"นี่คุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ... คุณแม่คะไม่จริงนะคะเค้าโกหก"
"ยังไงคุณก็ต้องแต่งงานกับผม"
"หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย.. โอ้ยแม่ปวดหัว"
"คุณแม่คะ"
"คุณลอสคุณให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณรีบมาคุยให้เรียบร้อยเลย"
ณฤดีคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนจะอยากรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำที่เขาพูดมาทั้งหมดเธอจึงเชื่อและอยากจะให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายมาคุยกับเธอให้เร็วที่สุด
เพราะเรื่องนี้คนในบ้านเธอรู้เรื่องจากคำพูดของชายหนุ่มหมดแล้วแถมสื่อก็จับตามองอย่างมากอีกด้วยหากไม่ทำอะไรให้มันเสร็จสิ้นก็คงจะเป็นขี้ปากคนอื่นไปทั่วไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านเธอเอง
"ครับ"
ลอเลนโซแอบยกยิ้มเล็กน้อยที่ดูท่าแม่ของลัลลลิลจะเชื่อเขาเสียมากกว่า
"คุณแม่ฟังหนูบ้างรึเปล่าคะ"
ลัลลลิลมองหน้าแม่ของเธออย่างตัดพ้อ
"นี่เราเชคตัวเองบ้างรึเปล่าเดี๋ยวจะท้องก่อนแต่งล่ะแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
ตอนนี้สิ่งที่ณฤดีห่วงที่สุดก็กลัวว่าลูกเธอจะท้องก่อนแต่งคำพูดอะไรต่อมิอะไรเธอไม่ได้ยินรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว
"คุณแม่คะ!!"
ลัลลลิลแทบจะร้องให้และอยากจะฉีกเนื้อคนที่มันสร้างเรื่องให้เธอเป็นชิ้นๆ
"เอี้ยงพาฉันไปพักฉันปวดหัว"
ณฤดีมิอาจทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้เธอจึงให้นกเอี้ยงเด็กรับใช้พาเธอขึ้นไปพักที่ด้านบน
"พูดอะไรของคุณแทนที่จะอธิบายให้คุณแม่ได้เข้าใจความจริงดูสิเข้าใจผิดกันหมดแล้ว"
ลัลลลิลตะคอกใส่ชายหนุ่มทั้งยังเดินออกจากบ้านไปอย่างไม่สนใจเขาอีกด้วย
"....."
ลอเลนโซรู้ว่าเขาผิดแต่เขาจะให้ความลับนี้รั่วไม่ได้เด็ดขาดถ้าแม่เธอรู้จะต้องรีบให้เขาแก้ข่าวหากเขาแก้ข่าวก็ต้องถูกถามถึงเหตุผลต่างๆนาๆเขาจะยอมเสียหน้าไม่ได้
19.30 น.
คฤหาสน์ฮันส์
"พรุ่งนี้ต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าเฝือกอีกรอบคราวนี้น่าจะไม่ต้องใส่เฝือกแล้ว"
ลัลลลิลถึงแม้เธอจะไม่พอใจชายหนุ่มแต่หน้าที่หมอมันค้ำคออยู่ยังไงเธอก็ต้องจำใจดูแลเขาอยู่ดี
"ก็ดี"
ลอเลนโซพยักหน้าอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาจะได้ไม่ต้องทนขยับลำบากเพราะมีเฝือกติดตัวอยู่เสียที
"อืม..ก็ดีอีกไม่นานฉันจะได้หมดหน้าที่ดูแลคุณซะที"
ลัลลลิลก็รอให้ถึงวันที่เธอเป็นอิสระเหมือนกัน
"ในสายตาคุณผมเป็นคนที่ไม่เอาถ่านเลยใช่ไหม"
ลอเลนโซอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวไม่เคยมองเขามีดีอะไรเลยจริงหรือ
"ฉันว่าคงจะในสายตาทุกคนนั่นแหละ"
ลัลลลิลพูดไปตามที่สมองของเธอคิด
"คุณคอยดูผมหายดีเมื่อไรคำพวกนี้จะไม่ได้อยู่ในหัวคุณอีกเลย”
ลอเลนโซตั้งใจไว้แล้วว่าหากเขาหายดีเมื่อไรเขาก็จะเริ่มทำอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอันให้คนอื่นที่สบประมาทเขาได้เห็นว่าคนอย่างเขามีฝีมืออยู่เหมือนกัน
"ฉันจะรอดูวันนั้นนะคะแต่ตอนนี้กรุณาดูแลตัวเองตามที่ฉันสั่งให้ได้ก่อนค่ะ"
"รู้แล้วล่ะน่า"
"ถามจริงเถอะคุณมีเหตุผลอะไรที่อยากจะแต่งงานกับฉันนักหนา"
ลัลลลิลถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"ฉันหลวมตัวพูดไปแล้วไม่อยากคืนคำไม่อยากเสียหน้า"
ลอเลนโซยกไหล่ทำสีหน้ากะล่อนเล็กน้อย
"แค่นี้เหรอ... แค่เพราะคุณเผลอปากพล่อยพูดไปแล้วไม่อยากเสียหน้าเนี่ยนะรู้ไหมมันทำให้ฉันต้องเป็นคนไม่ดีในสายตาแม่ของฉันน่ะ"
ลัลลลิลเริ่มที่จะคิ้วขมวดและเสียงแข็งมากขึ้น
"รู้... งั้นเอางี้ได้ไหม...ตอนนี้คุณก็เล่นตามน้ำไปก่อนเดี๋ยวให้เรื่องมันผ่านไปสักพักผมจะบอกกับคนอื่นว่าเรามีปัญกากันเข้ากันไม่ได้อะไรแบบนี้แล้ววันนั้นผมจะอธิบายกับแม่คุณทั้งหมดเอง"
ลอเลนโซยกข้อเสนอให้หญิงสาว
"เฮ้อ.. ให้ได้อย่างนี่สิชีวิตฉัน....พ้นคุณไปได้ฉันจะบวชสักเดือน"
มาถึงขนาดนี้แล้วคนอย่างเธอหรือจะปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้เพราะหากจะบังคับให้เขาพูดความจริงในตอนนี้คงยาก
20.00 น.
ห้องลัลลลิล
"ได้ข่าวว่าวันนี้คุณลอสบุกไปที่บ้านแกเลยเหรอ"
ปลายฝนได้ข่าวว่าวันนี้ลอเลนโซตามเพื่อนเธอไปที่บ้านจึงรีบเข้ามาคุยกับเพื่อนเธอเมื่อลัลลลิลว่างแล้ว
"ก็ใช่น่ะสิทำแม่ฉันปวดหัวทำฉันจะบ้าด้วย"
ลัลลลิลพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
"แล้วแกตกลงเรื่องนี้กับคุณลอสหรือยัง"
"อืม.. ช่วงนี้ก็ปล่อยให้ทุกคนคิดว่าฉันจะแต่งกับนายนั่นไปก่อนให้ผ่านไปสักพักนายนั่นบอกจะให้ข่าวว่าไปกันไม่ได้แล้ววันนั้นถึงจะยอมสารภาพความจริงกับแม่ฉันทุกอย่างเอง"
"แล้วแกโอเคไหม"
ปลายฝนแตะบ่าเพื่อนเธอเบาๆ
"ก็ต้องตามน้ำไม่งั้นคิดเหรอว่านายนั่นจะยอมฉันน่ะ"
"อืม.."
ปลายฝนพยักหน้าเข้าใจ
"เออ..แกมีปวดหัวอะไรบ้างรึเปล่าเห็นพี่หมอเรียลบอกว่าแกไม่ยอมให้หมอนพเอ็กซเรย์ซ้ำ"
ลัลลลิลไม่ลืมที่จะถามเรื่องอาการของเพื่อนเธอเพราะยังรู้สึกเป็นห่วงว่ามันจะมีผลกระทบอะไรตามมา
"เอาน่าฉันว่าฉันไม่เป็นอะไรนะ"
ปลายฝนยืนยันกับเพื่อนเธออีกรอบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ
"เอาที่แกสบายใจถ้าเป็นอะไรแปลกๆรีบไปตรวจเลยรู้ไหม"
ลัลลลิลจับไหล่เพื่อนเธอด้วยความเป็นห่วง
"โอเคๆ"
"นี่ต้นหนาวอยู่กับคุณย่าอีกล่ะสิ"
ลัลลลิลเห็นว่าเวลานี้ที่จริงเพื่อนเธอจะต้องอยู่กับลูกแต่หากมานั่งคุยกับเธอได้แสดงว่าต้นหนาวจะต้องอยู่กับคุณย่าแน่นอน
"อืม..ช่วงนี้สองคนนั้นเค้าติดกันเป็นแตงเมเลยคุณฟรานน่าจะไปรับกลับห้องแล้วมั้งฉันไปก่อนนะ"
ปลายฝนพยักหน้าทั้งขอตัวเพื่อนเธอกลับเพราะเห็นว่าหรานซิสน่าจะไปรับต้นหนาวกลับมาที่ห้องแล้ว
"สองคนแกนี่ก็หวานกันขึ้นทุกวันนะ"
ลัลลลิลอดหยอกเย้าเพื่อนเธอเรื่องความสนิทสนมจนดูเป็นคนรักมากขึ้นของเพื่อนเธอกับฟรานซิสไม่ได้
"อืมก็ดีขึ้นเรื่อยๆแหละ"
ปลายฝนตอบอย่างเคอะเขิน
"หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วใช่ม้าาา"
ลัลลลิลแกล้งกระแซะถามปลายฝนด้วยท่าทีอยากรู้
"อืม.."
ปลายฝนพยักหน้าทั้งอมยิ้มหน้าแดงระเรื่อ
"แบบไหนเหรอ"
"ก็เป็นเรื่องที่ดี"
"ฉันว่าแล้ว"
"ไปก่อนนะ"
"โอเค"
คำตอบของปลายฝนก็พอจะทำให้ลัลลลิลเข้าใจได้ว่าเรื่องที่ดีที่เพื่อนเธอพูดนั้นมันคือแบบไหนเธอดีใจกับเพื่อนเธอด้วยที่วันนี้ได้รู้คำตอบจากหัวใจตัวเองเสียทีส่วนฟรานซิสนั้นไม่ต้องพูดถึงเธอมองออกมาพักหนึ่งแล้วว่าเขาคิดยังไงกับเพื่อนเธอ
ครู่ต่อมาแกร๊กก"ต้นหนาวล่ะคะ"ปลายฝนเข้าห้องมาเห็นว่าฟรานซิสนอนอยู่ที่เตียงคนเดียวคิดว่าเขาจะไปรับต้นหนาวมาแล้วเสียอีก"คืนนี้ฉันฝากไว้กับคุณย่า"ฟรานซิสตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"รบกวนคุณย่ารึเปล่าคะฉันไปพาต้นหนาวกลับมาดีกว่า""ไม่ต้องหรอก"ปลายฝนไม่อยากรบกวนอะไรคุณย่ามากนักเพราะกลัวว่าต้นหนาวจะงอแงตอนกลางคืนแล้วทำให้คุณย่าไม่ได้นอน"อื้อ...จ..จะทำอะไรคะ"ฟรานซิสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะเดินออกจากห้องไปเขาจึงรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนและใช้สองมือหนาขึงข้อมือหญิงสาวไว้กับผนังห้องจนเธอมีสีหน้าตกใจ"พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรส"ฟรานซิสโน้มตัวลงมากระซิบจ้างหูหญิงสาวเบาๆ"คุณฟราน..พูดจริงเหรอคะ"ปลายฝนถึงกับยิ้มกว้างตาเป็นประกายดีใจที่เขาอยากจะจดทะเบียนกับเธอ"จริงสิ..ต้นหนาวจะได้เป็นลูกฉันถูกต้องตามกฏหมายซะที""ค่ะ"ปลายฝนพยักหน้าตอบเขาด้วยรอยยิ้ม"แล้วเธอก็ด้วยเธอจะได้เป็นเมียฉันถูกต้องตามนิตินัย...และ...คืนนี้..ก็...จะถูกต้องตามพฤตินัยด้วย"คำพูดนุ่มนวลแหบพร่าข้างๆหูของหญิงสาวตอนนี้ทำให้เธอตัวชาวาบทำอะไรไม่ถูกแต่รู้ว่าตอนนี้หน้าของเธอคงแดงก่ำเป็นลูกตำลึงแน่นอน"เอ่อ..อื้มมม.."ฟรานซ
"อยากได้กี่คนล่ะครับเดี๋ยวผมทำให้"ฟรานซิสตอบคุณย่าของเขาทั้งวางหญิงสาวลงเพื่อยืนคุยกับคุณย่าของพวกเขาดีๆ"คุณ.."ปลายฝนยกมือเรียวตีไปที่ลำแขนแกร่งชายหนุ่มแก้เขินเบาๆ"อย่าทำเป็นคุยโวไปหน่อยเลยเราน่ะ... แล้วนี่จะไปไหนกันแต่เช้า""อ๋อ.. ออกไปธุระข้างนอกสักพักน่ะครับต้นหนาวล่ะครับ""ไปเล่นกับพวกบอดี้การ์ดอยู่ในสวนที่บ้านเล็กโน่นแหละเดี๋ยวย่าดูให้เองเราสองคนจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ""ครับคุณย่า"เมื่อคุยกับคุณย่าจบชายหนุ่มก็อุ้มหญิงสาวออกไปเหมือนเดิม"นี่คุณฉันเดินเองได้""ก็จะอุ้มไง""...."เฮเลนอมยิ้มตามหลังหลานๆของเธอเมื่อเห็นแบบนี้แล้วคิดว่าไม่นานเธอคงจะได้อุ้มเหลนเร็วๆนี้แน่สำนักงานเขต"ยินดีกับพวกคุณทั้งสองด้วยนะครับ""ค่ะ.. /ครับ"ตอนนี้ฟรานซิสและปลายฝนก็ได้ทะเบียนสมรสมาเรียบร้อยจึงรีบขึ้นรถกลับกันทันทีด้วยท่าทีมีความสุขเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา"เรียบร้อยซะทีนะ"ฟรานซิสนั่งกอดหญิงสาวอยู่บนรถตู้คันหรูตั้งแต่ออกจากบ้านมาเขายังไม่ปล่อยให้เธอห่างตัวเลย"ทำไมต้องให้ฉันนั่งบนตักคุณด้วยคะ"ปลายฝนซบหัวอยู่ที่อกแกร่งเล่นอย่างสบายอารมณ์"ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ...ฉันมีอะไรจะใ
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันเอาตัวรอดเก่ง"ปลายฝนหันหน้าไปบอกกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม"ให้มันเก่งอย่างที่พูดก็แล้วกันรู้ไหมคนร้ายที่มันทำร้ายฉันที่โรงแรมวันนั้นมันขู่ว่าจะเล่นงานเธอกับลูกทำให้ฉันใจไม่ดีซะเลยหากสู้กันซึ่งๆหน้าฉันจะไม่กลัวเลยสักนิด"เรื่องนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องบอกให้เธอรู้เพราะเธอเองก็จะได้ระวังตัว"แบบนี้สินะคะฉันถึงเห็นคุณเครียดอยู่บ่อยๆ"สิ่งที่คาใจของปลายฝนมานานวันนี้ก็ได้กระจ่างเสียทีเพราะเธอเห็นเขาชอบนั่งเครียดอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้อยากถามอะไรออกไป"สังเกตด้วยเหรอ"ฟรานซิสเอียงคอถามคนที่นอนอยู่บนแขน"ค่ะ.. ถ้าคุณเป็นห่วงขนาดนี้ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คุณสบายใจนะคะ"หากชายหนุ่มเป็นห่วงเธอ..เธอเองก็ไม่อยากทำให้เขากังวลต่อไปนี้เธอจะเชื่อฟังเขาทุกอย่างและจะไม่ทำให้เขาไม่สบายใจอีก"ดีแล้ว...อ้ะ"ฟรานซิสพูดพร้อมพลิกตัวมาอยู่บนตัวของหญิงสาวจนเธอร้องตกใจเบิกตาโพรง"คืนนี้มีความสุขกันอีกนะ"ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวเบาๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"แต่ว่าฉันยัง..."ปลายฝนหน้าเจื่อนเล็กน้อยเธอไม่ได้อยากปฏิเสธแต่เธอยังรู้สึกว่าส่วนนั้นของเธอยังไม่หายระบมดีสีกเท่าไร"ฉันจะไม่รุนแรงสัญ
คลีนิคหมอเรียล"เป็นยังไงบ้างคะพี่หมอ""ดูเอา.. " หลังจากที่รัชตะเอกซเรย์ให้ปลายฝนเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักและกางผลเอกซเรย์ให้ทั้งสองสาวได้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหัวของปลายฝน"เฮ้ย.. ทำไมเป็นงี้"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นผลตรวจ"ตอนนั้นที่หมอนพเอ็กซเรย์มันไม่มีไอ้ก้อนนี้นี่คะ"ปลายฝนมีสีหน้ากังวล"พี่บอกแล้วให้เชคอีกรอบศรีษะเราเป็นอะไรต้องดูให้ละเอียดเป็นหมอก็น่าจะรู้""ปลายสัพเพร่าเองแหละค่ะ"ปลายฝนพูดด้วยสีหน้าที่กังวลใจอยู่มากพอสมควรเพราะคิดว่าหากฟรานซิสรู้เรื่องนี้คงต้องเป็นห่วงเธอมากๆอย่างแน่นอน"งั้นวันนี้พี่จะให้ยาบรรเทาไปก่อนกลับไปเตรียมตัวพรุ่งนี้มานอนพักที่โรงพยาบาลมะรืนพี่จะผ่าตัดให้ไม่งั้นมันจะรามใหญ่โต""ค่ะ.."ครู่ต่อมา"แกอย่าบอกเรื่องนี้กับคุณฟรานได้ไหม"ในขณะที่นั่งรถกลับปลายฝนขอร้องให้เพื่อนเธอปิดเรื่องนี้กับฟรานซิสให้ดี"ทำไม"ลัลลลิลถามเพื่อนเธอกลับอย่างแปลกใจ"ฉันไม่อยากให้คุณฟรานรู้กลัวเค้าเป็นห่วงแล้วจะเครียดกว่าเดิม""แล้วตอนที่แกจะต้องผ่าตัดแล้วนอนโรงพยาบาลล่ะ"ลัลลลิลขมวดคิ้วเป็นปม"บอกกับเค้าว่าฉันจะขอไปพักผ่อนกับแกที่ต่
"หยุดพูดซะที"ชายหนุ่มแผดเสียงใส่หญิงสาวจบก็เดินน้ำตาคลอไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเพราะเขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้เธอเห็น"ฮื่อ.ๆๆๆๆอือ..ฮือออ...คุณฟราน...ฉันรักคุณจริงๆนะคะ"ปลายฝนนั่งสะอื้นฟุบลงไปกับพื้นเธอรู้ว่าตอนแรกเธอตั้งใจแบบนั้นแต่ตอนนี้เธอรักเขาไปจริงๆแล้วเธออยากให้เขาเข้าใจเธอบ้างแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รับฟังคำอธิบายขิงเธอเลยสักนิดห้องทำงานเพล้งงง.. ปึก..