Share

ตอนที่35 คลั่งรัก

วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียด

ทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมาก

ส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้

พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิตของกวินและพราวมุกจึงมีกันและกันมากกว่าคนอื่นๆ

ส่วนณิชาตอนนี้เธอก็ได้ลาออกจากที่ทำงานเดิมและเข้ามาเป็นผู้ช่วยของพราวมุกและหลังจากตอนนั้นที่เธอรู้ว่าเมฆาอกหักช่วงแรกเธอก็จะคอยหาเวลานัดเจอเมฆาเพื่อดูว่าเขาเศร้าหรือไม่และเมื่อเธอเห็นว่าเขาเริ่มร่าเริงขึ้นจึงค่อยวางใจและไม่ค่อยรบกวนเวลาของเมฆาอีก..แต่เป็นเมฆาที่จะรบกวนเวลาว่างของณิชาอยู่เรื่อยๆโดยการชวนเธอทานข้าวบ้างหรือชวนไปเที่ยวไปทานอาหารที่บ้านหลังๆนี้ก็เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆโดยที่ณิชาก็ไม่ปฏิเสธเพราะคิดว่าเมฆาคงเหงาและหากเธอเป็นคนทำให้เขาอารมณ์ดีได้เธอก็พร้อมที่จะจำโดยที่ก็ยังไม่คิดบอกเรื่องที่เก็บเอาไว้ในใจแม้แต่น้อย

“งานวันเกิดคุณเพื่อนคุณพ่อพี่จะขอยืมตัวผิงควงออกงานได้หรือเปล่าเพื่อนพี่ตอนนี้ก็อยู่ต่างประเทศกันหมดจันทร์ก็ถูกคุนนนคลุมไม่ให้ห่างสายตาส่วนพราวก็ยังอยู่ต่างประเทศกับคุณกวิน”

เป็นอีกวันที่เมฆานัดณิชาออกมาทานข้าวเพราะเขาต้องการให้หญิงสาวออกงานด้วย

“ได้สิคะแล้วผิงต้องแต่งตัวยังไงคะผิงก็แต่งไม่ค่อยเก่งด้วย”

เรื่องแค่นี้ณิชาไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้วเพียงแค่เธอกังวลเรื่องภาพลักษณ์ในการออกงานสังคมของเหล่าคนมีเงินเท่านั้น

“เดี๋ยวพี่จ้างช่างไว้ให้ผิงไม่ต้องห่วง”

“ค่ะ.. แล้วช่วงนี้พี่เมