ตอนนี้สายธารเริ่มฟื้นตัวแล้วพอใจจึงอุ้มคะนิ้งมาหาเพื่อให้คนที่กำลังนอนป่วยได้ใจชื้นขึ้นที่ได้เห็นหน้าลูกรักเผื่ออาการไข้จะหายวันหายคืนแต่ต้องยืนอยู่ห่างๆด้วยกลัวว่าคะนิ้งจะติดไข้ของคนเป็นแม่
“คุณแม่ขา”
เด็กหญิงตัวกลมเปล่งเสียงเรียกคนเป็นแม่ที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง
“คะนิ้ง..แม่คิดถึงหนูที่สุดเลยลูก..”
เพียงแค่ได้ยินเสียงใสของคะนิ้งสายธารก็รีบชันตัวลุกนั่งใบหน้าซีดเซียวในตอนนี้เปื้อนไปด้วยรอยยื้มอยากจะเข้าไปกอดเจ้าก้อนกลมใจจะขาดแต่ก็ยังทำไม่ได้
“วันนี้ลูกแม่ทานข้าวกับอะไรคะ..”
แม้นจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเปล่งเสียงเท่าไรแต่สายธารก็ยังพยายามเค้นมันออกมาเพราะอยากจะพูดคุยกับลูกเธอให้มากที่สุด
“ตับบดค่ะ”
“อร่อยหรือเปล่าเอ่ย”
“อร่อยมากค่ะคุณแม่...”
“คะนิ้งลืมอะไรหรือเปล่าคะ”
พอใจก้มกระซิบหลานสาวให้พูดในสิ่งที่นัดกันเอาไว้เพราะเชื่อว่าคำพูดของคะนิ้งจะเป็นยาชั้นดีทำให้สายธารหายวันหายคืน
“คุณแม่กินข้าวเยอะๆนะคะกินยาด้วยค่ะ”
“โอเคค่ะ”
“พักผ่อนเถอะสายคุณสิงห์มายุ่งอะไรกับแกไม่ได้แล้วเพราะต้องทำตามคำสั่งของคุณย่าส่วนคะนิ้งฉันจะดูแลให้เอง”
“ขอบใจนะพอ”
ทั้งสามพูดคุยกันไม่มากนักเพราะพอใจต้องการจะให้สายธารพักผ่อนด้วยเธอทั้งมีไข้และเจ็บคอสายธารโล่งใจพอสมควรที่รู้ว่าราชสีห์จะไม่มายุ่งเกี่ยวอะไรกับเธอแล้วทว่าก็ยังมีอาการตะหงิดอยู่ในใจอยู่เล็กน้อยว่าเขาจะเลิกยุ่งกับเธอได้จริงๆหรือเปล่า
ซ่า..ซ่า..
ตกดึกคาวีในชุดนอนเสื้อกางเกงลินินตัวโคร่งเดินออกมาจากบ้านมาที่ม้านั่งริมชายหาดเขาเห็นพอใจเดินออกมาจากบ้านพักใหญ่แล้วไม่เห็นเธอกลับจึงออกมานั่งคุยเป็นเพื่อน
“นอนไม่หลับเหรอคุณ”
“สถานการณ์แบบนี้ใครจะหลับลงคุณว่าพี่ชายคุณจะหยุดตามที่คุณย่าขอหรือเปล่า”
พอใจเขยิบให้คาวีได้นั่งข้างๆเธอนอนไม่หลับอย่างที่ชายหนุ่มว่าจริงๆแม้นจะบอกกับสายธารว่าราชสีห์จะเลิกยุ่งกับเพื่อนเธอแล้วแต่ในใจของเธอก็ยังไม่เชื่อแบบนั้นร้อยเปอร์เซ็น
“พี่สิงห์รักและเคารพคุณย่าที่สุดคงต้องเชื่อ..แต่..ก็ยังไว้ใจไม่ได้”
คาวีรู้ว่าพี่ชายตนต้องเชื่อฟังคุณย่าอยู่บ้างแต่จะทั้งหมดหรือไม่เขาเองก็ต้องบอกว่ายังไม่แน่ใจเช่นกัน
คำพูดของคาวีทำเอาใบหน้าสวยหันขวับมามองหน้าของชายหนุ่มด้วยความกังวล
“ยังไง”
“ผมมีลางสังหรณ์ว่าพี่สิงห์อาจจะไม่ยุ่งกับคุณสายธารโดยตรงเอาไว้ดูกันต่อไปแต่คุณสายธารก็น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่งเพราะมีคุณย่าเป็นคนปกป้องอยู่”
“ค่อยโล่งอกไปได้หน่อย...”
