“พราวฟังฉันก่อน...แกเงียบก่อนฉันขอร้องล่ะ”
“ก็ได้”
เป็นพอใจที่ต้องทำให้พราวฟ้านั้นเงียบก่อนจะเค้นเอาความจริงจากคาวีว่าเมื่อกลางวันเป็นแผนของเขาใช่หรือไม่พราวฟ้าเองแม้นจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่พอใจสาวความจากคาวีเท่าไรนักแต่เธอก็รับปากเพื่อนเอาไว้แล้วจึงต้องนั่งเงียบๆ
“ผมยอมรับแล้วคุณจะเอาอะไรอีก”
“จิตสำนึกของคุณมันมีบ้างหรือเปล่าเพื่อนฉันจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างคุณไม่สนใจเลยหรือไง”
“พี่ผมขอร้องจะให้ผมทำยังไง”
“บอกมานะว่าเพื่อนฉันอยู่ที่ไหน”
“ผมบอกว่าผมไม่รู้แต่ผมรู้อย่างเดียวคือตอนนี้คุณก็มีความผิดเหมือนกันแล้วพี่ผมก็หมายหัวคุณเอาไว้แล้วด้วยโทษฐานที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนคุณ”
“โอ้ยย..ฉันจะบ้าตาย”
พอใจยกมือกุมขมับหนึบไหนจะห่วงเพื่อนตอนนี้ยังต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเองอีก
“ใช่ฉันก็จะบ้าตาย..พูดเรื่องอะไรกันให้ฉันเข้าใจหน่อยได้หรือเปล่า”
พราวฟ้าที่จะบ้าตายอีกคนเพราะทนกับความอยากรู้ไม่ไหวว่าเรื่องที่สองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่มันคือเรื่องอะไร
“เฮ้อ..สายมันวินิจฉัยโรคของคุณกัญญาผิดทำให้เธอเครียดฆ่าตัวตายฉันให้สายหนีเพราะกลัวคุณสิงห์ฆ่าแต่เพราะอีตานี่ทำให้คุณสิงห์รู้ว่าสายกับคะนิ้งอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้สายกับคะนิ้งเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
“แล้วเรื่องที่แกท้องล่ะ”
“ไม่จริงฉันแค่จะไล่ยัยคัพเค้กนั่นออกไปเฉยๆ”
“หึ่..ผมถูกด่าฟรี”
คาวีเปรยสายตามองหน้าพราวฟ้าด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“ไม่ฟรีค่ะสมควรที่ถูกฉันด่า...ทำให้เพื่อนฉันตกอยู่ในอันตรายเพื่อนฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆแต่คุณยังไม่เห็นใจเธอ”
แต่ดูท่าพราวฟ้าก็จะไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเพราะคาวีก็สมควรถูกเธอด่าถูกแล้วแม้นจะไม่ได้ทำพอใจท้องจริงๆแต่ก็ทำให้สายธารและคะนิ้งตกอยู่ในอันตรายโดยการทำให้ราชสีห์รู้ว่าสองคนนั้นอยู่ที่ไหน
“..เอ..แต่สายมันไม่เคยทำงานพลาดนี่นา”
พราวว่าต่อว่าคาวีจบเธอก็กลับมาคิดว่าสายธารรักในการเป็นหมอมากและตลอดการทำงานที่ผ่านมาสายธารก็ทำงานดีมาตลอดทำไมตอนนี้ถึงมาพลาดเอาได้แถมยังมาพลาดกับคนรักของราชสีห์อีกต่างหาก
“นั่นสิ..ที่โรงพยาบาลตรงจุดเกิดเหตุกล้องก็ดันมาเสียอีก”
พอใจก็คาใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแถมยังเป็นวันที่ไฟล์กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลใช้การไม่ได้อีกด้วย
“เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันที่ทำให้เพื่อนคุณต้องตกอยู่ในอันตราย...ส่วนคุณผมจะรับผิดชอบโดยการปกป้องคุณจากพี่ผมเอง”
“จะช่วยเพื่อนฉันยังไง”
พราวฟ้ากอดอกจ้องหน้าคาวีเขม็ง
“ช่วงนี้คุณก็ย้ายมาอยู่กับผมก่อน”
คาวีหันมาพูดกับพอใจด้วยสีหน้าและท่าทีที่จริงจังข้อเสนอนี้เขาไม่เคยเสนอให้ใครเพราะไม่ชอบให้ใครมากวนใจในพื้นที่ส่วนตัวแต่สิทธิพิเศษนี้เขาขอให้กับเธอเพียงคนเดียว
“จะบ้าเหรอ”
พอใจไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้เอาเสียเลยแต่เป็นพราวฟ้าที่เห็นว่าวิธีนี้ดีที่สุดแล้วเพราะหากพอใจอยู่ในการปกป้องของคาวีราชสีห์น่าจะคาดไม่ถึง
“บ้าอะไร...ที่เพนท์เฮ้าส์ผมก็มีห้องตั้งสองสามห้องคิดว่าผมจะทำไม่ดีกับคุณหรือไงแค่อยากช่วยเท่านั้น”
“คิดไปคิดมาวิธีนี้ก็น่าจะปลอดภัยที่สุดนะพอใจ”
“เฮ้อ..”
พอใจที่ถูกจับจ้องเขม็งด้วยสายตาของทั้งคาวีและพราวฟ้าตอนนี้เธอยังคิดวิธีไม่ออกว่าจะรอดพ้นความผิดที่ราชสีห์จะคาดโทษเห็นทีเธอต้องไปอยู่กับคาวีจริงๆเสียแล้ว
“....”
คาวีเริ่มอมยิ้มมุมปากสายตาของเขาแสดงออกถึงความมีเลศนัยเรื่องที่พี่ชายของเขาจะเอาผิดพอใจนั้นไม่ใช่เรื่องจริงราชสีห์ต้องการจะคาดโทษแค่สายธารเท่านั้นแต่ที่เขาเอาพี่ชายมาขู่เธอเพราะต้องการอยากใกล้ชิดกับตัวหญิงสาวมากกว่าเขารู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนกับคนที่เขาเคยผ่านมาเลยสักคนยิ่งทำให้น่าตื่นเต้นและอยากรู้จักตัวตนของเธอให้มากขึ้น
“ฮือๆๆ..”
สายธารนอนร้องให้สะอื้นจนน้ำตาแทบไม่มีให้ไหลดวงตากลมโตปูดบวมนัยน์ตาแดงก่ำมีน้ำตาคลอร่างบางถูกปลดปล่อยสิ่งที่ผูกมัดอยู่ที่แขนแต่แปรเปลี่ยนเป็นการล่ามโซ่ที่ข้อเท้าของเธอแทนเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในตอนนี้ก็เป็นเสื้อเชิ้ตของราชสีห์เพราะเสื้อผ้าของเธอถูกเขาฉีกขาดไปหมดแล้ว
แม้นโซ่จะยาวพอที่จะทำให้เธอเดินเหินรอบห้องหรือเข้าห้องน้ำได้แต่เธอก็ไม่ติดจะเยื้องย่างไปที่ไหนได้แต่นอนเหม่อลอยร้องให้ฟุบอยู่กับเตียงนุ่มหดหู่ใจถึงเรื่องลูกน้อยของตน
ณ บ้านสองชั้นหลังใหญ่ติดริมทะเลหัวหินมีสวนหย่อมกว้างขวางพร้อมต้นมะพร้าวสองสามต้นบ้านหลังนี้เป็นแบบเพิงมาแหงนกระจกล้อมรอบตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆในเนื้อที่ประมาณสามไร่เป็นพื้นที่ของอิงอรหญิงชราวัย75คุณย่าของราชสีห์และคาวีเธออาศัยอยู่ที่นี่มาได้พักใหญ่แล้วเพราะต้องการพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงในวัยชรา
และแล้วความเป็นอยู่อันสงบสุขของเธอก็ได้เปลี่ยนไปหลังจากเมื่อคืนอาทิตย์อุ้มเด็กหญิงตัวกลมมาที่บ้านแล้วบอกกับเธอว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของราชสีห์จะขอฝากให้เธอดูแลก่อนวันนี้ตั้งแต่เช้าบ้านจึงไม่ได้เงียบเสียงเพราะเด็กหญิงคะนิ้งแก้มย้วยคนนี้ร้องงอแงหาแม่ไม่ยอมหยุด
ดีที่อิงอรนั้นมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กเล็กๆมาจึงควบคุมสถาณการณ์ได้อยู่แม้นจะแอบแปลกใจว่าราชสีห์ไปมีลูกตอนไหนทั้งที่ตลอดมาเข้าใจมาตลอดว่าหลานนั้นไม่อยากมีครอบครัวและไม่ได้คบใครจริงจังแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรอาทิตย์มากนักตอนนี้อยู่ในอาการปลื้มใจมากกว่าที่รู้ว่ามีเหลนหน้าตาน่ารักน่าชังเช่นนี้มาอยู่ด้วย
“อ้ำ...เก่งมากเลยหลานทวด”
ช่วงสายๆหลังจากอิงอรทำความคุ้นเคยจนคะนิ้งนั้นเริ่มไว้ใจตอนนี้อิงอรจึงทำหน้าที่เป็นแม่นมป้อนข้าวป้อนน้ำให้เจ้าก้อนกลม
“อา..หร่อย..ค่ะ”
อิงอรยิ้มแก้มปริที่ดูท่าคะนิ้งจะชอบรสมือของเธอไม่น้อยเคี้ยวอาหารที่ป้อนตุ้ยๆไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มแม้แต่นิดเดียว
ตั้งแต่เช้าจนบ่ายอิงอรง่วนอยู่แต่กับคะนิ้งจนตอนนี้เธอกล่อมเด็กหญิงจนหลับไปแล้วเห็นว่าอาทิตย์กำลังหอบข้าวของที่เป็นของคะนิ้งมาไว้ที่บ้านจึงได้โอกาสถามว่าราชสีห์จะมาที่นี่เพื่อหาลูกและให้ความกระจ่างเรื่องที่มีคะนิ้งตอนไหน“ตกลงตาสิงห์จะมาหาฉันเมื่อไรล่ะอาท”“ผมยังไม่ได้รับคำตอบเลยครับคุณท่าน”อาทิตย์วางข้าวของลงก่อนจะส่ายหัวเบาๆเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้านายตนจะมาที่นี่เมื่อไรได้แต่เพียงบอกทุกอย่างตามที่เจ้านายตนสั่งเท่านั้น“แล้วนี่เรื่องจริงใช่หรือเปล่า..ไม่ได้หลอกให้ฉันดีใจเล่นล่ะ”หญิงชราเปรยสายตาไปมองคะนิ้งที่นอนหลับอยู่บนโซฟาใหญ่เธอไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้นด้วยเธออยากจะมีเหลนจริงๆมานานแล้ว“เอาไว้คุณท่านขอคำตอบจากคุณสิงห์เองดีกว่าครับ”อาทิตย์หลุบสายตาลงต่ำเล็กน้อยทั้งอมยิ้มอ่อนเขาไม่อยากพูดอะไรมากเพราะรู้ว่าอิงอรนั้นไม่รู้เรื่องที่ราชสีห์ได้คบกับกัญญาแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นเขาอยากจะให้เจ้านายของเขาเป็นคนพูดกับอิงอรเองจะดีกว่า20.00 น.