“เป็นไปได้ยังไงพราว..ตัวเนี่ยนะเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน”
เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับณิชามากเมื่อพราวมุกกลับมาเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน
“ใช่..แต่ทางทนายจะต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน”
หลังจากที่แก้วเกตบอกกับเธอว่าเธอน่าจะเป็นลูกของคนที่ชื่อสรุตาพราวมุกก็ไปโรงพยาบาลหาหมอประจำตระกูลของสรุตาและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอของพ่อกับแม่ที่เก็บตัวอย่างเอาไว้หรือไม่หากตรงก็เท่ากับว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปในทันที
“ขอให้เป็นจริงนะพราว”
ณิชาดีใจไปกับพราวมุกด้วยและภาวนาว่าขอให้เพื่อนเธอเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ
“ถ้าเป็นจริงมันก็มีทั้งเรื่องน่ายินดีแล้วก็น่าเศร้าเพราะเค้าไม่เหลือคนในครอบครัวเลย”
“นั่นสินะ...แต่อย่าลืมนะพราวว่าเรามีครอบครัวที่ใหญ่กว่าคนอื่นตั้งเยอะ”
“จริงด้วยนะ..อยากให้แม่ครูกับจันทร์อยู่ด้วยตอนนี้จัง”
พราวมุกนั่งจับมือกับณิชาแน่นเธอคงจะดีใจที่ได้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆไม่ใช่ว่าจะมีเงินใช้สุขสบายแต่ดีใจที่จะมีเงินมาให้แม่ครูพัฒนาบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่และชีวิตเด็กๆพี่ๆน้องๆร่วมบ้านก็จะได้ดีขึ้นไปด้วย
ทางด้านณจันทร์ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเธอก็ใช้ชีวิตได้ปกติเพราะตั้งแต่เช้าที่เธอยังไม่ตื่นก็มีคนเอาเสื้อผ้าของใช้และอาหารสดมาให้แล้วแอบเสียดายที่อุตส่าห์นั่งรอทั้งคืนไม่ยอมนอนเพื่อที่จะได้เห็นคนอื่นมาแต่ดันมาง่วงเผลอหลับตอนเช้าตรู่เอาเสียได้กว่าจะตื่นมาของทุกอย่างก็วางครบหมดแล้ว
ที่ณจันทร์ทำตัวปกติไม่ได้เรื่องมากกับสภาพความเป็นอยู่ก็เพื่อทำให้นนทวัตรได้เห็นว่าแผนที่จะแกล้งเธอของเขามันทำร้ายอะไรเธอไม่ได้สักนิด
“ของสดๆทำอะไรก็น่าทานไปทุกอย่างจริงๆ”
ณจันทร์ยกจานกุ้งผัดพริกเกลือกับหมึกผัดผงกะหรี่ออกมาวางที่โต๊ะอาหารก่อนจะรีบไปอิงประตูยืนแอบดูนนทวัตรคุยโทรศัพท์
“ครับ..คุณภูริส่งมาทางเมลผมได้เลยผมตรวจเรียบร้อยแล้วจะเซ็นส่งกลับไป”
ตอนนี้ณจันทร์พอจะรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรถึงจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้เธอตำหนิตัวเองที่น่าจะคิดได้ตั้งแต่เมื่อวานว่านนทวัตรก็ต้องมีมือถือหากเธอเอามันมาได้เธอก็จะได้ไม่ต้องติดอยู่ที่นี่โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ออกไปเมื่อไร
ณจันทร์ค่อยๆเดินเข้ามาด้านหลังของนนทวัตรที่กำลังนั่งกดมือถือเช็คอีเมลหลังจากคุยกับภูริเสร็จ เหมือนชายหนุ่มจะจับสังเกตได้ว่ามีคนอยู่ด้านหลังเขาจึงรีบหันมามองและเห็นเป็นหญิงสาวเดินเข้ามา
“ไง..เตรียมคำพูดที่ผมอยากจะฟังมาพูดหรือเปล่า”
นนทวัตรรีบปิดมือถือวางเอาไว้ที่โต๊ะก่อนจะลุกยืนกอดอกจ้องหน้าคนตัวเล็กด้วยสายตายียวน
“คุณอยากฟังอะไรล่ะคะ...ฉันชอบนั่งรับลมทะเลเย็นๆได้ทำอาหารทานเองแถมมีแต่อาหารทะเลสดๆคุณภาพดีๆให้ทาน..อืม..อะไรอีกล่ะ”
