Share

ตอนที่16 แย่งความรัก

“คุณย่าจะอยู่คนเดียวแบบนี้ต่อไปจริงๆเหรอครับผมว่าหาคนมาดูแลสักคนจะดีกว่า”

คาวีและราชสีห์เคยถามคำถามนี้กับย่าของเขาเป็นร้อยรอบได้แต่ก็ยังไม่ถอดใจเพราะอยากให้มีคนมาอยู่ดูแลย่าของตนที่นี่แม้พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวรั้วรอบขอบชิดไม่อาจมีใครเข้ามาได้ง่ายๆแต่หากย่าของเขาเกิดเป็นลมเป็นแล้วหรือเจ็บป่วยก็ยากที่จะมีใครรู้หากไม่มีคนมาอยู่คอยดูแล

“เราก็รู้ว่าย่าชอบชีวิตแบบนี้ไม่ชอบให้ใครมาช่วยทำอะไรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

อิงอรยังคงชอบชีวิตที่อยู่คนเดียวไม่ต้องมามีคนรองมือรองเท้าด้วยชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตั้งแต่สาวๆแล้ว

“แต่อายุคุณย่าก็มากขึ้นทุกวัน...เกิดเป็นลมเป็นแล้งในบ้านจะได้มีคนมาอยู่ดูแลผมกับพี่สิงห์ไม่อยากทำงานด้วยความพะวงนะครับ”

“อื้มม..งั้นเราก็หาคนมาก็แล้วกัน”

สิ้นเสียงคาวีอิงอรก็เงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบตกลงหลานเธอจนได้เพราะคิดว่าหากเธอยังดื้อดึงที่จะอยู่คนเดียวเช่นนี้เรื่อยไปหลานๆก็คงจะห่วงพะวงอย่างที่พูดออกมาไม่รู้จักจบ

“ครับคุณย่า”

คาวีเข้าสวมกอดย่าตนและแล้ววันนี้เขาก็คะยั้นคะยอให้ย่าของเขามีคนดูแลได้เสียทีส่วนคนที่จะจ้างให้มาดูแลย่าของเขาจะเป็นใครตอนนี้เขามีอยู่ในใจแล้ว

สองสามวันต่อมาสายธารได้ออกมาจากห้องใช้ชีวิตข้างนอกได้เสียทีเพราะตอนนี้เธอนั้นหายไข้ดีแล้วแต่รอยฟกช่ำตามเนื้อตัวยังมีรอยอยู่ให้เห็นได้ชัดพอสมควร

เธอขลุกอยู่แต่กับลูกสาวดูแลอยู่ไม่ห่างแต่ก็ยังมีมารอย่างราชสีห์ที่ดูจะเรียกร้องความสนใจจากลูกของเธอเหลือเกินทั้งยังถือวิสาสะบอกคะนิ้งว่าตนเองคือพ่ออย่างที่เธอนั้นขัดอะไรไม่ได้ด้วย

สายธารดูออกว่าการกระทำทุกอย่างที่ราชสีห์ทำไม่ได้เอ็นดูคะนิ้งครบร้อยเปอเซ็นแต่เขาเพียงทำเพื่อให้เธอทุกข์ใจเล่นเท่านั้นแล้วเขาก็ทำให้เธอทุกข์ใจได้จริงๆเพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าเขานั้นจะแย่งความรักของคะนิ้งที่มีให้ต่อเธอและพรากคะนิ้งไป

“แม่ให้หนูเล่นอีกแปปเดียวนะคะเดี๋ยวเราไปอาบน้ำกันค่ะ”

“ค่ะคุณแม่”

หลังจากสายธารให้คะนิ้งทานข้าวเย็นเสร็จแล้วเธอให้เด็กหญิงนั่งเล่นครู่หนึ่งเพื่อที่จะรอให้อาหารย่อยก่อนที่จะพาไปอาบน้ำเวลานี้สายธารค่อนข้างจะอารมณ์ดีเพราะเห็นว่าวันนี่ราชสีห์ไม่อยู่ที่นี่แทบทั้งวันไม่มีใครมาแย่งความสนใจของคะนิ้งไปจากเธอแม้แต่น้อย

“คะนิ้งครับ”

หญิงสาวกำลังนั่งมองลูกน้อยเล่นเพลินๆก็ต้องเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นกะทันหันเพราะนึกถึงเรื่องที่ราชสีห์ไม่อยู่ก็ดีไม่ทันไรเขาก็โผล่หน้ามาพร้อมอุ้มตุ๊กตาหมูสีชมพูสลับครีมตัวใหญ่มาตั้งตรงหน้าของคะนิ้งเสียแล้ว

“คุณพ่อซื้อมาให้คะนิ้ง...ชอบหรือเปล่าครับนี่ตัวใหญ่ที่สุดในร้านเลย”

“ชอบค่า..”

เด็กหญิงละของเล่นในมือทุกอย่างแล้วเข้าไปสำรวจสวมกอดตุ๊กตาหมูตัวใหญ่ด้วยความตื่นเต้น

“..คะนิ้งนั่งบนตัวได้เลยนะครับ..”

มือหนาทั้งสองยกอุ้มเข้าก้อนกลมนั่งบนตักตุ๊กตาหมูแม้คำพูดจะดูพูดอยู่กับคะนิ้งแต่สายตาอันแสนเจ้าเล่ห์เปรยมองสายธารดั่งผู้ชนะที่ทำให้คะนิ้งนั้นสนใจตัวเองได้

“นิ่มจังค่ะ..”

