เช้าวันต่อมา
ก๊อกๆๆ
นนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร
“จะไปแล้วเหรอคะ”
“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”
ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน
“ช่างมันเถอะค่ะ”
นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ
“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”
ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา
“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”
“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที
“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”
นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด็กคนนี้คงใช้กับเธอไม่ได่เสียแล้วน่าจะเป็นเขามากกว่าที่ต้องเป็นลูกมือของเธอ
“ได้ค่ะ”
“ไปจ่ายเงินกันเถอะ”
เมื่อพนักงานเตรียมของมาให้ครบทุกตามที่หญิงสาวสั่งของก็แทบเต็มรถแล้วเขาจึงจะเข็นรถไปเพื่อจ่ายเงิน
“ยังค่ะ.. ต้องไปดูแป้งกับครีมอาบน้ำด้วย”
ณจันทร์รีบกวักมือให้นนทวัตรตามมาที่โซนแป้งเด็กก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วก็เจอสิ่งที่เธอต้องการที่อยู่ชั้นบนสุด
“คุณนนเอากะละมังใบใหญ่สีฟ้านะคะ”
สาวเจ้าชี้วานให้คนตัวโตหยิบกะละมังอาบน้ำของเด็กใบใหญ่สุดมาให้ขณะที่เธอก็เลืกหยิบแป้งเด็กใส่รถเข็น
“โอเค”
ทั้งสองใช้เวลาเลือกของอยู่พักใหญ่จนครบจนตอนนี้เข้าเวลาเที่ยงทั้งสามก็มาถึงที่ท่าเรือเรียบร้อย
“เลี้ยงเด็กคนนึงใช้อุปกรณ์เยอะเหมือนกันนะ”
หลังจากที่นนทวัตรขนของลงเรือเสร็จก็มองของตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาว่าการเลี้ยงเด็กตัวแค่นิดเดียวจะใช้ของใช้อะไรมากมายขนาดนี้
“ค่ะ..ไม่ใช่แค่อุปกรณ์นะคะต้องเข้าใจพฤติกรรมเค้าด้วย”
“พูดเหมือนเคยเลี้ยงเลย”
“ก็..พอรู้มาเท่านั่นแหละค่ะ”
ณจันทร์ที่กล่าวฉะฉานอย่างคนมีความรู้ในการเลี้ยงเด็กตอนนี้เสียงของเธอเริ่มอ่อนลงเพราะไม่อยากจะตอบชายหนุ่มไปตามตรงว่าเธอเคยเลี้ยงเด็กเล็กเป็นสิบๆคนก็เลี้ยงมาแล้ว
“แง..แง้..”
เสียงเจ้าตัวกลมที่ร้องโยเยอยู่ที่ท้องเรือทำนนทวัตรต้องหยุดการเดินเรือและลงมาหาหญิงสาวกะทันหัน
“ทะเลเป็นอะไรร้องใหญ่เลย”
“เหมือนจะมีไข้ค่ะฉันป้อนยาไปแล้วเดี๋ยวอีกสักแปปก็คงจะหลับไปค่ะคุณนนไม่ต้องห่วง..รีบไปให้ถึงเกาะเร็วๆดีกว่าค่ะ”
“โอเค”
ณจันทร์ไม่อยากให้นนทวัตรกังวลเรื่องเสียงร้องของทะเลเพราะการร้องโยเยแบบนี้เป็นเพราะไม่สบายตัวเนื่องจากไม่สบายเธออยากจะให้ชายหนุ่มขับเรือไปให้ถึงเกาะอย่างเร็วที่สุดมากกว่าเพราะการเช็ดตัวป้อนยาและพาเจ้าก้อนกลมเดินกล่อมจะสะดวกว่าบนเรือมาก
“ลากโซฟามาทำไมคะ”
ณจันทร์ที่กำลังกล่อมเจ้าตัวกลมอยู่ยนเตียงในห้องนอนของนนทวัตรเธอมองชายหนุ่มที่กำลังลากโซฟานอนของเธอเข้ามาในห้องของเขาก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงกระซิบเพราะกลัวคนที่กำลังจะหลับตื่นขึ้นมาร้องให้อีก
“ผมเอาไว้นอนไง..คุณก็นอนบนเตียงกับทะเลเผื่อดึกๆทะเลร้องแล้วคุณไม่ตื่นผมจะได้ช่วยดูได้”
คนตัวโตตอบกลับหญิงสาวด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน
“ค่ะ..”
“คุณจะเอาอะไรไหม..ยาหรือผ้าเช็ดตัวอะไรแบบนี้”
“ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะคุณเอาของที่เรือมาเก็บให้หมดก็พอ”
“โอเค”
ณจันทร์มองตามหลังนนทวัตรด้วยสีหน้าที่เริ่มสบายใจขึ้นหน่อยเพราะดูท่าทั้งเธอและเขาจะปรองดองกันก็เพราะต้องช่วยกันเลี้ยงเด็กชายตัวกลมนี่แหละ
“โล่งใจเหมือนกันที่ได้ยินจันทร์โทรมาบอกว่าสบายดีแล้วจันทร์อยู่ที่เกาะบอกหรือเปล่าว่าเกาะอะไร”
ณิชาวางถาดผลไม้ตรงหน้าของพราวมุกเธอพอจะมีสีหน้าเบิกบานได้บ้างเมื่อรู้ว่าเมื่อคืนณจันทร์โทรมาบอกว่าสบายดีไม่ต้องห่วง
“จันทร์บอกว่าน่าจะเป็นเกาะส่วนตัวของครอบครัวคุณนนแต่ไม่รู้ชื่อแถวๆระยองไม่ไกล”
“ไม่ได้บอกว่าจะกลับเมื่อไรใช่หรือเปล่า”
“อืม..ไม่ได้บอก...เออตัว”
พราวมุกส่ายหัวเธอเองก็ลืมไปเลยที่จะถามณจันทร์เรื่องนี้เพราะมัวแต่ดีใจที่ณจันทร์ติดต่อมาหา
“หืม”
“วันนี้ตัวหยุดไปฟังผลดีเอ็นเอกับเค้านะ”
“ได้สิ..แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย”
ณิชารู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้ไปกว่าพราวมุกเพราะหากพราวมุกเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆเธอก็จะดีใจด้วยมากๆ
“จริง..เค้าถึงอยากให้ตัวไปด้วยไงจะได้ลดความตื่นเต้นลงหน่อย”
และแล้วเวลาอันสำคัญก็มาถึงตอนนี้สองสาวพราวมุกและณิชานั่งจับมือกันแน่นอยู่ที่ห้องรับแขกบ้านของแก้วเกตพร้อมหน้าพร้อมตากับแก้วเกตและกวินกับเปรมทนายประจำตระกูลของสร้อยแสงดาว
“ผลดีเอ็นเอของคุณพราวมุกกับคุณสรุตาตรงกัน99.99%ครับสรุปได้ว่าคุณพราวมุกคือทายาทคนสุดท้ายของตระกูล....”
สิ้นเสียงคำกล่าวของเปรมทุกคนก็มีสีหน้าเปื้อนยิ้มยินดีกับผลดีเอ็นเอที่ได้รับฟัง
“ดีใจด้วยนะพราว”
ณิชากอดกับพราวมุกแน่นที่หลังจากนี้ชีวิตเพื่อของเธอก็จะดีขึ้นแล้ว
“ฉันว่าแล้วเชียว...อ่อ..ที่คุณเปรมบอกว่าพินัยกรรมของสร้อยแสงดาวมีเนื้อหาเกี่ยวกับฉันกับตาวินเรื่องอะไรเหรอ”
จบคำถามของแก้วเกตเปรมก็ยกซองพินัยกรรมขึ้นมาหนึ่งฉบับเพื่อบอกกล่างให้ทุกคนในที่นี้รับรู้ไปพร้อมๆกัน
“คุณสร้อยแสงดาวเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมาในขณะที่มีสติครบถ้วนทุกประการและเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีมากแล้วจึงเขียนมาว่า..หากเจอหลานสาวทายาทคนสุดท้ายให้ยกมรดกบ้านและที่ดินรวมถึงเครื่องเพชรและเงินจำนวนห้าสิบล้านบาทให้กับทายาทหากไม่เจอภายหลังจาก50ปีไปแล้วให้ยกทั้งหมดกับมูลนิธิการกุศล
ส่วนเงินในธนาคารสองพันล้านบาทรวมถึงโรงพยาบาลที่ให้คุณแก้วเกตดูแลอยู่ตอนนี้ยกให้ทายาทคนสุดท้ายหลังจากที่เธอได้แต่งงานกับทายาทของคุณแก้วเกตคือคุณกวินอยู่กินกันจนครบปีไปแล้วเท่านั้นหากไม่ได้แต่งและไม่ได้เจอทายาทคนสุดท้ายให้ยกโรงพยาบาลให้คุณแก้วเกตหรือทายาทของคุณแก้วเกตและเงิน2พันล้านยกให้การกุศล...”
จากสีหน้าของทุกคนที่มีแต่ความปิติคราแรกตอนนี้ดูจะเริ่มมีความกังวลโดยเฉพาะตัวกวินและพราวมุก
“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”“ใช่ค่ะ”พราวมุกเห็นด้วยก
“ผมบดข้าวกับตับให้ทะเลเรียบร้อยแล้วนะ”หลังจากที่พาทะเลกลับมาที่บ้านได้นนทวัตรถือถ้วยข้าวที่เขาพึ่งบดเสร็จออกมานั่งพร้อมหน้ากับหญิงสาวและเจ้าก้อนกลม“ขอบคุณค่ะ”ณจันทร์ยื่นมือรับถ้วยข้าวที่มือของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอเสียอย่างนั้นก่อนจะเข้ามานั่งตรงหน้าเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่บนรถเข็นแทน“วันนี้ผมขอป้อนเค้าบ้างได้หรือเปล่า”“ได้สิคะ”“อืม.. ฟู่”ข้าวบดคำโตที่เข้าปากเด็กชายไปตอนนี้ได้กระเด็นมาอยู่บนหน้าของนนทวัตรทั้งหมด“ทะเล”นนทวัตรรีบหันหน้าหลบร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกเจ้าตัวกลมจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว“เลอะหมดเลย”ณจันทร์รีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มทันทีและคิดว่าทะเลน่าจะไม่ชอบรสชาติของตับบดถึงได้พ่นออกมาแบบนี้“ทะเลน่าจะไม่ค่อยชอบรสชาติของตับบดน่ะค่ะเดี๋ยวฉันลองเอาฟักทองบดรวมดู”ณจันทร์เช็ดเหน้าให้นนทวัตรเรียบร้อยเธอจึงรีบเดินถือถ้วยข้าวเข้าไปในครัวใหม่เพื่อนำฟักทองที่ต้มแช่ตู่เย็นเอาไว้มาอุ่นและบดรวมไปกับข้าวของเด็กชายอีกครั้ง“แกล้งลุงเหรอห้ะ..เดี๋ยวก็ไม่ให้กินนมซะหรอก”นนทวัตรหันมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวกลมหลังจากที่หญิงสาวให้หลังไปแล้ว“แอ้ะ..”เจ้าแก้มยุ
“อืม..แต่ผมขอคุณอย่างเดียวขอแค่มีแค่ผมเท่านั้น”“ฉันยืนยันกับคุณอีกครั้งนะคะ...ว่าฉันเลิกกับไทม์แล้วจริงๆสิ่งที่คุณเห็นอาจจะเป็นเพราะไทม์อยากจะให้เราทะเลาะกันส่วนวันนั้นที่คุณเจอฉันที่ร้านอาหารกับผู้ชายคนอื่นมันไม่มีอะไรจริงๆค่ะ”“ผมจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง..ต่อไปนี้เราสงบศึกกันแล้วมาเรียนรู้กันให้มากขึ้นโอเคไหม”“ค่ะ”ร่างบางถูกรวบกอดเอาไว้แน่นคราแรกเธอตกใจพอสมควรแต่เมื่อได้รับอ้อมกอดที่อ่อนโยนอบอุ่นเธอก็เริ่มยิ้มออกมาได้..หญิงสาวเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าทำไมถึงได้เขินสายตาของชายหนุ่มแถมตอนนี้ยังไม่รู้สึกกลัวเขาอย่างก่อนหน้าว่าคงเป็นเพราะเธอน่าจะเริ่มมีใจให้ชายหนุ่มไปแล้วแน่นอนแอบตำหนิตัวเองที่เผลอใจจนได้แต่อีกใจก็ส่งเสียงบอกกับเธอว่าหากตอนนี้เป็นเวลาที่เธอจะได้มีความสุขก็ตักตวงมันไปให้เต็มที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันอย่างน้อยเธอก็มีเรื่องดีๆของเขาให้จดจำอาทิตย์ต่อมาธนกรเหมือนคนบ้าที่ตามหาปานตะวันไปทั่วไม่ว่าจะไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ถูกสารภีไล่กลับและบอกคำเดียวว่าปานตะวันไปต่างประเทศเขาไม่เคยเชื่อคำพูดของสารภีเพราะรู้ว่าตอนที่เขาคบกับปานตะวันเธอไม่ชอบหน้าเขาอยู่แล้ว นาทีนี้คนที่เขาจะขอความช่ว
วันต่อมา“หลับหรือยัง”นนทวัตรเดินมาชะเง้อหน้ามองหญิงสาวที่กำลังป้อนนมเจ้าตัวกลมที่จะหลับไม่หลับแหล่อยู่ที่หน้าประตูห้องนอน“กำลังจะหลับค่ะ”ณจันทร์เอ่ยกระซิบตอบกลับคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ“ผมลืมบอกคุณ..ลุงโนชบอกว่าอีกไม่กี่วันหมอก็จะให้ยิหวากลับแล้ว”“เหรอคะ..ฉันคงต้องคิดถึงทะเลมากๆแน่เลย”ณจันทร์ก้มมองหน้าเจ้าตัวกลมในอ้อมอกแอบใจหายเหมือนกันที่เธอจะไม่ได้เจอทะเลอีกแล้ว“เดี๋ยวผมจะพามาหาบ่อยๆดีหรือเปล่า”“ค่ะ”สาวเจ้าเริ่มมีแววตาไหววูบด้วยรู้ตัวว่าคงไม่มีเหตุที่จะต้องมาที่นี่อีกเพราะเมื่อกลับไปแล้วเธอก็คงจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นณจันทร์คนเดิมซ่า.. ซ่าา.. ช่วงเย็นแดดร่มลมตกณจันทร์อุ้มทะเลมานั่งเล่นที่ชายหาดเพื่อปล่อยให้หนูน้อยได้คลานเล่นกับธรรมชาติส่วนเธอก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องเก็บภาพแห่งความสุขเอาไว้แทบจะตลอดเวลาเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปจากที่นี่ในอีกไม่เท่าไร“ทะเลยิ้มให้น้าหน่อยสิครับ”“แอ้..”เจ้าตัวกลมหัวเราะร่าเล่นกล้องเรียกรอยยิ้มณจันทร์ให้ยิ้มตามได้เป็นอย่างดี“คุณ..”จู่ๆนนทวัตรก็กระโดดโผล่มาที่หน้ากล้องมือถือของณจันทร์ทำเอาสาวเจ้าตกอกตกใจจนแทบทำมือถือล่วง“คุณนน..ตกใจหมดค่ะ”“ถ
“จันทร์ขึ้นมาเร็ว”ณจันทร์ขมวดคิ้วมองพราวมุกที่กำลังเปิดประจกรถส่งเสียงเรียกเธอพร้อมกับณิชา“เอารถใครมารับเค้าเนี่ย”ณจันทร์ยืนเกาหัวแกลกๆที่ริมฟุตบาท“รถเค้าเองขึ้นมาเร็วๆจะพาไปดูบ้านใหม่”“บ้านใหม่”“งงล่ะสิเรื่องมันยาวเดี๋ยวถึงบ้านจะเล่าให้ฟัง..ขึ้นมาก่อนเร็ว”เมื่อณจันทร์ขึ้นรถมาได้พราวมุกก็รีบบึ่งพาเพื่อนไปที่บ้านหลังใหญ่ของตระกูลคุณยายเธอทันทีและหน้าที่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของณิชากว่าจะเล่ากันจบทั้งสามก็มาถึงที่บ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ตัวเป็นถึงทายาทเศรษฐีเลยเหรอ”ณจันทร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหรูหันมาจับตัวพราวมุกและมองไปรอบๆอีกครั้ง“ใช่ตอนแรกเค้าก็ไม่อยากจะเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้วและนี่ก็คือบ้านของเรา”“ใหญ่โตขนาดนี้ทำความสะอาดยังไงไหวล่ะเนี่ย”“เค้าก็ว่างั้นแล้วก็ไม่อยากเสียเงินจ้างแม่บ้าน..เค้าเลยไปดูบ้านใหม่เอาไว้แล้ว”“ซื้อใหม่”“ใช่..”พราวมุกพยักหน้าหงึกหงักเธอไม่ได้คิดจะอยู่บ้านหลังนี้ถาวรเพราะใหญ่โตเกินไปและไม่ได้คิดอยากจะชีวิตแบบผู้ดีที่มีแม่บ้านหรือคนรถมาคอยรองมือรองเท้าจึงคิดว่าจะไปหาซื้อบ้านหลังที่ไม่ใหญ่มากพอจะให้เธอและเพื่อนทั้งสองอยู่กันได้อย่างสบายก็พ
ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”“ขอโทษนะคะคุณนน”ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆบริษัทxxx“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”สาวเจ้ารีบส่ายห
“ไปต่างประเทศเหรอครับ”“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขาคอนโดxxx“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อ
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