“ขอบคุณนะครับป้าบัวลุงโนชที่เอาอาหารมาให้แถมยังพาหมอมารักษาผม”
นนทวัตรจึงตัดบทบัวผันเอาไว้ก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวรู้ว่าที่นี่ที่ไหนด้วยกลัวว่าเธอจะหาทางติดต่อกับคนอื่นให้มาช่วยถูก
“อ๋อ..ก็รู้เรื่องจากคุณตะวันนี่แหละครับถึงได้รีบพาหมอมา..ไม่มีอะไรแล้วพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
ภาพที่บัวผันและมาโนชกำลังลุกเดินออกไปทำใจของณจันทร์ห่อเหี่ยวหนักลงไปอีกเพราะมีคนให้เธอขอความช่วยเหลือแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่เชื่ออะไรเธอ
“ทานยาให้ตรงเวลานะครับคุณนน”
กิตติคุณหันมาบอกกับนนทวัตรก่อนจะเดินตามสองลุงป้าไป
“ครับ”
หลังจากทุกคนออกไปกันจนหมดนนทวัตรก็หันมาจ้องคนที่นั่งก้มหน้างุดเขม็ง
“ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก...คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด”
“ฉันหนีได้ค่ะ..แต่เพราะฉันเป็นคนที่มีสำนึกต่างหากเลยไม่ปล่อยให้คุณนอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้น”
ณจันทร์เงยหน้ามองคนที่กำลังพูดถางถางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“ให้ผมเดา..คุณคงกลัวผมตายแล้วตัวเองจะมีความผิดต่างหากถึงได้ยอมกลับมา”
“จะอะไรก็ช่างฉันว่าเราหยุดเล่นสงครามประสาทกันซะทีเถอะพาฉันกลับเถอะนะขอร้องล่ะ”
“ไม่..บอกแล้วไงว่าถ้าคุณไม่ยอมไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวผมคุณก็จะต้องใช้ชีวิตที่นี่ได้เจอผมปั่นประสาทอยู่ทุกวันให้บ้ากันไปข้างนึงเลย”
นนทวัตรฟุบนั่งลงบนโซฟาข้างกับหญิงสาวก่อนจะยื่นหน้าเอ่ยเสียงแข็งข้างใบหน้าของเธอ
“ถอยออกไปให้ห่างฉันนะ”
ณจันทร์รีบลุกพรวดออกจากโซฟาเพราะไม่ชอบให้อีกฝ่ายเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ พฤติกรรมของหญิงสาวทำนนทวัตรจับทางได้ว่าสิ่งที่เธอกลัวไม่ใช่สิ่งที่เขาหาเรื่องแกล้งแต่เธอน่าจะกลัวตัวเขาต่างหาก
“กลัวเหรอ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นรวบร่างบางเอาไว้หลวมๆทั้งยังก้มลงทำทีจะลวนลามแต่ก็ถูกผลักออกเสียก่อน
“อย่ามาไร้มารยาทกับฉัน..”
“ไร้มารยาทอะไรเป็นคู่หมั้นกันอีกหน่อยก็ต้องแต่งยังไงผมก็ต้อง..ได้..คุณอยู่ดี..ต้องการให้ผมเข้าหาคุณอย่างคนมารยาทดีแบบไหนล่ะ..ผู้ชายคนก่อนๆที่เข้าหาคุณเค้ามีมารยาทยังไงบอกผมสิจะได้เอาใจคุณถูก”
เพี๊ยะ..”หยาบคาย”
ณจันทร์รู้ว่าคนที่นนทวัตรกำลังว่าคือปานตะวันแม้ผู้หญิงคนหนึ่งจะผ่านอะไรมาแต่ก็ไม่ควรจะมีใครมาดูถูกกันซึ่งหน้าเช่นนี้เธอที่อดรนทนกับความปากเสียของชายหนุ่มไม่ได้จึงไม่พ้นที่จะเงื้อมมือสั่งสอนให้เขาได้รับรู้ว่าสิ่งที่พูดกับเธอเมื่อครู่ไม่ควรออกมาจากปากของเขาและเขา
“อือ..อื้อ..”
ณจันทร์ดิ้นขลุกขลักเมื่อถูกคนตัวโตรวบไปนอนทับอยู่ที่โซฟาทั้งเขายังจู่โจมจูบเธออย่างไม่ทันตั้งตัวสาวเจ้าที่ไม่เคยถูกชายคนไหนกระทำเช่นนี้มาก่อนเธอจึงตกใจมากขอบตาเธอเริ่มร้อนผ่าวความกลัวในใจเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อต่อต้านคนที่กำลังลวนลามไม่ได้และแล้วร่างบางก็สั่นเทาน้ำตาไหลพรากออกมาอย่างกับหยาดน้ำฝน
“อือ..ฮือๆๆๆ..”
“ตะวัน”
นนทวัตรเริ่มไปไม่เป็นเมื่อรู้สึกได้ว่าหญิงสาวที่เขาต้องการแกล้งมีน้ำตาคนตัวโตค่อยๆผละตัวออกจากหญิงสาวมองคนที่นอนร้องให้ตัวสั่นระริกด้วยท่าทีสำนึกผิด “เป็นลูกผู้ชายอย่าทำร้ายผู้หญิงจนมีน้ำตานะลูก” คำสอนของคนเป็นยายที่ฝังสมองมาตั้งแต่เด็กทำนนทวัตรเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาทำไปเมื่อครู่มันไม่ควร
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
ณจันทร์ปัดมือคนที่กำลังเข้ามาช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกนั่งก่อนจะปาดน้ำตาลวกๆถอยตัวหนีชายหนุ่มจนชิดมุมโซฟา
“เรื่องเมื่อกี้ผมขอโทษ”
นนทวัตรก้มหน้าขอโทษหญิงสาวก่อนจะเดินออกไปที่หน้าบ้านเขาไม่กล้ามองหน้าของเธอเพราะเขาไม่ชอบเห็นน้ำตาผู้หญิงตั้งแต่เล็กจนโตหากเขาทำใครร้องให้จะต้องรู้สึกผิดมากทุกครั้งเพราะถูกปลูกฝังมาแบบนั้น
“ฮื่อๆๆ..”
แม้นจะได้ยินคำขอโทษจากชายหนุ่มและเขาก็ไม่ได้อยู่ให้เธอเห็นหน้าแล้วแต่ความตกใจผสมความกลัวเมื่อครู่ยังทำให้ณจันทร์หยุดร้องไม่ได้
วันต่อมา
ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นในตอนเช้าเธอลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแต่ไม่ยักเห็นนนทวัตรอยู่ในบ้านพอสังเกตจากห้องนอนก็เปิดเอาไว้ก็ไม่เห็นมีคนอยู่ด้านใน
“คุณนน..”
สาวเจ้าเดินออกมาที่ชานบ้านก็เห็นนนทวัตรนอนขดข้างประตู
“ตัวร้อนจี๋เลย”
เมื่อเรียกแล้วคนที่นอนขดดูท่าว่าจะไม่รู้สึกตัวณจันทร์จึงยื่นมือไปเขย่าตัวชายหนุ่มและสัมผัสได้เลยว่าเขาน่าจะมีอาการไข้
“คุณนนคะ..คุณนน”
ณจันทร์พยายามเขย่าตัวของนนทวัฒน์อีกรอบและครั้งนี้ก็เหมือนจะได้ผลชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้น
“อืม..”
“ลุกไปนอนข้างในค่ะ”
ณจันทร์ช่วยพยุงชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีแรงเข้ามาในห้องนอนของเขา ใจยังคงนึกเคืองเรื่องเมื่อคืนทีาเขาทำกับเธอแต่ที่ต้องช่วยเพราะที่เขาเจ็บจนไข้ขึ้นแบบนี้ก็เพราะฝีมือเธอเอง
“เมื่อคืนทานยาหรือเปล่าคะ”
“อือ.. หึ”
คนที่นอนแหมะอยู่บนเตียงตอบเสียงอ่อนขณะที่ตายังสะลึมสะลือไม่ยอมลืมง่ายๆเพราะรู้สึกปวดหัวหนักอยู่พอสมควร
“คุณหมอก็กำชับแล้วแท้ๆ..ทานยาก่อนค่ะ”
ณจันทร์พยุงคนตัวให้นั่งพิงหัวเตียงและหายาให้เขาได้ทานหลังจากนนทวัตรทานยาเรียบร้อยแล้วสาวเจ้าก็เดินเปิดประตูตู้เสื้อผ้าหาผ้าผืนเล็กไปชุบน้ำมาเช็ดตัวให้นนทวัตรได้เบาอาการไข้ ณจันทร์รีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะต้องการระบายความร้อนจากตัวของเขาออกไปให้ได้มากที่สุด
“มือถืออยู่ไหนคะคุณตัวร้อนขนาดนี้ต้องโทรหาคุณหมอให้มาดูอาการคุณ”
“ทิ้ง.. แล้ว”
“อะไรนะคะ”
ณจันทร์หยุดมือกะทันหัน
“กลัวคุณขโมยอีก”
“แล้วทีนี้จะติดต่อกับคนอื่นยังไงคะ”
“อืม..”
นนทวัตรไม่มีแรงที่จะพูดคุยกับคนที่ตั้งคำถามต่อไปแล้วเพราะรู้สึกหนักหัวเหลือเกิน
“เฮ้อ..”
ณจันทร์แทบร้องออกมาอีกครั้งที่ดูนนทวัตรจะทำอะไรไม่คิด
“เบาไข้ซะทีนะ”
ณจันทร์เช็ดตัวให้นนทวัตรพักใหญ่จนเขาเบาไข้ลงซึ่งน่าจะเป็นผลพวงจากยาที่ทานไปด้วย
“หวังว่าป้าบัวกับลุงโนชจะมาเย็นนี้นะคะ”
หญิงสาวพึมพำขณะทำแผลใหม่ให้กับคนที่หลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว ถ้าเขาตื่นขึ้นมามีสติดีๆเห็นทีเธอต้องต่อว่าเสียหน่อยเรื่องที่เขาทิ้งเครื่องมือสื่อสารที่มีอยู่เครื่องเดียวทิ้งไปเพราะกลัวว่าเธอจะขโมยอีก
“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน“จันทร์บอกพี่เอาไว้”“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์“คุณนนใช่ไหมคะ”“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน“คือ..”ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้“แบบนี้นี่เอง”“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน“จริงเหรอคะ”“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น
วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลานนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่ซุปเปอร์XX“หนมผิง”เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร
เช้าวันต่อมาก๊อกๆๆนนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร“จะไปแล้วเหรอคะ”“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน“ช่างมันเถอะค่ะ”นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด
“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”“ใช่ค่ะ”พราวมุกเห็นด้วยก