Share

ตอนที่7 ปากร้าย

หลังจากจบมื้ออาหารเหล่าผู้ใหญ่ก็ให้คนที่กำลังจะหมั้นมาพูดคุยกันสองต่อสองที่สวนหย่อมหลังบ้านหลังใหญ่

“วันนั้นคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

เป็นนนทวัตรที่เปิดประเด็นพูดกับหญิงสาวถึงเรื่องเหตุการณ์วันนั้น

“เอ่อ..คือ..วันนั้นฉันต้องขอโทษคุณนนด้วยนะคะที่ไม่ได้อยู่ขอบคุณคือฉันตกใจมากน่ะค่ะ”

ณจันทร์คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงนนทวัตรก็ต้องได้มีโอกาสถามเธอเรื่องนี้แน่นอน

“อืม..”

นนทวัตรหยุดเดินหันมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะดูสีหน้าแววตาของเธอว่าต้องการขอบคุณเขาหรือพูดเพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่เฝ้ามองอยู่กันแน่แล้วก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากที่เขาเคยเจอความเย่อหยิ่งที่เขาเคยเห็นในแววตาของหญิงสาวไม่มีแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังวางใจมองเธอในแง่ดีไม่ได้อยู่ดี

“ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องขอบคุณหรือไม่ขอบคุณแล้วล่ะแต่คำถามที่ผมถามไปคุณยังไม่ได้ตอบ”

“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”

ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มร่าที่แท้ที่เขาถามก็เพราะเป็นห่วงเธอนั่นเอง

“เปล่า..ผมไม่ได้เป็นห่วงผมแค่ถามตามมารยาท”

นนทวัตรส่ายหัวทั้งมีสีหน้าเมินเฉยต่อรอยยิ้มของหญิงสาวแถมคำตอบของเขาที่ให้เธอก็ทำเอาณจันทร์แทบจะหุบยิ้มไม่ทัน

“อ่อ..ค่ะ”

ณจันทร์มองตามหลังคนที่เดินล้วงกระเป๋านำหน้าไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาปากร้ายแบบนี้กับทุกคนเป็นนิสัยหรือแกล้งทำเฉพาะกับคนที่เป็นคู่หมั้นแบบคลุมถุงชนแบบนี้หรือเปล่า​

นนทวัตรยังคงเดินครุ่นคิดไม่ตกกับพฤติกรรมของปานตะวัน​ เขาหันมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างเรียบร้อยด้วยหางตาคราแรกคิดว่าเธอจะตีฝีปากกลับแต่ไม่เลยก้มหน้าก้มตาทำตัวหงออย่างกับลูกแมวน้อยที่กำลังถูกดุเสียอย่างนั้น

ณจันทร์กลับมาถึงห้องพักได้ก็เข้าเวลาเย็นเธอก็เปลียนเสื้อผ้าอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะไม่คุ้นกับการที่จะต้องมีผมที่เซ็ตด้วยน้ำยาให้อยู่ทรงและมีอะไรมาแต่งแต้มใบหน้า ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่เตียงและเลื่อนมือถือหางานในเว็บไซต์ต่างๆเอาไว้รอเพราะหลังจากที่งานหมั้นของปานตะวันจบลงแล้วเธอจะได้หาสมัครงานทันที

“ดูดี..แต่แอบปากร้ายเหมือนกันนะ”

ไม่ทันที่จะเลื่อนมือถือได้เท่าไรสมองของณจันทร์ในตอนนี้ก็ดันมีภาพของนนทวัตรขึ้นมาเธอจึงหยุดมือและแอบอมยิ้มเมื่อนึกถึงชายหนุ่มเธอยอมรับว่าเขานั้นดูดีมากทั้งบุคลิกและหน้าตาแต่แอบรู้สึกว่าเขาปากร้ายไปหน่อยเท่านั้นเองหากเขาเป็นคนปากหวานกว่านี้เธอคิดว่าเขาคงน่าคุยด้วยไม่น้อย

วันต่อมา

ห้างสรรพสินค้า

“จันทร์..หนมผิงรีบเดินเร็วๆสิเดี๋ยวต่อคิวไม่ทันรอบเย็น..วันนี้ร้านบุฟเฟ่ห์คนน่าจะเยอะด้วย”

พราวมุกแทบจะวิ่งไปที่ร้านบุฟเฟ่ฟ์ร้านโปรดของเธอก็ว่าได้โดยลืมไปว่าตัวเองเป็นคนขายาวกว่าณิชาและณจันทร์เพราะกลัวว่าจะไม่ทันรอบโปรโมชั่นรอบเย็นนี้ยิ่งวันนี้เป็นวันจัดโปรโมชั่นลดราคารอบสุดท้ายด้วย

“โอ้ย..พราวก็เห็นใจคนขาสั้นอย่างพวกเค้าหน่อยเถอะ”

ณิชาที่สาวเท้าแทบไม่ทันพราวมุกเธอเริ่มบุ้ยปากบ่นอุก

ปึก.. “โอ้ย..”

“เอ่อ..ขอโทษครับ”

คนที่เอาแต่เดินจ้ำอ้าวไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรือเพราะพึ่งหันกลับไปมองทางด้านหน้าหลังจากันมาคุยกับเพื่อนทั้งสองจึงชนเข้ากับผู้ชายต่างชาติร่างยักษ์จนกระเด็น เขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นกวินเพื่อนของนนทวัตรที่ต้องการจะเดินเข้ามาทักปานตะวันเท่านั้น

“เดินยังไงของคุณเนี่ย..ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือไง”

พราวมุกเงยหน้าต่อว่าฝรั่งร่างยักษ์ที่พูดไทยได้เสียงดังฉอดๆด้วยตอนนี้ใจจดจ่ออยู่แต่กับร้านบุฟเฟ่ห์ตรงหน้าที่มีคนต่อแถวรอคิวกันเป็นขบวน

“ขอโทษครับ”

กวินเริ่มหน้าเสียที่ถูกหญิงสาวหน้าสวยต่อว่าทั้งที่เธอเองเป็นคนผิดเดินมาชนเขาเองแต่ชายหนุ่มก็ยังเอ่ยขอโทษหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะให้เรื่องจบ

“พราว..ตัวนั่นแหละจะรีบเดินไปไหน”

ณจันทร์รีบสะกิดพราวมุกให้รู้ตัวว่าไม่ควรต่อว่าชายหนุ่มเพราะเห็นๆอยู่ว่าเป็นเพื่อนเธอที่เดินไปชนเขาเอง

“ก็ต้องรีบสิต้องไปให้ทันรอบโปรไม่งั้นอดได้ที่นั่งใกล้อาหารแน่..”

พราวมุกว่าจบก็ดึงณิชาและณจันทร์ให้รีบเดินหนีไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจจะขอโทษคนที่เธอเดินชนสักคำ

“ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะคะ”

เป็ณณจันทร์ที่หันมาขอโทษแทน ทำเอากวินรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของหญิงสาวพอสมควรเพราะปานตะวันที่เขาเคยเจอไม่เคยเอ่ยปากขอโทษใครง่ายๆแถมการแต่งตัวยังดูไม่ใช่ตัวของปานตะวันที่เขารู้จักอีก

“เอ่อ..ครับ..ค..”

อีกประเด็นที่ทำให้กวินยืนขมวดคิ้วมองตามหลังสามสาวด้วยความแปลกตาก็คือเขาไม่คุ้นหน้าเพื่อนทั้งสองของปานตะวันแถมตัวปานตะวันเองยังทำท่าไม่รู้จักกับเขาอีกต่างหาก

ผับหรู

“ฉันไปเจอคุณตะวันที่ห้างXXXดูเธอแปลกไปมากเลยแล้วก็ทำเหมือนไม่รู้จักฉันด้วยทั้งที่ฉันก็เคยเจอเธอที่ผับอยู่บ่อยๆ”

กวินไม่ลืมที่จะเล่าเหตุการณ์เมื่อเย็นที่เขาเจอปานตะวันให้กับนนทวัตรที่เข้ามาดื่มในผับของเขาได้ฟังเพราะรู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควร

“คงไม่แปลกหรอกมั้ง..นิสัยคุณหนูจอมหยิ่งของเธอมันคือเรื่องปกตินายก็รู้นี่”

นนทวัตรแสยะยิ้มส่ายหัวด้วยคิดว่าปานตะวันคงทำตัวนิสัยเย่อหยิ่งไปทั่วแบบนี้ปกติอยู่แล้ว

“ไม่ใช่อย่างนั้น...เธอมากับเพื่อนแต่งตัวธรรมดามากเสื้อยืดกางเกงยีนส์แถมยังรีบเดินเพื่อจะไปให้ทันรอบทานบุฟเฟ่ห์ราคาโปรโมชั่น..ที่สำคัญเธอยังมาขอโทษฉันที่เพื่อนตัวเองพูดไม่ดีใส่ด้วยฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำขอโทษหวานๆจากปานตะวันเลย...ตัวตนของปานตะวันจริงๆแล้วอาจจะดีกว่าที่แกคิดก็ได้”

กวินรีบแก้ต่างและอธิบายสิ่งที่เจออย่างละเอียด เมื่อกวินพูดจบนนทวัตรก็แอบมีฉุกคิดเล็กน้อยเพราะเรื่องที่กวินเล่ามาก็แปลกจริงๆรวมไปถึงปานตะวันตอนที่เขาเจอครั้งล่าสุดด้วยที่เธอเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“ก็ต้องรอดูกันต่อไป..แต่ยังไงฉันก็จะพยายามทำทุกทางให้ยัยคุณหนูนั่นเอ่ยปากยกเลิกงานหมั้นเองให้ได้”

นนทวัตรยังไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดผิดเพราะยังไงดูคนก็ต้องใช้เวลาดูให้นานๆอยู่ดี แต่เธอจะดีจริงหรือไม่ดียังไงเขาก็จะไม่ยอมให้งานแต่งงานของเขาและเธอเกิดขึ้นเด็ดขาด

“มั่นใจว่าจะทำได้ขนาดนั้นเลยไม่ใช่ว่าพอได้ใกล้คนสวยน่ารักเข้าจริงๆกลับไม่อยากจะปล่อยเธอไป”

กวินทิ้งตัวพิงโซฟายกขวดไวน์ดื่มอึกใหญ่ก่อนจะเอ่ยหยอกนนทวัตรและมองคนเป็นเพื่อนด้วยสายตามีเลศนัยเพราะเขารู้ว่าปานตะวันเป็นคนที่สวยน่ารักแถมหนุ่มๆยังชอบเข้าหาเธอแทบทุกคนไม่ค่อยเชื่อว่าเพื่อนเขาจะไม่หวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้กับหญิงสาวจริงๆ

“ไม่มีทาง”

นนทวัตรรีบส่ายหัวพัลวัน

“ฉันจะคอยดู”

แม้นจะเห็นเพื่อนตนปฏิเสธหัวสั่นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กวินเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status