วันต่อมา
“นักสืบแจ้งพี่มาว่าถ้าเราไม่ดำเนินการโอนเงินงวดล่าสุดให้เค้าจะไม่ดำเนินการตามหาตะวันต่อแล้วนะโส”
สารภีคุยโทรศัพท์กับสำนักงานนักสืบที่เธอว่าจ้างเรียบร้อยก็กลับมาคุยกับโสภิตาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“พี่สาบอกนักสืบนะคะว่าเดี๋ยวโสจะรีบโอนให้ภายในเย็นวันพรุ่งนี้ค่ะไม่ต้องห่วง”
“แล้วโสเอาเงินมาจากไหน”
“โสว่าจะเอาเครื่องเพชรที่คุณรุจเคยซื้อให้ไปขายค่ะ”
“แต่นั่นมันของแทนใจคุณรุจเลยนะโส”
“ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการตามหาตะวันแล้วล่ะค่ะพี่สา”
โสภิตารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและวิธีแก้ปัญหาคือวิธีที่เธอไตร่ตรองมาดีแล้ว
“จะมาที่นี่ก็น่าจะโทรบอกกันก่อนนะคะคุณนนน้าจะได้เตรียมต้อนรับ”
โสภิตารีบเข้ามารับหน้านนทวัตรเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาหาที่บ้านกะทันหัน
“ผมยุ่งๆน่ะครับเลยลืมที่จะโทรบอกทางนี้ก่อนพอดีคุณพ่อให้ผมมารับปานตะวันไปดูสถานที่จัดงานน่ะครับ”
“เอ่อ..”
โสภิตาเริ่มไปไม่เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ฉุกละหุกเลยไม่รู้ว่าจะตอบนนทวัตรว่าอย่างไร
“ตะวันออกไปข้างนอกกับเพื่อนน่ะเดี๋ยวป้าจะลองโทรตามให้นะ”
สิ้นเสียงของสารภีโสภิตาค่อยเริ่มหายใจหายคอคล่องหน่อยหากเธออยู่คนเดียวมีหวังได้อีกอักจนนนทวัตรผิดสังเกตแน่
“อ๋อ..ไม่ต้องหรอกครับคุณป้าผมมีเบอเทออยู่เดี๋ยวผมโทรหาเธอว่าอยู่ที่ไหนแล้วขับรถไปรับเธอเลยครับ”
ดีที่ครั้งก่อนนนทวัตรได้แลกเบอติดต่อกับหญิงสาวเอาไว้เพราะรู้ดีว่าต้องมีธุระที่จะต้องคุยกันอีกหลายอย่าง
“อ..เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
สารภียังไม่ทันได้กดมือถือโทรหาณจันทร์นนทวัตรก็เตรียมตัวลุกออกไปแล้ว
“ผมขอตัวนะครับ”
สารภีมองนนทวัตรจนลับสายตาไปได้เธอจึงรีบส่งข้อความบอกกับณจันทร์ทันทีว่านนทวัตรกำลังจะโทรไปหา
ทางด้านณจันทร์หลังจากได้รับข้อความจากสารภีไม่กี่นาทีนนทวัตรก็ต่อสายหาเธอว่าจะรับไปดูสถานที่จัดงานหมั้น ณิชาและพราวมุกจึงได้เริ่มประโคมช่วยณจันทร์แต่งตัวให้สวยเป็นคุณหนูกันคนละไม้คนละมือดีที่โสภิตาเคยให้ชุดเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าของปานตะวันมาติดตัวณจันทร์มาบ้างเผื่อเวลาฉุกเฉินแล้วตอนนี้เธอก็ได้ใช้มันจริงๆ
“โอเคหรือเปล่า”
ณิชาจับณจันทร์หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่ที่หน้ากระจก
“อืม..โอเคแล้วดูเป็นคุณหนูขึ้นมาแล้วล่ะ”
“ดีนะที่คุณโสให้ของปานตะวันมาติดเอาไว้บ้าง”
พราวมุกเอ่ยขณะถอดปลั๊กอุปกรณ์ม้วนผม
“ฉันไปก่อนนะ”
“เค..สู้ๆนะ”
ณจันทร์แต่งเนื้อแต่งตัวได้เธอก็รีบเรียกแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆเพราะเธอบอกกับนนทวัตรว่าออกมาข้างนอกเพื่อช้อปปิ้งกับเพื่อนๆให้ไปเจอเธอได้ที่นั่น
