปวดหัว""คุณแม่คะ""คุณลอสคุณให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณรีบมาคุยให้เรียบร้อยเลย"ณฤดีคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนจะอยากรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำที่เขาพูดมาทั้งหมดเธอจึงเชื่อและอยากจะให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายมาคุยกับเธอให้เร็วที่สุดเพราะเรื่องนี้คนในบ้านเธอรู้เรื่องจากคำพูดของชายหนุ่มหมดแล้วแถมสื่อก็จับตามองอย่างมากอีกด้วยหากไม่ทำอะไรให้มันเสร็จสิ้นก็คงจะเป็นขี้ปากคนอื่นไปทั่วไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านเธอเอง"ครับ"ลอเลนโซแอบยกยิ้มเล็กน้อยที่ดูท่าแม่ของลัลลลิลจะเชื่อเขาเสียมากกว่า"คุณแม่ฟังหนูบ้างรึเปล่าคะ"ลัลลลิลมองหน้าแม่ของเธออย่างตัดพ้อ"นี่เราเชคตัวเองบ้างรึเปล่าเดี๋ยวจะท้องก่อนแต่งล่ะแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"ตอนนี้สิ่งที่ณฤดีห่วงที่สุดก็กลัวว่าลูกเธอจะท้องก่อนแต่งคำพูดอะไรต่อมิอะไรเธอไม่ได้ยินรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว"คุณแม่คะ!!"ลัลลลิลแทบจะร้องให้และอยากจะฉีกเนื้อคนที่มันสร้างเรื่องให้เธอเป็นชิ้นๆ"เอี้ยงพาฉันไปพักฉันปวดหัว"ณฤดีมิอาจทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้เธอจึงให้นกเอี้ยง
ครู่ต่อมาแกร๊กก"ต้นหนาวล่ะคะ"ปลายฝนเข้าห้องมาเห็นว่าฟรานซิสนอนอยู่ที่เตียงคนเดียวคิดว่าเขาจะไปรับต้นหนาวมาแล้วเสียอีก"คืนนี้ฉันฝากไว้กับคุณย่า"ฟรานซิสตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"รบกวนคุณย่ารึเปล่าคะฉันไปพาต้นหนาวกลับมาดีกว่า""ไม่ต้องหรอก"ปลายฝนไม่อยากรบกวนอะไรคุณย่ามากนักเพราะกลัวว่าต้นหนาวจะงอแงตอนกลางคืนแล้วทำให้คุณย่าไม่ได้นอน"อื้อ...จ..จะทำอะไรคะ"ฟรานซิสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะเดินออกจากห้องไปเขาจึงรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนและใช้สองมือหนาขึงข้อมือหญิงสาวไว้กับผนังห้องจนเธอมีสีหน้าตกใจ"พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรส"ฟรานซิสโน้มตัวลงมากระซิบจ้างหูหญิงสาวเบาๆ"คุณฟราน..พูดจริงเหรอคะ"ปลายฝนถึงกับยิ้มกว้างตาเป็นประกายดีใจที่เขาอยากจะจดทะเบียนกับเธอ"จริงสิ..ต้นหนาวจะได้เป็นลูกฉันถูกต้องตามกฏหมายซะที""ค่ะ"ปลายฝนพยักหน้าตอบเขาด้วยรอยยิ้ม"แล้วเธอก็ด้วยเธอจะได้เป็นเมียฉันถูกต้องตามนิตินัย...และ...คืนนี้..ก็...จะถูกต้องตามพฤตินัยด้วย"คำพูดนุ่มนวลแหบพร่าข้างๆหูของหญิงสาวตอนนี้ทำให้เธอตัวชาวาบทำอะไรไม่ถูกแต่รู้ว่าตอนนี้หน้าของเธอคงแดงก่ำเป็นลูกตำลึงแน่นอน"เอ่อ..อื้มมม.."ฟรานซ
"อยากได้กี่คนล่ะครับเดี๋ยวผมทำให้"ฟรานซิสตอบคุณย่าของเขาทั้งวางหญิงสาวลงเพื่อยืนคุยกับคุณย่าของพวกเขาดีๆ"คุณ.."ปลายฝนยกมือเรียวตีไปที่ลำแขนแกร่งชายหนุ่มแก้เขินเบาๆ"อย่าทำเป็นคุยโวไปหน่อยเลยเราน่ะ... แล้วนี่จะไปไหนกันแต่เช้า""อ๋อ.. ออกไปธุระข้างนอกสักพักน่ะครับต้นหนาวล่ะครับ""ไปเล่นกับพวกบอดี้การ์ดอยู่ในสวนที่บ้านเล็กโน่นแหละเดี๋ยวย่าดูให้เองเราสองคนจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ""ครับคุณย่า"เมื่อคุยกับคุณย่าจบชายหนุ่มก็อุ้มหญิงสาวออกไปเหมือนเดิม"นี่คุณฉันเดินเองได้""ก็จะอุ้มไง""...."เฮเลนอมยิ้มตามหลังหลานๆของเธอเมื่อเห็นแบบนี้แล้วคิดว่าไม่นานเธอคงจะได้อุ้มเหลนเร็วๆนี้แน่สำนักงานเขต"ยินดีกับพวกคุณทั้งสองด้วยนะครับ""ค่ะ.. /ครับ"ตอนนี้ฟรานซิสและปลายฝนก็ได้ทะเบียนสมรสมาเรียบร้อยจึงรีบขึ้นรถกลับกันทันทีด้วยท่าทีมีความสุขเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา"เรียบร้อยซะทีนะ"ฟรานซิสนั่งกอดหญิงสาวอยู่บนรถตู้คันหรูตั้งแต่ออกจากบ้านมาเขายังไม่ปล่อยให้เธอห่างตัวเลย"ทำไมต้องให้ฉันนั่งบนตักคุณด้วยคะ"ปลายฝนซบหัวอยู่ที่อกแกร่งเล่นอย่างสบายอารมณ์"ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ...ฉันมีอะไรจะใ
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันเอาตัวรอดเก่ง"ปลายฝนหันหน้าไปบอกกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม"ให้มันเก่งอย่างที่พูดก็แล้วกันรู้ไหมคนร้ายที่มันทำร้ายฉันที่โรงแรมวันนั้นมันขู่ว่าจะเล่นงานเธอกับลูกทำให้ฉันใจไม่ดีซะเลยหากสู้กันซึ่งๆหน้าฉันจะไม่กลัวเลยสักนิด"เรื่องนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องบอกให้เธอรู้เพราะเธอเองก็จะได้ระวังตัว"แบบนี้สินะคะฉันถึงเห็นคุณเครียดอยู่บ่อยๆ"สิ่งที่คาใจของปลายฝนมานานวันนี้ก็ได้กระจ่างเสียทีเพราะเธอเห็นเขาชอบนั่งเครียดอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้อยากถามอะไรออกไป"สังเกตด้วยเหรอ"ฟรานซิสเอียงคอถามคนที่นอนอยู่บนแขน"ค่ะ.. ถ้าคุณเป็นห่วงขนาดนี้ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คุณสบายใจนะคะ"หากชายหนุ่มเป็นห่วงเธอ..เธอเองก็ไม่อยากทำให้เขากังวลต่อไปนี้เธอจะเชื่อฟังเขาทุกอย่างและจะไม่ทำให้เขาไม่สบายใจอีก"ดีแล้ว...อ้ะ"ฟรานซิสพูดพร้อมพลิกตัวมาอยู่บนตัวของหญิงสาวจนเธอร้องตกใจเบิกตาโพรง"คืนนี้มีความสุขกันอีกนะ"ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวเบาๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"แต่ว่าฉันยัง..."ปลายฝนหน้าเจื่อนเล็กน้อยเธอไม่ได้อยากปฏิเสธแต่เธอยังรู้สึกว่าส่วนนั้นของเธอยังไม่หายระบมดีสีกเท่าไร"ฉันจะไม่รุนแรงสัญ
คลีนิคหมอเรียล"เป็นยังไงบ้างคะพี่หมอ""ดูเอา.. " หลังจากที่รัชตะเอกซเรย์ให้ปลายฝนเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักและกางผลเอกซเรย์ให้ทั้งสองสาวได้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหัวของปลายฝน"เฮ้ย.. ทำไมเป็นงี้"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นผลตรวจ"ตอนนั้นที่หมอนพเอ็กซเรย์มันไม่มีไอ้ก้อนนี้นี่คะ"ปลายฝนมีสีหน้ากังวล"พี่บอกแล้วให้เชคอีกรอบศรีษะเราเป็นอะไรต้องดูให้ละเอียดเป็นหมอก็น่าจะรู้""ปลายสัพเพร่าเองแหละค่ะ"ปลายฝนพูดด้วยสีหน้าที่กังวลใจอยู่มากพอสมควรเพราะคิดว่าหากฟรานซิสรู้เรื่องนี้คงต้องเป็นห่วงเธอมากๆอย่างแน่นอน"งั้นวันนี้พี่จะให้ยาบรรเทาไปก่อนกลับไปเตรียมตัวพรุ่งนี้มานอนพักที่โรงพยาบาลมะรืนพี่จะผ่าตัดให้ไม่งั้นมันจะรามใหญ่โต""ค่ะ.."ครู่ต่อมา"แกอย่าบอกเรื่องนี้กับคุณฟรานได้ไหม"ในขณะที่นั่งรถกลับปลายฝนขอร้องให้เพื่อนเธอปิดเรื่องนี้กับฟรานซิสให้ดี"ทำไม"ลัลลลิลถามเพื่อนเธอกลับอย่างแปลกใจ"ฉันไม่อยากให้คุณฟรานรู้กลัวเค้าเป็นห่วงแล้วจะเครียดกว่าเดิม""แล้วตอนที่แกจะต้องผ่าตัดแล้วนอนโรงพยาบาลล่ะ"ลัลลลิลขมวดคิ้วเป็นปม"บอกกับเค้าว่าฉันจะขอไปพักผ่อนกับแกที่ต่
"หยุดพูดซะที"ชายหนุ่มแผดเสียงใส่หญิงสาวจบก็เดินน้ำตาคลอไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเพราะเขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้เธอเห็น"ฮื่อ.ๆๆๆๆอือ..ฮือออ...คุณฟราน...ฉันรักคุณจริงๆนะคะ"ปลายฝนนั่งสะอื้นฟุบลงไปกับพื้นเธอรู้ว่าตอนแรกเธอตั้งใจแบบนั้นแต่ตอนนี้เธอรักเขาไปจริงๆแล้วเธออยากให้เขาเข้าใจเธอบ้างแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รับฟังคำอธิบายขิงเธอเลยสักนิดห้องทำงานเพล้งงง.. ปึก..ปักก"โถ่โว้ยยยย.."ฟรานซิสยังคงระบายความเจ็บใจในห้องทำงานของเขาพักใหญ่และล้มตัวนอนในห้องนี้อย่างคนหมดอาลัยตายอยากเจ็บหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก01.30 น."ลิน"ปลายฝนเดินปาดน้ำตาสะอึกสะอื้นมาหาเพื่อนเธอที่ห้องในตอนกลางดึก"ปลายเป็นอะไร.."ลัลลลิลตกใจอย่างมากที่เพื่อนของเธอสะอื้นตัวโยนเข้ามาทั้งรีบเข้าไปกอดปลอบและถามหาสาเหตุด้วยสีหน้ากังวล"ฮือๆๆๆๆ.."ปลายฝนยังคงสะอื้นไม่หยุด"ใจเย็นๆๆ"ลัลลลิลได้แต่กอดปลอบลูบหลังเพื่อนเธอให้สงบลงก่อน"คุณฟรานรู้เรื่อง....."ปลายฝนเล่าทุกอย่างให้ลัลลลิลได้ฟังว่าฟรานซิสทะเลาะกับเธอเรื่องอะไรเธอสะอื้นร้องให้จนหลับไปที่ห้องของลัลลลิล".อย่าให้รู้นะว่าเป็นฝีมือใคร.."ลัลลลิลตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะต้อ
"มันพังไปหมดแล้ว...หุ้นส่วนพี่โดนมันซื้อตัวให้อยู่ข้างมันไปหมดแล้วทั้งคนที่หนุนหลังพี่อยู่ก็โดนไอ้ฟรานซิสมันติดต่อข่มขู่เอาไว้ทั้งหมดจนตอนนี้พี่เหลือหัวเดียวตัวเดียวแล้วพี่ไม่เหลืออะไรทั้งนั้นนนน..."ภูผาพูดเสียงแข็งด้วยท่าทีคับแค้นใจตอนนี้ภูผาเหมือนคนที่เหลือแต่ตัวไม่รู้ว่าฟรานซิสทำอีท่าไหนจึงสามารถทำให้หุ้นส่วนที่ไว้ใจในการทำธุรกิจกับเขามานานหมดความเชื่อถือในตัวเขาและตัดหางปล่อยวัดไม่ช่วยเหลืออะไรเขาอีกต่อไปแถมคนใหญ่คนโตที่เขารู้จักก็ไม่มีใครยื่นมือที่จะมาช่วยเขาอีกด้วยเพราะเกรงกลัวในคำขู่ของฟรานซิสที่ขู่ว่าจะแฉสิ่งที่ร่วมกันทุจริตหลายครั้งหลายคราจนคนพวกนั้นกลัวจนหัวหด"เอ่อ..อื้อ...ปวดหัว"จู่ๆปลายฝนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมากะทันหัน"คุณฟรานกำลังเข้ามาแล้วค่ะ"ภัทรินทร์เดินเข้ามาบอกกับภูผาให้รู้ตัว"เธอ.."ปลายฝนมองไปยังภัทรินทร์อย่างไม่พอใจครั้งที่แล้วที่เธอโดนตำรวจจับไปยังไม่เข็ดยังจะร่วมมือกับภูผาทำแบบนี้อีก"ใช่ฉันเอง...เห็นเธอในสภาพนี้แล้วฉันก็สะใจจริงๆนะเธอยังคุยกันดีกับสามีเธออยู่ไหมล่ะ"ภัทรินทร์เดินเข้ามาหาหญิงสาวด้วยสีหน้าระรื่นพอใจอย่างมากที่เห็นว่าหญิงสาวอยู่ในสภาพที่เป็นรอง
"ถ้าแกสู้ฉัน...เมียแกได้ตายแน่"ภูผาจ่อปืนไปที่หน้าของฟรานซิสทั้งยังขู่ด้วยท่าทีขึงขังจนฟรานซิสต้องชะงักมองไปที่ปลายฝนอย่างเป็นห่วง"ข้างนอกคนของเราโดนทำร้ายหมดเลยครับ"ชายชุดดำวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกับภูผาเพราะคนข้างนอกสู้กำลังคนของฟรานซิสไม่ไหว"ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงแกก็ต้องเล่นไม่ซื่อ"ภูผาสบถออกมาอย่างเจ็บใจ"ฉันมาที่นี่คนเดียวไม่รู้ว่าพวกเค้าตามมาได้ไง"ฟรานซิสตอบไปตามความจริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าคนมีของเขาตามเขามาได้อย่างไรเหมือนกัน"อย่ามาโกหก"ปั้งงง"อ้าสสส.."ภูผาไม่เชื่อคำของฟรานซิสเขาเล็งปืนไปที่ขาของชายหนุ่มและลั่นไกจนฟรานซิสล้มลงอีกครั้ง"นี่สำหรับน้องชายฉัน"ภูผายังไม่ปล่อยให้ฟรานซิสตายไปง่ายๆเขายังอยากทรมานชายหนุ่มตรงหน้าอีกสักพักแม้จะรู้ว่ามีคนของฟรานซิสตามมาช่วยก็ตาม"คุณฟราน..อือ..ฮือ..ไม่นะพี่ภูหยุดเดี๋ยวนี้นะ"ปลายฝนสะอื้นไม่ยอมหยุดรู้สึกสงสารฟรานซิสอย่างมากและพยายามดีดดิ้นให้รู้จักพันธนาการของภัทรินทร์เพื่อที่จะไปช่วยชายหนุ่มปั้กกกก"อะ..โอ้ยย"ภัทรินทร์หมั่นไส้ในท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของปลายผลที่มีต่อฟรานซิสเธอจึงใช้ปลายกระบอกปืนในมือฟาดไปที่หัวหญิงสาวหนึ่งครั้งอย่างแรงๆ