ตอนนี้ณจันทร์อยู่บนเรือยอร์ชลำหรูที่มีเพียงแค่เธอและนนทวัตรเป็นคนขับ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ที่ห้องใต้ท้องเรืออยู่หลายรอบครุ่นคิดว่าหากเธอบอกกับนนทวัตรว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันเรื่องทุกอย่างที่วุ่นวายในชีวิตของเธอตอนนี้ก็น่าจะจบ
“คุณนน”
หญิงสาวเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังขับเรือท่ามกลางทะเลที่รายล้อมไปด้วยความมืด
“มีอะไร...ถ้าอยากจะกลับก็กระโดดลงทะเลว่ายน้ำไปเอง”
นนทวัตรไม่ได้หันมามองหญิงสาวแม้แต่เพียงหางตามีเพียงคำพูดเหน็บแนมเธอเท่านั้นที่เขาส่งกลับไป
“กรุณาพูดกับฉันดีๆเป็นหรือเปล่าคะ”
ณจันทณ์เริ่มขมวดคิ้วอีกรอบรู้ว่าเขายังคงอคติกับเธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ชอบจิกกัดเธอตลอดทุกคำที่พูดด้วยทั้งที่เธอก็พูดด้วยดีๆ
“ก็พอใจจะพูดแบบนี้...คุณมาทักผมก่อนเองมีอะไรจะพูดก็พูดมา”
“คือ..ฉัน”
เมื่อถูกถามกลับเข้าคนที่เตรียมคำพูดมาก็เริ่มไปไม่เป็นเพราะหน้าของโสภิตาลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเห็นใจโสภิตาถ้าหากเธอพูดความจริงออกไปมันก็จะดีต่อตัวเธอที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับวงเวียนชีวิตของเหล่าไฮโซแต่ผลร้ายก็จะไปตกอยู่กับโสภิตาซึ่งคิดไปคิดมาเธอก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องเห็นใจคนอื่นที่ไม่เคยได้คุ้นเคยกันมาก่อนเช่นนี้
“ถ้าไม่พูดก็ไม่ต้องพูดขี้เกียจรอฟัง”
“คุณเป็นคนมารยาททรามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”
สีหน้าความกังวลของณจันทร์เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความโกรธเคืองตวัดมองค้อนนนทวัตรและเอ่ยคำถากถางชายหนุ่มกลับก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ท้องเรือ
“ปานตะวัน!”
นนทวัตรตะโกนไล่หลังหญิงสาวเสียงฝาดหากเขาไม่รีบขับเรือไปให้ถึงฝั่งเธอได้ถูกเขาจับถ่วงน้ำเล่นแน่
“เฮ้อ..มือถือก็ไม่มีอีตาบ้านั่นจะพาไปไหนก็ไม่รู้”
ณจันทร์หนีเข้ามานั่งให้ห้องใต้ท้องเรือล็อคกลอนแน่นหนาสีหน้าของเธอตอนนี้ทั้งเหนื่อยใจและห่อเหี่ยวด้วยยังหาทางออกของปัญหาไม่เจอว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดีติดต่อใครก็ไม่ได้แถมยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปที่ไหนอีก
เรือแล่นต่อมาอีกพักใหญ่จนมาจอดเทียบท่าที่เกาะณจันทร์รู้สึกได้ว่าตอนนี้เรือหยุดอยู่กับที่เธอจึงเดินออกมาจากห้องหวังว่าเรือจะถึงฝั่งและเธอจะเจอผู้คนอื่นๆบ้างจะได้ขอความช่วยเหลือ
“ตามผมมา”
นนทวัตรขึ้นจากเรือเรียบร้อยเมื่อเห็นหญิงสาวออกมาเขาจึงออกคำสั่งกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้นุ่มนวลนัก
“คุณมาทำอะไรที่นี่แล้วจะกลับเมื่อไร”
ณจันทร์ยังไม่ยอมออกจากเรือง่ายๆเพราะภาพตรงหน้ามีแต่ความมืดมองซ้ายมองขวาไม่เห็นคนมองไปข้างหน้าไกลๆก็เห็นเป็นแสงไฟริบหรี่ที่มีต้นไม้เล็กใหญ่ขวางกั้นน่าจะรกอยู่พอสมควร
“เมื่อไร... ไม่ รู้”
นนทวัตรตอบกลับคนที่ถามด้วยน้ำเสียงยียวนทำณจันทร์ร้สึกไม่พอใจกับคำพูดไม่จริงจังของชายหนุ่ม
“ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่นกับคุณอยู่ที่นี่หรอกนะคะคุณนนฉันมีงานมีการต้องทำ”
“ผมจะกลับก็ต่อเมื่อคุณรับปากว่าจะยอมไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ผมเรื่องการถอนหมั้น”
นนทวัตรยืนล้วงกระเป๋ามองมายังหญิงสาวเขม็งก่อนจะเปล่าประกาศเสียงดังฟังชัดว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ
“พาฉันมาที่นี่เพื่อบีบบังคับอย่างนั้นสินะ”
ณจันทร์เงียบไปครู่หนึ่งเพื่อทบทวนว่าที่เขาชอบตีโพยตีพายคงจะต้องการสร้างเรื่องทะเลาะกับเธอให้ใหญ่โตเพื่อสิ่งที่เขาต้องการแต่เธอก็ขอเป็นคนที่ไม่อ่อนแอสักครั้งหากเขาอยากแกล้งเธอก็แกล้งไปแล้วจะได้รู้กันว่าคนอย่างเธอจะไม่ยอมแพ้ให้เขาแน่นอน
“จะคิดแบบนั้นก็ไม่ว่า..ตกลงจะยอมทำตามที่ผมบอกหรือเปล่าจะได้พากลับตอนนี้เลย”
“ไม่..และ..ไม่คำเดียวเท่านั้น..ถ้าคุณอยากจะถอนก็แค่พูดกับผู้ใหญ่เอาเองฉันไม่พูดอะไรทั้งนั้น”
คำตอบของหญิงสาวทำนนทวัตรสีหน้าเปลี่ยนจากที่คิดว่ายังไงก็เหนือกว่าหญิงสาวแต่กลับได้คำตอบที่ผิดคาดเห็นทีเขาจะต้องเล่นอะไรที่มันแรงกว่าเดิมเสียแล้ว
“งั้นก็อยู่ที่นี่ต่อไปละกัน”
ชายหนุ่มหมุนตัวหันหลังเดินดุ่มไม่สนใจจะหันมามองหญิงสาวที่ยังไม่ขึ้นจากเรือ
“คุณจะไปไหนคุณนน”
“พักผ่อน..ถ้าอยากจะนอนบนเรือก็ไม่ต้องตามมา”
ณจันทร์ต้องรีบสาวเท้าสับตามหลังคนตัวโตไปติดๆแม้นตอนนี้จะไม่ชอบหน้าของเขาแต่อยู่ในเรือคนเดียวก็รู้สึกไม่ปลอดภัยกับสถานที่แบบนี้
ณจันทร์เดินตามนนทวัตรเข้ามาทางเล็กๆที่มีต้นไม้เล็กใหญ่ปกคลุมสองข้างทางไม่ไกลมากก็มาเจอบ้านหลังเล็กคล้ายรีสอร์ทตามเกาะที่ยกพื้นสูงมีชายหน้าบ้านกว้างหลังเดียวโดดๆของที่นี่ที่มีแสงไฟเปิดอยู่แล้ว
“ที่นี่มีแค่บ้านหลังนี้หลังเดียวเหรอคะ”
สาวเจ้ามองรอบๆภาวนาให้ที่นี่มีคนอื่นอยู่เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกปลอดภัยมากกว่านี้
“ใช่..คุณหนูอย่างคุณอยู่ที่นี่ได้หรือเปล่าล่ะ”
“มีกี่ห้องนอนคะ”
สิ้นคำถามของหญิงสาวนนทวัตรก็เปิดประตูเข้าไปในบ้าน
“หนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำและมันก็เป็นที่สำหรับของผม..เหลือก็แต่โซฟานอกห้องผมยกให้คุณหรือจะนอนในห้องน้ำก็ไม่ว่า”
นั่นคือคำตอบที่ณจันทร์อยากได้เพราะจะได้ไม่ต้องระแวงอะไรมากนักแม้นจะรู้ว่าเขาไม่ได้พิศวาสอะไรกับเธอแต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย
“โอเค..โซฟาก็นอนสบายเหมือนกันค่ะ”
สาวเจ้ายิ้มอ่อนเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าชายหนุ่มเข้าไปในนั่งฟุบที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์เมื่อดูความสะอาดสะอ้านของที่นี่เธอเชื่อว่ายังไงที่เกาะนี้ก็จะต้องมีคนอยู่อีกไม่อย่างนั้นที่นี่คงไม่สะอาดกริบแบบนี้แน่นอน
นนทวัตรมองหญิงสาวที่เดินผ่านหน้าเข้าบ้านไปอย่างไม่เชื่อสายตาและไม่เชื่อหูตัวเองว่าหญิงสาวจะพูดว่าอยู่ได้แต่คิดไปคิดมาเธอคงจะอวดดีต่อหน้าเขาต่างหากจะรอดูต่อไปว่าเธอจะทนได้สักกี่น้ำ
“อีตาบ้านี่ท่าจะดูละครเยอะ”
ณจันทร์พ่นบ่นออกมาเสียงอ่อนคิดว่านนทวัตรคงจะมองเธอเป็นคุณหนูอ่อนแออยู่ในที่ลำบากไม่ได้ถึงได้พามาในที่แบบนี้เพื่อบีบบังบับให้ทำตามที่ตัวเองต้องการแต่คนอย่างเธอไม่ได้อ่อนแออย่างที่เขาคิดแล้วเกมนี้จะได้เห็นกันว่าใครจะชนะ
“พรุ่งนี้จะมีคนเอาเสื้อผ้าของใช้แล้วก็เอาอาหารมาให้แต่จะเป็นอาหารสดทุกอย่างอยากทานอะไรก็ทำทานเองไม่มีใครบริการ”
นนทวัตรแม้นจะมีอาการไม่พอใจอยู่ลึกๆแต่เขาก็ยังคงตีสีหน้าให้ปกติเข้ามาบอกกับคนที่นั่งสบายใจอยู่บนโซฟาสีเทาตัวใหญ่ถึงเรื่องที่หากจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็จะต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างและนี่ก็เป็นอีกอย่างที่เขาจะบีบเธอให้อยู่อย่างไม่เป็นสุข
“ค่ะ..แล้วยังไงต่อคะฉันต้องทำเผื่อคุณด้วยหรือเปล่า”
ณจันทร์เงยหน้ามองนนทวัตรด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเปรยยิ้มอ่อนให้เขาอีกรอบพฤติกรรมของเธอทำนนทวัตรเริ่มกัดฟันด้วยมองว่าสาวเจ้ากำลังอวดดีกับเขา
“ได้ก็ดี”
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่ไหมคะฉันจะพักผ่อน”
ปังง..คนตัวโตที่พึ่งเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดังจนคนที่นั่งด้านนอกสะดุ้งเล็กน้อยแต่หลังจากหายตกใจเธอก็สบถขำออกมาณจันทร์เชื่อแล้วว่ายังไงที่นี่ก็มีคนเพราะเมื่อครู่ชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอเองว่าจะมีคนเอาของมาให้และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“เก่งให้ตลอดก็แล้วกัน”นนทวัตรเห็นทีสิ่งที่คิดว่าแกล้งหญิงสาวได้จะไม่ได้ผลและคงจะต้องเล่นแรงขึ้นเพราะไม่ชอบที่สาวเจ้าทำอวดเก่งใส่ตัวเองเท่าไรนักวันต่อมาโรงพยาบาล XXX“คุณพราวมุกคะท่านผอ.เรียนเชิญให้ไปพบตอนบ่ายสองค่ะ”“ร.. เรียกพบฉันมีอะไรเหรอคะ”พราวมุกนั่งมองหน้ากับกนกวรรณหัวหน้าบัญชีด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมาถามชุติมาเลขาของผอ.ที่มาแจ้งข่าวด้วยตัวเองด้วยท่าทีประหม่า“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”ชุติมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแค่นี้และย้ำให้เธอมาบอกด้วยตัวเองว่าจบเธอก็เดินกลับไป“ค่ะ”พราวมุกเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่เข้าตาใครทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันที่สอง“เค้าเรียกพราวไปทำอะไรเหรอคะหัวหน้า”พราวมุกหันมาถามกนกวรรณอีกรอบ“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติท่านผอ.ไม่เคยเรียกพบใครด้วย”กนกวรรณสาวใหญ่ที่ทำงา
“เป็นไปได้ยังไงพราว..ตัวเนี่ยนะเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน”เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับณิชามากเมื่อพราวมุกกลับมาเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน“ใช่..แต่ทางทนายจะต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน”หลังจากที่แก้วเกตบอกกับเธอว่าเธอน่าจะเป็นลูกของคนที่ชื่อสรุตาพราวมุกก็ไปโรงพยาบาลหาหมอประจำตระกูลของสรุตาและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอของพ่อกับแม่ที่เก็บตัวอย่างเอาไว้หรือไม่หากตรงก็เท่ากับว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปในทันที“ขอให้เป็นจริงนะพราว”ณิชาดีใจไปกับพราวมุกด้วยและภาวนาว่าขอให้เพื่อนเธอเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ“ถ้าเป็นจริงมันก็มีทั้งเรื่องน่ายินดีแล้วก็น่าเศร้าเพราะเค้าไม่เหลือคนในครอบครัวเลย”“นั่นสินะ...แต่อย่าลืมนะพราวว่าเรามีครอบครัวที่ใหญ่กว่าคนอื่นตั้งเยอะ”“จริงด้วยนะ..อยากให้แม่ครูกับจันทร์อยู่ด้วยตอนนี้จัง”พราวมุกนั่งจับมือกับณิชาแน่นเธอคงจะดีใจที่ได้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆไม่ใช่ว่าจะมีเงินใช้สุขสบายแต่ดีใจที่จะมีเงินมาให้แม่ครูพัฒนาบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่และชีวิตเด็กๆพี่ๆน้องๆร่วมบ้านก็จะได้ดีขึ้นไปด้วยทางด้านณจันทร์ตั้งแต่เช้าจรดเย็
“ขอบคุณนะครับป้าบัวลุงโนชที่เอาอาหารมาให้แถมยังพาหมอมารักษาผม”นนทวัตรจึงตัดบทบัวผันเอาไว้ก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวรู้ว่าที่นี่ที่ไหนด้วยกลัวว่าเธอจะหาทางติดต่อกับคนอื่นให้มาช่วยถูก“อ๋อ..ก็รู้เรื่องจากคุณตะวันนี่แหละครับถึงได้รีบพาหมอมา..ไม่มีอะไรแล้วพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ภาพที่บัวผันและมาโนชกำลังลุกเดินออกไปทำใจของณจันทร์ห่อเหี่ยวหนักลงไปอีกเพราะมีคนให้เธอขอความช่วยเหลือแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่เชื่ออะไรเธอ“ทานยาให้ตรงเวลานะครับคุณนน”กิตติคุณหันมาบอกกับนนทวัตรก่อนจะเดินตามสองลุงป้าไป“ครับ”หลังจากทุกคนออกไปกันจนหมดนนทวัตรก็หันมาจ้องคนที่นั่งก้มหน้างุดเขม็ง“ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก...คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด”“ฉันหนีได้ค่ะ..แต่เพราะฉันเป็นคนที่มีสำนึกต่างหากเลยไม่ปล่อยให้คุณนอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้น”ณจันทร์เงยหน้ามองคนที่กำลังพูดถางถางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ให้ผมเดา..คุณคงกลัวผมตายแล้วตัวเองจะมีความผิดต่างหากถึงได้ยอมกลับมา”“จะอะไรก็ช่างฉันว่าเราหยุดเล่นสงครามประสาทกันซะทีเถอะพาฉันกลับเถอะนะขอร้องล่ะ”“ไม่..บอกแล้วไงว่าถ้าคุณไม่ยอมไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวผมคุณก็จะต้องใช้ชีวิตที่น
“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน“จันทร์บอกพี่เอาไว้”“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์“คุณนนใช่ไหมคะ”“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน“คือ..”ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้“แบบนี้นี่เอง”“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน“จริงเหรอคะ”“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น
วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลานนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่ซุปเปอร์XX“หนมผิง”เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้