“ไปต่างประเทศเหรอครับ”
“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”
“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”
นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก
“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขา
คอนโดxxx
“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”
ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน
“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อตะวันไม่ได้นี่แหละครับ”
“เพื่อนๆล่ะ..ให้เพื่อนตะวันติดต่อให้สิใช้วิธีอะไรก็ได้…เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ทำยังไงก็ได้ให้ตะวันไปที่ร้านxxxตอนสองทุ่ม”
“ครับ..ผมจะลองดู”
ธนกรเห็นว่าแผนของลลิตาเป็นความคิดที่ดีแต่เขาก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะเรียกตัวปานตะวันมาสำเร็จหรือเปล่า
วันต่อมา
“จันทร์..คุณโสจะคุยด้วยบอกว่าโทรหาจันทร์ไม่ติด”
ณิชายื่นมือถือของเธอมาให้ณจันทร์
“สวัสดีค่ะคุณโส…ค่ะ…เย็นนี้สะดวกค่ะจันทร์ไปให้ได้ค่ะ”
ปลายสายโทรมาบอกว่าวานให้เธอไปเจอเพื่อนของปานตะวันเย็นนี้ที่ร้านอาหารXXXสาวเจ้าตอบตกลงไปอย่างไม่ลังเล
“มีอะไรเหรอ”
“คุณโสบอกว่าคุณวาวากับยาหยีอยากเจอคุณจะวันนัดไปทานข้าวเย็นนี้”
“ต้องไปเป็นปานตะวันอีกแล้วเหรอ”
ณิชามีสีหน้ากำลังวลแทนณจันทร์ที่จะต้องสวมรอยเป็นปานตะวันอีกแล้ว
“ถือว่าช่วยคุณโสไม่เป็นไรหรอกเค้าให้เงินเรามารักษาแม่ครูตั้งเยอะ”
ณจันทร์พร้อมจะช่วยโสภิตาอยู่แล้วยกเว้นเรื่องเดียวที่เธอทำไม่ได้ตอนนี้คือเรื่องที่จะต้องไปเจอกับนนทวัตร
ร้านอาหาร
ใจกลางเมืองใหญ่ในช่วงหัวค่ำที่เต็มไปด้วยรถยนต์และผู้คนขวักไขว่ไปมาที่แถวโซนหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ตอนนี้นนทวัตรเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูที่อยู่ไม่ห่างจากห้างดังนักเพราะถูกลลิตานัดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าขอคุยเรื่องงานด้วยที่ร้านอาหารแห่งนี้
“สวัสดีครับคุณลิตา”
“เชิญนั่งก่อนค่ะคุณนน”
“คุณลิตานัดผมมาคุยที่นี่ทีเรื่องอะไรเหรอครับ”
ชายหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งตรงข้างสาวสวยไฮโซได้ก็เกริ่นถามเรื่องธุระที่จะคุยทันที
“ลิตาว่าจะแสดงความยินดีที่คุณหมั้นด้วยตัวเองตั้งนานแล้วล่ะค่ะแต่ก็ไม่ได้เจอคุณสักที”
“อ๋อ..ขอบคุณครับ”
“แล้วลิตาจะมาบอกว่าปีหน้าทั้งปีลิตาขอจองรีสอร์ทที่ภูเก็ตตลอดทั้งปีเลยนะคะเพราะมีลูกทัวร์มาตลอด”
“ยินดีมากๆเลยครับ”
สองหนุ่มสาวนั่งทักทายกันได้ไม่กี่นาทีอาหารที่ลลิตาสั่งเอาไว้ก็วางเรียงรายเต็มโต๊ะและลลิตาก็หาเรื่องคุยกับนนทวัตรไปเรื่อยส่วนมากจะเป็นเรื่องอื่นเสียมากกว่าเรื่องงานเพราะเธอต้องการที่จะถ่วงเวลาชายหนุ่มให้ได้นานที่สุดเพื่อรอปานตะวันเข้ามาที่นี่เพื่อมาที่โต๊ะของนนทวัตรที่อยู่ไม่ไกลจากเธอนัก
ณจันทร์อยู่ในชุดเดรสเกาะอกกระโปรงสั้นแต่งตัวในลุคคุณหนูปานตะวันเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารในโซนเอาท์ดอร์ตามที่ยาหยีโทรมาบอกเธอ
“ทำไมเป็นคุณล่ะ”
แต่เมื่อมาถึงเธอก็ต้องตกใจเมื่อคนที่กำลังยืนรอต้อนรับเธออยู่ที่โต๊ะคือธนกรเพราะเป็นธนกรเองที่สร้างเรื่องว่าอยากขอโทษปานตะวันจริงๆเลยให้ยาหยีและวาวาช่วยโทรนัดกับที่บ้านหญิงสาวให้
“คือเค้าแค่อยากขอโทษตะวันที่ทำเรื่องไม่สมควรลงไปเลยวานให้เพื่อนตะวันติดต่อไป”
“รู้สึกผิดจริงๆก็อยู่ให้ห่างฉันดีกว่าค่ะ..ขอตัวนะคะ”
ตอนนี้ณจันทร์ไม่อยากจเชื่อคำพูดอะไรของธนกรอีกแล้วเพราะไม่รู้ว่าเขามีแผนอะไรมาสร้างความเดือดร้อนให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายอีกเมื่อคนที่โต๊ะอาหารไม่ใช่วาวากับยาหยีเธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ธนกรรั้งมือของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมให้เธอออกไปง่ายๆเพราะยังไงก็ต้องให้นนทวัตรมาเห็นเขาและหญิงสาวอยู่ด้วยกันให้ได้
“เดี๋ยวสิตะวันแม้แต่ความเป็นเพื่อนตะวันก็ไม่เหลือให้เค้าเลยเหรอ”
“ปล่อย”
ลลิตาที่เริ่มเห็นว่าตอนนี้ธนกรกำลังดำเนินตามแผนเธอจึงรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปมองตามเธอ
“นั่นน้องลิตากับคุณตะวันนี่คะสองคนนั้นเค้ารู้จักกันด้วยเหรอ”
ภาพสองหนุ่มสาวที่ยืนจับมือกันอย่างไม่สนสายตาคนในร้านอาหารทำนนทวัตรกำมือแน่นที่แท้ที่เขาติดต่อหญิงสาวไม่ได้ก็เพราะเธอขลุกอยู่กับคนที่โกหกว่าเลิกราแล้วนี่เอง
“เอ่อ…ผมขอตัวก่อนนะครับคุณลิตา”
“อ่อค่ะ..”
ลลิตามองตามหลังคนที่เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าระรื่นเพราะทุกอย่างเหมือนจะเป็นใจกับแผนการของเธอและวันนี้เธอก็พอจะรู้ว่านนทวัตรและปานตะวันต้องบาดหมางกันไม่มากก็น้อยแน่นอน
“ตะวัน”
นนทวัตรกระชากหญิงสาวที่กำลังจับไม้จับมือกับธนกรจนตัวของเธอเซถลามาซบอยู่ที่อกของเขา
“คุณนน”
ณจันทร์แทบจะหยุดหายใจด้วยรู้ว่าเธอจะต้องเจอกับสถานการณ์เลวร้ายอีกแน่นอน
“รู้แล้วใช่ไหมว่าตะวันไม่มีวันเลิกกับผม”
คำพูดของธนกรที่เอ่ยเสียงแข็งด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ทำณจันทร์รู้ได้เบยว่านี่คงเป็นแผนของธนกรอีกแน่นอนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาสาธยายความชั่วของผู้ชายคนนี้จริงๆ
“พูดอะไรของคุณ”
ณจันทร์ยังไม่ทันได้ต่อว่าธนกรให้สาแก่ใจตัวของเธอก็ถูกนนทวัตรรวบเอวลากออกไปจากร้านอาหารแล้ว
“ผมติดต่อคุณไม่ได้ไปหาคุณที่บ้านแม่คุณก็บอกว่าคุณไปต่างประเทศกับเพื่อนที่แท้ก็มาพลอดรักกับผู้ชายคนเก่าที่โกหกผมครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเลิกกับมันแล้ว”
นนวัตรจับคุณหนูคนสวยมาไว้ที่เบาะข้างคนขับได้ก็บึ่งรถพาเธอออกไปจากที่นี่ด้วยความรวดเร็วทั้งยังไม่วายสบถเสียงแข็งใส่หญิงสาวเพราะตอนนี้เขาโกรธเธอมากจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เพราะมันไม่ใช่แค่รู้สึกถูกหยามหน้าอย่างครั้งก่อนแต่รู้สึกว่าตัวเองถูกสวมเขาถูกทำร้ายจิตไจไปไปด้วย
“ฉันไม่ได้ยุ่งกับไทม์แล้วจริงๆนะคะ”
ณจันทร์ไม่รู้ว่าครั้งนี้นนทวัตรจะยอมเชื่อเธอหรือเปล่า
“เห็นอยู่กับตายังจะมาโกหกตาใสอีก..เป็นคนแบบไหนกันแน่หลอกทำดีตีหน้าซื่อให้ผมตายใจว่าคุณเป็นคนดีจะได้พาคุณออกจากเกาะเท่านั้นใช่ไหม”
ณจันทร์เริ่มน้ำตาคลอรู้ได้เลยว่านนทวัตรคงเจ็บใจมากเพราะเหมือนถูกโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่ใช่นะคะ”
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั
“ฮือๆ..อือ..ฮื่อๆๆ..”ณ บ้านแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแม้นที่นี่จะมีชื่อว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแต่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้เมื่อเลยกลางดึกบ้านแทบทุกหลังก็เงียบสงัดต่างจากบ้านของพราวมุกที่มีเพื่อนสาวที่กำลังอกหักอย่างณจันทร์ร้องห่มร้องให้เจียนขาดใจ“จันทร์เอ้ย..จะเป็นปกติได้เมื่อไรล่ะเนี่ย”พราวมุกสาวสวยร่างสูงเอ่ยกับณิชาเพื่อนรักอีกคนที่ยืนกอดอกมองณจันทร์กันอยู่ห่างๆ ทั้งสองรู้ว่าณจันทร์เป็นคนที่อ่อนแอและอ่อนไหวง่ายแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเห็นเพื่อนรักเสียใจปานขาดใจเช่นนี้“เราเข้าไปหาจันทร์ดีไหม”“หนม..”ยังไม่ทันที่สาวแว่นตัวเล็กอย่างณิชาจะเลื่อนประตูกระจกไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็ถูกพราวมุกดึงแขนเอาไว้ก่อน“ตัวก็รู้ว่าจันทร์ไม่ชอบให้เราเห็นอาการเสียใจขืนเราเข้าไปจันทร์ก็ทำตัวเข้มแข็งไม่ยอมปล่อยความเสียใจออกมาอีกให้จันทร์ได้ร้องระบายความทุกข์ออกมาให้มากที่สุดดีกว่าพรุ่งนี้เราค่อยชวนจันทร์ทำกิจกรรมอย่างอื่นให้สบายใจขึ้น”“ก็จริงอย่างที่ตัวว่านะพราว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับจันทร์ขนาดนี้นะ”ณิชาหน้าเสียเธอสองจิตสองใจแต่ก็ยอมปล่อยให้ณจันทร์ร้องให้ไปคนเดียวไปก่อนแอบสงสารเพื