“จริงสิ...ผมอยากจะรู้รายละเอียดว่าการตรวจวันนั้นมันเป็นยังไงทำไมเพื่อนคุณถึงวินิจฉัยพลาด”
คาวีว่าจะถามพอใจนานแล้วแต่ก็ยังไม่มีเวลาได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้จริงจังเสียที
“ปกติสายทำงานมาไม่เคยพลาดส่วนการตรวจเลือดและเนื้อเยื่อของมดลูกสายก็ส่งตรวจถึงสองรอบเพราะรอบแรกที่ผลออกมาว่าคุณกัญญาเป็นโรคร้ายระยะสุดท้ายสายยังไม่เชื่อเท่าไรเพราะดูคุณกัญญาแข็งแรงแถมคนที่เป็นมะเร็งมดลูกก็ไม่น่าจะท้องได้ง่ายๆด้วย...จึงส่งตรวจรอบสองให้แน่ใจแล้วก็ได้ผลมาแบบเดิม...อีกอย่างวันนั้นสายไม่ได้ตั้งใจจะแจ้งผลกับคุณกัญญาด้วยเพราะตั้งใจจะตรวจเองอีกรอบและให้คุณกัญญาดีขึ้นกว่านั้นก่อนแต่หมอแก้วดันอยากจะเอาผลนั้นไปบอกน้องสาวตัวเองให้รู้เรื่องทันที”
“หมอแก้ว...”
คาวีเริ่มขมวดคิ้วก่อนจะถามพอใจต่อ
“ปกติแล้วหมอเค้าไม่ยุ่งเรื่องเคสของหมอคนอื่นถ้าไม่ใช่ต้องรักษาร่วมกันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่...แต่สายเห็นว่าเป็นพี่น้องกันเลยไม่ได้ห้ามอะไรแล้วคุณกัญญาก็ตัดสินใจแบบนั้นแถมกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเรื่องก็เสียเลยทำให้ไม่มีใครรู้ตอนที่คุณกัญญาเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปที่ห้องเก็บของโรงพยาบาล”
“แล้วรู้เรื่องตอนไหนว่าวินิจฉัยพลาด”
“สายเข้าไปตรวจเลือดและเนื้อเยื่อในห้องแลบด้วยตัวเองให้แน่ใจอีกครั้งถึงได้รู้ว่าคุณกัญญาไม่ได้เป็นอะไรที่ปวดท้องมีเลือดออกช่องคลอดจนต้องเข้าโรงพยาบาลน่าจะเพราะมดลูกต่ำอยู่แล้วเท่านั้น..พอจะรีบไปแจ้งผลใหม่ก็ไม่ทันแล้ว”
“เฮ้อ...ผมเข้าใจนะว่าคนเรามันมีผิดพลาดกันได้แต่เคสหมอสายดันมาผิดกับคนของพี่สิงห์นี่สิ”
คาวีฟังทุกอย่างจบก็น่าเห็นใจหมอสายธารอยู่เหมือนกันชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่มองทอดไปยังคลื่นทะเลที่ซัดสาดคิดว่าหากหมอสายเกิดกรณีผิดพลาดขึ้นกับคนอื่นคงอาจจะถูกฟ้องตามกฎหทายแต่นี่มันมาเกิดกับคนรักของพี่ชายเขาน่ะสิทุกอย่างจึงดูเลวร้ายกว่าที่มันควรจะเป็น
“เฮ้อ..”
เป็นพอใจที่ถอนหายใจพรืดใหญ่ตามคาวีด้วยอีกคน
“เออ...จริงสิคุณย่าออกโรงป้องพวกฉันขนาดนี้ต่อไปนี้ฉันก็ไม่ต้องไปอยู่กับคุณแล้วล่ะ”
พอใจนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้หากเธอและสายธารมีคุณย่าพอจะเป็นคนหนุนหลังแล้วก็เท่ากับว่าเธอกก็ไม่ต้องพึ่งพาคาวีอีกต่อไปแล้ว
“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะไม่ทำงานกับผมต่อ”
ถึงวินาทีนี้คาวีคงจะหาเหตุผลมาอ้างให้หญิงสาวอยู่กับเขาต่อไปไม่ได้แล้วได้แต่เพียงถามเธอให้แน่ใจเท่านั้นว่าจะไม่ทำงานกับเขาต่อจริงๆหรือ
“ฉันอยากรักษาคนมากกว่าแต่คิดว่าคงต้องไปหาสมัครที่โรงพยาบาลหรือคลินิกอื่นคงไม่มีหน้ากลับไปทำงานที่เดิมแล้ว”
“อืม..แล้วแต่คุณก็แล้วกันมีอะไรให้ผมช่วยก็บอก”
คาวีก้มหน้ายอมรับสิ่งที่พอใจตัดสินใจเขาไม่เคยอยากทำอะไรที่ขัดใจตัวเองแบบนี้มาก่อนแต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวน่าจะมีความสุขมากกว่าที่ได้กลับไปรักษาคนเขาก็ยินดี
ช่วงเวลาเกือบจะตีสองสายธารรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยรู้สึกว่าไหล่ของเธอทั้งสองกำลังถูกบีบจนเกิดความเจ็บปวด
“ค.. คุณสิงห์.. เข้ามาทำไม”
เมื่อลืมตาขึ้นมามองผ่านแสงไฟสลัวของโคมไฟเธอก็เห็นใบหน้าของราชสีห์อยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ
“ฉันมีเรื่องจะตกลงกับเธอ”
ราชสีห์ดึงร่างบางให้ลุกมานั่งคุยอย่างไม่ถนอมที่เขาแอบเข้ามาหาเธอในเวลานี้เพราะต้องการตกลงเรื่องอะไรบางอย่าง
“ฉันรู้ว่าคืนนั้นเป็นครั้งแรกของเธอและคะนิ้งก็ไม่ใช่ลูกสาวของเธอจริงๆ..ต่อไปนี้เธอต้องทำตามที่ฉันบอกทุกอย่างโดยห้ามบอกคุณย่าไม่อย่างนั้นฉันจะสืบว่าพ่อแม่คะนิ้งคือใครและจะบอกกับคะนิ้งว่าเธอไม่ใช่แม่ของเค้า”
“คุณมันคนใจร้าย”
ดวงตากลมโตจ้องมองหน้าชายหนุ่มที่มีนิสัยร้ายกาจด้วยความระอาเธอคิดเอาไว้ไม่ผิดว่าเขาจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับเธอง่ายๆแถมยังมีคำขู่ที่ทำให้เธอไม่กล้าจะต่อกลอนกับเขาอีก
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกกับคุณย่าว่าฉันทำอะไรกับตัวของเเธอและจะขอรับผิดชอบโดยการแต่งงานซึ่งเธอห้ามเอ่ยปากปฏิเสธไม่อย่างนั้นเธอเสียคะนิ้งไปแน่นอน”ราชสีห์คิดมาดีแล้วหากเขาทำให้สายธารได้อยู่ใกล้ตัวเขาก็จะจัดการกับสิ่งที่อยากจะทำได้ง่ายขึ้นโดยที่ย่าของเขาไม่สงสัยอะไรอีกอย่างก็เห็นว่าย่าเขานั้นดูจะเอ็นดูคะนิ้งและสดชื่นมากเมื่อได้อยู่ใกล้ได้เลี้ยงเด็กหญิงเขาจึงคิดว่าการทำให้สายธารมาเป็นคนในครอบครัวจะดีต่อตัวของเขาและย่าตนด้วย“เกลียดฉันจะมาแต่งงานกับฉันเพื่ออะไร”สายธารมองราชสีห์ด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความไม่เข้าใจคิดว่าเขาช่างแปลกคนดูท่าเขาเกลียดเธอเข้ากระดูกดำแต่ทำไมถึงได้อยากจะมีเธอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเสียอย่างนั้น“อย่าคิดว่าฉันจะพิสวาสเธอเพียงแค่จะเก็บเธอไว้ทรมานเล่นโดยที่คุณย่ามาห้ามอะไรไม่ได้ก็เท่านั้น...เรื่องคะนิ้งอย่าคิดว่าฉันแค่ขู่เธอก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างฉันพูดจริงทำจริง...อ่ออีกอย่างถ้าเธอแข็งข้อกับฉันชีวิตเพื่อนเธอก็จะไม่สงบสุขไปด้วยหรือไม่ก็อาจจะตกงานตลอดชีวิตเพราะมีประวัติว่าช่วยเหลือหมอที่ทำผิดหลบหนี”“คุณมัน...”สายธารกำมือแน่นจากสีหน้าแววตาที่แปลกใจตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นแสดงออกถึ
เช้าวันใหม่ของอีกวันพอใจยกถาดอาหารเช้ามาที่ห้องของสายธารเธอพอจะยิ้มได้ออกเพราะดูท่าวันนี้เพื่อนเธออาการดีขึ้นรอยฟกช้ำค่อยๆจางลงมากขึ้นกว่าเมื่อวานเป็นเท่าตัว“แกดูดีกว่าเมื่อวานเยอะเลยนะ”“อืม...คะนิ้งล่ะ”สายธารที่กำลังนั่งมองวิวทะเลยามเช้าอยู่ที่เก้าอี้หวายริมหน้าต่างเธอค่อยๆลุกมานั่งที่โต๊ะด้านในเพื่อทานอาหารเช้าที่พอใจนำมาให้ทั้งยังถามหาคะนิ้งเพราะปกติเห็นว่าถ้าพอใจเข้ามาคะนิ้งจะมาด้วย“อยู่กับคุณย่ารายนั้นท่าจะติดคุณย่าแล้วล่ะ...เรื่องแต่งงานแกตัดสินใจดีแล้วเหรอฉันยังตกใจอยู่เลย”พอใจหย่อนก้นนั่งตรงข้ามกับสายธารทั้งยังเกริ่นถามเรื่องที่เพื่อนเธอนั้นตัดสินใจจะแต่งงานอยากรู้จริงๆว่าเพื่อนเธอนั้นคิดดีแล้วใช่หรือไม่“อืม..”สายธารฝืนฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยให้พอใจได้เห็นว่าสิ่งที่เธอตกลงราชสีห์ไปเธอคิดดีแล้ว“มั่นใจใช่หรือเปล่าว่าเค้าจะไม่ทำร้ายแก”“จะกลัวอะไรมีคุณย่าทั้งคน..”สายธารส่ายหัวเบาๆทั้งยังพูดติดตลกว่าเธอไม่กลัวอะไรด้วยมีคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ทั้งคนให้พอใจได้สบายใจ“จริงสิ...เอาเป็นว่าฉันเคารพการตัดสินใจของแกมีปัญหาอะไรก็คุยกับฉันได้เสมอ...กินผลไม้นี่เถอะจะได้สดชื่น”พอใจยื่นมื
“คุณย่าจะอยู่คนเดียวแบบนี้ต่อไปจริงๆเหรอครับผมว่าหาคนมาดูแลสักคนจะดีกว่า”คาวีและราชสีห์เคยถามคำถามนี้กับย่าของเขาเป็นร้อยรอบได้แต่ก็ยังไม่ถอดใจเพราะอยากให้มีคนมาอยู่ดูแลย่าของตนที่นี่แม้พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวรั้วรอบขอบชิดไม่อาจมีใครเข้ามาได้ง่ายๆแต่หากย่าของเขาเกิดเป็นลมเป็นแล้วหรือเจ็บป่วยก็ยากที่จะมีใครรู้หากไม่มีคนมาอยู่คอยดูแล“เราก็รู้ว่าย่าชอบชีวิตแบบนี้ไม่ชอบให้ใครมาช่วยทำอะไรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”อิงอรยังคงชอบชีวิตที่อยู่คนเดียวไม่ต้องมามีคนรองมือรองเท้าด้วยชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตั้งแต่สาวๆแล้ว“แต่อายุคุณย่าก็มากขึ้นทุกวัน...เกิดเป็นลมเป็นแล้งในบ้านจะได้มีคนมาอยู่ดูแลผมกับพี่สิงห์ไม่อยากทำงานด้วยความพะวงนะครับ”“อื้มม..งั้นเราก็หาคนมาก็แล้วกัน”สิ้นเสียงคาวีอิงอรก็เงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบตกลงหลานเธอจนได้เพราะคิดว่าหากเธอยังดื้อดึงที่จะอยู่คนเดียวเช่นนี้เรื่อยไปหลานๆก็คงจะห่วงพะวงอย่างที่พูดออกมาไม่รู้จักจบ“ครับคุณย่า”คาวีเข้าสวมกอดย่าตนและแล้ววันนี้เขาก็คะยั้นคะยอให้ย่าของเขามีคนดูแลได้เสียทีส่วนคนที่จะจ้างให้มาดูแลย่าของเขาจะเป็นใครตอนนี้เขามีอยู่ในใจแล้วสองสา
ตอนนี้ทุกคนมาจัดแจงโต๊ะตั้งเอาไว้หน้าบ้านเพื่อที่จะปาร์ตี้ทานอาหารเย็นกันโดยมีคาวีเป็นตัวตั้งตัวตีเพราะเห็นครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าในส่วนของเปรมฤดีและสุรชัชก็ทำความรู้จักกับเจ้าก้อนกลมที่พึ่งตื่นอยู่ในห้องนั่งเล่นเพระกำลังเห่อที่ตัวเองพึ่งจะได้เป็นปู่เป็นย่าครั้งแรก“มาหาย่ามาเร็วลูก..นี่ย่ามีอะไรให้ด้วยน้า..”เปรมฤดีเข้าหาตีสนิทด้วยการซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ราคาแพงถึงสามตัวมาตั้งอวดคะนิ้งดูท่าเธอจะคิดถูกเพราะเด็กหญิงปรี่เข้าหาเธอทันทีหลังวางตุ๊กตาเสร็จ“สวยจัง..”เจ้าก้อนกลมทิ้งก้นลงนั่งยกมือป้อมหยิบกลองตุ๊กตามาไว้ในอ้อมกอดทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นของเล่นสวยๆงามๆเรียงรายอยู่ตรงหน้า“มาปู่แกะให้..นะคะ”สุรชัชฝันอยากจะมีลูกสาวกับเค้าแต่ก็ได้มาแค่ลูกชายวันนี้ได้หลานสาวมาจึงเห่อเป็นพิเศษเขาเข้ามานั่งใกล้ๆคะนิ้งพูดคุเสียงสองเสียงสามคุยกับเจ้าก้อนกลมกะหนุงกะหนิงไม่นานนักคะนิ้งก็เข้าได้กับทั้งสองได้เป็นอย่างดี“ทุกคนดูเอ็นดูแกกับคะนิ้งมากเลยเนอะเห็นแบบนี้ฉันก็ดีใจ”พอใจที่เห็นทุกอย่างในบ้านเธอก็พลอยดีใจกับสายธารที่เห็นผู้หลักผู้ใหญ่เอ็นดูคะนิ้งและเพื่อนของเธอ“อืม.. ตอนแรกก็แอบหวั่นว่าพวกเค้าจ
ณ ร้านอาหารหรูในย่านตัวเมืองเวลาหัวค่ำตอนนี้สองสาวเพื่อนสนิทอย่างกชกรและพริมามาลูกสาวนักธุรกิจเจ้าของกิจการทัวร์นั่งทานอาหารกันได้พักใหญ่พูดคุยสัพเพเหระจนหันมาถามกชกรว่ารู้ข่าวที่ราชสีห์จะแต่งงานกับหมอสายธารหรือยังเพราะเธอเองก็พึ่งรู้จากปากของคนเป็นพ่อเมื่อวันนี้เอง“ยัยแก้ว..คุณพ่อฉันได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมงานแต่งของคุณสิงห์กับหมอสายธารในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”“อะไรนะ...คุณสิงห์จะแต่งงานแต่ทำไมไม่มีข่าวอะไรเลยล่ะ..แล้วเป็นไปได้ยังไงที่คุณสิงห์จะแต่งกับสายธารในเมื่อสายธารเป็นต้นเหตุทำให้ยัยเกรซต้องตายแถมยังผ่านงานศพยัยเกรซไปไม่เท่าไร”กชกรถึงกับกินอะไรไม่ลงเพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าฟังและน่ายินดีสำหรับเธอเท่าไรทั้งยังมีความไม่พอใจอยู่พอสมควรที่ราชสีห์จะมาแต่งงานกะทันหันแถมยังแต่งกับสายธารคนที่ราชสีห์ก็รู้ว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้กัญญานั้นตาย“ฉันก็งงอยู่เหมือนกัน...เห็นว่าที่ไม่เป็นข่าวเพราะไม่ต้องการจัดงานใหญ่โตเชิญแค่แขกผู้ใหญ่เท่านั้น”พริมาส่ายหัวเบาๆเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมราชสีห์ตัดสินใจแบบนี้อีกทั้งงานยังดูจัดกะทันหันและไม่ได้ให้ใครรู้มากมายด้วยในช่วงสายขอ
“ฉันแค่อยากระบาย”ราชสีห์เริ่มปลดกระดุมเชิ้ตของตนเองออกพร้อมวาดแขนตวัดโอบเอวสายธารที่กำลังจะเดินหนี“ฉันไม่ใช่ที่ระบายของคุณ”ใบหน้าหวานเงยหน้าจ้องมองราชสีห์ด้วยสายตาไม่พอใจทั้งมีน้ำตาเริ่มรื้นเอ่อคลอขึ้นมาแต่ยังคงพยายามกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ราชสีห์ได้เห็น“ลืมแล้วหรือไงว่าเธอต้องทำตามที่ฉันต้องการทุกอย่าง”ฟึ่บบร่างสูงเดินตวัดแขนรวบอุ้มร่างบางมาทิ้งตัวลงบนโซฟาพร้อมกันราชสีห์กดทับร่างบางขึงเธอเอาไว้ให้ขยับไปไหนไม่ได้ก่อนจะเริ่มถลกกระโปรงของหญิงสาวขึ้นมาจนเผยเห็นขาอ่อนสายธารเอาแต่นอนตัวเกร็งสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่ถูกราชสีห์กระทำครั้งก่อนเริ่มกลับเข้ามาในหัวสมองให้ได้เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกชัดเจนแม้จะกลัวมากเพียงใดแต่เธอก็ไม่สามารถต่อต้านอะไรคนเอาแต่ใจได้เพราะยังกลัวในคำขู่ของเขา“หึ่..”ราชสีห์รู้สึกได้ว่าสายธารกำลังตัวสั่นแถมน้ำตาที่เห็นว่าเธอพยายามกลั้นเอาไว้คราแรกไหลพรากมาดั่งสายน้ำเขาจึงสบถในลำคออย่างพึงพอใจก่อนจะล้วงมือหนาดึงซับในใต้กระโปรงของหญิงสาวออก“อืม...”สายธารขบเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นว่าคนบนตัวเธอถอดกางเกงถอดเสื้อจนเปลือยเปล่าล่อนจ้อนและเ
หลังจากราชสีห์ออกจากเพนท์เฮ้าส์ไปได้สายธารก็เข้าไปพักผ่อนในห้องของตัวเองซึ่งก็อยู่ติดกับห้องของราชสีห์เธอเดาว่าห้องของเธอน่าจะเล็กกว่าห้องของราชสีห์มากแถมคราแรกที่เข้ามาก็รกมากกว่าเธอจะเก็บกวาดเสกให้มันเป็นห้องนอนที่ดูดีก็เหนื่อยพอสมควรซ่าา.. “เฮ้อ.. จะต้องเจออะไรอีกบ้างนะ”สาวเจ้าเปิดฝักบัวยืนนิ่งปล่อยสายน้ำชะโลมร่างกายพักใหญ่แอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนึกภาพอนาคตข้างหน้าไม่ออกเลยว่าราชาสีห์จะหาเรื่องอะไรเธอและความโกรธของเขาขะหมดลงไปเมื่อไรยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ใจณ วัดแห่งหนึ่งในย่านนนทบุรีราชสีห์ออกจากเพนท์เฮ้าส์ได้ก็รีบขับรถตรงมาที่วัดแห่งนี้เขาถือช่อกุหลาบสีขาวช่อใหญ่มาวางตรงหน้าฐานเก็บกระดูกของกัญญา“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับความเจ็บปวด...ผมคิดถึงคุณนะเกรซ”ร่างสูงนั่งฟุบมองรูปคนรักตรงหน้าด้วยแววตาอาลับอาวรณ์ครู่ใหญ่จนฟ้าเริ่มมืดเขาจึงเตรียมตัวกลับคิดว่าคืนนี้จะไปนอนที่บ้านสวนของคุณปู่เขาที่ได้ซื้อเอาไว้แถวนี้“วันนี้เป็นวันแต่งงานของคุณสิงห์ฉันนึกว่าคุณสิงห์จะอยู่กับหมอสายธารเสียอีกนะคะ”ราชสีห์ที่กำลังจะเปิดประตูรถเขาก็ต้องชะงักหันหลังกลับมาหาคนที่กำลังพูดด้วย“ผมแค
คนเจ้าอารมณ์กลับมาที่เพนท์เฮ้าส์ในช่วงเช้าเขาเห็นสายธารเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มกุ้งถ้วยใหญ่จึงเอาอารมณ์หงุดหงิดมาลงที่เธอ“เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว”เขาหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวทั้งมองหน้าเธออย่างไม่พอใจด้วยเห็นว่าหญิงสาวเห็นว่าเขากลับมาแล้วแต่ไม่ยักจะหาอะไรมาเสริฟ“อะไรอีกคะ”ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาถามอีกฝ่ายหน้าตาเฉยเธอดูออกว่าเขาน่าจะโมโหหิวและไม่มีที่ลงมากกว่า“เธอไม่ทำอาหารเช้าเผื่อฉัน...เป็นเมียประสาอะไร”ราชสีห์ถลึงตามองหญิงสาวไม่วางทั้งยังเอ่ยถ้อยคำเสียงแข็งต่อว่าเธอที่ไม่รู้หน้าที่ยอมรับว่าตอนนี้โมโหหิวเพราะกลิ่นข้าวต้มที่หญิงสาวกำลังนั่งทานหอมเตะจมูกเสียเหลือเกิน“ฉันจะรู้หรือเปล่าล่ะคะว่าคุณจะกลับมาตอนไหน...จะทานอะไรคราวหลังก็โทรบอกสิมือถือก็มี..”“ไปทำมาให้ฉัน”“ไม่ค่ะ..ฉันไม่ว่าง”ริมฝีปากบางฉีกยิ้มอ่อนลอยหน้าลอยตาตักข้าวต้มร้อนๆเป่าให้อุ่นก่อนจะเอาเข้าปากเธอนั่งทานด้วยท่าทีเอร็ดอร่อยยั่วน้ำลายอีกฝ่ายให้โมโหหนักกว่าเดิมเล่นไม่นานนักราชสีห์ก็ได้อาหารจากเชฟในโรงแรมของตนมาส่งที่เพนท์เฮ้าส์อาหารที่มาส่งอย่างรวดเร็วจึงมีแค่ใส้กรอกขนมปังและไข