“ฮือๆ..อือ..ฮื่อๆๆ..”
ณ บ้านแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแม้นที่นี่จะมีชื่อว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแต่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้เมื่อเลยกลางดึกบ้านแทบทุกหลังก็เงียบสงัดต่างจากบ้านของพราวมุกที่มีเพื่อนสาวที่กำลังอกหักอย่างณจันทร์ร้องห่มร้องให้เจียนขาดใจ
“จันทร์เอ้ย..จะเป็นปกติได้เมื่อไรล่ะเนี่ย”
พราวมุกสาวสวยร่างสูงเอ่ยกับณิชาเพื่อนรักอีกคนที่ยืนกอดอกมองณจันทร์กันอยู่ห่างๆ ทั้งสองรู้ว่าณจันทร์เป็นคนที่อ่อนแอและอ่อนไหวง่ายแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเห็นเพื่อนรักเสียใจปานขาดใจเช่นนี้
“เราเข้าไปหาจันทร์ดีไหม”
“หนม..”
ยังไม่ทันที่สาวแว่นตัวเล็กอย่างณิชาจะเลื่อนประตูกระจกไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็ถูกพราวมุกดึงแขนเอาไว้ก่อน
“ตัวก็รู้ว่าจันทร์ไม่ชอบให้เราเห็นอาการเสียใจขืนเราเข้าไปจันทร์ก็ทำตัวเข้มแข็งไม่ยอมปล่อยความเสียใจออกมาอีกให้จันทร์ได้ร้องระบายความทุกข์ออกมาให้มากที่สุดดีกว่าพรุ่งนี้เราค่อยชวนจันทร์ทำกิจกรรมอย่างอื่นให้สบายใจขึ้น”
“ก็จริงอย่างที่ตัวว่านะพราว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับจันทร์ขนาดนี้นะ”
ณิชาหน้าเสียเธอสองจิตสองใจแต่ก็ยอมปล่อยให้ณจันทร์ร้องให้ไปคนเดียวไปก่อนแอบสงสารเพื่อนรักจับหัวใจเพราะเด็กกำพร้าอย่างพวกเธอถือว่าอาภัพพ่อแม่อยู่แล้วตอนนี้ยังต้องมาดูเพื่อนอาภัพเรื่องความรักอีก
สามสาวณจันทร์พราวมุกและณิชาเป็นเด็กในบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมดูแลโดยแม่ครูดวงเดือนทั้งสามมาอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังแบเบาะมาในวันและเวลาที่ไล่เลี่ยกันมากแม้นจะมีบุคลิกลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันพอสมควรแต่ทั้งสามก็เข้ากันได้ดีและเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เล็กจนโต
ณจันทร์เป็นหญิงสาวน่าตาน่ารักน่าชังตัวเล็กไม่สูงมากผิวขาวผมีดำตรงสลวยจนถึงกลางหลังใบหน้าของเธอเป็นรูปไข่คิ้วบางได้รูปดวงตากลมโตขนตางอนยาวปากนิดจมูกหน่อย เป็นคนที่ดูท่าจะอ่อนแอที่สุดในสามคนแต่ลึกๆแล้วเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวที่สุดก็ว่าได้
ณิชามีผมสีน้ำตาลหยักศกยาวประบ่าขนาดตัวพอๆกับณจันทร์เธอพอจะมีทรวดทรงองเอวและดูมีเนื้อมีหนังกว่าณจันทร์เล็กน้อยสาวเจ้าเป็นคนหน้ากลมสวมแว่นหนาเพราะเป็นคนสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กๆ คิ้วเรียวสวยและดวงตากลมโตดั่งลูกแมวน้อยของเธอจึงถูกแว่นหนาๆบดบังอยู่แทบจะตลอดเวลา จมูกมีความโด่งเล็กน้อยโค้งมนตรงปลายดั่งลูกชมพู่ริมฝีปากบางได้รูปมีแก้มเป็นพวง ณิชาเป็นคนที่ค่อนข้างเรียบร้อย แอบโก๊ะเล็กน้อยเพราะความที่ชอบทำอะไรซุ่มซ่ามแทบจะตลอดเวลา
ในส่วนของพราวมุกเธอดูโดดเด่นที่สุดในทั้งสามคนเพราะเป็นคนที่สวยเทียบกับนางแบบเลยก็ว่าได้เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างสูงผมยาวดกดำสลวยหน้าเรียวสวยคิ้วเข้มตาคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรียกได้ว่าเครื่องหน้าเครื่องตัวครบ และเป็นคนที่ดูมั่นใจมากที่สุดในทั้งสาม เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างท้าชนได้กับทุกเรื่อง แต่ลึกๆแล้วเธอก็ชอบเอาความเข้มแข็งปกปิดความอ่อนแอในใจเท่านั้น และไม่นานมานี้เธอก็พึ่งได้รู้ว่าตัวเองเป็นถึงทายาทเศรษฐีที่ถูกตามหาตัวตั้งแต่เด็ก แม้จะรู้ตัวว่าโชคดีที่รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใครและได้มีมรดกเป็นพันล้านไว้ให้ได้ใช้แต่เธอก็ยังมีความโชคร้ายที่มารู้ว่ามีพ่อแม่ก็เมื่อตอนที่พวกท่านทั้งสองเสียไปแล้วเท่านั้นหนำซ้ำญาติมิตรก็ไม่มีใครเหลือไว้ให้ได้เคารพกันสักคน
+++
เพล้ง..เพล้ง
ในห้องวีไอพีของผับหรูย่านใจกลางเมืองตอนนี้มีนนทวัตรประธานหนุ่มมาดเนี้ยบที่กำลังเมาได้ที่นอนกลิ้งไปมาบนโซฟามือไม้ปีดป่ายกวาดขวดน้ำเมาหล่นล่วงกระจายสภาพของประธานหนุ่มตอนนี้สลัดคราบความเนี้ยบออกไปสิ้นเชิง
“เฮ้อ..”
กวินเจ้าของผับหรูยืนกอดอกมองสภาพเพื่อนที่กำลังมีแผลใจด้วยสายตาเวทนาตอนนี้สิ่งที่เขาทำให้นนทวัตรได้ก็คงจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆให้เพื่อนนั้นระบายความเสียใจออกมาให้พอเท่านั้น
นนทวัตร เสธวัฒน์สกุล เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของภัทรพลและอนงค์นาถ เสธวัฒน์สกุล เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้ชายหนุ่มขึ้นแท่นเป็นท่านประธานช่วยกันกับพี่ชายคนกลางในการบริหารรีสอร์ทในต่างจังหวัดในเครือบริษัทแม่ในวัยเพียง31ย่าง32เท่านั้น เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลามาดเนี้ยบ สูง185รูปร่างกำยำ หน้าตาคมไร้หนวดเคราเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน ทรงผมรองทรงสูง บุคลิกสุขุมนุ่มลึกเฉกเช่นคนเป็นพ่อ เขายังมีความเอาแต่ใจเล็กน้อยตามประสาน้องเล็กของบ้านแต่รักครอบครัวและศักดิ์ศรีเป็นที่สุด
ในส่วนของกวิน คาลเซอร์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษเจ้าของผับหรูโรงพยาบาลเอกชนและบริษัทจิวเวอรี่วัย32เป็นเพื่อนกับกับนนทวัตรมาตั้งแต่เรียนที่เมืองนอกด้วยกัน ชายหนุ่มเป็นคนสูงใหญ่เกือบจะสองเมตรได้ เขาเป็นผู้ชายหน้าหวานตาสีฟ้าผมสีน้ำตาลทองหม่นจมูกโด่งเป็นสัน นิสัยค่อนข้างขี้เล่นอัธยาศัยดี แต่เมื่ออยู่ในโหมดของการทำงานเขาก็จะจริงจังทุกอย่างเพราะต้องการทำงานออกมาให้เพอเฟ็คที่สุดนนทวัตรเองก็มีนิสัยจริงจังเรื่องงานเช่นนี้เหมือนกันพวกเขาทั้งสองจึงสนิทกันมาก
เช้าวันต่อมา
“เมื่อคืนจันทร์ร้องจนหลับไปตรงนี้เลยเหรอ”
พราวมุกเดินลงมาจากชั้นบนเห็นณิชายืนกอดอกจ้องอะไรบางอย่างที่ห้องนั่งเล่นพอเธอเดินเข้ามาถึงตัวณิชาก็ต้องยกมือเรียวทั้งสองกดอกตามณิชาไปด้วยอีกคนเพราะรู้ได้ทันทีเลยว่าเมื่อคืนณจันทร์คงร้องให้จนผลอยหลับไปไม่ได้ขึ้นไปนอนบนห้อง
“อืม..”
ณิชาพยักหน้าเล็กน้อยทั้งยังมองไปยังเพื่อนรักด้วยสายตาของความสงสารสุดหัวใจ
“จันทร์เป็นอะไรล่ะลูก”
สองสาวถลึงตามองหน้ากันด้วยอาการตกใจก่อนจะหันมายังต้นเสียง
“แม่ครู”
ณิชาและพราวมุกรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอต้องนั่งอธิบายเรื่องราวกับแม่ครูยาวแน่นอน
เรื่องราวก่อนหน้าณ เมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนริมฟุตบาทใล้กับบีทีเอสแห่งหนึ่งค่อนข้างคึกคักเพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่จับจ่ายซื้ออาหารเย็นกลับไปทานที่พักหลังเลิกงานบางกลุ่มก็นั่งสังสรรค์กันเพราะวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์แต่กลุ่มที่นั่งทานอาหารกันแล้วดูท่าจะไม่เฮฮาก็เป็นกลุ่มของณจันทร์พราวมุกและณิชา เพราะวันนี้มีข่าวร้ายก็คือณจันทร์ถูกไล่ออกโดยเรื่องไม่เป็นเรื่องในขณะที่ชีวิตของเธอกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต“ทำไมโชคไม่ดีแบบนี้นะแม่ครูกำลังป่วยเค้ายังมาตกงานตอนนี้อีก”ณจันทร์เอ่ยเสียงอ่อนเขี่ยช้อนไปมาบนจานข้าวพลาสติกสีฟ้าแม้นอาหารตรงหน้าจะเรียงรายไปด้วยของอร่อยและท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องครวญครางเรียกร้องอาหารแต่เธอก็ไม่อยากตักมันเข้าปากแม้แต่คำเดียวเพราะเครียดที่มาตกงานช่วงที่แม่ครูของเธอป่วยและต้องการใช้เงินในการรักษา“เพราะยัยน้ำเน่านั่นแท้ๆเลยงี่เง่าสารพัดไม่ถูกชะตาตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว”พราวมุกสบถอย่างคนอารมณ์เสียเพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าน้ำหนึ่งลูกสาวของเจ้าของบริษัทบัญชีที่เธอและณจันทร์ทำงานอยู่ไม่ชอบพวกเธอตั้งแต่เข้าไปสมัครงานกันแล้วยิ่งพักหลังมานี้น้ำหนึ่งมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองเธอแล
20.00 น.สามสาวนั่งล้อมวงมองหน้ากันในห้องพักห้องน้อยของพวกเธอเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะกลับมทำให้พวกเธอมีอะไรที่จะต้องคิดหนักอยู่พอสมควรเหตุการณ์หลังจากที่สารภีให้โชควนรถกลับไปเพราะสารภีต้องการทำความรู้จักกับสามสาวและวานให้ณจันทร์ช่วยปลอมตัวเป็นหลานสาวของเธอจนกว่าจะถึงวันหมั้นโดยตอบแทนเป็นเงินหนึ่งก้อน“ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนที่เหมือนจันทร์อย่างกับฝาแฝดแน่ะ”เป็นพราวมุกเริ่มเปิดประเด็นทะลายความเงียบที่เกิดขึ้นเพราะเธอแอบทึ่งในใจพอสมควรหลังจากที่สารภีเปิดรูปหลานของเธอให้ดูไม่คิดว่าหน้าตารูปร่างของณจันทร์จะไปเหมือนกับปานตะวันลูกของโสภิตาขนาดนั้น“ตอนแรกเค้าก็ตกใจเหมือนกันถึงว่าทำไมคุณน้าถึงได้มาทักด้วยสีหน้าเศร้าๆแบบนั้น”ณจันทร์เองก็ตกใจไม่ต่างจากเพื่อนทั้งสองแอบเห็นใจโสภิตาลึกๆที่จู่ๆลูกสาวก็หายตัวไปทำให้ทุกข์ใจจนสีหน้าหม่นหมองอยู่ตลอดเวลา“แล้วข้อเสนอที่พวกเค้าให้มาตัวว่าไงอะจันทร์จะรับไหม”ณิชาเกริ่นถามณจันทร์ด้วยอยากรู้คำตอบที่ณจันทร์ยังไม่ได้ให้กับโสภิตาและสารภี“อันที่จริงเค้าไม่อยากที่จะโกหกใครเลย..แต่เงินที่คุณน้าเค้าเสนอมาให้จำนวนเงินก้อนนั้นมันทำให้แม่ครูผ่าตัดได้โดยที่ไม
“ขอบคุณหนูจันทร์มากเลยที่ยอมช่วยฉัน”หลังจากสารภีออกจากห้องไปแล้วโสภิตาก็พาณจันทร์มานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นเรื่องที่เธอจะเสริมอะไรต่อจากสารภีคงไม่มีเพราะรู้ว่าพี่สาวของเธอน่าจะบอกทุกอย่างกับณจันทร์หมดแล้วตอนนี้ที่เธออยากจะคุยกับณจันทร์ก็คือเรื่องที่จะขอบคุณหญิงสาวเท่านั้น“เราต่างก็มีข้อแลกเปลี่ยนกันอยู่แล้วค่ะคุณน้า”ณจันทร์เห็นว่าเรื่องนี้โสภิตาไม่ต้องลำบากขอบคุณเธอด้วยซ้ำเพราะค่าตอบแทนที่โสภิตาเสนอให้เป็นเธอต่างหากที่ต้องขอบคุณ“ทีหลังเรียกฉันว่าคุณแม่จะได้ชินปากนะ”“ค่ะ.. คุณแม่”ณจันทร์เริ่มอึกอักรู้สึกตื้นตันในใจแปลกๆขอบตาเริ่มร้อนผ่าวเพราะน้ำตาแห่งความปิติกำลังจะไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้แต่เธอก็พยายามกลั้นเอาไว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องอ่อนไหวกับคำว่าแม่เมื่อต้องใช้คำนี้เนียกโสภิตาทั้งที่เธอเองก็คุ้นเคยกับคำว่าแม่เมื่อต้องเรียกแม่ครูหรืออาจจะเป็นเพราะตอนนี้โสภิตามีสถานะเป็นแม่ของเธอเท่านั้นโสภิตาน้ำตาคลอก็เริ่มรู้สึกปิติในใจไม่ต่างจากณจันทร์เช่นกันน้ำตาจู่ๆก็ไหลพรากออกมาพูดอะไรต่อไปไม่ออกเพราะรู้สึกเอ็นดูณจันทร์เช่นลูกสาวจริงๆทั้งที่เจอกันเพียงไม่เท่าไร“คุณแม่เป็นอะไรเหรอ
“ไล่ฉันออกน่ะสิไปทำลูกเค้าขนาดนั้น..ถ้ารู้ว่าจะถูกไล่ออกยัยน้ำเน่าหน้าพังมากกว่านี้แน่”“ว่าแล้วเชียว”ณจันทร์คิดเอาไว้แล้วเชียวว่ายัยคุณหนูน้ำหนึ่งนั่นต้องหาเรื่องพราวมุกจนได้“เฮ้อ..ช่างมันเถอะแล้วนี่เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่าเดี๋ยวเค้าหายาทาให้”ณิชารีบหยิบกล่องปฐมพยาบาลก่อนจะดึงพราวมุกมานั่งที่เก้าอี้“ทายาเสร็จไปกินบุฟเฟ่กันเค้าเลี้ยงเองได้เงินจากคุณโสให้ค่าเสียเวลาวันนี้5พัน”ณจันทร์อยากให้วันนี้เป็นวันที่ดีจึงพยายามไม่พูดถึงพฤติกรรมของน้ำหนึ่งหรือตำหนิพราวมุกเรื่องใจร้อนลงไม่ลงมือเพราะไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาจนทำให้พราวมุกถูกไล่ออกแล้วพูดไปก็เหมือนซ้ำเติม“โอเค๊..หายเจ็บละไปกันเถอะไม่ต้องทายาละ”พราวมุกลุกพรวดยิ้มแฉ่งอย่างคนที่ไม่เคยผ่านการมีเรื่องมีราวมาเพราะการได้ทานบุฟเฟ่ห์คือความสุขที่กลบเรื่องหมองใจของเธอแล้ว“หายเจ็บทันทีเลยเนอะ”ณิชาแทบเก็บกล่องปฐมพยาบาลไม่ทันทั้งส่ายกัวปนอมยิ้มให้กับพฤติกรรมของพราวมุกวันต่อมา“เฮ้อ..เสร็จซะที”ณจันทร์นั่งถอนหายใจดื่มน้ำอึกใหญ่สองสามอึกอยู่ที่เก้าอี้สาธารณะในห้างดังเธออยู่ที่นี่ตั้งแต่ห้างเปิดยันตอนเย็นเพราะได้รับมอบหมายจากสารภีว่าให้มาชุบตัว
“เพราะคู่หมั้นคุณมันรวยกว่าผมแต่นั้นใช่ไหมคุณถึงได้คืนดีกับผมยากนัก”ธนกร หนุ่มวัย22ย่าง23ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแฟนเก่าของปานตะวัน เขาเคืองใจกับเหตุการณ์วันนี้พอสมควรเพราะไม่คิดว่าปานตะวันที่รักกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งเมื่อเลิกกับเขาได้ไม่เท่าไรก็จะหมั้นกับนักธุรกิจที่โปรไฟล์ดีกว่าเขาหลายเท่าธนกรคบกับปานตะวันตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งด้วยกันที่มหาลัยดังตลอดเวลาที่คบกับธนกรชอบนอกใจปานตะวันตลอดแต่ก็ไม่เปิดตัวใครเป็นแฟนเหมือนปานตะวันจนกระทั่งล่าสุดที่ปานตะวันเลิกเด็ดขาดกับธนกรก็เพราะชายหนุ่มดันเจ้าชู้ไม่เลือกโดยการไปนอนกับเพื่อนของปานตะวันทำให้เธอตัดทั้งเพื่อนตัดทั้งแฟนไปในคราวเดียว ธนกรพยายามง้อปานตะวันตลอดหลังจากเลิกกันแล้วยิ่งได้มารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะหมั้นกับคนอื่นดขาก็ยิ่งรู้สึกหวงก้างหนักกว่าเดิมหลายเท่าและจะพยายามแย่งเธอกลับมาเป็นของเขาให้ได้ณจันทร์กลับห้องพักมาได้เธอก็รีบเล่าเรื่องที่น่าตกใจให้กับณิชาและพราวมุกได้ฟัง“แล้วได้พูดคุยอะไรกับคุณนนหรือเปล่าจันทร์”พราวมุกตกใจไปกับเพื่อนด้วยไม่ใช่แค่เรื่องที่เจอคนจะลวนลามแต่เรื่องที่ณจันทร์เจอนนทวัตรแล้วเขาอาจจะแปลกในถึงเรื่องการแต
หลังจากจบมื้ออาหารเหล่าผู้ใหญ่ก็ให้คนที่กำลังจะหมั้นมาพูดคุยกันสองต่อสองที่สวนหย่อมหลังบ้านหลังใหญ่“วันนั้นคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”เป็นนนทวัตรที่เปิดประเด็นพูดกับหญิงสาวถึงเรื่องเหตุการณ์วันนั้น“เอ่อ..คือ..วันนั้นฉันต้องขอโทษคุณนนด้วยนะคะที่ไม่ได้อยู่ขอบคุณคือฉันตกใจมากน่ะค่ะ”ณจันทร์คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงนนทวัตรก็ต้องได้มีโอกาสถามเธอเรื่องนี้แน่นอน“อืม..”นนทวัตรหยุดเดินหันมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะดูสีหน้าแววตาของเธอว่าต้องการขอบคุณเขาหรือพูดเพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่เฝ้ามองอยู่กันแน่แล้วก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากที่เขาเคยเจอความเย่อหยิ่งที่เขาเคยเห็นในแววตาของหญิงสาวไม่มีแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังวางใจมองเธอในแง่ดีไม่ได้อยู่ดี“ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องขอบคุณหรือไม่ขอบคุณแล้วล่ะแต่คำถามที่ผมถามไปคุณยังไม่ได้ตอบ”“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มร่าที่แท้ที่เขาถามก็เพราะเป็นห่วงเธอนั่นเอง“เปล่า..ผมไม่ได้เป็นห่วงผมแค่ถามตามมารยาท”นนทวัตรส่ายหัวทั้งมีสีหน้าเมินเฉยต่อรอยยิ้มของหญิงสาวแถมคำตอบของเขาที่ให้เธอก็ทำเอ
วันต่อมา“นักสืบแจ้งพี่มาว่าถ้าเราไม่ดำเนินการโอนเงินงวดล่าสุดให้เค้าจะไม่ดำเนินการตามหาตะวันต่อแล้วนะโส”สารภีคุยโทรศัพท์กับสำนักงานนักสืบที่เธอว่าจ้างเรียบร้อยก็กลับมาคุยกับโสภิตาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล“พี่สาบอกนักสืบนะคะว่าเดี๋ยวโสจะรีบโอนให้ภายในเย็นวันพรุ่งนี้ค่ะไม่ต้องห่วง”“แล้วโสเอาเงินมาจากไหน”“โสว่าจะเอาเครื่องเพชรที่คุณรุจเคยซื้อให้ไปขายค่ะ”“แต่นั่นมันของแทนใจคุณรุจเลยนะโส”“ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการตามหาตะวันแล้วล่ะค่ะพี่สา”โสภิตารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและวิธีแก้ปัญหาคือวิธีที่เธอไตร่ตรองมาดีแล้ว“จะมาที่นี่ก็น่าจะโทรบอกกันก่อนนะคะคุณนนน้าจะได้เตรียมต้อนรับ”โสภิตารีบเข้ามารับหน้านนทวัตรเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาหาที่บ้านกะทันหัน“ผมยุ่งๆน่ะครับเลยลืมที่จะโทรบอกทางนี้ก่อนพอดีคุณพ่อให้ผมมารับปานตะวันไปดูสถานที่จัดงานน่ะครับ”“เอ่อ..”โสภิตาเริ่มไปไม่เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ฉุกละหุกเลยไม่รู้ว่าจะตอบนนทวัตรว่าอย่างไร“ตะวันออกไปข้างนอกกับเพื่อนน่ะเดี๋ยวป้าจะลองโทรตามให้นะ”สิ้นเสียงของสารภีโสภิตาค่อยเริ่มหายใจหายคอคล่องหน่อยหากเธออยู่คน
“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก“อืม..”“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ
“ไปต่างประเทศเหรอครับ”“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขาคอนโดxxx“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อ
ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”“ขอโทษนะคะคุณนน”ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆบริษัทxxx“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”สาวเจ้ารีบส่ายห