ราชสีห์กลับมาที่บ้านหลังเล็กด้วยความมึนเมาเขายังคงต้องพึ่งเครื่องดื่มพวกนี้เพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ทรมานเมื่อนึกถึงเรื่องของกัญญาแต่ดูท่
หลังจากในครั้งที่พอใจไปหาคาวีที่ผับวันรุ่งขึ้นเธอก็ต้องเก็บกระเป๋าย้ายมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของคาวีด้วยความไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนักแต่ก็ต้องมาอยู่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแถมยังต้องยื่นใบลาออกจากโรงพยาบาลอย่างไม่เต็มใจด้วยในเช้าวันใหม่ตอนนี้พอใจเอาแต่ยกหูโทรต่อสายหาเบอมือถือที่โทรเข้ามาหาเธอเมื่อคืนแต่พยายามโทรเท่าไรก็โทรไม่ติด“เบอใครกันนะ”หญิงสาวในชุดนอนแขนยาวขายาวสีฟ้าเดินไปเดินมาอยู่ที่โถงนั่งเล่นใบหน้าสวยมีสีหน้าแห่งความสงสัยจนคิ้วผูกโบว์ทำให้คาวีที่พึ่งออกมาจากห้องนอนของตัวเองถึงกับต้องยืนจ้องใบหน้าของหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเธอออกไป“เป็นอะไรของคุณจ้องมือถือขมวดคิ้วอยู่ได้”“ก็เบอนี้โทรมาหาฉันเมื่อคืนตั้งหลายสายแต่พอโทรกลับก็ไม่ติด”พอใจยื่นมือถือของเธอชูไปที่หน้าของคาวี“ไหน”คาวีหยิบมือถือของพอใจมาดูตัวเลขไม่กี่ตัวก็จำได้ว่าเบอนี้เป็นเบอส่วนตัวของพี่ชายที่ใช้มาหลายปีแล้ว“นี่มันเบอส่วนตัวของพี่สิงห์”“อะไรนะ...แล้วคุณสิงห์จะโทรหาฉันทำไม”พอใจถึงกับยกมือกุมหัวจากสีหน้าที่สงสัยแปรเปลี่ยนเป็นตกใจจนเห็นได้ชัดไม่ใช่ว่าตอนนี้ราชสีห์กำลังตามหาตัวเธอเพื่อคาดโทษอยู่ล่ะ“อาจจะตามหาค
“คะนิ้ง..ฉันรู้ว่าคะนิ้งยังไม่ตายคุณช่วยพาคะนิ้งมาหาฉันนะคะ”ร่างบางโงนเงนแทบนั่งไม่อยู่เพราะปวดไปทั้งตัวตอนนี้เธอไม่คิดจะขอความเห็นใจอะไรจากเขาเลยนอกจากเรื่องของลูกเธออยากเจอคะนิ้งเพราะเธอรู้ว่าลูกเธอยังไม่ตาย“ทำความผิดยังกล้ามาขอร้องอะไรฉันอีกดีนะที่เมื่อคืนอาทิตย์มาหาฉันไม่อย่างนั้นคงนอนจมกองเลือดเรียกหมอมารักษาไม่ได้”ราชสีห์กัดฟันกรอดพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ด้วยความโมโหทั้งสะบัดแขนสายธารจนเธอล้มไปนอนฟุบกองกับเตียงอีกครั้ง“ขอให้ฉันเจอลูกเถอะนะคะไม่รู้ว่าตอนนี้คะนิ้งจะร้องหาฉันหรือเปล่า”หญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงแม้นจะยันตัวเองลุกนั่งเธอยกมือทั้งสองไหว้อ้อนวอนชายหนุ่มที่จ้องมองเธออย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียงสั่นเป็นห่วงก็แต่ลูกน้อยไม่รู้ว่าตอนนี้จะอยู่อย่างไงจะกินอะไรและคนที่ดูแลอยู่จะรู้ใจแค่ไหนจะใจดีกับลูกเธอหรือเปล่า“ลูกเธอไม่ร้องหาเธอแล้ว...ถ้าฉันทำให้คะนิ้งลืมเธอได้คงดีฉันจะได้เป็นเจ้าของเด็กคนนี้เพียงคนเดียว”ราชสีห์พยายามพูดให้สายธารนั้นใจเสียยิ่งเห็นเธอรักคะนิ้งมากเท่าไรคะนิ้งก็จะเป็นจุดอ่อนของสายธารมากขึ้นเท่านั้นเธอกล้าทำเขาเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจเขาก็จะทำให้เธอเจ็บกว่าเขาร้อย
ซ่า...ครื้นนน“ฉันกลัว..อย่าทำกับฉันแบบนี้”ร่างบางเริ่มตัวสั่นยิ่งมาตากฝนขณะที่ฝนกระหน่ำตกพร้อมเสียงฟ้าที่ทั้งดังและแล่บอยู่ตลอดเวลาเธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังไม่ปลอดภัยที่เธอกลัวลมฟ้าลมฝนมากขนาดนี้เพราะมีปมในใจในวัยเด็กซึ่งจะมาอธิบายกับราชสีห์เขาคงไม่เห็นใจคืนทั้งคืนสายธารนอนตากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอยู่หลายชั่วโมงร่างบางนอนขดสั่นกับพื้นดินฟ้าร้องฟ้าแล่บทีก็สะดุ้งใจสั่นระรัวน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความกลัวก็ไม่เคยจะเหือดแห้งยังคงไหลแข่งกับสายฝนที่ตกกระทบตัวเธออยู่ตลอดเวลาส่วนราชสีห์ก็กลับเข้าไปในบ้านดื่มหนักไม่คิดแม้แต่จะสงสารคนที่นอนตากฝนอยู่ด้านนอกคิดแค่ว่าอยากจะทรมานหญิงสาวให้ได้เท่านั้นวินาทีสุดแสนทรมานความเจ็บปวดหวาดกลัวกัดกินหัวใจของสายธารจนเธอแทบจะขาดใจตายได้ทุกวินาทีแต่เพราะนึกถึงหน้าคะนิ้งก็เป็นเหมือนผ้าห่มปลอบประโลมใจอันหนาวเหน็บให้ได้อยู่ต่อบอกกับตัวเองว่าอย่ายอมแพ้เพราะยังมีลูกที่รอเธออยู่กว่าสายฝนจะหยุดกระหน่ำลงมาก็เกือบรุ่งสางแต่ดูท่าว่าตอนนี้สายธารจะไม่มีสติไปเสียแล้วเมื่อแสงแรกของอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าสว่างส่องมายังบ้านหลังเล็กริมทะเลราชสีห์ก็ค่อยๆสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นแ
“ใช่แล้ว...ไม่รู้เรื่องล่ะสิย่าก็พึ่งจะรู้เมื่อตอนพี่เราให้อาทิตย์อุ้มลูกมาฝากย่ารอให้ตาสิงห์มาคุยให้กระจ่างก็ยังไม่เห็นจะโผล่มา”อิงอรรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้คงยังไม่มีใครรู้ไม่แปลกใจที่คาวีจะตกใจเพราะเมื่อเธอรู้เรื่องราชสีห์มีลูกจนโตจากปากอาทิตย์ในคืนนั้นเธอก็ตกใจเช่นกัน“หนูขอดูหน้าลูกคุณสิงห์หน่อยนะคะ”พอใจเห็นว่าชักเริ่มมีอะไรแปลกๆจึงลุกเดินตามคาวีมาดูให้เห็นกับตาว่าเด็กคนที่อยู่ในเปลจะใช่คะนิ้งอย่างที่เธอคิดหรือเปล่าเพราะหากราชสีห์เอาลูกมาฝากทั้งที่ไม่เคยมีใครได้ยินว่าเขามีลูกภายในในสองสามวันนี้ก็อาจจะเป็นหลานเธอก็เป็นได้และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่พอใจคิด“คะนิ้ง”“เคยเห็นกันด้วยหรือลูก”อิงอรเห็นพอใจเอ่ยเรียกชื่อเหลนเธอออกมาจึงหันมามองหน้าพอใจด้วยสีหน้าที่แปลกใจไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้จักกับคะนิ้งมาก่อน“นี่ลูกของคุณสายเหรอ”คาวีได้ยินเช่นนั้นก็พอจะเดาเรื่องเดาราวออกแล้ว“อืม”“เรื่องอะไรกันเล่าให้ย่าฟังหน่อยได้หรือเปล่า”อิงอรเห็นสีหน้าของพอใจและคาวีต่างก็เสียไปตามๆกันทว่าตอนนี้เธอเริ่มเห็นอะไรผิดปกติจึงเค้นให้ทั้งสองเล่าให้ฟังว่าเรื่องที่กำลังพูดถึงกันอยู่คืออะไรและแล้วทั้งสองก็ต้
ตอนนี้สายธารเริ่มฟื้นตัวแล้วพอใจจึงอุ้มคะนิ้งมาหาเพื่อให้คนที่กำลังนอนป่วยได้ใจชื้นขึ้นที่ได้เห็นหน้าลูกรักเผื่ออาการไข้จะหายวันหายคืนแต่ต้องยืนอยู่ห่างๆด้วยกลัวว่าคะนิ้งจะติดไข้ของคนเป็นแม่“คุณแม่ขา”เด็กหญิงตัวกลมเปล่งเสียงเรียกคนเป็นแม่ที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง“คะนิ้ง..แม่คิดถึงหนูที่สุดเลยลูก..”เพียงแค่ได้ยินเสียงใสของคะนิ้งสายธารก็รีบชันตัวลุกนั่งใบหน้าซีดเซียวในตอนนี้เปื้อนไปด้วยรอยยื้มอยากจะเข้าไปกอดเจ้าก้อนกลมใจจะขาดแต่ก็ยังทำไม่ได้“วันนี้ลูกแม่ทานข้าวกับอะไรคะ..”แม้นจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเปล่งเสียงเท่าไรแต่สายธารก็ยังพยายามเค้นมันออกมาเพราะอยากจะพูดคุยกับลูกเธอให้มากที่สุด“ตับบดค่ะ”“อร่อยหรือเปล่าเอ่ย”“อร่อยมากค่ะคุณแม่...”“คะนิ้งลืมอะไรหรือเปล่าคะ”พอใจก้มกระซิบหลานสาวให้พูดในสิ่งที่นัดกันเอาไว้เพราะเชื่อว่าคำพูดของคะนิ้งจะเป็นยาชั้นดีทำให้สายธารหายวันหายคืน“คุณแม่กินข้าวเยอะๆนะคะกินยาด้วยค่ะ”“โอเคค่ะ”“พักผ่อนเถอะสายคุณสิงห์มายุ่งอะไรกับแกไม่ได้แล้วเพราะต้องทำตามคำสั่งของคุณย่าส่วนคะนิ้งฉันจะดูแลให้เอง”“ขอบใจนะพอ”ทั้งสามพูดคุยกันไม่มากนักเพราะพอใจต้องการจะให้สายธาร
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกกับคุณย่าว่าฉันทำอะไรกับตัวของเเธอและจะขอรับผิดชอบโดยการแต่งงานซึ่งเธอห้ามเอ่ยปากปฏิเสธไม่อย่างนั้นเธอเสียคะนิ้งไปแน่นอน”ราชสีห์คิดมาดีแล้วหากเขาทำให้สายธารได้อยู่ใกล้ตัวเขาก็จะจัดการกับสิ่งที่อยากจะทำได้ง่ายขึ้นโดยที่ย่าของเขาไม่สงสัยอะไรอีกอย่างก็เห็นว่าย่าเขานั้นดูจะเอ็นดูคะนิ้งและสดชื่นมากเมื่อได้อยู่ใกล้ได้เลี้ยงเด็กหญิงเขาจึงคิดว่าการทำให้สายธารมาเป็นคนในครอบครัวจะดีต่อตัวของเขาและย่าตนด้วย“เกลียดฉันจะมาแต่งงานกับฉันเพื่ออะไร”สายธารมองราชสีห์ด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความไม่เข้าใจคิดว่าเขาช่างแปลกคนดูท่าเขาเกลียดเธอเข้ากระดูกดำแต่ทำไมถึงได้อยากจะมีเธอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเสียอย่างนั้น“อย่าคิดว่าฉันจะพิสวาสเธอเพียงแค่จะเก็บเธอไว้ทรมานเล่นโดยที่คุณย่ามาห้ามอะไรไม่ได้ก็เท่านั้น...เรื่องคะนิ้งอย่าคิดว่าฉันแค่ขู่เธอก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างฉันพูดจริงทำจริง...อ่ออีกอย่างถ้าเธอแข็งข้อกับฉันชีวิตเพื่อนเธอก็จะไม่สงบสุขไปด้วยหรือไม่ก็อาจจะตกงานตลอดชีวิตเพราะมีประวัติว่าช่วยเหลือหมอที่ทำผิดหลบหนี”“คุณมัน...”สายธารกำมือแน่นจากสีหน้าแววตาที่แปลกใจตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นแสดงออกถึ
เช้าวันใหม่ของอีกวันพอใจยกถาดอาหารเช้ามาที่ห้องของสายธารเธอพอจะยิ้มได้ออกเพราะดูท่าวันนี้เพื่อนเธออาการดีขึ้นรอยฟกช้ำค่อยๆจางลงมากขึ้นกว่าเมื่อวานเป็นเท่าตัว“แกดูดีกว่าเมื่อวานเยอะเลยนะ”“อืม...คะนิ้งล่ะ”สายธารที่กำลังนั่งมองวิวทะเลยามเช้าอยู่ที่เก้าอี้หวายริมหน้าต่างเธอค่อยๆลุกมานั่งที่โต๊ะด้านในเพื่อทานอาหารเช้าที่พอใจนำมาให้ทั้งยังถามหาคะนิ้งเพราะปกติเห็นว่าถ้าพอใจเข้ามาคะนิ้งจะมาด้วย“อยู่กับคุณย่ารายนั้นท่าจะติดคุณย่าแล้วล่ะ...เรื่องแต่งงานแกตัดสินใจดีแล้วเหรอฉันยังตกใจอยู่เลย”พอใจหย่อนก้นนั่งตรงข้ามกับสายธารทั้งยังเกริ่นถามเรื่องที่เพื่อนเธอนั้นตัดสินใจจะแต่งงานอยากรู้จริงๆว่าเพื่อนเธอนั้นคิดดีแล้วใช่หรือไม่“อืม..”สายธารฝืนฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยให้พอใจได้เห็นว่าสิ่งที่เธอตกลงราชสีห์ไปเธอคิดดีแล้ว“มั่นใจใช่หรือเปล่าว่าเค้าจะไม่ทำร้ายแก”“จะกลัวอะไรมีคุณย่าทั้งคน..”สายธารส่ายหัวเบาๆทั้งยังพูดติดตลกว่าเธอไม่กลัวอะไรด้วยมีคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ทั้งคนให้พอใจได้สบายใจ“จริงสิ...เอาเป็นว่าฉันเคารพการตัดสินใจของแกมีปัญหาอะไรก็คุยกับฉันได้เสมอ...กินผลไม้นี่เถอะจะได้สดชื่น”พอใจยื่นมื