“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”
แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา
“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”
เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้
“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”
ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน
“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”
แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว
“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”
“ใช่ค่ะ”
พราวมุกเห็นด้วยกับสิ่งที่กวินพูด
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องทรัพย์สินส่วนที่คุณพราวจะได้ให้คุณพราวก่อนแล้วเรื่องเงินสองพันล้านคุณพราวกับคุณวินไปตัดสินใจกันอีกทีก็ได้ครับ”
เปรมเห็นว่าเรื่องข้อกำหนดของพินัยกรรมฉบับนี้คงต้องให้สองหนุ่มสาวไปตัดสินใจกันอีกพักใหญ่ที่เขาจะเริ่มจัดการเรื่องทรัพย์สินให้พราวมุกได้มีชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมได้ก็น่าจะเป็นเรื่องบ้านกับเรื่องเงินสดส่วนแรกให้หญิงสาวก่อน
“จะเอายังไงพราว”
ณิชาเห็นพราวมุกนั่งเงียบมาตั้งแต่กลับจากบ้านของแก้วเกตเธอจึงอยากรู้ว่าตอนนี้เพื่อนเธอคิดจะเอายังไงกับข้อกำหนดในพินัยกรรม
“เงินตั้งสองพันล้านเลย...ได้มาบ้านแม่ครูก็ไม่ลำบากอีกต่อไป...หรือว่าแต่งๆไปทนแค่ปีเดียวก็ได้เงินมรดกมาแล้ว”
“อยู่กับคนที่ไม่ได้รักน่ะเหรอ...คุณวินเค้าจะยอมหรือเปล่าดูท่าเค้าก็ไม่ได้อยากแต่ง”
“ถ้าเค้าเสนอเงินให้คุณวินล่ะสัก500ล้านให้เค้ายอมมาแต่งแล้วอยู่ด้วยกันสักปีดีไหม..เพราะเค้าคิดว่าต่างคนต่างไม่ได้รักกันการแต่งงานอยู่กินกันให้เกิดภาพยืนยันเพื่อที่จะได้มรดกมันก็เหมือนการทำงานเป็นพาร์ทเนอร์กันนั่นแหละต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์”
พราวมุกนั่งคิดวิธีมาตั้งแต่นั่งรถกลับและเห็นว่าวิธีนี้น่าจะทำให้เธอและกวินได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
“ตัวก็ลองคุยกับคุณวินเอาแล้วกัน”
ณิชาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบพราวมุกเสียงอ่อนตอนนี้เธอก็ให้คำปรึกษาอะไรพราวมุกไม่ได้มากเพราะคนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับข้อผูกมัดต้องเป็นพราวมุกและกวินเท่านั้น
นนทวัตรเข้ามาหาหญิงสาวในครัวเมื่อเห็นเธอหายเข้ามาในนี้พักใหญ่หลังจากกล่อมทะเลจนหลับไป
“อะไรเหรอ”
ชายหนุ่มมองไปยังอาหารเละๆในถ้วยเล็กที่มือของหญิงสาว
“ไข่ต้มกับตำลึงต้มค่ะฉันจะบดเอาไว้ให้ทะเลทานเย็นนี้”
“ไข่กับตำลึงทะเลจะทานเหรอรสชาติคงไม่น่าทานเท่าไรนะผมว่า”
นนทวัตรพอจะนึกรสชาติของอาหารในถ้วยออกและคิดว่าเจ้าตัวกลมคงจะไม่ชอบกับรสขาติอาหารแน่นอน ณจันทร์มองหน้านนทวัตรที่ทำทีเบ้ปากพูดถึงรสชาติอาหารเธอก็อมยิ้มออกมา
“เด็กเค้าไม่รู้หรอกค่ะคุณนน...อีกอย่างเด็กเล็กทานอาหารที่เป็นรสชาติที่ได้จากธรรมชาติไม่ปรุงอะไรจะดีต่อสุขภาพเค้าด้วยค่ะ”
“เข้าใจแล้ว...มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”
“คุณเอาน้ำต้มสุกไปใส่ในขวดนมทุกขวดเลยนะคะ..เตรียมเอาไว้พอกลางคืนทะเลหิวก็กรอกนมผงใส่ขวดแล้วก็เขย่าได้เลยค่ะ”
“โอเค...แต่นี่มันเย็นแล้วนะ”
นนทวัตรแตะกาน้ำร้อนก็รู้สึกได้ว่ามันไม่เหลือความร้อนแล้ว
“ค่ะ..เวลาชงนมควรชงกับน้ำอุณหภูมิปกติหรืออุ่นๆค่ะ”
“ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจแอบชื่นชมที่หญิงสาวพอสมควรดูจะรู้เรื่องการเลี้ยงเด็กเป็นอย่างดีถึงดีมากเลยก็ว่าได้
วันต่อมา
วันนี้พราวมุกเข้ามาหากวินตั้งแต่เช้าที่ห้องทำงานของเขาพร้อมกับข้อเสนอที่ทำให้กวินอึ้งไปพอสมควร
“คุณจะจ้างให้ผมแต่งงานกับคุณ”
“ใช่ค่ะ.. แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นสามีภรรยาจริงๆนะคะแค่แต่งให้ทนายเห็นเท่านั้น...ถือว่าช่วยฉันแล้วฉันก็มีค่าตอบแทนให้นะคะ”
กวินจ้องหน้าสาวเจ้าที่ดูจะมั่นใจกับข้อเสนอของเธอเหลือเกินว่าเขาจะต้องรับ
“ผมไม่ได้อยากได้ค่าตอบแทนหรอกแต่...”
กวินจ้องมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตามีเลศนัยเขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกกลัวบ้างหรือเปล่าที่จะต้องมาอยู่กับผู้ชายที่บ้านเดียวกันด้วยเวลาเป็นปีๆแต่เขากลัวว่าจะทำตามข้อตกลงของหญิงสาวไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแต่งงานแต่เป็นเรื่องที่เขาก็ไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันว่าหากต้องอยู่ใกล้หญิงสาวตลอดแล้วจะอดคิดอะไรกับเธอไม่ได้เพราะเขาก็ลูกผู้ชายเต็มร้อยส่วนหญิงสาวก็หน้าตาสะสวยโดดเด่นจนเทียบกับพริตตี้นางแบบก็ว่าได้
“คุณมีแฟนแล้วเหรอคะ”
พราวมุกเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าสิ่งที่เธอคิดมาจะได้ผลเพราะเห็นกวินเริ่มอึกอัก
“ยัง..แต่..ช่างเถอะเอาเป็นว่าผมช่วยคุณแล้วกันค่าตอบแทนผมไม่สนหรอก..แต่เงินที่คุณได้ไปต้องเอาไปใช้สิ่งที่มันเป็นประโยชน์จริงๆนะ”
เมื่อได้คำตอบที่ตรงใจพราวมุกก็ยิ้มหน้าบาน
“อยู่แล้วค่ะ..ฉันจะเอาไว้ตั้งตัวก้อนหนึ่งอีกก้อนก็จะเอาไว้ช่วยที่บ้านเด็กกำพร้าที่ฉันเคยอยู่แล้วก็บ้านเด็กกำพร้าที่อื่นด้วย”
“อืม..แต่เรื่องนี้ห้ามให้คุณยายรู้เด็ดขาดว่าเรามาตกลงกันเพราะแค่ผลประโยชน์เพราะคุณยายผมเป็นคนรักษาคำพูดกับเพื่อนมาก”
“โอเค..เอาเป็นว่าเรารู้กันก็พอ..ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน”
“ครับ...อ่อ..ผมว่าจะถามคุณอีกเรื่อง..คุณไปรู้จักสนิทกับปานตะวันได้ยังไง”
คนที่ยิ้มอยู่เมื่อครู่เริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยมั่นใจอีกครั้งลืมไปเลยว่าตัวเองอาจจะถูกกวินถามเรื่องนี้
“เอ่อ..ก็..คุณปานตะวันชอบไปที่บ้านเด็กกำพร้าบ่อยแล้วฉันก็เคยทำงานกับเธอ.. มีอะไรอีกหรือเปล่าคะฉันขอตัวกลับก่อนจะต้องไปย้ายของเข้าบ้าน”
“โอเค”
กวินขมวดคิ้วมองตามหลังหญิงสาวเพราะจู่ๆเธอก็ดูรีบร้อนจะกลับจนกะทันหันทั้งที่เมื่อครู่ยังมีท่าทีสบายๆอยู่เลย
อาทิตย์ต่อมา
เป็นอาทิตย์แล้วที่ทุกๆเช้าตรู่ณจันทร์จะอุ้มเจ้าตัวกลมออกมานั่งเล่นที่ริมชายหาดยามเช้าเพื่อรับบรรยากาศดีๆก่อนจะไปทานข้าวเช้า
“ทะเลเห็นไหมนี่อะไรครับ”
ณจันทร์กำลังจับอะไรบางอย่างออกมาจากกองใบไม้
“แอ้..”
เจ้าแก้มย้วยขมวดคิ้วมองสิ่งของที่อยู่ในมือของณจันทร์ด้วยสีหน้าสงสัย
“นี่คือปูเสฉวน..ปูเสฉวนจะใช้เปลือกหอยที่ไม่มีหอยอยู่แล้วเป็นบ้านเวลาทะเลเจอเค้าทะเลห้ามแกล้งเค้านะครับ”
“แอ้..”
ทะเลยิ้มร่าส่งเสียงอ้อแอ้เฉกเช่นกำลังเข้าใจสิ่งที่ณจันทร์พูด
“คนเก่งของน้าเข้าใจที่น้าพูดใช่ไหม”
“แอ้..”
“ดูทำท่าเข้าสิอย่างกับเข้าใจที่คุณพูดงั้นแหละ”
นนทวัตรเอ็นดูเจ้าก้อนกลมพอสมควรเมื่อเห็นว่าดูจะรู้เรื่องรู้ราวกับการรับฟังคำพูดของผู้ใหญ่ไปเสียทุกคำ
“ค่ะ..อย่าคิดว่าเค้าไม่เข้าใจสิคะ”
“โอเค..ผมผิดเอง”
นนทวัตรหันมายิ้มให้กับหญิงสาวระหว่างที่เขาและเธอช่วยกันเลี้ยงทะเลมาเป็นอาทิตย์ความน่ารักของหญิงสาวในสายตาของเขาก็ดูจะมากขึ้นทุกวันจนทำให้เขายิ้มดีบ่อยขึ้นและเริ่มสลัดความคิดที่จะให้เธอถอนหมั้นออกไปเพราะอยากที่จะลองรู้จักเธอให้มากกว่านี้แล้ว
“ผมบดข้าวกับตับให้ทะเลเรียบร้อยแล้วนะ”หลังจากที่พาทะเลกลับมาที่บ้านได้นนทวัตรถือถ้วยข้าวที่เขาพึ่งบดเสร็จออกมานั่งพร้อมหน้ากับหญิงสาวและเจ้าก้อนกลม“ขอบคุณค่ะ”ณจันทร์ยื่นมือรับถ้วยข้าวที่มือของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอเสียอย่างนั้นก่อนจะเข้ามานั่งตรงหน้าเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่บนรถเข็นแทน“วันนี้ผมขอป้อนเค้าบ้างได้หรือเปล่า”“ได้สิคะ”“อืม.. ฟู่”ข้าวบดคำโตที่เข้าปากเด็กชายไปตอนนี้ได้กระเด็นมาอยู่บนหน้าของนนทวัตรทั้งหมด“ทะเล”นนทวัตรรีบหันหน้าหลบร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกเจ้าตัวกลมจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว“เลอะหมดเลย”ณจันทร์รีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มทันทีและคิดว่าทะเลน่าจะไม่ชอบรสชาติของตับบดถึงได้พ่นออกมาแบบนี้“ทะเลน่าจะไม่ค่อยชอบรสชาติของตับบดน่ะค่ะเดี๋ยวฉันลองเอาฟักทองบดรวมดู”ณจันทร์เช็ดเหน้าให้นนทวัตรเรียบร้อยเธอจึงรีบเดินถือถ้วยข้าวเข้าไปในครัวใหม่เพื่อนำฟักทองที่ต้มแช่ตู่เย็นเอาไว้มาอุ่นและบดรวมไปกับข้าวของเด็กชายอีกครั้ง“แกล้งลุงเหรอห้ะ..เดี๋ยวก็ไม่ให้กินนมซะหรอก”นนทวัตรหันมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวกลมหลังจากที่หญิงสาวให้หลังไปแล้ว“แอ้ะ..”เจ้าแก้มยุ
“อืม..แต่ผมขอคุณอย่างเดียวขอแค่มีแค่ผมเท่านั้น”“ฉันยืนยันกับคุณอีกครั้งนะคะ...ว่าฉันเลิกกับไทม์แล้วจริงๆสิ่งที่คุณเห็นอาจจะเป็นเพราะไทม์อยากจะให้เราทะเลาะกันส่วนวันนั้นที่คุณเจอฉันที่ร้านอาหารกับผู้ชายคนอื่นมันไม่มีอะไรจริงๆค่ะ”“ผมจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง..ต่อไปนี้เราสงบศึกกันแล้วมาเรียนรู้กันให้มากขึ้นโอเคไหม”“ค่ะ”ร่างบางถูกรวบกอดเอาไว้แน่นคราแรกเธอตกใจพอสมควรแต่เมื่อได้รับอ้อมกอดที่อ่อนโยนอบอุ่นเธอก็เริ่มยิ้มออกมาได้..หญิงสาวเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าทำไมถึงได้เขินสายตาของชายหนุ่มแถมตอนนี้ยังไม่รู้สึกกลัวเขาอย่างก่อนหน้าว่าคงเป็นเพราะเธอน่าจะเริ่มมีใจให้ชายหนุ่มไปแล้วแน่นอนแอบตำหนิตัวเองที่เผลอใจจนได้แต่อีกใจก็ส่งเสียงบอกกับเธอว่าหากตอนนี้เป็นเวลาที่เธอจะได้มีความสุขก็ตักตวงมันไปให้เต็มที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันอย่างน้อยเธอก็มีเรื่องดีๆของเขาให้จดจำอาทิตย์ต่อมาธนกรเหมือนคนบ้าที่ตามหาปานตะวันไปทั่วไม่ว่าจะไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ถูกสารภีไล่กลับและบอกคำเดียวว่าปานตะวันไปต่างประเทศเขาไม่เคยเชื่อคำพูดของสารภีเพราะรู้ว่าตอนที่เขาคบกับปานตะวันเธอไม่ชอบหน้าเขาอยู่แล้ว นาทีนี้คนที่เขาจะขอความช่ว
วันต่อมา“หลับหรือยัง”นนทวัตรเดินมาชะเง้อหน้ามองหญิงสาวที่กำลังป้อนนมเจ้าตัวกลมที่จะหลับไม่หลับแหล่อยู่ที่หน้าประตูห้องนอน“กำลังจะหลับค่ะ”ณจันทร์เอ่ยกระซิบตอบกลับคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ“ผมลืมบอกคุณ..ลุงโนชบอกว่าอีกไม่กี่วันหมอก็จะให้ยิหวากลับแล้ว”“เหรอคะ..ฉันคงต้องคิดถึงทะเลมากๆแน่เลย”ณจันทร์ก้มมองหน้าเจ้าตัวกลมในอ้อมอกแอบใจหายเหมือนกันที่เธอจะไม่ได้เจอทะเลอีกแล้ว“เดี๋ยวผมจะพามาหาบ่อยๆดีหรือเปล่า”“ค่ะ”สาวเจ้าเริ่มมีแววตาไหววูบด้วยรู้ตัวว่าคงไม่มีเหตุที่จะต้องมาที่นี่อีกเพราะเมื่อกลับไปแล้วเธอก็คงจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นณจันทร์คนเดิมซ่า.. ซ่าา.. ช่วงเย็นแดดร่มลมตกณจันทร์อุ้มทะเลมานั่งเล่นที่ชายหาดเพื่อปล่อยให้หนูน้อยได้คลานเล่นกับธรรมชาติส่วนเธอก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องเก็บภาพแห่งความสุขเอาไว้แทบจะตลอดเวลาเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปจากที่นี่ในอีกไม่เท่าไร“ทะเลยิ้มให้น้าหน่อยสิครับ”“แอ้..”เจ้าตัวกลมหัวเราะร่าเล่นกล้องเรียกรอยยิ้มณจันทร์ให้ยิ้มตามได้เป็นอย่างดี“คุณ..”จู่ๆนนทวัตรก็กระโดดโผล่มาที่หน้ากล้องมือถือของณจันทร์ทำเอาสาวเจ้าตกอกตกใจจนแทบทำมือถือล่วง“คุณนน..ตกใจหมดค่ะ”“ถ
“จันทร์ขึ้นมาเร็ว”ณจันทร์ขมวดคิ้วมองพราวมุกที่กำลังเปิดประจกรถส่งเสียงเรียกเธอพร้อมกับณิชา“เอารถใครมารับเค้าเนี่ย”ณจันทร์ยืนเกาหัวแกลกๆที่ริมฟุตบาท“รถเค้าเองขึ้นมาเร็วๆจะพาไปดูบ้านใหม่”“บ้านใหม่”“งงล่ะสิเรื่องมันยาวเดี๋ยวถึงบ้านจะเล่าให้ฟัง..ขึ้นมาก่อนเร็ว”เมื่อณจันทร์ขึ้นรถมาได้พราวมุกก็รีบบึ่งพาเพื่อนไปที่บ้านหลังใหญ่ของตระกูลคุณยายเธอทันทีและหน้าที่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของณิชากว่าจะเล่ากันจบทั้งสามก็มาถึงที่บ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ตัวเป็นถึงทายาทเศรษฐีเลยเหรอ”ณจันทร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหรูหันมาจับตัวพราวมุกและมองไปรอบๆอีกครั้ง“ใช่ตอนแรกเค้าก็ไม่อยากจะเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้วและนี่ก็คือบ้านของเรา”“ใหญ่โตขนาดนี้ทำความสะอาดยังไงไหวล่ะเนี่ย”“เค้าก็ว่างั้นแล้วก็ไม่อยากเสียเงินจ้างแม่บ้าน..เค้าเลยไปดูบ้านใหม่เอาไว้แล้ว”“ซื้อใหม่”“ใช่..”พราวมุกพยักหน้าหงึกหงักเธอไม่ได้คิดจะอยู่บ้านหลังนี้ถาวรเพราะใหญ่โตเกินไปและไม่ได้คิดอยากจะชีวิตแบบผู้ดีที่มีแม่บ้านหรือคนรถมาคอยรองมือรองเท้าจึงคิดว่าจะไปหาซื้อบ้านหลังที่ไม่ใหญ่มากพอจะให้เธอและเพื่อนทั้งสองอยู่กันได้อย่างสบายก็พ
ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”“ขอโทษนะคะคุณนน”ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆบริษัทxxx“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”สาวเจ้ารีบส่ายห
“ไปต่างประเทศเหรอครับ”“จ่ะ..ตะวันไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน้าก็ยังไม่รู้ว่าตะวันมีกำหนดกลับเมื่อไรเลย”“ครับ…ผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”นนทวัตรเริ่มหัวเสียถึงขีดสุดเมื่อเข้ามาหาปานตะวันที่บ้านอีกครั้งก็ได้คำตอบจากโสภิตาว่าหญิงสาวไปต่างประเทศอีก“จะไปไหนก็น่าจะบอกกันให้รู้บ้าง”เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะตัดขาดการติดต่อกับเขาอย่างไม่ไว้หน้าทั้งไปไหนมาไหนยังไม่เคยคิดจะบอกกันไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอทำดีกับเขาเมื่ออยูที่เกาะคือเธอดีจริงๆหรือเสแสร้งเพื่อที่จะให้ขพาออกจากที่นั่นเร็วๆกันแน่หลังจากนี้เขาจะตามหาตัวเธอทุกทางเท่าที่จะทำได้เพราะเมื่อเธอเอาหัวใจของเขาไปแล้วจะมาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้มันไม่ถูกต้องและเขาก็จะสั่งสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับเขาคอนโดxxx“พี่รู้ว่าคุณนนกลับมาแล้ว..ไทม์พอจะเรียกตะวันออกมาพบได้หรือเปล่าเพราะพี่จะทำทีชวนคุณนนมาคุยงานข้างนอกพี่อยากให้คุณนนเห็นตอนไทม์อยู่กับตะวันคุณนนจะได้เชื่อไทม์ไงว่าที่ไทม์พูดว่าไม่เคยเลิกกับตะวันเป็นเรื่องจริง”ลลิตาโทรเรียกธนกรมาคุยกันที่คอนโดเพราะเธอคิดแผนการออกแล้วว่าจะทำยังไงให้สองคนนั้นแตกคอกัน“แผนดูง่ายนะครับแต่ที่ยาก..มันคงยากตรงที่ติดต่อ
“เอามือถือมา”เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง“เอามือถือมา!”ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”“คุณนนปล่อย”นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต