ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”
“ขอโทษนะคะคุณนน”
ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด
“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”
เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆ
บริษัทxxx
“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”
เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว
“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก
“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”
สาวเจ้ารีบส่ายหัวหงึกหงัก
“คิดมากไปแล้วค่ะจันทร์ไม่ได้เครียดอะไรเลย”
ที่เธอเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องงานแต่เป็นเพราะหลังจากที่ขาดการติดต่อกับนนวัตรไปคราแรกเธอคิดว่าเธอจะลืมเขาไปเองแต่ไม่เลยกลับคิดถึงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไม่รู้ว่าอาการแบบนี้จะหายไปเมื่อไรเหมือนกัน
“จันทร์ครับ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาวเจ้าของบริษัทอย่างเมฆาก็ค่อยใจชื้นที่ไม่ได้ใช้เลขาหนักจนเธอเครียด
“คะ”
“เย็นนี้จันทร์พอจะว่างไปทานข้าวกับพี่หรือเปล่า”
“จันทร์ว่างค่ะ”
“งั้นเก็บของแล้วไปรอพี่ที่หน้าบริษัทเลยนะครับ”
“ค่ะ”
หลังจากที่หญิงสาวรับนัดได้เมฆาก็รีบพาเธอมาที่ร้านอาหารโปรดของเขาทันทีเพราะวันนี้เขาต้องการเซอร์ไพรซ์อะไรบางอย่างกับเธอ
“ทานนี่สิครับกุ้งผัดพริกเกลือที่นี่ขึ้นชื่อมากเลยนะ”
เมฆาเห็นหญิงสาวนั่งทานอาหารเป็นแมวดมมาครู่หนึ่งแล้วเมื่อกุ้งผัดพริกเกลือจานใหญ่มาเสริฟเขาจึงรีบตักใส่จานให้เธอทันทีเพราะเชื่อว่าต้องถูกปากหญิงสาวแน่ด้วยเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่
“ค่ะ”
ยิ่งเห็นอาหารที่พึ่งวางในจานของตัวเองณจันทร์ก็เริ่มมีแววตาไหววูบเพราะเมนูนี้เป็นเมนูที่เธอทำเป็นประจำเมื่ออยู่ที่เกาะกับนนทวัตร
“ขอบคุณผู้หญิงครับ”
หลังจากทานอาหารกันได้อีกพักใหญ่จนเริ่มอิ่มแล้วณจันทร์ถูกพนักงานยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้ตรงหน้า
“เปิดใจคบกับพี่นะครับจันทร์..เมฆา”
สาวเจ้ารีบอ่านข้อความในโน๊ตเพราะเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่ของเธอและข้อความในนั้นก็ทำให้เธอหน้าเสียพอสมควร
“พี่เมฆ”
“พี่สารภาพตามตรงว่าพี่รู้สึกดีกับจันทร์มานานมากแล้วถ้าจันทร์ยังไม่มีใครพี่ขอดูแลจันทร์ในฐานะที่มากกว่าพี่ชายได้หรือเปล่าครับ”
เมฆาว่าเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน
“คือ..จันทร์ต้องขอโทษพี่เมฆด้วยนะคะ…จันทร์เห็นพี่เมฆเป็นพี่ชายมาโดยตลอดแล้วก็น่าจะตลอดไปด้วยเราคบกันแบบพี่น้องต่างคนต่างหวังดีต่อกันจันทร์ว่าเป็นแบบนี้ดีกว่านะคะ”
คำตอบของณจันทร์ทำเมฆาหน้าเจื่อนด้วยหวังเอาไว้เต็มที่ว่าหญิงสาวจะตอบตกลงเพราะเธอก็ยังไม่มีใครตามที่ณิชาบอก
“เอ่อ..ก็..ถ้าจันทร์เห็นว่าเป็นแค่พี่น้องดีแล้วพี่ก็เคารพการตัดสินใจของจันทร์…เอาเป็นว่าลืมเรื่องนี้ไปเนอะ”
ชายหนุ่มเริ่มทำตัวไม่ถูกแต่ก็พยายามจะดึงให้สถานการณ์ของเธอและเขาเป็นปกติเพราะจะต้องทำงานด้วยกันต่อ
“ค่ะ”
ณจันทร์รู้ว่าเมฆาคงมีแอบเสียใจบ้างแต่เธอก็ต้องบอกไปตามตรงเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมและพอจะรู้แล้วว่าเพราะอะไรณิชาถึงตั้งคำถามกับเธอเรื่องความรักในวันนั้นไม่พ้นรู้กันกับเมฆามาก่อนแน่
“เก็บของเสร็จหรือยังหนม”
ณจันทร์เก็บของเตรียมย้ายเข้าบ้านใหม่เสร็จก็เข้ามาหาณิชาในห้องเผื่อว่าเพื่อนจะมีอะไรให้ช่วย
“เรียบร้อยแล้ว”
“หนม..ถามไรหน่อยสิ”
ณจันทร์ทิ้งตัวลงนั่งข้างณิชาด้วยอยากจะถามเรื่องคาใจให้รู้เรื่องว่าจริงอย่างที่เธอคิดหรือไม่
“ว่า”
“ที่หนมถามเค้าเรื่องจะมีคนมาสารภาพรักหนมรู้ใช่ไหมว่าใคร”
ณิชาก้มหน้างุดก่อนจะเลยหน้ามาตอบคำถามด้วยรอยยิ้มเจื่อน
“พี่เมฆบอกตัวแล้วเหรอ”
“อืม”
“แล้วตัวว่าไง”
ณิชาอยากจะรู้เหมือนกันว่าณจันทร์จะตอบเมฆาไปว่าอย่างไรหากตอบตกลงคบกันเธอก็ขอยินดีด้วยแต่หากณจันทร์ปฏิเสธเมฆาเธอคงต้องห่วงสภาพจิตใจชายหนุ่มน่าดู
“ก็บอกไปตามตรงว่าเป็นพี่น้องแบบนี้ดีแล้วเพราะเค้าไม่เคยคิดเกินเลยกับพี่เมฆเลย”
“แล้วพี่เมฆเสียใจมากไหม…เค้าดูโอเคหรือเปล่า”
ณิชาเริ่มหน้าเสียเพราะเป็นห่วงเมฆาจนณจันทร์จับสังเกตได้ว่าเพื่อนเธอมีท่าทีกังวลมากเป็นพิเศษทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
“ทำไมตัวดูห่วงพี่เมฆจัง”
“ก็..แค่..คือ…เค้า”
ณิชาก้มหน้าอีกรอบคราวนี้ไม่กล้าเงยหน้าสบตาณจันทร์เพราะไม่อยากตอบคำถามนี้และพฤติกรรมเช่นนี้ก็ทำให้ณจันทร์รู้แล้วว่าทำไมณิชาถึงได้ชอบอมยิ้มคนเดียวเมื่อพูดถึงเมฆา
“อึกอักแบบนี้ปิดบังอะไรเค้าอยู่เปล่า…ตัวคิดอะไรกับพี่เมฆเหรอ”
ณจันทร์พยายามเค้นคนที่กำลังหน้าแดงให้ได้คำตอบทั้งที่ในใจตอนนี้เดาออกแล้ว
“ถามอะไรแบบนี้เล่าจันทร์..เค้าก็แค่ห่วงพี่เมฆปกติ..จริงๆนะ”
“ถ้ามีคำว่าจริงๆนะ…แสดงว่าตัวพูดไม่จริง..รู้สึกกับพี่เมฆตั้งแต่เมื่อไรบอกเค้ามาเลย”
คราวนี้เป็นฝ่ายณจันทร์ที่เค้นณิชาบ้าง
“หื้มม..”
ณิชาจ้องหน้าณจันทร์ทั้งบุ้ยปากคิดว่าหากไม่ตอบคงถูกเค้นไม่เลิกแน่
“ถ้าเค้าบอกแล้วห้ามบอกใครด้วย”
“โอเค”
ณจันทร์ยื่นมือจับมือของณิชาไว้อย่างกระชับเป็นสัญญาว่าเธอจะเก็บสิ่งที่ได้ยินเอาไว้อย่างเงียบสนิท
“ตอนเจอกันครั้งแรก”
คำตอบของณิชาทำณจันทร์ตกใจจนอ้าปากค้างไม่คิดว่าที่ผ่านมาเพื่อนเธอจะปกปิดความรู้สึกเก่งจนจับอะไรไม่ได้
“โห…ปิดมาได้ไงตั้งหลายปี”
“ช่างมันเถอะ..”
“คิดจะบอกพี่เมฆบ้างหรือเปล่า”
“บางทีการมีสถานะแค่พี่น้องแบบนี้ก็ดีมากแล้ว”
ณิชาส่ายหัวหงึกหงักเรื่องนี้เธอจะไม่พูดเด็ดขาดเพราะรู้แล้วว่าคนในใจของชายหนุ่มไม่ใช่เธอ ณจันทร์เห็นด้วยกับณิชาส่วนหนึ่งแต่อีกใจก็อยากให้ณิชาบอกไปตามตรงผลออกมาอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกทีแต่อย่างไรเธอก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนอยู่แล้ว
“ไปต่างประเทศเหรอครับ”“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขาคอนโดxxx“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อ
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั