วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียด
ทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมาก
ส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้
พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิตของกวินและพราวมุกจึงมีกันและกันมากกว่าคนอื่นๆ
ส่วนณิชาตอนนี้เธอก็ได้ลาออกจากที่ทำงานเดิมและเข้ามาเป็นผู้ช่วยของพราวมุกและหลังจากตอนนั้นที่เธอรู้ว่าเมฆาอกหักช่วงแรกเธอก็จะคอยหาเวลานัดเจอเมฆาเพื่อดูว่าเขาเศร้าหรือไม่และเมื่อเธอเห็นว่าเขาเริ่มร่าเริงขึ้นจึงค่อยวางใจและไม่ค่อยรบกวนเวลาของเมฆาอีก..แต่เป็นเมฆาที่จะรบกวนเวลาว่างของณิชาอยู่เรื่อยๆโดยการชวนเธอทานข้าวบ้างหรือชวนไปเที่ยวไปทานอาหารที่บ้านหลังๆนี้ก็เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆโดยที่ณิชาก็ไม่ปฏิเสธเพราะคิดว่าเมฆาคงเหงาและหากเธอเป็นคนทำให้เขาอารมณ์ดีได้เธอก็พร้อมที่จะจำโดยที่ก็ยังไม่คิดบอกเรื่องที่เก็บเอาไว้ในใจแม้แต่น้อย
“งานวันเกิดคุณเพื่อนคุณพ่อพี่จะขอยืมตัวผิงควงออกงานได้หรือเปล่าเพื่อนพี่ตอนนี้ก็อยู่ต่างประเทศกันหมดจันทร์ก็ถูกคุนนนคลุมไม่ให้ห่างสายตาส่วนพราวก็ยังอยู่ต่างประเทศกับคุณกวิน”
เป็นอีกวันที่เมฆานัดณิชาออกมาทานข้าวเพราะเขาต้องการให้หญิงสาวออกงานด้วย
“ได้สิคะแล้วผิงต้องแต่งตัวยังไงคะผิงก็แต่งไม่ค่อยเก่งด้วย”
เรื่องแค่นี้ณิชาไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้วเพียงแค่เธอกังวลเรื่องภาพลักษณ์ในการออกงานสังคมของเหล่าคนมีเงินเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่จ้างช่างไว้ให้ผิงไม่ต้องห่วง”
“ค่ะ.. แล้วช่วงนี้พี่เมฆโอเคแล้วหรือยังคะ”
“โอเค.. เรื่อง?”
เมฆามองจ้องไปยังคนที่ถามด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจคำถามของหญิงสาว
“ก็.. ตอนนั้น.. อกหัก”
“เรื่องจันทร์น่ะเหรอ..พี่โอเคแล้วล่ะ”
ทุกวันนี้เขากับจันทร์ก็เป็นแค่เจ้านายเลขาแล้วก็พี่น้องจนชินไปแล้วบางทีการรักษาความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดีกว่าคบกันแบบคนรักจริงๆและตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกดีกับคนที่ไม่ใช่ณจันทร์แล้ว
“รู้แบบนี้ผิงก็ดีใจค่ะ”
สาวเจ้าพอจะเปรยยิ้มออกมาได้อย่างเต็มอกเมื่อรู้ว่าเมฆามีความสุขจริงๆได้เสียที
“เป็นห่วงพี่เหรอ”
ชายหนุ่มเปรยถามคนตรงข้ามด้วยสายตาที่แอบมีเลศนัย
“ผิงก็เป็นห่วงทุกคนแหละค่ะ..ทานข้าวเถอะค่ะ”
ณิชาพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเลี่ยงตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจง
ทางด้านพราวมุกตอนนี้เธอก็บินมาญี่ปุ่นพร้อมกวินได้สองสามวันแล้วมาที่นี่เธอก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนและส่วนมากก็จะคุยกันเรื่องการทำงานเสียมากกว่า
“งานบริหารทำไมมันดูยุ่งยากจังจ้างคนอื่นทำไม่ได้เหรอคุณวิน”
พราวมุกที่เรียนรู้งานมาได้พักใหญ่เธอรู้สึกว่าการเป็นผู้บริหารอะไรสักอย่างมันคือการเรียนรู้ที่ไม่จบไม่สิ้นจริงๆจนตอนนี้เธอเริ่มท้อแล้ว
“จ้างได้แต่ยังไงคุณเป็นเจ้าของก็สมควรต้องรู้ทุกอย่างอยู่ดีแรกๆก็ดูยากแบบนี้นั่นแหละเดี๋ยวพอคุณได้เรียนรู้ลงมือทำก็จะทำทุกอย่างได้คล่องเอง”
“ตอนคุณเริ่มบริหารงานเองยากมากหรือเปล่าคะ”
พราวมุกจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายและอยากจะร้ว่าคนที่ทำงานเก่งๆอย่างกวินตอนแรกเริ่มเหนื่อยแบบเธอหรือเปล่า
“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ายากหรือไม่ยากหรอกรู้แค่ว่าต้องทำให้ได้เพราะตอนนั้นคุณพ่อผมป่วยคุณแม่ผมก็ต้องดูแลคุณพ่อผมก็ต้องช่วยคุณยายบริหารงานหลังจากนั้นไม่นานคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแต่คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็มาเสียด้วยอุบัติเหตุตอนนั้นมีแค่คำว่าต้องทำให้ได้เท่านั้น”
กวินนึกถึงตอนนั้นเขาไม่ได้มีคำว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยอยู่ในสมองเลยเพราะมันคือหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบจนลืมคำพวกนั้นไป
“คุณก็ดูเป็นนักสู้เหมือนกันนะคะ”
“คุณลองคิดว่ากำลังท้าทายความสามารถตัวเองดูสิแล้วจะมีสักกี่คนที่ได้มาบริหารกิจการใหญ่โตแบบนี้ถ้าคุณทำได้ดีคุณจะภูมิใจในตัวเองมากๆเชื่อผมสิ”
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจฉัน”
พราวมุกยิ้มออกและขอบคุณชายหนุ่มจากใจจริงที่เขาทั้งช่วยเหลือเธอได้ตลอดและยังคงมีคำพูดปลุกใจหรือปลอบใจเธอได้ทุกเวลาจริงๆ
“เพชรชุดนี้ผมสั่งทำพิเศษให้คุณเลยนะครับ”
นนทวัตรเข้ามาสวมกอดทางด้านหลังณจันทร์และเปิดกล่องเครื่องเพชรให้หญิงสาวดูขณะที่เธอกำลังยืนทำอาหารเย็นเสาร์อาทิตย์นี้เป็นอีกครั้งที่นนทวัตรไปรับตัวหญิงสาวมาอยู่ด้วยและดูท่าเขาก็จะคลั่งรักเธอเป็นพิเศษอยากจะแต่งงานกับเธอไปให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่สาวเจ้าก็ยังปฏิเสธอยู่ร่ำไป
“ขอบคุณนะคะ”
“ถ้าชุดเครื่องเพชรนี้ไปอยู่บนตัวคุณคงสวยน่าดู”
“ปากหวานจังเลยนะคะ”
“ก็หวานแค่กับคุณเท่านั้นแหละครับ”
ว่าจบมือหนาก็หมุนคนตัวเล็กให้หันหน้ากลับมาหาก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางฉกชิมความหวานจนพอใจและแล้วอาหารเย็นวันนี้ก็ไม่ใช่อาหารที่ณจันทร์เป็นคนปรุงแต่เป็นเธอที่ต้องกลายมาเป็นอาหารบนเตียงให้เขาอีกครั้งต่างหาก
วันต่อมา
โรงแรมxxx
นนทวัตรมางานเลี้ยงเปิดโชว์รูมรถสาขาใหม่ของเพื่อนภัทรพลเมื่อเข้างานมาได้เจอแม่ตนก็รีบเข้าไปหาทันที
“เห็นตะวันมาหรือยังครับคุณแม่”
คนคลั่งรักอย่างนนทวัตรเมื่อคุยทักทายกับคนเป็นแม่เรียบร้อยก็มองซ้ายมองขวาหาหญิงสาวอันเป็นที่รักทันที
“เธอมาทักทายแม่อยู่นะแต่เห็นเดินออกไปที่ลานด้านนอกเมื่อกี้นี้เอง”
“ผมขอตัวไปหาเธอก่อนนะครับ”
ว่าจบก็เดินปรี่ออกไปที่ลานเอาท์ดอร์ด้านนอกที่มีรถหรูจอดเรียงรายกันอยู่
ณจันทร์เดินออกมาด้านนอกเพราะเมื่อครู่มีสตาฟในงานมาแจ้งให้เธอทราบว่ามีคนรอคุยอยู่ด้านนอก
“จันทร์ไม่รู้ว่าคุณสาจะมาที่งานนี้ด้วย”
สาวเจ้าเห็นคนที่นั่งรออยู่เป็นสารภีจึงรีบไปทักทาย
“ที่จริงเค้าเชิญยัยโสน่ะแต่ยัยโสไม่สบายฉันเลยมาแทน”
“คุณโสเป็นอะไรคะ”
ณจันทร์รีบหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับสารภีเอ่ยถามถึงโสภิตาด้วยท่าทีที่เป็นห่วง เป็นเวลาเดียวกับที่นนทวัตรกำลังเดินออกมาด้านนอก
“เครียดที่หาปานตะวันไม่เจอสักทีไง”
เสียงของสารภีทำนนทวัตรหยุดชะงักหลบมุมอยู่แถวรถsuvคันใหญ่ เพราะแปลกใจกับคำพูดของสารภีพอสมควร
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั
“ฮือๆ..อือ..ฮื่อๆๆ..”ณ บ้านแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแม้นที่นี่จะมีชื่อว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแต่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้เมื่อเลยกลางดึกบ้านแทบทุกหลังก็เงียบสงัดต่างจากบ้านของพราวมุกที่มีเพื่อนสาวที่กำลังอกหักอย่างณจันทร์ร้องห่มร้องให้เจียนขาดใจ“จันทร์เอ้ย..จะเป็นปกติได้เมื่อไรล่ะเนี่ย”พราวมุกสาวสวยร่างสูงเอ่ยกับณิชาเพื่อนรักอีกคนที่ยืนกอดอกมองณจันทร์กันอยู่ห่างๆ ทั้งสองรู้ว่าณจันทร์เป็นคนที่อ่อนแอและอ่อนไหวง่ายแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเห็นเพื่อนรักเสียใจปานขาดใจเช่นนี้“เราเข้าไปหาจันทร์ดีไหม”“หนม..”ยังไม่ทันที่สาวแว่นตัวเล็กอย่างณิชาจะเลื่อนประตูกระจกไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็ถูกพราวมุกดึงแขนเอาไว้ก่อน“ตัวก็รู้ว่าจันทร์ไม่ชอบให้เราเห็นอาการเสียใจขืนเราเข้าไปจันทร์ก็ทำตัวเข้มแข็งไม่ยอมปล่อยความเสียใจออกมาอีกให้จันทร์ได้ร้องระบายความทุกข์ออกมาให้มากที่สุดดีกว่าพรุ่งนี้เราค่อยชวนจันทร์ทำกิจกรรมอย่างอื่นให้สบายใจขึ้น”“ก็จริงอย่างที่ตัวว่านะพราว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับจันทร์ขนาดนี้นะ”ณิชาหน้าเสียเธอสองจิตสองใจแต่ก็ยอมปล่อยให้ณจันทร์ร้องให้ไปคนเดียวไปก่อนแอบสงสารเพื
เรื่องราวก่อนหน้าณ เมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนริมฟุตบาทใล้กับบีทีเอสแห่งหนึ่งค่อนข้างคึกคักเพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่จับจ่ายซื้ออาหารเย็นกลับไปทานที่พักหลังเลิกงานบางกลุ่มก็นั่งสังสรรค์กันเพราะวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์แต่กลุ่มที่นั่งทานอาหารกันแล้วดูท่าจะไม่เฮฮาก็เป็นกลุ่มของณจันทร์พราวมุกและณิชา เพราะวันนี้มีข่าวร้ายก็คือณจันทร์ถูกไล่ออกโดยเรื่องไม่เป็นเรื่องในขณะที่ชีวิตของเธอกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต“ทำไมโชคไม่ดีแบบนี้นะแม่ครูกำลังป่วยเค้ายังมาตกงานตอนนี้อีก”ณจันทร์เอ่ยเสียงอ่อนเขี่ยช้อนไปมาบนจานข้าวพลาสติกสีฟ้าแม้นอาหารตรงหน้าจะเรียงรายไปด้วยของอร่อยและท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องครวญครางเรียกร้องอาหารแต่เธอก็ไม่อยากตักมันเข้าปากแม้แต่คำเดียวเพราะเครียดที่มาตกงานช่วงที่แม่ครูของเธอป่วยและต้องการใช้เงินในการรักษา“เพราะยัยน้ำเน่านั่นแท้ๆเลยงี่เง่าสารพัดไม่ถูกชะตาตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว”พราวมุกสบถอย่างคนอารมณ์เสียเพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าน้ำหนึ่งลูกสาวของเจ้าของบริษัทบัญชีที่เธอและณจันทร์ทำงานอยู่ไม่ชอบพวกเธอตั้งแต่เข้าไปสมัครงานกันแล้วยิ่งพักหลังมานี้น้ำหนึ่งมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองเธอแล
20.00 น.สามสาวนั่งล้อมวงมองหน้ากันในห้องพักห้องน้อยของพวกเธอเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะกลับมทำให้พวกเธอมีอะไรที่จะต้องคิดหนักอยู่พอสมควรเหตุการณ์หลังจากที่สารภีให้โชควนรถกลับไปเพราะสารภีต้องการทำความรู้จักกับสามสาวและวานให้ณจันทร์ช่วยปลอมตัวเป็นหลานสาวของเธอจนกว่าจะถึงวันหมั้นโดยตอบแทนเป็นเงินหนึ่งก้อน“ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนที่เหมือนจันทร์อย่างกับฝาแฝดแน่ะ”เป็นพราวมุกเริ่มเปิดประเด็นทะลายความเงียบที่เกิดขึ้นเพราะเธอแอบทึ่งในใจพอสมควรหลังจากที่สารภีเปิดรูปหลานของเธอให้ดูไม่คิดว่าหน้าตารูปร่างของณจันทร์จะไปเหมือนกับปานตะวันลูกของโสภิตาขนาดนั้น“ตอนแรกเค้าก็ตกใจเหมือนกันถึงว่าทำไมคุณน้าถึงได้มาทักด้วยสีหน้าเศร้าๆแบบนั้น”ณจันทร์เองก็ตกใจไม่ต่างจากเพื่อนทั้งสองแอบเห็นใจโสภิตาลึกๆที่จู่ๆลูกสาวก็หายตัวไปทำให้ทุกข์ใจจนสีหน้าหม่นหมองอยู่ตลอดเวลา“แล้วข้อเสนอที่พวกเค้าให้มาตัวว่าไงอะจันทร์จะรับไหม”ณิชาเกริ่นถามณจันทร์ด้วยอยากรู้คำตอบที่ณจันทร์ยังไม่ได้ให้กับโสภิตาและสารภี“อันที่จริงเค้าไม่อยากที่จะโกหกใครเลย..แต่เงินที่คุณน้าเค้าเสนอมาให้จำนวนเงินก้อนนั้นมันทำให้แม่ครูผ่าตัดได้โดยที่ไม