“จันทร์ขึ้นมาเร็ว”
ณจันทร์ขมวดคิ้วมองพราวมุกที่กำลังเปิดประจกรถส่งเสียงเรียกเธอพร้อมกับณิชา
“เอารถใครมารับเค้าเนี่ย”
ณจันทร์ยืนเกาหัวแกลกๆที่ริมฟุตบาท
“รถเค้าเองขึ้นมาเร็วๆจะพาไปดูบ้านใหม่”
“บ้านใหม่”
“งงล่ะสิเรื่องมันยาวเดี๋ยวถึงบ้านจะเล่าให้ฟัง..ขึ้นมาก่อนเร็ว”
เมื่อณจันทร์ขึ้นรถมาได้พราวมุกก็รีบบึ่งพาเพื่อนไปที่บ้านหลังใหญ่ของตระกูลคุณยายเธอทันทีและหน้าที่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของณิชากว่าจะเล่ากันจบทั้งสามก็มาถึงที่บ้านกันเรียบร้อยแล้ว
“ตัวเป็นถึงทายาทเศรษฐีเลยเหรอ”
ณจันทร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหรูหันมาจับตัวพราวมุกและมองไปรอบๆอีกครั้ง
“ใช่ตอนแรกเค้าก็ไม่อยากจะเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้วและนี่ก็คือบ้านของเรา”
“ใหญ่โตขนาดนี้ทำความสะอาดยังไงไหวล่ะเนี่ย”
“เค้าก็ว่างั้นแล้วก็ไม่อยากเสียเงินจ้างแม่บ้าน..เค้าเลยไปดูบ้านใหม่เอาไว้แล้ว”
“ซื้อใหม่”
“ใช่..”
พราวมุกพยักหน้าหงึกหงักเธอไม่ได้คิดจะอยู่บ้านหลังนี้ถาวรเพราะใหญ่โตเกินไปและไม่ได้คิดอยากจะชีวิตแบบผู้ดีที่มีแม่บ้านหรือคนรถมาคอยรองมือรองเท้าจึงคิดว่าจะไปหาซื้อบ้านหลังที่ไม่ใหญ่มากพอจะให้เธอและเพื่อนทั้งสองอยู่กันได้อย่างสบายก็พอ
“เอ่อ..ตัวบอกว่าจะต้องย้ายไปอยู่กับคุณกวินตามสัญญาจะซื้อใหม่ทำไม”
ณจันทร์จำได้ว่าณิชาบอกกับเธอบนรถว่าพราวมุกจะต้องย้ายไปอยู่กับกวินทำไมจะต้องซื้อบ้านใหม่อีก
“ก็ให้ตัวสองคนอยู่ไง..ต่อไปนี้เค้าจะเลี้ยงพวกตัวเอง”
“ขอบใจแค่ให้ที่พักอาศัยเค้าก็พอเค้าเลี้ยงตัวเองได้น่า”
ณิชายกจานผลไม่มาวางหน้าเพื่อนทั้งสองและกล่าวปฏิเสธพราวมุกที่เสนอตัวว่าจะเลี้ยงเพราะเธอไม่อยากทำตัวเป็นคนไร้ประโยชน์
“ใช่ๆ”
ณจันทร์เห็นด้วยเช่นที่ณิชาพูด
“ว่าแล้วต้องพูดแบบนี้...ช่างเถอะตัวสองคนอยากได้อะไรก็ว่ามาเลยเค้าจะซื้อให้ทุกอย่าง”
“พระอาทิตย์”
ณิชาเอ่ยหยอกพราวมุกขณะหย่อนก้นนั่งลงที่โซฟาเดียวกับเพื่อนทั้งสอง
“กวนประสาทเค้าเหรอหนม”
“ฮ่าๆๆๆ..”
ณจันทร์หัวเราะร่ามีความสุขได้เต็มอกอีกครั้งเมื่อได้กลับมาสู่ชีวิตที่อยู่กับเพื่อนๆเหมือนเดิม
“เออจันทร์ไปที่เกาะตั้งนานเป็นไงบ้าง”
“ก็เหมือนไปพักผ่อนเฉยๆน่ะไม่ได้มีอะไร”
“แล้วหลังจากนี้ตัวก็ไม่ต้องเป็นคุณตะวันอีกแล้วใช่ไหม”
“ถ้าบังเอิญเจอกลุ่มคนรู้จักคุณปานตะวันก็คงเล่นตามน้ำไปเพราะตอนนี้ปานตะวันตัวจริงก็ยังไม่กลับมาเลย”
“เห็นใจคุณโสเหมือนกันเนอะ”
“ใช่คุณโสดูน่าสงสารมากๆ”
ณจันทร์พยักหน้าตอบพราวมุกด้วยสีหน้าที่เจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงความเศร้าของโสภิตา
“อืม.. อย่าพูดเรื่องเศร้าเลยทานของอร่อยกันดีกว่า”
เป็นณิชาที่เรียกเพื่อนทั้งสองให้ทานผลไม้ที่เธอพึ่งปอกมาใหม่ๆวันนี้เป็นวันดีที่พวกเธอได้กลับมารวมตัวกันเสียทีจึงไม่อยากให้มีเรื่องหดหู่อะไรในวงสนทนา
“ห้องตัวเค้าเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”
พราวมุกพาณจันทร์มาดูห้องนอนหลังจากที่ทานข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้วห้องของหญิงสาวอยู่มุมสุดของบ้านชั้นบนติดกับห้องของณิชา
“ขอบใจนะ...แปลกๆนิดนึงเนอะไม่ได้นอนรวมกันแล้ว”
ณจันทร์กวาดสายตาดูด้านในก็รู้สึกได้ถึงความสบายเพราะห้องนอนค่อนข้างกว้างขวางแต่ก็แอบนึกถึงบรรยากาศเก่าๆอยู่พอสมควร
“แปลกเหมือนกันตอนนี้เค้าก็ยังไม่ชิน”
ณิชาเห็นว่าณจันทร์คงรู้สึกเช่นเดียวกับเธอที่นอนคนเดียวครั้งแรกแต่ก็มองไปยังอนาคตว่าอย่างไรวันหนึ่งวันใดพวกเธอก็ต้องแยกกันไปมีครอบมีครัวกันอยู่ดี
“เออ..ตัวเปลี่ยนมือถือใหม่เหรอ”
พราวมุกมองไปที่มือของณจันทร์เธอสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อครู่แล้วตอนนี้ถึงได้ถามเสียที
“ใช่..คุณนนซื้อให้..พอดีเค้าเผลอทำล่วงแตกน่ะ”
“เดี๋ยว..แล้วหน้าจอ”
ณิชามองไปที่หน้าจอของณจันทร์เธอไม่ได้ตั้งใจละลาบละล้วงแต่รูปคู่ณจันทร์และนนทวตรทำพราวมุกและณิชาเริ่มมองหน้ากันด้วยสายตาสงสัย
“ไม่ได้มีอะไรเกินเลยใช่หรือเปล่า”
พราวมุกเป็นคนเอ่ยถามณจันทร์ตามตรง
“ไม่มีจริงๆ”
“จันทร์..”
ครั้งนี้ณิชาเป็นฝ่ายเรียกเพื่อนบ้างเพราะเห็นว่าณจันทร์กำลังอมยิ้มอ่อนเมื่อพูดถึงนนทวัตรจึงพอจะจับทางได้ว่าเพื่อนตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไรกับชายหนุ่ม
“หืม”
“ตัวชอบคุณนนเหรอ”
ณจันทร์ไม่ได้ให้คำตอบอะไรเพื่อนทั้งสองได้แต่ก้มหน้างุดหลบสายตาเท่านั้นและพฤติกรรมเช่นนี้สองสาวไม่ต้องเค้นคำตอบจากปากของณจันทร์ก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเธอมีใจให้นนทวัตรไปแล้วจริงๆ
“งานเข้าแล้วสิ”
พราวมุกหันมามองหน้ากับณิชาด้วยความหวั่นใจห่วงความรู้สึกของณจันทร์
“เค้าจะพยายามไม่ให้ตัวเองเจอคุณนนอีก...มันคงเป็นแค่ความรู้สึกดีๆชั่วขณะน่ะเดี๋ยวเค้าก็ลืมพวกตัวไม่ต้องห่วงนะ”
“ตัวคิดแบบนั้นได้แต่จะทำได้จริงใช่ไหม”
ณิชาถามณจันทร์เสียงอ่อนเพราะเธอก็เคยคิดแบบนี้แต่พอเจอเมฆาเธอก็รู้ตัวว่าทำใจไม่ได้เลย
“ก็..ไม่รู้..แต่เค้าเชื่อว่าถ้าเค้าไม่เจอคุณนนอีกเดี๋ยวก็ลืมได้จริงๆ”
ณจันทร์เริ่มอึกอัก
“สู้ๆนะพวกเราอยู่ตรงนี้”
พราวมุกและณิชาโผเข้ากอดณจันทร์เอาไว้แน่น
“ขอบใจนะ”
ณจันทร์รับรู้ได้ถึงกำลังใจจากเพื่อนๆที่ส่งให้และเธอก็จะพยายามทำใจให้ได้เร็วที่สุด
ณจันทร์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทิ้งตัวลงนอนได้เธอก็นึกถึงตอนที่อยู้ที่เกาะเธอนึกถึงวันเวลาดีๆจนอดที่จะเปิดคลิปวิดีโอที่เคยถ่ายเอาไว้ไม่ได้
“ถ่ายแต่ทะเลไม่ถ่ายผมบ้างเหรอ”
“ก็ถ่ายอยู่นี่ไงคะ”
สาวเจ้านอนยิ้มมองภาพเคลื่อนไหวในหน้าจอมือถือด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขแต่ก็ต้องกำชับกับตัวเองที่ว่ามีความสุขที่เห็นภาพเหล่านี้ได้แต่ต้องไม่รู้สึกดีกับนนทวัตรไปมากกว่านี้
ก๊อกๆๆ
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูณจันทร์ก็รีบปิดมือถือและรีบสาวเท้ามาเปิดประตู
แกร๊ก..
“มีอะไรเหรอหนม”
เป็นณิชาที่เข้ามาเคาะประตูของณจันทร์ในช่วงเวลาเกือบกลางดึก
“เค้าจะมาบอกว่าพี่เมฆรู้เรื่องหมดแล้วนะ”
“เค้ารู้ได้ยังไง”
ณจันทร์รีบดึงณิชาเข้ามานั่งคุยกันในห้อง
“ก็ตัวหายไปพี่เมฆติดต่อไม่ได้เลยนัดเจอกับเค้าแล้วก็ถามเรื่องที่มีผู้ชายมาดึงตัวจันทร์ไปเค้าก็เลยเล่าความจริงให้ฟัง..ตัวไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ไม่หรอกเค้าเองก็อยากอธิบายกับพี่เมฆเหมือนกันจู่ๆก็หายไปทั้งที่ไปทำงานได้แค่วันเดียว”
“เค้าถามอะไรได้หรือเปล่า”
ณิชาค่อยโล่งใจที่กลัวว่าณจันทร์จะโกรธที่เธอกุมความลับไม่อยู่เสียอีก
“ว่ามาสิ”
“ถ้ามีคนมาสารภาพรักกับตัว..ตัวจะพร้อมเปิดใจกับเค้าหรือเปล่า”
“อืม..ไม่มีใครมาสารภาพรักกับเค้าหรอกถามทำไมเหรอ”
ณจันทร์ส่ายหัวในทันที
“อ๋อ..เปล่าเค้าก็ถามไปงั้นเค้าไปนอนละนะ”
ณิชาเพียงถามลองใจณจันทร์เท่านั้นถึงจะรู้ว่าในตอนนี้ณจันทร์ยังคงมีนนวัตรอยู่ในใจแล้วเมฆาจะมีความหวังหรือไม่คำตอบที่ณิชาเดาจากคำพูดของณจันทร์ได้คือตอนนี้คนอื่นนอกจากนนทวัตรไม่สิทธิ์ในหัวใจของเพื่อนเธอเลย
“โอเค”
ณจันทร์มองตามหลังณิชาด้วยความสงสัยเพราะปกติณิชาไม่เคยถามเธอหรือเอ่ยถึงเรื่องรักๆใคร่ๆเท่าไรนักแต่เธอก็ขอเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจเพราะไม่อยากเอาเรื่องอะไรมาใส่หัวอีกแล้ว
ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”“ขอโทษนะคะคุณนน”ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆบริษัทxxx“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”สาวเจ้ารีบส่ายห
“ไปต่างประเทศเหรอครับ”“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขาคอนโดxxx“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อ
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส