Share

ตอนที่11 ทรมาน

ซ่า...ครื้นนน

“ฉันกลัว..อย่าทำกับฉันแบบนี้”

ร่างบางเริ่มตัวสั่นยิ่งมาตากฝนขณะที่ฝนกระหน่ำตกพร้อมเสียงฟ้าที่ทั้งดังและแล่บอยู่ตลอดเวลาเธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังไม่ปลอดภัยที่เธอกลัวลมฟ้าลมฝนมากขนาดนี้เพราะมีปมในใจในวัยเด็กซึ่งจะมาอธิบายกับราชสีห์เขาคงไม่เห็นใจ

คืนทั้งคืนสายธารนอนตากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอยู่หลายชั่วโมงร่างบางนอนขดสั่นกับพื้นดินฟ้าร้องฟ้าแล่บทีก็สะดุ้งใจสั่นระรัวน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความกลัวก็ไม่เคยจะเหือดแห้งยังคงไหลแข่งกับสายฝนที่ตกกระทบตัวเธออยู่ตลอดเวลา

ส่วนราชสีห์ก็กลับเข้าไปในบ้านดื่มหนักไม่คิดแม้แต่จะสงสารคนที่นอนตากฝนอยู่ด้านนอกคิดแค่ว่าอยากจะทรมานหญิงสาวให้ได้เท่านั้น

วินาทีสุดแสนทรมานความเจ็บปวดหวาดกลัวกัดกินหัวใจของสายธารจนเธอแทบจะขาดใจตายได้ทุกวินาทีแต่เพราะนึกถึงหน้าคะนิ้งก็เป็นเหมือนผ้าห่มปลอบประโลมใจอันหนาวเหน็บให้ได้อยู่ต่อบอกกับตัวเองว่าอย่ายอมแพ้เพราะยังมีลูกที่รอเธออยู่กว่าสายฝนจะหยุดกระหน่ำลงมาก็เกือบรุ่งสางแต่ดูท่าว่าตอนนี้สายธารจะไม่มีสติไปเสียแล้ว

เมื่อแสงแรกของอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าสว่างส่องมายังบ้านหลังเล็กริมทะเลราชสีห์ก็ค่อยๆสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นและเขาก็ได้เห็นว่าอาทิตย์ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว

“เสื้อผ้าพวกนี้ผมเอามาไว้ให้คุณสายธารครับ...ช่วงนี้คุณสิงห์ยังต้องทานยาแก้อักเสบงดดื่มไปก่อนจะดีกว่านะครับ”

“ฉันไม่ได้สั่ง”

ราชสีห์เปรยสายตามองอาทิตย์เขามีสีหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อคนสนิททำงานนอกเหนือคำสั่ง

“ผมแค่เห็นว่าเธอน่าจะไม่มีชุดใส่...ตอนนี้คุณสายธารนอนให้น้ำเกลืออยู่ในห้องนะครับเมื่อเช้ามืดผมตามหมอมาดูแลเธอหากช้ากว่านี้เธออาจจะช็อคได้...ร่างกายของเธออ่อนเพลียมากยังไงผมก็อยากให้คุณสิงห์...ปราณีเธอบ้าง”

อาทิตย์ก้มหน้าลงต่ำเล็กน้อยเขารู้ว่ากำลังทำนอกเหนือคำสั่งแต่ด้วยความเห็นอกเห็นใจแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันจะปล่อยให้สายธารนอนจมกองโคลนอยู่แบบนั้นไม่ได้

อาทิตย์ขับรถออกจากบ้านของอิงอรเมื่อช่วงเช้ามืดกะว่าจะแวะมาดูอาการของเจ้านายตนก่อนที่จะขับรถกลับไปดูงานที่บริษัทแทนราชสีห์ที่กรุงเทพแต่เข้าก็ต้องมาพบกับภาพอันน่าหดหู่ที่เห็นสายธารถูกมัดมือมัดเท้านอนอขดอยู่กับพื้นดินที่เปียกแฉะคาดว่าเธอน่าจะถูกปล่อยให้ตากฝนอยู่แบบนี้ทั้งคืนเธอทั้งตัวร้อนและไม่ได้สติเขาจึงอุ้มร่างบางเข้ามาในบ้านเพราะใจดำปล่อยเธอให้อยู่แบบนั้นต่อไปไม่ได้ก่อนจะโทรเรียกหมอให้มาดูอาการของสายธาร

“หมดธุระก็กลับไปทำงานได้แล้ว”

“ครับ”

ราชสีห์จ้องหน้าอาทิตย์ครู่หนึ่งในใจนึกไม่พอใจที่อาทิตย์นั้นเข้ามายุ่งแต่ก็เป็นไปแล้วเวลาหลังจากนี้เขาจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง

“รสชาติอาหารของฉันห่วยขนาดนี้คุณก็ยังกินได้เนอะ”

พอใจนั่งมองคาวีทานอาหารที่เธอทำหลังจากกลับมาจากทำงานเธอเองกินผัดผักที่ตัวเองทำเองยังรู้สึกว่ามันไม่อร่อยแต่แปลกที่คาวียังทานได้แถมยังดูท่าจะทานได้เยอะกว่าเธอด้วย

“ก็คุณบอกเองกินจืดๆเพื่อสุขภาพ”

คาวีไม่ใช่คนที่เบือกกินเท่าไรแม้นรสชาติจะไม่ถูกปากแต่เมื่อมันเป็นอาหารที่มีประโยชน์แถมยังเป็นฝีมือของพอใจเขาก็ทานได้จนหมดทุกครั้งไป

“ถึงฉันจะทำอาหารสุขภาพแต่ก็อยากให้มันอร่อยบ้างทำตามในเว็บไม่เห็นจะอร่อยสักอย่างถ้ามีเชฟฝีมือดีๆมาสอนคงดี”

มือน้อยเขี่ยอาหารในจานไปมาแม้นจะเห็นว่าคาวีทานอาหารที่เธอทำได้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะพอใจในฝีมือของเธอด้วยเป็นคนที่เวลาทำอะไรแล้วจริงจังจึงอยากทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด

“คุณอยากเรียนทำอาหารงั้นเหรอ”

“อืม...ตอนแรกฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้แต่เมื่อลองทำแล้วฉันก็อยากจะทำให้มันดี”

“ผมมีคนที่สอนคุณได้...พรุ่งนี้เราจะไปหาเค้ากันผมว่างพอดี”

หากหญิงสาวอยากจะเรียนจริงๆคาวีก็มีคนที่พอจะสอนให้เธอได้ฟรีๆอีกอย่างเขาคิดว่าหากหญิงสาวไปเรียนกับบุคคลคนนี้แล้วเธอต้องกลับมาทำอาหารรสชาติที่เขาชอบได้แน่นอนเพราะคนที่เขาจะให้เธอไปเรียนด้วยคือคนที่ทำอาหารให้เขาทานตั้งแต่เด็กๆ

วันต่อมาคาวีพาพอใจขับรถออกมาจากกรุงเทพเมื่อช่วงสายเพื่อตรงมาที่ประจวบคีรีขันธ์เพื่อพาหญิงสาวมาเรียนทำอาหารกับย่าของเขากว่าจะถึงตัวจังหวัดที่ต้องการมาก็เป็นเวลาบ่าย

เมื่อรถหรูขับเข้ามาในซอยลึกที่ข้างทางมีแต่ต้นสนเพื่อเข้ามาในบริเวณบ้านของอิงอรคาวีก็รีบคุยโวว่าย่าของเขามีฝีมือในการทำอาหารมากใครได้ทานเป็นติดใจกันทุกคน

“ฝีมือการทำอาหารของคุณย่าผมใครก็ได้ทานติดใจกันเป็นแถว”

“รวมถึงสาวๆที่คุณพามาบ้านคุณย่าคุณด้วยหรือเปล่า”

พอใจเอ่ยหยอกคนที่กำลังขับรถอย่างลอยหน้าลอยตาเพราะเธอรู้กิตติศัพท์ของคาวีดีแต่ใครจะไปรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คาวีตัดสินใจพาผู้หญิงที่ชอบเข้ามาหาย่าของเขาที่นี่

“ผมไม่เคยพาสาวคนไหนไปหาคุณย่านอกจากคุณ”

สิ้นเสียงคาวีพอใจเริ่มปั้นหน้าไม่ถูกหากเธอและเขาไม่ได้ตกอยู่ในสถานะที่ต้องอยู่ด้วยกันเพราะความจำเป็นเธอคงคิดว่าเขากำลังหยอดคำหวานให้เธอแล้ว

“เพราะไม่มีใครอยากเรียนทำอาหารเหมือนกับฉันใช่น่ะสิ”

ว่าจบก็รีบเมินหน้าหนีชายหนุ่มไปมองข้างทางรู้สึกไม่ชอบตัวเองที่เกิดไปหัวใจเต้นแรงกับคำพูดของคาวีไปเสียได้

คาวีได้ฟังก็ส่ายหัวเบาๆเขาไม่ได้นึกจะพาใครมาก็พามาอง่ายๆอย่างที่หญิงสาวคิดเสียหน่อยแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดจะเถียงอะไรเพราะได้ขับรถมาถึงหน้าบ้านย่าตนแล้ว

รถของคาวีมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านได้ก็มีอิงอรมายืนต้อนรับอยู่แล้วพอใจเดินอมยิ้มอ่อนลงมาจากรถเพราะเธอค่อนข้างชอบบรรยากาศที่นี่มาก

“คิดถึงจังเลยครับคุณย่า”

คาวีเดินดุ่มๆพร้อมของฝากพะลุงพะลังเข้ามากอดหอมหญิงชราร่างเล็กทันทีที่ลงมาจากรถได้

“ย่าก็คิดถึงเรา...”

“นี่พอใจครับที่ผมจะฝากเธอให้เป็นลูกศิษย์คุณย่า”

ชายหนุ่มผละตัวออกจากการกอดผายมือแนะนำตัวหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆให้คุณย่าตนได้รู้จักพอใจที่เตรียมตัวรออยู่แล้วเธอก็รีบยกมือสวัสดีอิงอรทั้งยิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะ”

“แฟนเราหน้าตาสะสวยดีนะ”

อิงอรมองสาวแว่นตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดูแม้นเธอจะมีแว่นหนาๆสวมทับอยู่บนใบหน้ามองเผินๆอาจจะดูเฉิ่มดูเชยแต่คนที่มากประสการณ์อย่างอิงอรมองแวบเดียวก็รู้ว่าหญิงสาวหน้าตาดีแค่ไหน

“เอ่อ...ไม่ใช่ค่ะคุณย่า..เราแค่เป็นเพื่อนกันเฉยๆ”

มือน้อยของพอใจรีบยกปัดไปมารีบปฏิเสธอิงอรทันควันผิดกับคาวีที่เอาแต่ยืนอมยิ้มเงียบกริบไม่ยอมเอ่ยปฏิเสธอะไรสักคำ

“ย่าเข้าใจแล้วล่ะเข้ามาข้างในกันเถอะ”

ทั้งสามเดินเข้ามาที่โถงนั่งเล่นคาวีกับพอใจเห็นเปลเด็กอยู่ด้านในต่างก็มองกันเป็นตาเดียวแปลกใจพอสมควรไม่คิดว่าที่บ้านนี้จะเลี้ยงเด็กเล็กด้วย

“นั่น..คุณย่าเอาลูกใครมาเลี้ยงครับ”

คาวีหย่อนก้นนั่งที่โซฟาพร้อมกับทุกคนเขามองไปที่เปลเด็กเล็กสีชมพู

“ลูกสาวพี่เราน่ะสิเอามาฝากเมื่อสองสามวันก่อน”

“ลูกพี่สิงห์”

จากที่ทิ้งหลังพิงโซฟากลับต้องดีดผึงลุกขึ้นยืนหมายจะไปดูหน้าเด็กที่นอนอยู่ในเปลแต่ดูยังไงๆก็ไม่น่าจะใช่ลูกพี่ชายตนเพราะหน้าไม่เหมือนเลยสักนิด

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status