นนทวัตรพาณจันทร์มาดูสถานที่จัดงานที่โรงแรมหรูริมแม่น้ำที่เป็นโรงแรมในเครือบริษัทของตระกูลเขา ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินชมจนรอบสถานที่ณจันทร์รู้สึกเปิดหูเปิดตาและตื่นเต้นกับสถานที่จนเริ่มมีอาการประหม่าด้วยไม่คิดว่างานหมั้นของนนทวัตรและปานตะวันจะใหญ่โตโอ่อ่าขนาดนี้
“สถานที่ที่นี่อาจจะเล็กหน่อยเพราะมันเหลือที่แค่นี้”
“ฉันว่าที่นี่ก็ไม่เล็กเลยนะคะ”
สาวเจ้าเงยหน้ามองนนทวัตรก็ดูออกว่าคำพูดเมื่อครู่เขาไม่ได้พูดเล่นแอบตกใจที่ชายหนุ่มบอกว่าที่นี่คืองานเล็กไม่อยากจะคิดว่าหากจะต้องจัดงานใหญ่ไม่ต้องรวบโรงแรมทั้งสามชั้นเลยหรืออย่างไร
“คุณโอเคจริงๆใช่หรือเปล่า”
นนทวัตรกอดอกหันมามองหน้าหน้าหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆด้วยไม่คิดว่าเธอจะพอใจที่นี่จริงๆเพราะงานเหล่าคนไฮโซส่วนมากจะต้องจัดใหญ่กว่านี้อีกเท่าตัว
“ค่ะฉันชอบมาก”
ณจันทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบให้นนทวัตรว่าเธอชอบสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้จริงๆ
“อืม...เดี๋ยวเราต้องไปเอาชุดที่ร้านรีบไปกันเถอะเดี๋ยวกว่าจะได้กลับบ้านมืดซะก่อน”
นนทวัตรเห็นว่าสาวเจ้าไม่เรื่องมากก็เป็นเรื่องที่ดีเมื่อมีเวลาเหลือเขาคิดว่าจะพาเธอไปรับชุดที่ลองไว้เลยแล้วกันเพราะวันอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาอีก
ณจันทร์เกาหัวแกรกๆมองตามหลังนนทวัตรที่กำลังเดินกลับออกไปสาวเจ้ารีบสาวเท้าตามหลังชายหนุ่มไปติดๆก่อนจะยื่นมือดึงชายเสื้อสูทของเขา
“มีอะไรหรือเปล่า”
นนทวัตรหยุดเดินหันกลับมามองหญิงสาวด้วยสีหน้าฉงน
“ชุด..อะไรคะ”
“ชุดหมั้นที่ผมกับคุณไปลองแล้วจองกันไว้ไง”
“อ..อ๋อค่ะ..ลืมไปเลยขอโทษทีค่ะช่วงนี้ฉันเบลอๆนะค่ะ”
ณจันทร์แสยะยิ้มแก้เก้อครั้งนี้เป็นเธอที่เดินดุ่มนำหน้าชายหนุ่มออกไปเรื่องนี้เธอก็พึ่งรู้เหมือนกันว่านนทวัตรและเธอไปลองชุดกันมาแล้วเพราะไม่มีใครบอก
ครั้งนี้เป็นนนทวัตรแล้วที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยสายตาของความสงสัยเพราะพฤติกรรมของหญิงสาวเมื่อครู่ดูไม่ใช่ตัวตนของผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูงอย่างปานตะวันเลยสักนิดนับว่าเธอทำให้เขาได้แปลกใจทุกครั้งที่ได้เจอกันจริงๆ
“ผมมาลองกันตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนะครับ..ตอนนี้ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
เมื่อนนทวัตรมาถึงร้านที่เขาเลือกชุดหมั้นเอาไว้ก็เกิดอาการอารมณ์เสียเพราะได้รับรู้จากเจ้าของร้านว่าชุดของปานตะวันที่นัดรับยังแก้ไม่เสร็จเรื่องการทำงานไม่รอบคอบและไม่มีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่คนอย่างนนทวัตรไม่ชอบใจที่สุด
“ชุดที่คุณปานตะวันสั่งแก้มันหลายจุดมากเลยค่ะช่างเราเลยทำไม่ค่อยทัน..แต่ยังไงทันงานแน่นอนค่ะ”
พริมมาสาวสวยเจ้าของร้านเริ่มหน้าเจื่อนเพราะรู้กิตติศัพท์ของประธานหนุ่มดีว่าเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องการทำงานแค่ไหน
“คือ..ถ้าไม่ทันจริงๆมีชุดอื่นที่พร้อมใส่เลยไหมคะ”
ณจันทร์เริ่มเห็นท่าไม่ค่อยดีเธอจึงหาวิธีทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้นด้วยในร้านนี้มีชุดอีกตั้งปลายชุดหากชุดที่เลือกเอาไว้แก้ไม่เสร็จเธอก็เลือกชุดใหม่ได้
“ที่ร้านก็มีแต่ชุดคอลเล็คชั่นเก่าที่คุณปานตะวันเคยลองแล้วไม่ชอบค่ะ”
สีหน้าของเจ้าของร้านเริ่มเจื่อนลงไปอีกเพราะครั้งที่แล้วที่ปานตะวันมาลองชุดที่ร้านก็ค่อนขอดเธอและพนักงานไปหลายรอบเหมือนกันเรื่องที่ร้านไม่ค่อยมีชุดให้เลือกและแต่ละชุดก็เชยมากหากไม่รีบใช้งานหมั้นคงหาร้านอื่นไปแล้ว
“ชุดนั้นล่ะคะฉันเช่าได้หรือเปล่า”
ณจันทร์หันมองซ้ายมองขวาแล้วไปสะดุดกับชุดสีครีมที่ดูค่อนข้างเรียบร้อยและเข้ากับสีชุดสูทของนนทวัตรด้วย
“ชุดนั้นเราเคยให้คุณปานตะวันลองแล้วนะคะเพราะว่าฉันเห็นมันเหมาะกับคุณแต่ตอนนั้นคุณปานตะวันบอกว่ามันเชยไป”
“งั้นฉันขอลองชุดนั้นอีกครั้งนะคะ..ถ้าพอดีก็จะเอาชุดนั้นค่ะ”
พริมมาดูจะแปลกใจกับหญิงสาวในวันนี้เป็นพิเศษเพราะแทนที่สาวเจ้าจะไม่พอใจและเหวี่ยงใส่เธอเหมือนครั้งแรกที่มาตอนนี้กลับดูเปลี่ยนเป็นคนละคนดูใจเย็นไม่เรื่องมาก ไม่ใช่แค่พริมมาเท่านั้นที่แปลกใจแต่เป็นนนทวัตรที่ยืนสังเกตหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยเหมือนกัน
“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก“อืม..”“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ
“เค้าไม่ยอมเลิกกับตะวันง่ายๆหรอกนะ”ณจันทร์ตัวแทบลอยเมื่อถูกผู้ชายคนที่จะลวนลามเธอวันนั้นกระชากตัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“ปล่อยฉันค่ะ..คุณมาที่นี่ได้ยังไง”สาวเจ้ารีบสะบัดมือออกจากมือหนาที่เหนียวเป็นปลาหมึกด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่“เพราะคู่หมั้นตะวันหล่อกว่ารวยกว่าเค้าใช่หรือเปล่าถึงไม่ยอมคืนดีกับเค้าง่ายๆ”ธนกรกระชากตัวหญิงสาวมากอดเอาไว้แน่น ณจันทร์ชะงักฉุกคิดก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างเพ่งพิจารณาและคิดว่าเขาคงเป็นแฟนเก่าปานตะวันแน่นอนด้วยพอจะจับใจความจากคำที่ชายหนุ่มพูดได้“ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกคนมาลากคุณออกไป”ยิ่งรู้ว่าเขาคือแฟนเก่าของปานตะวันเธอก็ต้องยิ่งอยู่ให้ห่างเพราะวันนี้เป็นวันหมั้นของปานตะวันและนนทวัตรเธอจะทำอะไรให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายไม่ได้“ทำอะไรกัน”ณจันทร์ผงะและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนคนที่โอบเธอเอาไว้และรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะมีเรื่องผิดใจกับนนทวัตรแน่นอน“แล้ววันหลังผมจะมาหาคุณใหม่”ธนกรมองค้อนไปยังนนทวัตรและหันมากระซิบกับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินหนีออกไป ทิ้งระเบิดให้ณจันทร์เป็นฝ่ายรับหน้าอยู่ตรงนี้เพีย
อาทิตย์ต่อมา“จะทำยังไงดีคะพี่สาตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตะวันเลย”โสภิตาเริ่มมีอาการเครียดทานอะไรไม่ค่อยลงแม้นจะได้เงินจากสินสอดหมั้นมาพยุงบริษัทแต่ทุกข์ใจที่ผ่านจากงานหมั้นของปานตะวันมาเป็นอาทิตย์แล้วนักสืบยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวลูกสาวของเธอเจอเลย“เอาน่า..ตอนนี้ก็ใจเย็นไปก่อนถ้าทางบ้านนั้นถามก็บอกว่าตะวันไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้..ไม่แน่ตะวันอาจจะอยากกลับมาบ้านเองก็ได้นะโสอย่าเครียดไปก่อนเลย”เป็นสารภีที่เข้ามากอดปลอบโสภิตาด้วยเห็นว่าน้องเธอเครียดไปก็ไม่ได้อะไรวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“คุณยายคะ”พราวมุกรีบรับร่างของหญิงชราที่กำลังจะเป็นลมขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลเพื่อที่จะจัดระเบียบชุดก่อนจะขึ้นไปสัมภาษณ์งาน“คุณพยาบาลคะช่วยด้วยค่ะ”เมื่อเห็นว่ามีพยาบาลเดินเข้ามาพราวมุกจึงรีบเรียกให้เขามาช่วยพยุงหญิงชราทันทีครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณท่านความดันสูงมากเลยนะคะช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ทานอาหารที่มีไขมันต่ำไม่มีรสจัดนะคะ”หมอสาวไม่ลืมกำชับกับแก้วเกตหญิงวัยเกือบ80ที่เป็นผู้บริหารเก่าของโรงพยาบาลนี้“ฟังด้วยนะครับคุณยายไม่อย่างนั้นผมจะให้คนทำอาหารคลีนให้ทานทุกวันแล้วก็ห
ห้างสรรพสินค้าณจันทร์กลับจากสัมภาษณ์งานเธอก็เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเข้ามาในโซนเครื่องเขียนเธอต้องหาสมุดปากกาเตรียมเอาไว้สำหรับการทำงาน“ตะวัน”“อ้าว..เกว”ณจันทร์หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงสาวสวยที่เรียกชื่อปานตะวันณจันทร์ก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวคือกมลเนตรหรือเกวนางแบบสาวและเป็นลูกสาวเจ้าของคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง“ไม่นึกว่าจะเจอแกในร้านแบบนี้นะ”กมลเนตรมองเพื่อนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าด้วยสายตาของความสงสัยไม่ยักรู้ว่าคุณหนูไฮโซอย่างปานตะวันจะมาแต่งตัวเฉิ่มๆเชยๆไม่มีแบรนด์แต่เธอก็ไม่ได้ทักเรื่องนี้ออกไปเพียงทักทายด้วยความสงสัยว่าปานตะวันมาทำอะไรที่ร้านเครื่องเขียนเพราะปกติแล้วเรื่องการซื้อของยิบย่อยพวกนี้เพื่อนเธอไม่ได้ชอบอยู่แล้ว“อ๋อ..ก็ดูอะไรไปเพลินๆน่ะ”ณจันทร์เริ่มปั้นหน้าไม่ถูกแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“แกหายโกรธฉันแล้วเหรอถึงยอมพูดกับฉัน”“โกรธ..”ณจันทร์นึกไปถึงเรื่องเมื่องานวันหมั้นเพราะคิดว่ากมลเนตรน่าจะหมายถึงเรื่องที่ไม่สบายและไม่ได้ไปงานวันหมั้นของปานตะวัน“ที่เกวไม่สบายแล้วไม่ได้ไปงานหมั้นน่ะเหรอเรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว
“ของคุณตะวันค่ะ”ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆวันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไป
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูถึงตาครอบครัวผมจะดูซิว่าเค้ายังอยากได้สะใภ้แบบคุณอยู่หรือเปล่าไปบอกยกเลิกการหมั้นกับครอบครัวผมซะแล้วเรื่องหมกเม็ดเน่าเฟะของคุณผมจะปล่อยผ่าน”“ไม่..ถ้าคุณอยากจะบอกอะไรครอบครัวคุณ..คุณก็บอกไปเลยฉันก็มีคำอธิบายของฉันเหมือนกัน”หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เธออธิบายอะไรชายหนุ่มไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเชื่อไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงมั่วไม่เลือกที่ทำได้ตอนนี้ก็คือปลดล็อคประตูรถและเดินออกไปจากนนทวัตรให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชายหนุ่มให้เสียสุขภาพจิตอีก“จะไปไหน.. ตะวัน.. ตะวัน”นนทวัตรลงรถตามหญิงสาวมาติดๆทำให้เธอต้องเร่งสปีดสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตแต่ขาสั้นๆของเธอก็ไม่ทันคนขายาวอย่างชายหนุ่มอยู่ดีตอนนี้ร่างของเธอจึงถูกเขารวบอุ้มกลับไปที่รถดังเดิมท่ามกลางสายตาของคนที่เดินไปมาข้างถนนแต่ทุกคนทำได้แค่มองเท่านั้นด้วยคงคิดว่าเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง“ปล่อยฉันนะ..”นนทวัตรอุ้มคนที่กำลังดีดดิ้นนั่งตักอยู่ที่ฝั่งคนขับด้วยกันและรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที“ปล่อย..”“อยากดิ้นก็ดิ้นไปผมจะขับรถถ้าอยากให้ตายกันทั้งคู่ก็ดิ้นต่อ”สิ้นเสียง
ตอนนี้ณจันทร์อยู่บนเรือยอร์ชลำหรูที่มีเพียงแค่เธอและนนทวัตรเป็นคนขับ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ที่ห้องใต้ท้องเรืออยู่หลายรอบครุ่นคิดว่าหากเธอบอกกับนนทวัตรว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันเรื่องทุกอย่างที่วุ่นวายในชีวิตของเธอตอนนี้ก็น่าจะจบ“คุณนน”หญิงสาวเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังขับเรือท่ามกลางทะเลที่รายล้อมไปด้วยความมืด“มีอะไร...ถ้าอยากจะกลับก็กระโดดลงทะเลว่ายน้ำไปเอง”นนทวัตรไม่ได้หันมามองหญิงสาวแม้แต่เพียงหางตามีเพียงคำพูดเหน็บแนมเธอเท่านั้นที่เขาส่งกลับไป“กรุณาพูดกับฉันดีๆเป็นหรือเปล่าคะ”ณจันทณ์เริ่มขมวดคิ้วอีกรอบรู้ว่าเขายังคงอคติกับเธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ชอบจิกกัดเธอตลอดทุกคำที่พูดด้วยทั้งที่เธอก็พูดด้วยดีๆ“ก็พอใจจะพูดแบบนี้...คุณมาทักผมก่อนเองมีอะไรจะพูดก็พูดมา”“คือ..ฉัน”เมื่อถูกถามกลับเข้าคนที่เตรียมคำพูดมาก็เริ่มไปไม่เป็นเพราะหน้าของโสภิตาลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเห็นใจโสภิตาถ้าหากเธอพูดความจริงออกไปมันก็จะดีต่อตัวเธอที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับวงเวียนชีวิตของเหล่าไฮโซแต่ผลร้ายก็จะไปตกอยู่กับโสภิตาซึ่งคิดไปคิดมาเธอก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่เข้