“ของคุณตะวันค่ะ”
ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย
“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”
“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”
“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”
โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก
“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”
“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”
โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู
“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”
ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆ
วันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน
“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”
พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่
“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไปรับแม่ครูกลับบ้านกัน”
ณิชาเอ่ยก่อนที่จะวิ่งเอาอุปกรณ์กรวดน้ำไปเก็บที่ศาลาตามเดิม หลังจากนั้นทั้งสามจึงไปปล่อยปลาที่ซื้อมาจากหน้าเขียงแถวตลาดไปปล่อยลงสู่บึงน้ำของวัดที่เป็นเขตอภัยทานก่อนจะรีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปรับดวงเดือนกลับไปที่บ้านเด็กกำพร้า
กว่าจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลรับยาและหารถกลับมาที่บ้านเด็กกำพร้าสามสาวและแม่ครูก็มาถึงที่หมายในช่วงบ่ายแก่ๆเกือบเย็น
ในเวลาที่แม่ครูดวงเดือนป่วยที่นี่ก็เหมือนจะเงียบเหงาไร้ผู้คนเข้ามาบริจาคของกันด้วยจึงทำให้สภาพคล่องของบ้านเด็กกำพร้าติดขัดพอสมควร
“แม่ครูไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะจ้ะเดี๋ยวพวกหนูจะช่วยกันเอง”
ณจันทร์เอ่ยกับดวงเดือนให้คลายกังวลเพราะเงินของพวกเธอทั้งสามที่มีเก็บเอาไว้ก็พอจะพยุงที่นี่ให้อยู่รอดได้อีกสองสามเดือนและหลังจากนี้พวกเธอก็จะได้ทำงานรวมถึงพี่น้องที่เคยอยู่ที่บ้านแห่งนี้ก็ยังคอยซัพพอร์ตกันอยู่แม้จะไม่มากก็ยังพอได้แก้ขัด
“เรื่องค่าใช้จ่ายที่นี่แม่ไม่ห่วงหรอกลูกที่แม่ห่วงเพราะแม่อยากรู้ว่าเราเอาเงินที่ไหนกันมาจ่ายค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชน”
เรื่องนี้ดวงเดือนทำใจเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นเช่นนี้แต่ที่เธอห่วงหนักกว่าเรื่องที่นี่คือลูกๆของเธอทั้งสามเอาเงินที่ไหนมาให้เธอได้รักษาในโรงพยาบาลเอกชน
“คือ..”
ณจันทร์เริ่มไปไม่เป็นเพราะเธอก็ไม่ได้เตรียมคำตอบให้กับแม่ครูเรื่องนี้
“พอดีจันทร์ไปทำงานกับรุ่นพี่ที่รู้จักจ่ะแม่ครูเลยขอให้เค้าจ่ายค่าจ้างล่วงหน้ามาก่อนเพราะจะเอามารักษาแม่ครู”
เป็นพราวมุกที่ใช้ไหวพริบแก้ปัญหาแม้นจะไม่ใช่คำพูดที่จริงแต่เธอก็เชื่อว่าจะทำให้แม่ครูนั้นสบายใจ
“ใช่จ่ะ”
ณจันทร์รีบพยักหน้าหงึกหงักคิดว่าโกหกคนอื่นยิ่งลำบากใจมากแล้วพอจะต้องมาโกหกแม่ครูของตัวเองยิ่งลำบากใจมากกว่า
“เค้าใจดีเหมือนกันนะ..ถ้าแม่หายดีแล้วพาแม่ไปเจอเค้าหน่อยนะแม่อยากขอบคุณเค้า”
ดวงเดือนรู้แบบนี้ก็สบายใจคิดว่าลูกๆของเธอจะไปกู้หนี้ยืมสินพวกนอกระบบเสียอีก
“จะ..จันทร์ว่าแม่ครูพักผ่อนเถอะนะจ้ะหมอบอกว่าต้องพักผ่อนเยอะๆ”
เห็นทีณจันทร์จะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ด้วยกลัวว่าจะถูกซักไซร้อะไรที่ไม่ได้อยากตอบ
“เดี๋ยวพี่ต้องกลับกันแล้วฝากน้ำตาลดูแม่ครูให้ทานยาตรงตามที่หมอสั่งด้วยนะ”
ก่อนกลับสามสาวไม่ลืมที่จะกำชับน้ำตาลเด็กสาวแรกรุ่นที่พึ่งเรียนจบม.ปลายให้ดูแลแม่ครูให้ดีเพราะพวกเธอคงไม่ค่อยได้ว่างมาที่นี่บ่อยนักด้วยต่างคนก็ต่างมีหน้าที่
“ได้จ่ะพี่ๆไม่ต้องห่วง”
เด็กสาวตัวเล็กหน้าจิ้มลิ้มพยักหน้าด้วยรอยยิ้มรับปากพี่ๆทั้งสามเพราะช่วงนี้มหาลัยยังไม่เปิดเธอมีเวลาดูแลแม่ครูได้ตลอด24ชั่วโมงอยู่แล้ว
วันต่อมา
“เรื่องประชุมพนักงานผมคงต้องฝากคุณภูริเพราะผมจะไปดูงานที่เกาะเองครับ”
นนทวัตรเห็นว่าตนนั้นไม่ได้เข้าไปดูแลเกาะที่พ่อของตัวเองสัมปทานไว้นานแล้วครวนี้เห็นทีจะได้ฤกษ์ไปเสียทีเพราะอยากจะไปดูสภาพแวดล้มปัจจะบันของที่นั่นก่อนที่ผู้รับเหมาจะพาคนงานมาสร้างรสอร์ท
“กำหนดที่จะไปเป็นอาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอครับ”
ภูริพอจะจำได้ว่าการสร้างรีสอร์ทไม่ได้เริ่มขึ้นเร็วๆนี้
“ผมจะไปดูความเรียบร้อยก่อนที่ผู้รับเหมาจะพาคนมาที่เกาะครับ”
“เข้าใจแล้วครับไม่ต้องห่วงครับผลการประชุมผมจะรีบสรุปส่งอีเมลให้คุณนนเร็วที่สุดครับ”
“ขอบคุณครับ”
“เดี๋ยวค่ะคุณ..จะไปไหนคะ”
ภูริและนนทวัตรต่างก็มองไปที่หน้าห้องทำงานกันเป็นตาเดียวเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ด้านนอก
“หาเจ้าของบริษัทนี้ไง”
เป็นธนกรที่อาละวาดกับพนักงานสาวที่ห้ามไม่ให้เขาเข้าไปหานนทวัตรอยู่ที่หน้าห้องประธานหนุ่ม
“อะไรกัน”
นนทวัตรเปิดประตูออกมาเห็นว่าเป็นใครที่มาโวยวายที่นี่ก็สบถเสียงแข็งจนทุกอย่างเงียบลง
“ผมจะมาคุยกับคุณเรื่องตะวัน”
“เข้ามา”
ธนกรเดินตามนนทวัตรเข้าไปในห้องส่วนภูริก็รู้มารยาทออกมารอเจ้านายที่หน้าห้อง
“เรื่องตะวัน.. ปานตะวัน”
เหตุการณ์ชุลมุนเมื่อครู่อยู่ในสายตาของลลิตาที่พึ่งจะเดินออกจากลิฟท์เธอแปลกใจพอสมควรว่าทำไมธนกรญาติห่างๆของเธอถึงได้รู้จักกับนนทวัตรแถมยังอยากจะมาคุยกับชายหนุ่มเรื่องของปานตะวันอีกวันนี้เธอคงไม่ได้คุยกับนนทวัตรแล้วเพราะจะต้องถามญาติผู้น้องของเธอก่อนว่าคุยกับนนทวัตรเรื่องปานตะวันทำไม
“หวังว่ารูปพวกนี้จะทำให้คุณรู้ว่าปานตะวันไม่มีวันเลิกกับผม..ผมรู้ว่าผู้ชายโปรไฟล์ดีอย่างคุณคงไม่อยากใช้ผู้หญิงร่วมกับใครหรอกจริงหรือเปล่า”
นนทวัตรวางกองรูปจากกล้องวงจรปิดตรงหน้านนทวัตรให้เขาได้เห็นว่าปานตะวันยังเข้าออกคอนโดของเขาปกติว่าจบก็เดินออกจากห้องไปไม่ได้อยู่สนทนาต่อกับชายหนุ่มด้วยรู้ดีว่าคนระดับนนทวัตรคงไม่ชอบให้ใครมาสวมเขาเล่นแน่และงานนี้เขาจะได้ปานตะวันคืนมาเสียที
“ไทม์”
ลลิตาเรียกธนกรหลังจากที่เธอตามชายหนุ่มลงมาจนถึงชั้นลานจอดรถ
“พี่ลิตา”
ธรกรมองไปยังหญิงสาวไฮโซหน้าสวยญาติห่างๆของเขาอย่างแปลกใจที่นานๆจะเจอกันทีและไม่ได้คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่
“ไทม์มาคุยอะไรกับคุณนน..แล้วไทม์รู้จักกับปานตะวันได้ยังไง”
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูถึงตาครอบครัวผมจะดูซิว่าเค้ายังอยากได้สะใภ้แบบคุณอยู่หรือเปล่าไปบอกยกเลิกการหมั้นกับครอบครัวผมซะแล้วเรื่องหมกเม็ดเน่าเฟะของคุณผมจะปล่อยผ่าน”“ไม่..ถ้าคุณอยากจะบอกอะไรครอบครัวคุณ..คุณก็บอกไปเลยฉันก็มีคำอธิบายของฉันเหมือนกัน”หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เธออธิบายอะไรชายหนุ่มไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเชื่อไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงมั่วไม่เลือกที่ทำได้ตอนนี้ก็คือปลดล็อคประตูรถและเดินออกไปจากนนทวัตรให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชายหนุ่มให้เสียสุขภาพจิตอีก“จะไปไหน.. ตะวัน.. ตะวัน”นนทวัตรลงรถตามหญิงสาวมาติดๆทำให้เธอต้องเร่งสปีดสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตแต่ขาสั้นๆของเธอก็ไม่ทันคนขายาวอย่างชายหนุ่มอยู่ดีตอนนี้ร่างของเธอจึงถูกเขารวบอุ้มกลับไปที่รถดังเดิมท่ามกลางสายตาของคนที่เดินไปมาข้างถนนแต่ทุกคนทำได้แค่มองเท่านั้นด้วยคงคิดว่าเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง“ปล่อยฉันนะ..”