เด็กหญิงนั่งเล่นง่วนกับเจ้าตุ๊กตาหมูพักใหญ่สองคนกับราชสีห์สายธารอยากจะดึงตัวคะนิ้งออกจากราชสีห์ใจจะขาดแต่เมื่อเห็นลูกกำลังมีความสุขจึงต้องปล่อยไปก่อน

อาทิตย์ต่อมา

ตอนนี้สุรชัชกับเปรมฤดีพ่อและแม่ของราชสีห์และคาวีก็บินกลับมาที่เมืองไทยเรียบร้อยแล้วหลังจากใช้ชีวิตท่องเที่ยวที่ยุโรปมาเป็นแรมปีเมื่อมาเจอหน้าอิงอรได้ทั้งสองก็ไถ่ถามถึงเรื่องที่ราชสีห์ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับอิงอรอีกครั้งว่าจริงหรือไม่

“นี่ตาสิงห์ลืมเรื่องแฟนที่เสียไปแล้วได้จริงๆใช่หรือเปล่าครับถึงจะแต่งงานกับหนูสายธาร”

สุรชัชยังคงไม่ค่อยมั่นใจกับการตัดสินใจของลูกชายตนครั้งนี้เท่าไรเพราะยังไม่ได้พูดคุยกับราชสีห์จริงจัง

“แม่ว่าก็คงไม่ลืม..แต่ก็น่าจะแยกแยะออกว่าความผิดทั้งหมดไม่ใช่ของหนูสายถึงคิดจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น”

“ว่าไปก็ใจหายเหมือนกันนะคะที่รู้ว่าตาสิงห์เสียลูกที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลก”

เปรมฤดีนึกสงสารชะตาลูกชายของเธอและกัญญาอยู่มากพอสมควร

“แม่ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแต่จะโทษใครได้ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นห่วงแต่ความรู้สึกตัวเองไม่ห่วงเด็กในท้องคนที่มีความเป็นแม่จะไม่ยอมปล่อยให้ลูกเป็นอะไรง่ายๆแน่เราว่าจริงอย่างที่แม่พูดหรือเปล่าล่ะแม่เปรม”

อิงอรก็ยังยืนยันความคิดของเธอกับทุกคนที่ได้พูดคุยเรื่องนี้ด้วยทุกครั้งและอยากให้เปรมฤดีตรึกตรองดูว่าสิ่งที่เธอพูดมันจริงหรือไม่ในความที่เป็นแม่คนเหมือนกัน

“ก็จริงนะคะ...แต่เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะค่ะขอไม่พูดถึงดีกว่า”

เปรมฤดีเปรยออกมาเสียงอ่อนแม้นเธอจะไม่เคยรู้จักกัญญาเป็นการส่วนตัวแต่เธอก็ลองนึกถึงสถานการณ์เช่นที่กัญญาเจอหากเป็นเธอก็จะไม่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแน่นอนแต่เมื่อเรื่องมันแล้วไปแล้วเธอก็ไม่อยากจะเก็บมาคิดใส่ใจอะไรมากนักด้วยตอนนี้อยากจะพูดถึงแต่เรื่องดีๆมากกว่า

“หนูสายหนูพอนี่พ่อกับแม่ตาสิงห์”

อิงอรเห็นสองสาวพึ่งกลับกันมาจากการไปซื้อของใช้ข้างนอกก็รีบเรียกให้เข้ามาทำความรู้จักกับลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอเสียเลย

“สวัสดีค่ะ../สวัสดีค่ะ”

สองสาวยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองพอใจยิ้มทักทายทั้งคู่อย่างเป็นมิตรผิดกับสายธารที่แม้ใบหน้าจะยิ้มแต่เธอก็ยังคงก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบสายตากับทั้งสองเท่าไรด้วยไม่รู้ว่าพวกเขาจะโกรธเธอหรือไม่ที่ทำให้เสียลูกสะใภ้และหลานไปทั้งที่ยังไม่ลืมตาดูโลก

“นี่ดูฤกษ์กันหรือยังล่ะว่าจะแต่งวันไหนหนูสาย”

“เอ่อ..”

คำทักทายคำแรกของเปรมฤดีที่ถามสายธารเล่นเอาเธอไปไม่เป็นเพราะคราแรกคิดว่าจะถูกตำหนิเรื่องประเด็นปัญหาที่เธอเคยทำพลาดไว้เสียอีก

พอใจจากที่นั่งเกร็งๆอยู่ก็เริ่มผ่อนคลายต้องขอบคุณที่ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้สร้างคำถามหรือพูดคุยเรื่องอะไรที่มันลำบากใจต่อพวกเธอ

“แม่ดูไว้แล้วล่ะ..ไม่เกินเดือนหน้า”

อิงอรเป็นคนตอบคำถามให้สายธารเองเพราะเธอเป็นคนดูฤกษ์เอาไว้แล้วและได้คุยกับราชสีห์ถึงเรื่องงานที่หลานชายของเขาอยากให้เกิดขึ้นไว้แล้วด้วยว่าต้องการแบบไหน

“แล้วจะทันเหรอคะคุณแม่”

เปรมฤดีและสุรชัชเริ่มขมวดคิ้วสายตามีความแปลกใจมากพอสมควรเวลาแค่นี้สำหรับงานแต่งของลูกชายเธอจะพอได้อย่างไร

“ตาสิงห์อยากให้เป็นแค่งานเล็กๆวันเดียวจบเชิญแต่แขกผู้ใหญ่ที่เคารพมาเท่านั้นงานก็จัดที่บ้านที่กรุงเทพไม่ต้องไปเช่าสถานที่ที่ไหน”

อิงอรต้องรีบอธิบายให้ลูกทั้งสองเข้าใจก่อนจะแปลกใจไปมากกว่านี้เรื่องนี้ทุกคนในบ้านรับรู้หมดแล้วเพราะราชสีห์เป็นคนพูดเองว่าไม่ได้อยากให้งานนี้ใหญ่โตอะไร

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status