ปักก"โถ่โว้ยยยย.."ฟรานซิสยังคงระบายความเจ็บใจในห้องทำงานของเขาพักใหญ่และล้มตัวนอนในห้องนี้อย่างคนหมดอาลัยตายอยากเจ็บหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก01.30 น."ลิน"ปลายฝนเดินปาดน้ำตาสะอึกสะอื้นมาหาเพื่อนเธอที่ห้องในตอนกลางดึก"ปลายเป็นอะไร.."ลัลลลิลตกใจอย่างมากที่เพื่อนของเธอสะอื้นตัวโยนเข้ามาทั้งรีบเข้าไปกอดปลอบและถามหาสาเหตุด้วยสีหน้ากังวล"ฮือๆๆๆๆ.."ปลายฝนยังคงสะอื้นไม่หยุด"ใจเย็นๆๆ"ลัลลลิลได้แต่กอดปลอบลูบหลังเพื่อนเธอให้สงบลงก่อน"คุณฟรานรู้เรื่อง....."ปลายฝนเล่าทุกอย่างให้ลัลลลิลได้ฟังว่าฟรานซิสทะเลาะกับเธอเรื่องอะไรเธอสะอื้นร้องให้จนหลับไปที่ห้องของลัลลลิล".อย่าให้รู้นะว่าเป็นฝีมือใคร.."ลัลลลิลตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะต้อ
"มันพังไปหมดแล้ว...หุ้นส่วนพี่โดนมันซื้อตัวให้อยู่ข้างมันไปหมดแล้วทั้งคนที่หนุนหลังพี่อยู่ก็โดนไอ้ฟรานซิสมันติดต่อข่มขู่เอาไว้ทั้งหมดจนตอนนี้พี่เหลือหัวเดียวตัวเดียวแล้วพี่ไม่เหลืออะไรทั้งนั้นนนน..."ภูผาพูดเสียงแข็งด้วยท่าทีคับแค้นใจตอนนี้ภูผาเหมือนคนที่เหลือแต่ตัวไม่รู้ว่าฟรานซิสทำอีท่าไหนจึงสามารถทำให้หุ้นส่วนที่ไว้ใจในการทำธุรกิจกับเขามานานหมดความเชื่อถือในตัวเขาและตัดหางปล่อยวัดไม่ช่วยเหลืออะไรเขาอีกต่อไปแถมคนใหญ่คนโตที่เขารู้จักก็ไม่มีใครยื่นมือที่จะมาช่วยเขาอีกด้วยเพราะเกรงกลัวในคำขู่ของฟรานซิสที่ขู่ว่าจะแฉสิ่งที่ร่วมกันทุจริตหลายครั้งหลายคราจนคนพวกนั้นกลัวจนหัวหด"เอ่อ..อื้อ...ปวดหัว"จู่ๆปลายฝนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมากะทันหัน"คุณฟรานกำลังเข้ามาแล้วค่ะ"ภัทรินทร์เดินเข้ามาบอกกับภูผาให้รู้ตัว"เธอ.."ปลายฝนมองไปยังภัทรินทร์อย่างไม่พอใจครั้งที่แล้วที่เธอโดนตำรวจจับไปยังไม่เข็ดยังจะร่วมมือกับภูผาทำแบบนี้อีก"ใช่ฉันเอง...เห็นเธอในสภาพนี้แล้วฉันก็สะใจจริงๆนะเธอยังคุยกันดีกับสามีเธออยู่ไหมล่ะ"ภัทรินทร์เดินเข้ามาหาหญิงสาวด้วยสีหน้าระรื่นพอใจอย่างมากที่เห็นว่าหญิงสาวอยู่ในสภาพที่เป็นรอง
"ถ้าแกสู้ฉัน...เมียแกได้ตายแน่"ภูผาจ่อปืนไปที่หน้าของฟรานซิสทั้งยังขู่ด้วยท่าทีขึงขังจนฟรานซิสต้องชะงักมองไปที่ปลายฝนอย่างเป็นห่วง"ข้างนอกคนของเราโดนทำร้ายหมดเลยครับ"ชายชุดดำวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกับภูผาเพราะคนข้างนอกสู้กำลังคนของฟรานซิสไม่ไหว"ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงแกก็ต้องเล่นไม่ซื่อ"ภูผาสบถออกมาอย่างเจ็บใจ"ฉันมาที่นี่คนเดียวไม่รู้ว่าพวกเค้าตามมาได้ไง"ฟรานซิสตอบไปตามความจริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าคนมีของเขาตามเขามาได้อย่างไรเหมือนกัน"อย่ามาโกหก"ปั้งงง"อ้าสสส.."ภูผาไม่เชื่อคำของฟรานซิสเขาเล็งปืนไปที่ขาของชายหนุ่มและลั่นไกจนฟรานซิสล้มลงอีกครั้ง"นี่สำหรับน้องชายฉัน"ภูผายังไม่ปล่อยให้ฟรานซิสตายไปง่ายๆเขายังอยากทรมานชายหนุ่มตรงหน้าอีกสักพักแม้จะรู้ว่ามีคนของฟรานซิสตามมาช่วยก็ตาม"คุณฟราน..อือ..ฮือ..ไม่นะพี่ภูหยุดเดี๋ยวนี้นะ"ปลายฝนสะอื้นไม่ยอมหยุดรู้สึกสงสารฟรานซิสอย่างมากและพยายามดีดดิ้นให้รู้จักพันธนาการของภัทรินทร์เพื่อที่จะไปช่วยชายหนุ่มปั้กกกก"อะ..โอ้ยย"ภัทรินทร์หมั่นไส้ในท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของปลายผลที่มีต่อฟรานซิสเธอจึงใช้ปลายกระบอกปืนในมือฟาดไปที่หัวหญิงสาวหนึ่งครั้งอย่างแรงๆ
"นายครับ""มีอะไร"ฟรานซิสกำลังนั่งกุมมือปลายฝนอยู่ด้วยสีหน้าหดหู่เมื่อเห็นลูกน้องเดินเข้ามาหน้าตาตื่นจึงต้องรีบถามว่ามีเรื่องอะไร"ตอนนี้มีข่าวว่าพิรัชฆ่าตัวตายเพราะไม่เหลืออะไรครับ"ข่าวล่าสุดที่อีธานพึ่งจะได้รู้มาก็คือว่าพิรัชตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพราะสาเหตุที่ตนเองไม่เหลืออะไรแถมพี่ชายก็ดันต้องมาติดคุก"อืม...ถ้าไม่คิดจะงัดข้อกับฉันตั้งแต่แรกคงไม่เป็นแบบนี้"ฟรานซิสพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย"แล้วเรื่องคดีของภูผากับภัทรินทร์ล่ะครับ""ให้ตำรวจจัดการฉันว่าคงไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยพวกมันแล้วล่ะ"ฟรานซิสไม่อยากจะยุ่งอะไรกับคนพวกนี้ทั้งนั้นให้กฎหมายเป็นคนจัดการจะดีกว่าเพราะในหัวของเขาตอนนี้ยังกังวลเรื่องของปลายฝนอยู่อย่างมาก"ครับ"ครู่ต่อมา"แดดดี๊""ครับ"ต้นหนาวเดินเข้าห้องมาพร้อมกับเฮเลนเพื่อมาเยี่ยมคนเป็นแม่"มี๊เป็นราย"เด็กชายมองไปยังคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียงพรางหันมาถามพ่อเจ้าตัวว่าแม่เป็นอะไร"มามี๊ไม่สบายต้องนอนพักผ่อนเยอะๆครับ""นอนนานไหม""อืม...คงไม่นานมั้งครับ"ฟรานซิสตอบพร้อมลูบหัวต้นหนาวเบาๆรู้ว่าลูกชายคงอยากจะให้แม่ตื่นมาเล่นด้วยเป็นแน่"ท่าจะอยากเล่นกับแม่แล้วล่ะมั้ง"เฮ