หลังจากจบมื้ออาหารเหล่าผู้ใหญ่ก็ให้คนที่กำลังจะหมั้นมาพูดคุยกันสองต่อสองที่สวนหย่อมหลังบ้านหลังใหญ่
“วันนั้นคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
เป็นนนทวัตรที่เปิดประเด็นพูดกับหญิงสาวถึงเรื่องเหตุการณ์วันนั้น
“เอ่อ..คือ..วันนั้นฉันต้องขอโทษคุณนนด้วยนะคะที่ไม่ได้อยู่ขอบคุณคือฉันตกใจมากน่ะค่ะ”
ณจันทร์คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงนนทวัตรก็ต้องได้มีโอกาสถามเธอเรื่องนี้แน่นอน
“อืม..”
นนทวัตรหยุดเดินหันมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะดูสีหน้าแววตาของเธอว่าต้องการขอบคุณเขาหรือพูดเพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่เฝ้ามองอยู่กันแน่แล้วก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากที่เขาเคยเจอความเย่อหยิ่งที่เขาเคยเห็นในแววตาของหญิงสาวไม่มีแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังวางใจมองเธอในแง่ดีไม่ได้อยู่ดี
“ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องขอบคุณหรือไม่ขอบคุณแล้วล่ะแต่คำถามที่ผมถามไปคุณยังไม่ได้ตอบ”
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”
ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มร่าที่แท้ที่เขาถามก็เพราะเป็นห่วงเธอนั่นเอง
“เปล่า..ผมไม่ได้เป็นห่วงผมแค่ถามตามมารยาท”
นนทวัตรส่ายหัวทั้งมีสีหน้าเมินเฉยต่อรอยยิ้มของหญิงสาวแถมคำตอบของเขาที่ให้เธอก็ทำเอาณจันทร์แทบจะหุบยิ้มไม่ทัน
“อ่อ..ค่ะ”
ณจันทร์มองตามหลังคนที่เดินล้วงกระเป๋านำหน้าไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาปากร้ายแบบนี้กับทุกคนเป็นนิสัยหรือแกล้งทำเฉพาะกับคนที่เป็นคู่หมั้นแบบคลุมถุงชนแบบนี้หรือเปล่า
นนทวัตรยังคงเดินครุ่นคิดไม่ตกกับพฤติกรรมของปานตะวัน เขาหันมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างเรียบร้อยด้วยหางตาคราแรกคิดว่าเธอจะตีฝีปากกลับแต่ไม่เลยก้มหน้าก้มตาทำตัวหงออย่างกับลูกแมวน้อยที่กำลังถูกดุเสียอย่างนั้น
ณจันทร์กลับมาถึงห้องพักได้ก็เข้าเวลาเย็นเธอก็เปลียนเสื้อผ้าอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะไม่คุ้นกับการที่จะต้องมีผมที่เซ็ตด้วยน้ำยาให้อยู่ทรงและมีอะไรมาแต่งแต้มใบหน้า ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่เตียงและเลื่อนมือถือหางานในเว็บไซต์ต่างๆเอาไว้รอเพราะหลังจากที่งานหมั้นของปานตะวันจบลงแล้วเธอจะได้หาสมัครงานทันที
“ดูดี..แต่แอบปากร้ายเหมือนกันนะ”
ไม่ทันที่จะเลื่อนมือถือได้เท่าไรสมองของณจันทร์ในตอนนี้ก็ดันมีภาพของนนทวัตรขึ้นมาเธอจึงหยุดมือและแอบอมยิ้มเมื่อนึกถึงชายหนุ่มเธอยอมรับว่าเขานั้นดูดีมากทั้งบุคลิกและหน้าตาแต่แอบรู้สึกว่าเขาปากร้ายไปหน่อยเท่านั้นเองหากเขาเป็นคนปากหวานกว่านี้เธอคิดว่าเขาคงน่าคุยด้วยไม่น้อย
วันต่อมา
ห้างสรรพสินค้า
“จันทร์..หนมผิงรีบเดินเร็วๆสิเดี๋ยวต่อคิวไม่ทันรอบเย็น..วันนี้ร้านบุฟเฟ่ห์คนน่าจะเยอะด้วย”
พราวมุกแทบจะวิ่งไปที่ร้านบุฟเฟ่ฟ์ร้านโปรดของเธอก็ว่าได้โดยลืมไปว่าตัวเองเป็นคนขายาวกว่าณิชาและณจันทร์เพราะกลัวว่าจะไม่ทันรอบโปรโมชั่นรอบเย็นนี้ยิ่งวันนี้เป็นวันจัดโปรโมชั่นลดราคารอบสุดท้ายด้วย
“โอ้ย..พราวก็เห็นใจคนขาสั้นอย่างพวกเค้าหน่อยเถอะ”
ณิชาที่สาวเท้าแทบไม่ทันพราวมุกเธอเริ่มบุ้ยปากบ่นอุก
ปึก.. “โอ้ย..”
“เอ่อ..ขอโทษครับ”
คนที่เอาแต่เดินจ้ำอ้าวไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรือเพราะพึ่งหันกลับไปมองทางด้านหน้าหลังจากันมาคุยกับเพื่อนทั้งสองจึงชนเข้ากับผู้ชายต่างชาติร่างยักษ์จนกระเด็น เขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นกวินเพื่อนของนนทวัตรที่ต้องการจะเดินเข้ามาทักปานตะวันเท่านั้น
“เดินยังไงของคุณเนี่ย..ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือไง”
พราวมุกเงยหน้าต่อว่าฝรั่งร่างยักษ์ที่พูดไทยได้เสียงดังฉอดๆด้วยตอนนี้ใจจดจ่ออยู่แต่กับร้านบุฟเฟ่ห์ตรงหน้าที่มีคนต่อแถวรอคิวกันเป็นขบวน
“ขอโทษครับ”
กวินเริ่มหน้าเสียที่ถูกหญิงสาวหน้าสวยต่อว่าทั้งที่เธอเองเป็นคนผิดเดินมาชนเขาเองแต่ชายหนุ่มก็ยังเอ่ยขอโทษหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะให้เรื่องจบ
“พราว..ตัวนั่นแหละจะรีบเดินไปไหน”
ณจันทร์รีบสะกิดพราวมุกให้รู้ตัวว่าไม่ควรต่อว่าชายหนุ่มเพราะเห็นๆอยู่ว่าเป็นเพื่อนเธอที่เดินไปชนเขาเอง
“ก็ต้องรีบสิต้องไปให้ทันรอบโปรไม่งั้นอดได้ที่นั่งใกล้อาหารแน่..”
พราวมุกว่าจบก็ดึงณิชาและณจันทร์ให้รีบเดินหนีไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจจะขอโทษคนที่เธอเดินชนสักคำ
“ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะคะ”
เป็ณณจันทร์ที่หันมาขอโทษแทน ทำเอากวินรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของหญิงสาวพอสมควรเพราะปานตะวันที่เขาเคยเจอไม่เคยเอ่ยปากขอโทษใครง่ายๆแถมการแต่งตัวยังดูไม่ใช่ตัวของปานตะวันที่เขารู้จักอีก
“เอ่อ..ครับ..ค..”
อีกประเด็นที่ทำให้กวินยืนขมวดคิ้วมองตามหลังสามสาวด้วยความแปลกตาก็คือเขาไม่คุ้นหน้าเพื่อนทั้งสองของปานตะวันแถมตัวปานตะวันเองยังทำท่าไม่รู้จักกับเขาอีกต่างหาก
ผับหรู
“ฉันไปเจอคุณตะวันที่ห้างXXXดูเธอแปลกไปมากเลยแล้วก็ทำเหมือนไม่รู้จักฉันด้วยทั้งที่ฉันก็เคยเจอเธอที่ผับอยู่บ่อยๆ”
กวินไม่ลืมที่จะเล่าเหตุการณ์เมื่อเย็นที่เขาเจอปานตะวันให้กับนนทวัตรที่เข้ามาดื่มในผับของเขาได้ฟังเพราะรู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควร
“คงไม่แปลกหรอกมั้ง..นิสัยคุณหนูจอมหยิ่งของเธอมันคือเรื่องปกตินายก็รู้นี่”
นนทวัตรแสยะยิ้มส่ายหัวด้วยคิดว่าปานตะวันคงทำตัวนิสัยเย่อหยิ่งไปทั่วแบบนี้ปกติอยู่แล้ว
“ไม่ใช่อย่างนั้น...เธอมากับเพื่อนแต่งตัวธรรมดามากเสื้อยืดกางเกงยีนส์แถมยังรีบเดินเพื่อจะไปให้ทันรอบทานบุฟเฟ่ห์ราคาโปรโมชั่น..ที่สำคัญเธอยังมาขอโทษฉันที่เพื่อนตัวเองพูดไม่ดีใส่ด้วยฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำขอโทษหวานๆจากปานตะวันเลย...ตัวตนของปานตะวันจริงๆแล้วอาจจะดีกว่าที่แกคิดก็ได้”
กวินรีบแก้ต่างและอธิบายสิ่งที่เจออย่างละเอียด เมื่อกวินพูดจบนนทวัตรก็แอบมีฉุกคิดเล็กน้อยเพราะเรื่องที่กวินเล่ามาก็แปลกจริงๆรวมไปถึงปานตะวันตอนที่เขาเจอครั้งล่าสุดด้วยที่เธอเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ก็ต้องรอดูกันต่อไป..แต่ยังไงฉันก็จะพยายามทำทุกทางให้ยัยคุณหนูนั่นเอ่ยปากยกเลิกงานหมั้นเองให้ได้”
นนทวัตรยังไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดผิดเพราะยังไงดูคนก็ต้องใช้เวลาดูให้นานๆอยู่ดี แต่เธอจะดีจริงหรือไม่ดียังไงเขาก็จะไม่ยอมให้งานแต่งงานของเขาและเธอเกิดขึ้นเด็ดขาด
“มั่นใจว่าจะทำได้ขนาดนั้นเลยไม่ใช่ว่าพอได้ใกล้คนสวยน่ารักเข้าจริงๆกลับไม่อยากจะปล่อยเธอไป”
กวินทิ้งตัวพิงโซฟายกขวดไวน์ดื่มอึกใหญ่ก่อนจะเอ่ยหยอกนนทวัตรและมองคนเป็นเพื่อนด้วยสายตามีเลศนัยเพราะเขารู้ว่าปานตะวันเป็นคนที่สวยน่ารักแถมหนุ่มๆยังชอบเข้าหาเธอแทบทุกคนไม่ค่อยเชื่อว่าเพื่อนเขาจะไม่หวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้กับหญิงสาวจริงๆ
“ไม่มีทาง”
นนทวัตรรีบส่ายหัวพัลวัน
“ฉันจะคอยดู”
แม้นจะเห็นเพื่อนตนปฏิเสธหัวสั่นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กวินเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็น
วันต่อมา“นักสืบแจ้งพี่มาว่าถ้าเราไม่ดำเนินการโอนเงินงวดล่าสุดให้เค้าจะไม่ดำเนินการตามหาตะวันต่อแล้วนะโส”สารภีคุยโทรศัพท์กับสำนักงานนักสืบที่เธอว่าจ้างเรียบร้อยก็กลับมาคุยกับโสภิตาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล“พี่สาบอกนักสืบนะคะว่าเดี๋ยวโสจะรีบโอนให้ภายในเย็นวันพรุ่งนี้ค่ะไม่ต้องห่วง”“แล้วโสเอาเงินมาจากไหน”“โสว่าจะเอาเครื่องเพชรที่คุณรุจเคยซื้อให้ไปขายค่ะ”“แต่นั่นมันของแทนใจคุณรุจเลยนะโส”“ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการตามหาตะวันแล้วล่ะค่ะพี่สา”โสภิตารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและวิธีแก้ปัญหาคือวิธีที่เธอไตร่ตรองมาดีแล้ว“จะมาที่นี่ก็น่าจะโทรบอกกันก่อนนะคะคุณนนน้าจะได้เตรียมต้อนรับ”โสภิตารีบเข้ามารับหน้านนทวัตรเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาหาที่บ้านกะทันหัน“ผมยุ่งๆน่ะครับเลยลืมที่จะโทรบอกทางนี้ก่อนพอดีคุณพ่อให้ผมมารับปานตะวันไปดูสถานที่จัดงานน่ะครับ”“เอ่อ..”โสภิตาเริ่มไปไม่เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ฉุกละหุกเลยไม่รู้ว่าจะตอบนนทวัตรว่าอย่างไร“ตะวันออกไปข้างนอกกับเพื่อนน่ะเดี๋ยวป้าจะลองโทรตามให้นะ”สิ้นเสียงของสารภีโสภิตาค่อยเริ่มหายใจหายคอคล่องหน่อยหากเธออยู่คน
“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก“อืม..”“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ
“เค้าไม่ยอมเลิกกับตะวันง่ายๆหรอกนะ”ณจันทร์ตัวแทบลอยเมื่อถูกผู้ชายคนที่จะลวนลามเธอวันนั้นกระชากตัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“ปล่อยฉันค่ะ..คุณมาที่นี่ได้ยังไง”สาวเจ้ารีบสะบัดมือออกจากมือหนาที่เหนียวเป็นปลาหมึกด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่“เพราะคู่หมั้นตะวันหล่อกว่ารวยกว่าเค้าใช่หรือเปล่าถึงไม่ยอมคืนดีกับเค้าง่ายๆ”ธนกรกระชากตัวหญิงสาวมากอดเอาไว้แน่น ณจันทร์ชะงักฉุกคิดก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างเพ่งพิจารณาและคิดว่าเขาคงเป็นแฟนเก่าปานตะวันแน่นอนด้วยพอจะจับใจความจากคำที่ชายหนุ่มพูดได้“ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกคนมาลากคุณออกไป”ยิ่งรู้ว่าเขาคือแฟนเก่าของปานตะวันเธอก็ต้องยิ่งอยู่ให้ห่างเพราะวันนี้เป็นวันหมั้นของปานตะวันและนนทวัตรเธอจะทำอะไรให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายไม่ได้“ทำอะไรกัน”ณจันทร์ผงะและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนคนที่โอบเธอเอาไว้และรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะมีเรื่องผิดใจกับนนทวัตรแน่นอน“แล้ววันหลังผมจะมาหาคุณใหม่”ธนกรมองค้อนไปยังนนทวัตรและหันมากระซิบกับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินหนีออกไป ทิ้งระเบิดให้ณจันทร์เป็นฝ่ายรับหน้าอยู่ตรงนี้เพีย
อาทิตย์ต่อมา“จะทำยังไงดีคะพี่สาตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตะวันเลย”โสภิตาเริ่มมีอาการเครียดทานอะไรไม่ค่อยลงแม้นจะได้เงินจากสินสอดหมั้นมาพยุงบริษัทแต่ทุกข์ใจที่ผ่านจากงานหมั้นของปานตะวันมาเป็นอาทิตย์แล้วนักสืบยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวลูกสาวของเธอเจอเลย“เอาน่า..ตอนนี้ก็ใจเย็นไปก่อนถ้าทางบ้านนั้นถามก็บอกว่าตะวันไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้..ไม่แน่ตะวันอาจจะอยากกลับมาบ้านเองก็ได้นะโสอย่าเครียดไปก่อนเลย”เป็นสารภีที่เข้ามากอดปลอบโสภิตาด้วยเห็นว่าน้องเธอเครียดไปก็ไม่ได้อะไรวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“คุณยายคะ”พราวมุกรีบรับร่างของหญิงชราที่กำลังจะเป็นลมขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลเพื่อที่จะจัดระเบียบชุดก่อนจะขึ้นไปสัมภาษณ์งาน“คุณพยาบาลคะช่วยด้วยค่ะ”เมื่อเห็นว่ามีพยาบาลเดินเข้ามาพราวมุกจึงรีบเรียกให้เขามาช่วยพยุงหญิงชราทันทีครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณท่านความดันสูงมากเลยนะคะช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ทานอาหารที่มีไขมันต่ำไม่มีรสจัดนะคะ”หมอสาวไม่ลืมกำชับกับแก้วเกตหญิงวัยเกือบ80ที่เป็นผู้บริหารเก่าของโรงพยาบาลนี้“ฟังด้วยนะครับคุณยายไม่อย่างนั้นผมจะให้คนทำอาหารคลีนให้ทานทุกวันแล้วก็ห
ห้างสรรพสินค้าณจันทร์กลับจากสัมภาษณ์งานเธอก็เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเข้ามาในโซนเครื่องเขียนเธอต้องหาสมุดปากกาเตรียมเอาไว้สำหรับการทำงาน“ตะวัน”“อ้าว..เกว”ณจันทร์หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงสาวสวยที่เรียกชื่อปานตะวันณจันทร์ก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวคือกมลเนตรหรือเกวนางแบบสาวและเป็นลูกสาวเจ้าของคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง“ไม่นึกว่าจะเจอแกในร้านแบบนี้นะ”กมลเนตรมองเพื่อนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าด้วยสายตาของความสงสัยไม่ยักรู้ว่าคุณหนูไฮโซอย่างปานตะวันจะมาแต่งตัวเฉิ่มๆเชยๆไม่มีแบรนด์แต่เธอก็ไม่ได้ทักเรื่องนี้ออกไปเพียงทักทายด้วยความสงสัยว่าปานตะวันมาทำอะไรที่ร้านเครื่องเขียนเพราะปกติแล้วเรื่องการซื้อของยิบย่อยพวกนี้เพื่อนเธอไม่ได้ชอบอยู่แล้ว“อ๋อ..ก็ดูอะไรไปเพลินๆน่ะ”ณจันทร์เริ่มปั้นหน้าไม่ถูกแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“แกหายโกรธฉันแล้วเหรอถึงยอมพูดกับฉัน”“โกรธ..”ณจันทร์นึกไปถึงเรื่องเมื่องานวันหมั้นเพราะคิดว่ากมลเนตรน่าจะหมายถึงเรื่องที่ไม่สบายและไม่ได้ไปงานวันหมั้นของปานตะวัน“ที่เกวไม่สบายแล้วไม่ได้ไปงานหมั้นน่ะเหรอเรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว
“ของคุณตะวันค่ะ”ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆวันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไป
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูถึงตาครอบครัวผมจะดูซิว่าเค้ายังอยากได้สะใภ้แบบคุณอยู่หรือเปล่าไปบอกยกเลิกการหมั้นกับครอบครัวผมซะแล้วเรื่องหมกเม็ดเน่าเฟะของคุณผมจะปล่อยผ่าน”“ไม่..ถ้าคุณอยากจะบอกอะไรครอบครัวคุณ..คุณก็บอกไปเลยฉันก็มีคำอธิบายของฉันเหมือนกัน”หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เธออธิบายอะไรชายหนุ่มไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเชื่อไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงมั่วไม่เลือกที่ทำได้ตอนนี้ก็คือปลดล็อคประตูรถและเดินออกไปจากนนทวัตรให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชายหนุ่มให้เสียสุขภาพจิตอีก“จะไปไหน.. ตะวัน.. ตะวัน”นนทวัตรลงรถตามหญิงสาวมาติดๆทำให้เธอต้องเร่งสปีดสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตแต่ขาสั้นๆของเธอก็ไม่ทันคนขายาวอย่างชายหนุ่มอยู่ดีตอนนี้ร่างของเธอจึงถูกเขารวบอุ้มกลับไปที่รถดังเดิมท่ามกลางสายตาของคนที่เดินไปมาข้างถนนแต่ทุกคนทำได้แค่มองเท่านั้นด้วยคงคิดว่าเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง“ปล่อยฉันนะ..”นนทวัตรอุ้มคนที่กำลังดีดดิ้นนั่งตักอยู่ที่ฝั่งคนขับด้วยกันและรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที“ปล่อย..”“อยากดิ้นก็ดิ้นไปผมจะขับรถถ้าอยากให้ตายกันทั้งคู่ก็ดิ้นต่อ”สิ้นเสียง