นนทวัตรอุ้มคนที่กำลังดีดดิ้นนั่งตักอยู่ที่ฝั่งคนขับด้วยกันและรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที“ปล่อย..”“อยากดิ้นก็ดิ้นไปผมจะขับรถถ้าอยากให้ตายกันทั้งคู่ก็ดิ้นต่อ”สิ้นเสียง
ตอนนี้ณจันทร์อยู่บนเรือยอร์ชลำหรูที่มีเพียงแค่เธอและนนทวัตรเป็นคนขับ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ที่ห้องใต้ท้องเรืออยู่หลายรอบครุ่นคิดว่าหากเธอบอกกับนนทวัตรว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันเรื่องทุกอย่างที่วุ่นวายในชีวิตของเธอตอนนี้ก็น่าจะจบ“คุณนน”หญิงสาวเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังขับเรือท่ามกลางทะเลที่รายล้อมไปด้วยความมืด“มีอะไร...ถ้าอยากจะกลับก็กระโดดลงทะเลว่ายน้ำไปเอง”นนทวัตรไม่ได้หันมามองหญิงสาวแม้แต่เพียงหางตามีเพียงคำพูดเหน็บแนมเธอเท่านั้นที่เขาส่งกลับไป“กรุณาพูดกับฉันดีๆเป็นหรือเปล่าคะ”ณจันทณ์เริ่มขมวดคิ้วอีกรอบรู้ว่าเขายังคงอคติกับเธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ชอบจิกกัดเธอตลอดทุกคำที่พูดด้วยทั้งที่เธอก็พูดด้วยดีๆ“ก็พอใจจะพูดแบบนี้...คุณมาทักผมก่อนเองมีอะไรจะพูดก็พูดมา”“คือ..ฉัน”เมื่อถูกถามกลับเข้าคนที่เตรียมคำพูดมาก็เริ่มไปไม่เป็นเพราะหน้าของโสภิตาลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเห็นใจโสภิตาถ้าหากเธอพูดความจริงออกไปมันก็จะดีต่อตัวเธอที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับวงเวียนชีวิตของเหล่าไฮโซแต่ผลร้ายก็จะไปตกอยู่กับโสภิตาซึ่งคิดไปคิดมาเธอก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่เข้
ปังง..คนตัวโตที่พึ่งเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดังจนคนที่นั่งด้านนอกสะดุ้งเล็กน้อยแต่หลังจากหายตกใจเธอก็สบถขำออกมาณจันทร์เชื่อแล้วว่ายังไงที่นี่ก็มีคนเพราะเมื่อครู่ชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอเองว่าจะมีคนเอาของมาให้และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“เก่งให้ตลอดก็แล้วกัน”นนทวัตรเห็นทีสิ่งที่คิดว่าแกล้งหญิงสาวได้จะไม่ได้ผลและคงจะต้องเล่นแรงขึ้นเพราะไม่ชอบที่สาวเจ้าทำอวดเก่งใส่ตัวเองเท่าไรนักวันต่อมาโรงพยาบาล XXX“คุณพราวมุกคะท่านผอ.เรียนเชิญให้ไปพบตอนบ่ายสองค่ะ”“ร.. เรียกพบฉันมีอะไรเหรอคะ”พราวมุกนั่งมองหน้ากับกนกวรรณหัวหน้าบัญชีด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมาถามชุติมาเลขาของผอ.ที่มาแจ้งข่าวด้วยตัวเองด้วยท่าทีประหม่า“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”ชุติมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแค่นี้และย้ำให้เธอมาบอกด้วยตัวเองว่าจบเธอก็เดินกลับไป“ค่ะ”พราวมุกเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่เข้าตาใครทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันที่สอง“เค้าเรียกพราวไปทำอะไรเหรอคะหัวหน้า”พราวมุกหันมาถามกนกวรรณอีกรอบ“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติท่านผอ.ไม่เคยเรียกพบใครด้วย”กนกวรรณสาวใหญ่ที่ทำงา
“เป็นไปได้ยังไงพราว..ตัวเนี่ยนะเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน”เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับณิชามากเมื่อพราวมุกกลับมาเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน“ใช่..แต่ทางทนายจะต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน”หลังจากที่แก้วเกตบอกกับเธอว่าเธอน่าจะเป็นลูกของคนที่ชื่อสรุตาพราวมุกก็ไปโรงพยาบาลหาหมอประจำตระกูลของสรุตาและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอของพ่อกับแม่ที่เก็บตัวอย่างเอาไว้หรือไม่หากตรงก็เท่ากับว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปในทันที“ขอให้เป็นจริงนะพราว”ณิชาดีใจไปกับพราวมุกด้วยและภาวนาว่าขอให้เพื่อนเธอเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ“ถ้าเป็นจริงมันก็มีทั้งเรื่องน่ายินดีแล้วก็น่าเศร้าเพราะเค้าไม่เหลือคนในครอบครัวเลย”“นั่นสินะ...แต่อย่าลืมนะพราวว่าเรามีครอบครัวที่ใหญ่กว่าคนอื่นตั้งเยอะ”“จริงด้วยนะ..อยากให้แม่ครูกับจันทร์อยู่ด้วยตอนนี้จัง”พราวมุกนั่งจับมือกับณิชาแน่นเธอคงจะดีใจที่ได้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆไม่ใช่ว่าจะมีเงินใช้สุขสบายแต่ดีใจที่จะมีเงินมาให้แม่ครูพัฒนาบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่และชีวิตเด็กๆพี่ๆน้องๆร่วมบ้านก็จะได้ดีขึ้นไปด้วยทางด้านณจันทร์ตั้งแต่เช้าจรดเย็
“ขอบคุณนะครับป้าบัวลุงโนชที่เอาอาหารมาให้แถมยังพาหมอมารักษาผม”นนทวัตรจึงตัดบทบัวผันเอาไว้ก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวรู้ว่าที่นี่ที่ไหนด้วยกลัวว่าเธอจะหาทางติดต่อกับคนอื่นให้มาช่วยถูก“อ๋อ..ก็รู้เรื่องจากคุณตะวันนี่แหละครับถึงได้รีบพาหมอมา..ไม่มีอะไรแล้วพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ภาพที่บัวผันและมาโนชกำลังลุกเดินออกไปทำใจของณจันทร์ห่อเหี่ยวหนักลงไปอีกเพราะมีคนให้เธอขอความช่วยเหลือแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่เชื่ออะไรเธอ“ทานยาให้ตรงเวลานะครับคุณนน”กิตติคุณหันมาบอกกับนนทวัตรก่อนจะเดินตามสองลุงป้าไป“ครับ”หลังจากทุกคนออกไปกันจนหมดนนทวัตรก็หันมาจ้องคนที่นั่งก้มหน้างุดเขม็ง“ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก...คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด”“ฉันหนีได้ค่ะ..แต่เพราะฉันเป็นคนที่มีสำนึกต่างหากเลยไม่ปล่อยให้คุณนอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้น”ณจันทร์เงยหน้ามองคนที่กำลังพูดถางถางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ให้ผมเดา..คุณคงกลัวผมตายแล้วตัวเองจะมีความผิดต่างหากถึงได้ยอมกลับมา”“จะอะไรก็ช่างฉันว่าเราหยุดเล่นสงครามประสาทกันซะทีเถอะพาฉันกลับเถอะนะขอร้องล่ะ”“ไม่..บอกแล้วไงว่าถ้าคุณไม่ยอมไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวผมคุณก็จะต้องใช้ชีวิตที่น
“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน“จันทร์บอกพี่เอาไว้”“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์“คุณนนใช่ไหมคะ”“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน“คือ..”ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้“แบบนี้นี่เอง”“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน“จริงเหรอคะ”“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น