ณจันทร์จงใจพูดกวนโมโหคนตรงหน้าเล่น
“ปานตะวัน”
ชายหนุ่มที่มีน้ำเสียงอ่อนยียวนคราแรกตอนนี้เริ่มเสียงแข็งเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังกวนประสาท
“กลัวลืมชื่อฉันเหรอคะ”
ณจันทร์อาศัยจังหวะที่นนทวัตรเผลอเธอใช้ความไวหยิบมือถือของเขาและรีบวิ่งเข้าไปในห้องล็อกกลอนประตูอย่างแน่นหนา
“ปานตะวัน” ปึ้กๆๆๆ “เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลย”
นนทวัตรไม่คิดว่าตัวเองจะเสียรู้หญิงสาวได้เขาเคาะประตูรัวดังลั่นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนด้านในจะเปิด
“รหัสอะไรกันนะ”
ณจันทร์พยายามกดรหัสเท่าที่เห็นทั้งยังแอบเสียดายที่เมื่อครู่เธอทำให้ชายหนุ่มรู้ตัวก่อนที่เขาจะกดรหัสมือถือเสร็จ
“แสบนักนะ”
นนทวัตรสบถหัวเสียก่อนจะวิ่งไปที่หลังบ้านเพราะรู้ว่าหน้าต่างในห้องเขาเปิดอยู่
“หา..”
ณจันทร์ที่ง่วนอยู่กับการกดรหัสเปิดมือถือจนลืมไปว่าหน้าต่างไม่ได้ปิดและตอนนี้ชายหนุ่มก็ปีนเข้ามาแล้วตอนนี้ที่ทำได้ก็คือเปิดประตูวิ่งหนีออกไปและพยายามติดต่อคนอื่นให้ได้
ฟึ่บบ..”เอามือถือผมมา”
ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้ถอดกลอนนนทวัตรก็ถึงตัวของเธอแล้วและเขาก็พยายามจะดึงมือถือออกจากมือหญิงสาวให้ได้
“ไม่ให้” เพล้ง
สาวเจ้าเห็นแจกันใบใหญ่อยู่ใกล้มือจึงหยิบฟาดหัวของนนทวัตรในวินาทีชุลมุน
“โอ้ยย..”
ชายหนุ่มล้มลงกับพื้นได้สาวเจ้าก็รีบเปิดประตูวิ่งหนีทันที
สาวเจ้าวิ่งมาจนถึงชายหาดพักเหนื่อยได้ก็หันกลับไปมองด้านหลังพอตั้งสติได้เธอก็รู้ว่าเมื่อครู่ตัวเองได้ทำเกินกว่าเหตุเพราะแจกันที่เธอหยิบฟาดนนทวัตรไม่ใช่ใบน้อยๆ
“เฮ้ย..จะตายไหมอะ”
Rrrrr
ณจันทร์ถือวิสาสะรีบกดรับสายที่โทรเข้ามาเพราะตอนนี้เธอต้องหาคนมาช่วยชายหนุ่มให้เร็วที่สุด
“คุณนนครับเย็นนี้ผมจะเอาของสดเข้าไปให้นะครับ”
“เอ่อ..เอากล่องปฐมพยาบาลมาด้วยได้ไหมคะ”
เป็นณจันทร์ที่ตอบกลับไปเสียงสั่นเครือเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำนนทวัตรเสียชีวิตแล้วจะมีความผิดจนเสียอนาคตตำหนิตัวเองในใจว่าไม่น่าใจร้อนทำอะไรไม่คิดอย่างเมื่อครู่เลย
“เย็บเรียบร้อยแล้วครับนี่อุปกรณ์ทำแผลแล้วก็ยาแก้อักเสบครับ..มีปัญหาอะไรกันเหรอครบถึงได้เป็นแบบนี้ได้”
กิตติคุณหมอหนุ่มที่พ่อของนนทวัตรจ้างให้มาอยู่ดูแลชาวบ้านประจำที่นี่เขาเย็บแผลให้นนทวัตรครู่ใหญ่เพราะแผลที่หางคิ้วของชายหนุ่มค่อนข้างยาว
“คุยกันไม่รู้เรื่องนิดหน่อยครับหมอไม่มีอะไร”
นนทวัตรไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนักเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาพาหญิงสาวมาที่นี่อย่างที่เธอก็ไม่ได้เต็มใจ
“ทะเลาะกันหนักเลยเหรอคะถึงได้หัวร้างข้างแตกแบบนี้”
บัวผันที่นั่งรออยู่บข้างนอกก็อดถามหญิงสาวถึงเรื่องที่เกิดไม่ได้
“คือ..หนูไม่ได้เต็มใจมาที่นี่ค่ะแต่คุณนนพามาคุณป้ากับคุณลุงช่วยไปส่งหนูที่ฝั่งหน่อยได้ไหมคะ”
ณจันทร์มองหน้ามาโนชและบัวผันด้วยแววตาที่ขอร้องหวังว่าจะให้ทั้งสองสงสาร
“คนเป็นคู่กันงอนกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะมีอะไรก็คุยกันให้เข้าใจนะคะอย่าหนีแบบนี้เลยค่ะ”
บัวผันมองไปที่สามีเธอก่อนจะหันมายิ้มอ่อนให้กับหญิงสาวเพราะคิดว่าคู่รักทุกคู่ก็ต้องมีปัญหากันเป็นปกติอยู่แล้วและที่หญิงสาวพูดว่าเธอไม่ได้เต็มใจมาที่นี่บัวผันหรือจะเชื่อ
“หนูไม่ได้งอนกับคุณนนนะคะ..เอ่อที่นี้เกาะอะไรเหรอคะ”
ณจันทร์หน้าถอดสีทันทีด้วยเข้าใจแล้วว่าเธอพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี
“ที่นี่เป็นเกาะ..”
ยังไม่ทันที่บัวผันจะพูดจบนนทวัตรและหมอกิตติคุณก็ออกมาข้างนอกพอดี
“ขอบคุณนะครับป้าบัวลุงโนชที่เอาอาหารมาให้แถมยังพาหมอมารักษาผม”นนทวัตรจึงตัดบทบัวผันเอาไว้ก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวรู้ว่าที่นี่ที่ไหนด้วยกลัวว่าเธอจะหาทางติดต่อกับคนอื่นให้มาช่วยถูก“อ๋อ..ก็รู้เรื่องจากคุณตะวันนี่แหละครับถึงได้รีบพาหมอมา..ไม่มีอะไรแล้วพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ภาพที่บัวผันและมาโนชกำลังลุกเดินออกไปทำใจของณจันทร์ห่อเหี่ยวหนักลงไปอีกเพราะมีคนให้เธอขอความช่วยเหลือแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่เชื่ออะไรเธอ“ทานยาให้ตรงเวลานะครับคุณนน”กิตติคุณหันมาบอกกับนนทวัตรก่อนจะเดินตามสองลุงป้าไป“ครับ”หลังจากทุกคนออกไปกันจนหมดนนทวัตรก็หันมาจ้องคนที่นั่งก้มหน้างุดเขม็ง“ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก...คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด”“ฉันหนีได้ค่ะ..แต่เพราะฉันเป็นคนที่มีสำนึกต่างหากเลยไม่ปล่อยให้คุณนอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้น”ณจันทร์เงยหน้ามองคนที่กำลังพูดถางถางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ให้ผมเดา..คุณคงกลัวผมตายแล้วตัวเองจะมีความผิดต่างหากถึงได้ยอมกลับมา”“จะอะไรก็ช่างฉันว่าเราหยุดเล่นสงครามประสาทกันซะทีเถอะพาฉันกลับเถอะนะขอร้องล่ะ”“ไม่..บอกแล้วไงว่าถ้าคุณไม่ยอมไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวผมคุณก็จะต้องใช้ชีวิตที่น
“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน“จันทร์บอกพี่เอาไว้”“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์“คุณนนใช่ไหมคะ”“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน“คือ..”ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้“แบบนี้นี่เอง”“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน“จริงเหรอคะ”“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น
วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลานนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่ซุปเปอร์XX“หนมผิง”เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร
เช้าวันต่อมาก๊อกๆๆนนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร“จะไปแล้วเหรอคะ”“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน“ช่างมันเถอะค่ะ”นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด