ปังง..
คนตัวโตที่พึ่งเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดังจนคนที่นั่งด้านนอกสะดุ้งเล็กน้อยแต่หลังจากหายตกใจเธอก็สบถขำออกมาณจันทร์เชื่อแล้วว่ายังไงที่นี่ก็มีคนเพราะเมื่อครู่ชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอเองว่าจะมีคนเอาของมาให้และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
“เก่งให้ตลอดก็แล้วกัน”
นนทวัตรเห็นทีสิ่งที่คิดว่าแกล้งหญิงสาวได้จะไม่ได้ผลและคงจะต้องเล่นแรงขึ้นเพราะไม่ชอบที่สาวเจ้าทำอวดเก่งใส่ตัวเองเท่าไรนัก
วันต่อมา
โรงพยาบาล XXX
“คุณพราวมุกคะท่านผอ.เรียนเชิญให้ไปพบตอนบ่ายสองค่ะ”
“ร.. เรียกพบฉันมีอะไรเหรอคะ”
พราวมุกนั่งมองหน้ากับกนกวรรณหัวหน้าบัญชีด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมาถามชุติมาเลขาของผอ.ที่มาแจ้งข่าวด้วยตัวเองด้วยท่าทีประหม่า
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
ชุติมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแค่นี้และย้ำให้เธอมาบอกด้วยตัวเองว่าจบเธอก็เดินกลับไป
“ค่ะ”
พราวมุกเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่เข้าตาใครทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันที่สอง
“เค้าเรียกพราวไปทำอะไรเหรอคะหัวหน้า”
พราวมุกหันมาถามกนกวรรณอีกรอบ
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติท่านผอ.ไม่เคยเรียกพบใครด้วย”
กนกวรรณสาวใหญ่ที่ทำงานที่นี่มานานเธอก็พึ่งจะเคยเห็นว่าเลขาของผอ.มาเรียกคนในแผนกด้วยตัวเองก็วันนี้
“หัวหน้าพอจะมีรูปท่านผอ.หรือเปล่าคะ”
พราวมุกเข้ามากระซิบหัวหน้าด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมากนักรู้ตัวว่าตัวเองต้องถูกตำหนิแน่นอนที่มาถามคำถามนี้แต่เธอก็ต้องถามเพื่อที่ไปถึงห้องผอ.แล้วเธอจะไม่สวัสดีผิดคน
“อย่าบอกนะว่ายังไม่เคยไปดูบอร์ดบริหาร”
กนกวรรณมองหน้าลูกน้องคนใหม่ด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย
“เอ่อ.. วันที่สัมภาษณ์เสร็จพราวมัวแต่เดินหาของค่ะเลยไม่ได้ไปดูบอร์ดบริหารเมื่อวานก็ลืม”
สาวเจ้ายิ้มแหยแก้เก้อ
“อะนี่ ผอ.”
กนกวรรณรีบเปิดรูปผู้บริหารให้พราวมุกได้ดู
“ห.. ห้ะ”
สาวเจ้าเห็นว่าคนในรูปคือฝรั่งตาฟ้าผมน้ำตาลคนนั้นเธอก็จำได้ทันทีว่าทำตัวเสียมารยาทกับเขาไปอีกทั้งเขายังเป็นเพื่อนกับนนทวัตรอีกแบบนี้เธอยิ่งกังวลว่าเขาจะเรียกเธอไปคุยเรื่องอะไรแน่
“ตกใจที่เค้าหล่อดูดีมากใช่ไหมล่ะ..ใครเห็นก็อาการนี้กันทุกคนนั่นแหละ”
กนกวรรณอมยิ้มกับอาการของพราวมุกและคิดว่าเธอคงไม่เชื่อว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะมีรูปลักษณ์ปานนายแบบเช่นนี้
“เค้าเป็นเจ้าของผับกับเจ้าของบริษัทจิวเวอรี่ไม่ใช่เหรอคะ”
พราวมุกมองหน้ากนกวรรณอย่างแปลกใจเพราะที่เธอรู้จากณจันทร์กวินไม่ได้เป็นเจ้าของโรงพยาบาล
“แสดงว่าเคยรู้จักแล้วเหรอ”
“ก็พอรู้มาบ้างค่ะแต่ไม่คิดว่าจะเป็น ผอ.ที่นี่”
“ควบหลายตำแหน่งน่ะตระกูลนี้ทายาทน้อย”
“อ๋อ.ค่ะ”
พราวมุกทิ้งหลังพิงเก้าอี้แหมะรู้สึกกังวลจนหน้าซีดเซียวไม่รู้จะถูกไล่ออกเพราะมารยาทไม่งามหรือเปล่าอีกอย่างถ้าเขาถามเธอเรื่องปานตะวันว่ารู้จักกับเธอได้ยังไงเธอจะพูดว่าอะไรตอนนี้มึนไปหมด
“คนนี้แน่เหรอครับคุณยายที่ช่วยคุณยายวันนั้น”
กวินเห็นรูปจากใบสมัครงานของพราวมุกเขาก็จำได้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับปานตะวันแต่ในประวัติเธอเป็นเด็กกำพร้าที่เรียนก็ไม่ใช่ที่เดียวกับปานตะวันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาคบกันได้แถมที่เขาเห็นยังดูสนิทกันมากด้วย
“ใช่..ยายจำไม่ผิดหรอกตาวิน”
แก้วเกตพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“แค่ถามเรื่องสร้อยทำไมดูคุณยายซีเรียสจังเลยล่ะครับ”
“สร้อยเส้นนี้ยายเอาไปให้ทนายประจำตระกูลของสร้อยแสงดาวดูแล้วเค้าบอกว่าสร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยประจำตระกูลจริงหายไปพร้อมกับลูกสาวของสรุตาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน”
แก้วเกตจำได้ดีว่าสร้อยแสงดาวและสรุตาเสียใจมากที่ถูกคนรับใช้ขโมยลูกไปเพราะความแค้นที่ถูกไล่ออกจากงานทั้งสองตามหาทายาทคนเดียวทุกที่แต่ก็ไม่พบทั้งยังได้ข่าวว่าคนรับใช้ที่ขโมยทายาทไปได้ถูกรถชนจนเสียชีวิตเธอเองก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะมาเจอใครที่มีสร้อยประจำตระกูลของเพื่อนเธออีก
“หมายความว่าถ้าสร้อยเส้นนี้เป็นของคนที่ชื่อพราวมุกจริงเธอก็คือทายาทคนสุดท้ายของคุณยายสร้อยเหรอครับ”
“ใช่แต่ยายก็ต้องถามให้ถ้วนถี่เสียก่อนว่าสร้อยเส้นนี้พราวมุกได้มายังไง”
แก้วเกตพยักหน้าเธอเชื่อว่าไม่มีใครมาเลียนแบบสร้อยประจำตระกูลของเพื่อนเธอได้เพราะมุกที่ใช้เป็นมุกน้ำงามที่หายากที่สุดและไม่มีใครรู้ว่าสร้อยทุกเส้นจะสลักชื่อเจ้าของเอาไว้
ก๊อกๆๆ
“คุณพราวมุกมาแล้วค่ะ”
ชุติมาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพราวมุก
“สวัสดีค่ะ..”
พราวมุกยกมือสวัสดีกวินและหลบสายตาของเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปเจอกับหญิงชราที่เธอได้ช่วยเหลือเอาไว้เมื่อวันที่เธอได้มาสมัครงานที่นี่
“คุณยาย”
“นั่งก่อนสิจ้ะ”
ชุติมาเดินออกไปจากห้องได้แก้วเกตก็เรียกให้พราวมุกเข้ามานั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน
“ค่ะ”
“ฉันขอบคุณหนูมากนะที่วันนั้นช่วยฉันเอาไว้ไม่อย่างนั้นฉันคงจะเจ็บหนัก”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ”
พราวมุกเริ่มจะหายใจหายคอคล่องที่แท้เรื่องที่เธอกังวลว่าจะถูกเรียกคุยก็ไม่ใช่สักเรื่อง
“อีกเรื่องที่ฉันอยากจะถาม...สร้อยเส้นนี้เป็นของหนูใช่หรือเปล่า”
แก้วเกตเปิดกล่องสร้อยมุกตรงหน้าของพราวมุกแววตาของสาวเจ้าดูเป็นประกายขึ้นมาทันทีด้วยดีใจที่สร้อยยังอยู่ตรงหน้าทั้งที่คิดเอาไว้ว่าชาตินี้คงไม่เจอสร้อยเส้นนี้แล้ว
“ใช่ค่ะ..หนูก็นึกว่าหายไปแล้ววันนั้นหาตั้งนาน..หนูขอคืนนะคะ”
พราวมุกรีบแบมือขอของเธอคืนแต่แก้วเกตยังคงไม่ยื่นถึงมือหญิงสาวง่ายๆเพราะเธอมีคำถามอีกอย่างที่อยากจะได้คำตอบเพื่อความแน่ใจ
“ฉันอยากรู้ว่าหนูได้สร้อยเส้นนี้มาได้ยังไง”
“คือหนูเป็นเด็กกำพร้าค่ะ..สร้อยเส้นนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่แม่ครูบอกว่ามันติดตัวของพราวมาตั้งแต่เจอพราวค่ะ..สร้อยนี้เป็นจี้ไข่มุกแม่ครูก็เลยตั้งชื่อพราวว่าพราวมุกค่ะ”
“ในสร้อยมีอะไรพิเศษหรือเปล่า”
“มีสลักชื่อว่าสรุตาค่ะ”
“ให้ได้อย่างนี้สิ”
แก้วเกตอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
พราวมุกเห็นว่าทั้งกวินและหญิงชราตรงหน้ามองเธอแปลกๆจนทำให้เธอเริ่มที่จะเกิดอาการประหม่าขึ้นอีกแล้ว
“เป็นไปได้ยังไงพราว..ตัวเนี่ยนะเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน”เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับณิชามากเมื่อพราวมุกกลับมาเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน“ใช่..แต่ทางทนายจะต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน”หลังจากที่แก้วเกตบอกกับเธอว่าเธอน่าจะเป็นลูกของคนที่ชื่อสรุตาพราวมุกก็ไปโรงพยาบาลหาหมอประจำตระกูลของสรุตาและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอของพ่อกับแม่ที่เก็บตัวอย่างเอาไว้หรือไม่หากตรงก็เท่ากับว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปในทันที“ขอให้เป็นจริงนะพราว”ณิชาดีใจไปกับพราวมุกด้วยและภาวนาว่าขอให้เพื่อนเธอเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ“ถ้าเป็นจริงมันก็มีทั้งเรื่องน่ายินดีแล้วก็น่าเศร้าเพราะเค้าไม่เหลือคนในครอบครัวเลย”“นั่นสินะ...แต่อย่าลืมนะพราวว่าเรามีครอบครัวที่ใหญ่กว่าคนอื่นตั้งเยอะ”“จริงด้วยนะ..อยากให้แม่ครูกับจันทร์อยู่ด้วยตอนนี้จัง”พราวมุกนั่งจับมือกับณิชาแน่นเธอคงจะดีใจที่ได้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆไม่ใช่ว่าจะมีเงินใช้สุขสบายแต่ดีใจที่จะมีเงินมาให้แม่ครูพัฒนาบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่และชีวิตเด็กๆพี่ๆน้องๆร่วมบ้านก็จะได้ดีขึ้นไปด้วยทางด้านณจันทร์ตั้งแต่เช้าจรดเย็
“ขอบคุณนะครับป้าบัวลุงโนชที่เอาอาหารมาให้แถมยังพาหมอมารักษาผม”นนทวัตรจึงตัดบทบัวผันเอาไว้ก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวรู้ว่าที่นี่ที่ไหนด้วยกลัวว่าเธอจะหาทางติดต่อกับคนอื่นให้มาช่วยถูก“อ๋อ..ก็รู้เรื่องจากคุณตะวันนี่แหละครับถึงได้รีบพาหมอมา..ไม่มีอะไรแล้วพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ภาพที่บัวผันและมาโนชกำลังลุกเดินออกไปทำใจของณจันทร์ห่อเหี่ยวหนักลงไปอีกเพราะมีคนให้เธอขอความช่วยเหลือแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่เชื่ออะไรเธอ“ทานยาให้ตรงเวลานะครับคุณนน”กิตติคุณหันมาบอกกับนนทวัตรก่อนจะเดินตามสองลุงป้าไป“ครับ”หลังจากทุกคนออกไปกันจนหมดนนทวัตรก็หันมาจ้องคนที่นั่งก้มหน้างุดเขม็ง“ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก...คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด”“ฉันหนีได้ค่ะ..แต่เพราะฉันเป็นคนที่มีสำนึกต่างหากเลยไม่ปล่อยให้คุณนอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้น”ณจันทร์เงยหน้ามองคนที่กำลังพูดถางถางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ให้ผมเดา..คุณคงกลัวผมตายแล้วตัวเองจะมีความผิดต่างหากถึงได้ยอมกลับมา”“จะอะไรก็ช่างฉันว่าเราหยุดเล่นสงครามประสาทกันซะทีเถอะพาฉันกลับเถอะนะขอร้องล่ะ”“ไม่..บอกแล้วไงว่าถ้าคุณไม่ยอมไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวผมคุณก็จะต้องใช้ชีวิตที่น
“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน“จันทร์บอกพี่เอาไว้”“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์“คุณนนใช่ไหมคะ”“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน“คือ..”ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้“แบบนี้นี่เอง”“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน“จริงเหรอคะ”“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น
วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลานนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่ซุปเปอร์XX“หนมผิง”เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร