วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ
“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”
ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่
“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”
ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลา
นนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน
“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”
แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่
ซุปเปอร์XX
“หนมผิง”
เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
“พี่เมฆ..มาหาซื้ออะไรเหรอคะ”
หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อชายหนุ่มที่คุ้นเคยกันเข้ามาทักทาย
“พี่ก็มาหาซื้อของสดเอาไว้ที่คอนโดน่ะ”
“ระดับพี่เมฆผิงนึกว่ามีแม่บ้านมาหาซื้อให้ซะอีก”
ณิชาแอบแปลกใจว่าทำไมเมฆาถึงได้ต้องมาหาซื้อของเอง
“ถ้าอยู่บ้านน่ะใช่..แต่พี่แยกออกจากครอบครัวมาอยู่คอนโดเลยต้องทำอะไรเอง”
เมฆาย้ายมาอยู่คอนโดตั้งแต่บริหารงานที่บริษัทเองแล้วเพราะที่อยู่ของเขาใกล้กับบริษัทอีกอย่างก็อยากที่จะแยกจากครอบครัวมาอยู่คนเดียวนานแล้วด้วย
“แสดงว่าพี่เมฆทำอาหารทานเองเหรอคะ”
“ส่วนมากก็ทำเองพี่ชอบทำอาหารมันผ่อนคลายดี”
“อยากรู้จังเลยค่ะว่าฝีมือการทำอาหารของพี่เมฆจะพัฒนาไปถึงไหนแล้ว”
ณิชาจำได้ดีว่าเมฆาเคยบอกกับเธอว่าเขานั้นชอบทำอาหารเท่าที่ดูจากฝีมือที่เธอเห็นเขาทำอาหารในครั้งที่ไปค่ายด้วยกันก็คิดว่ายังต้องพัฒนาอีกเยอะจนไม่รู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มพัฒนาฝีมือการทำอาหารไปถึงไหนแล้ว
“พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่ลืมฝีมือพี่ที่ค่ายใช่หรือเปล่า”
เมฆาพอจะเดาออกว่าณิชาคงจะนึกถึงตอนที่เขาทำอาหารที่ค่ายแน่
“ไข่เจียวไหม้ๆน่ะเหรอคะ”
สาวเจ้าว่าพรางอมยิ้ม
“วันนี้หนมผิงว่างหรือเปล่า”
“ซื้อของเสร็จก็ว่างค่ะ”
“เอาเป็นว่าวันนี้พี่ขอแก้มือเดี๋ยวพี่ขับรถพาเอาของไปเก็บที่ห้องหนมผิงก่อนแล้วไปทานข้าวคอนโดพี่โอเคไหม”
“อืม..ก็ได้ค่ะ”
ณิชาไม่คิดปฏิเสธเพราะเย็นนี้เธอไม่มีเพื่อนทานอาหารด้วยอยู่แล้วเพราะณจันทร์ก็ไม่อยู่ส่วนพราวมุกก็มีธุระที่ต้องไปทำกว่าจะกลับก็น่าจะค่ำๆ
คอนโดxxx
ณิชามาถึงคอนโดของเมฆาได้เธอก็ตะลึงกับพื้นที่ใช้สอยของที่นี่พอสมควรเพราะคราแรกคิดว่าคอนโดชายหนุ่มที่อยู่คนเดียวน่าจะเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆมีเพียงหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำและห้องนั่งเล่นแต่นี่เหมือนกับบ้านขนาดย่อมที่เรียกว่าเพนท์เฮ้าส์ก็ว่าได้เพราะโซนด้านล่างเป็นครัวและพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางส่วนอีกชั้นก็เป็นชั้นลอยที่เธอเพียงมองขึ้นไปก็พอจะรู้ว่าด้านบนน่าจะมีห้องใหญ่อยู่แน่นอน
“พี่เมฆมีอะไรให้ผิงช่วยหรือเปล่าคะ”
ณิชาเลือกที่จะเดินตามเมฆาเข้าครัวเพราะไม่อยากรอทานอาหารโดยการนั่งเฉยๆมันจะทำให้การรอของเธอมันดูน่าเบื่อ
“ล้างผักพวกนี้แล้วก็หั่นก็ได้พี่ว่าจะทำราดหน้าทะเลหมี่กรอบให้เราทาน”
“ค่ะ”
ณิชาหยิบผักรวมในถาดใหญ่ก่อนจะแกะล้างอย่างชำนาญเพราะเรื่องทำอาหารเธอก็เป็นเกือบทุกอย่างอยู่แล้ว
“ปกติเราชอบทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
เมฆาหันเตรียมพวกของทะเลเรียบร้อยจึงหันมาถามคนที่กำลังหั่นผัก
“ผิงก็ทานได้หมดค่ะ”
เรื่องของชอบเธอไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่ทานได้แทบทุกอย่างโดยไม่มีอะไรโปรดเป็นพิเศษอาจจะเพราะเป็นคนจากบ้านเด็กกำพร้าที่มีอะไรทานก็ต้องทานให้ได้ทุกอย่างจนชินไปแล้วก็ได้
“แล้วจันทร์ล่ะเธอชอบอะไรเป็นพิเศษไหม”
และแล้วเมฆาก็วนเข้าเรื่องความชอบของณจันทร์จนได้ที่เขาถามก็เพราะเผื่อวันหน้าได้มีโอกาสทานข้าวกับณจันทร์เขาจะได้หาร้านอาหารที่ถูกใจของเธอหรือไม่ก็หัดทำของอร่อยของณจันทร์เอง
“อ.. อ๋อ..”
ณิชาเริ่มยิ้มไม่ค่อยออกเท่าไรเพราะคิดว่าเรื่องวันนี้ที่เมฆาจะคุยกับเธอเป็นเรื่องที่อยากคุยกับเธอจริงๆเสียอีกที่แท้ก็เพราะอยากรู้เรื่องของณจันทร์เท่านั้น
“พวกเราทานอะไรกันง่ายๆอยู่แล้วค่ะไม่ได้มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ.. โอ้ยย.. “
ด้วยความที่ใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับมีดที่หั่นผักอยู่ในมือตอนนี้มือเรียวที่จับผักชิ้นเล็กอยู่ก็ถูกมีดคมบาดจนได้
“ผิง..ซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยนะเรา”
เมฆารีบเข้ามาดูแปลของหญิงสาวทันทีทั้งมองไปที่เลือดที่ผุดออกมาดั่งสายน้ำก็แอบมีสีหน้ากังวลเขาล้างมือให้เธอก่อนจะใช้ทิชชู่ปิดแผลเอาไว้ก่อนและจูงมือณิชาออกมาจากในครัว
“พี่เมฆจำได้ด้วยเหรอคะว่าผิงซุ่มซ่าม”
“ก็เพราะความซุ่มซ่ามของเราไม่ใช่หรือไงที่ทำให้พี่ต้องแบกเราข้ามเขาเขา..นั่งก่อนนะเดี๋ยวพี่ทำแผลให้”
เมฆาไม่เคยลืมได้เพราะตอนนั้นเขารู้สึกใจไม่ดีเอามากๆเมื่อเห็นณิชาไถลลงเขาชันไปเมื่อต้องไปช่วยชาวบ้านบนดอยหาสมุนไพรในป่าและก็เป็นเขาที่แบกหญิงสาวกลับมาหาหมอที่หมู่บ้าน
“เรื่องดีๆทั้งนั้นเลยนะคะที่จำ”
ณิชานึกว่าเมฆาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเสียอีกเพราะเธอก็อยากจะลืมมันด้วยจำได้ว่าตอนนั้นความซุ่มซ่ามของเธอทำให้คนอื่นในค่ายพลอยเป็นกังวลกันไปหมด
“เราก็จำไข่เจียวไหม้ๆได้ไม่ลืมไม่ใช่เหรอ”
เมฆาวางกล่องปฐมพยาบาลที่โต๊ะกลางโซฟาและหย่อนก้นนั่งลงข้างหญิงสาวเขาเพื่อทำแผลให้เธอ
“ผิงกลับก่อนนะคะ”
หลังจากอยู่ทานอาหารได้พักใหญ่ณิชาก็ต้องขอตัวกลับเพราะตอนนี้เริ่มดึกมากแล้ว
“แน่ใจนะว่าไม่พี่ไปส่ง”
“ผิงนั่งรถไฟฟ้ากลับถึงไวกว่าค่ะ”
“โอเค”
ณิชาเดินมาจนพ้นคอนโดของเมฆาได้เธอก็หุบยิ้มลงแอบต่อว่าหัวใจตัวเองที่ห้ามไม่ให้เจ็บแล้วก็ยังเจ็บซ้ำๆอยู่ได้ที่ต้องมารับรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเมฆาชอบณจันทร์
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร
เช้าวันต่อมาก๊อกๆๆนนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร“จะไปแล้วเหรอคะ”“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน“ช่างมันเถอะค่ะ”นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด
“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”“ใช่ค่ะ”พราวมุกเห็นด้วยก
“ผมบดข้าวกับตับให้ทะเลเรียบร้อยแล้วนะ”หลังจากที่พาทะเลกลับมาที่บ้านได้นนทวัตรถือถ้วยข้าวที่เขาพึ่งบดเสร็จออกมานั่งพร้อมหน้ากับหญิงสาวและเจ้าก้อนกลม“ขอบคุณค่ะ”ณจันทร์ยื่นมือรับถ้วยข้าวที่มือของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอเสียอย่างนั้นก่อนจะเข้ามานั่งตรงหน้าเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่บนรถเข็นแทน“วันนี้ผมขอป้อนเค้าบ้างได้หรือเปล่า”“ได้สิคะ”“อืม.. ฟู่”ข้าวบดคำโตที่เข้าปากเด็กชายไปตอนนี้ได้กระเด็นมาอยู่บนหน้าของนนทวัตรทั้งหมด“ทะเล”นนทวัตรรีบหันหน้าหลบร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกเจ้าตัวกลมจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว“เลอะหมดเลย”ณจันทร์รีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มทันทีและคิดว่าทะเลน่าจะไม่ชอบรสชาติของตับบดถึงได้พ่นออกมาแบบนี้“ทะเลน่าจะไม่ค่อยชอบรสชาติของตับบดน่ะค่ะเดี๋ยวฉันลองเอาฟักทองบดรวมดู”ณจันทร์เช็ดเหน้าให้นนทวัตรเรียบร้อยเธอจึงรีบเดินถือถ้วยข้าวเข้าไปในครัวใหม่เพื่อนำฟักทองที่ต้มแช่ตู่เย็นเอาไว้มาอุ่นและบดรวมไปกับข้าวของเด็กชายอีกครั้ง“แกล้งลุงเหรอห้ะ..เดี๋ยวก็ไม่ให้กินนมซะหรอก”นนทวัตรหันมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวกลมหลังจากที่หญิงสาวให้หลังไปแล้ว“แอ้ะ..”เจ้าแก้มยุ
“อืม..แต่ผมขอคุณอย่างเดียวขอแค่มีแค่ผมเท่านั้น”“ฉันยืนยันกับคุณอีกครั้งนะคะ...ว่าฉันเลิกกับไทม์แล้วจริงๆสิ่งที่คุณเห็นอาจจะเป็นเพราะไทม์อยากจะให้เราทะเลาะกันส่วนวันนั้นที่คุณเจอฉันที่ร้านอาหารกับผู้ชายคนอื่นมันไม่มีอะไรจริงๆค่ะ”“ผมจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง..ต่อไปนี้เราสงบศึกกันแล้วมาเรียนรู้กันให้มากขึ้นโอเคไหม”“ค่ะ”ร่างบางถูกรวบกอดเอาไว้แน่นคราแรกเธอตกใจพอสมควรแต่เมื่อได้รับอ้อมกอดที่อ่อนโยนอบอุ่นเธอก็เริ่มยิ้มออกมาได้..หญิงสาวเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าทำไมถึงได้เขินสายตาของชายหนุ่มแถมตอนนี้ยังไม่รู้สึกกลัวเขาอย่างก่อนหน้าว่าคงเป็นเพราะเธอน่าจะเริ่มมีใจให้ชายหนุ่มไปแล้วแน่นอนแอบตำหนิตัวเองที่เผลอใจจนได้แต่อีกใจก็ส่งเสียงบอกกับเธอว่าหากตอนนี้เป็นเวลาที่เธอจะได้มีความสุขก็ตักตวงมันไปให้เต็มที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันอย่างน้อยเธอก็มีเรื่องดีๆของเขาให้จดจำอาทิตย์ต่อมาธนกรเหมือนคนบ้าที่ตามหาปานตะวันไปทั่วไม่ว่าจะไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ถูกสารภีไล่กลับและบอกคำเดียวว่าปานตะวันไปต่างประเทศเขาไม่เคยเชื่อคำพูดของสารภีเพราะรู้ว่าตอนที่เขาคบกับปานตะวันเธอไม่ชอบหน้าเขาอยู่แล้ว นาทีนี้คนที่เขาจะขอความช่ว
วันต่อมา“หลับหรือยัง”นนทวัตรเดินมาชะเง้อหน้ามองหญิงสาวที่กำลังป้อนนมเจ้าตัวกลมที่จะหลับไม่หลับแหล่อยู่ที่หน้าประตูห้องนอน“กำลังจะหลับค่ะ”ณจันทร์เอ่ยกระซิบตอบกลับคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ“ผมลืมบอกคุณ..ลุงโนชบอกว่าอีกไม่กี่วันหมอก็จะให้ยิหวากลับแล้ว”“เหรอคะ..ฉันคงต้องคิดถึงทะเลมากๆแน่เลย”ณจันทร์ก้มมองหน้าเจ้าตัวกลมในอ้อมอกแอบใจหายเหมือนกันที่เธอจะไม่ได้เจอทะเลอีกแล้ว“เดี๋ยวผมจะพามาหาบ่อยๆดีหรือเปล่า”“ค่ะ”สาวเจ้าเริ่มมีแววตาไหววูบด้วยรู้ตัวว่าคงไม่มีเหตุที่จะต้องมาที่นี่อีกเพราะเมื่อกลับไปแล้วเธอก็คงจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นณจันทร์คนเดิมซ่า.. ซ่าา.. ช่วงเย็นแดดร่มลมตกณจันทร์อุ้มทะเลมานั่งเล่นที่ชายหาดเพื่อปล่อยให้หนูน้อยได้คลานเล่นกับธรรมชาติส่วนเธอก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องเก็บภาพแห่งความสุขเอาไว้แทบจะตลอดเวลาเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปจากที่นี่ในอีกไม่เท่าไร“ทะเลยิ้มให้น้าหน่อยสิครับ”“แอ้..”เจ้าตัวกลมหัวเราะร่าเล่นกล้องเรียกรอยยิ้มณจันทร์ให้ยิ้มตามได้เป็นอย่างดี“คุณ..”จู่ๆนนทวัตรก็กระโดดโผล่มาที่หน้ากล้องมือถือของณจันทร์ทำเอาสาวเจ้าตกอกตกใจจนแทบทำมือถือล่วง“คุณนน..ตกใจหมดค่ะ”“ถ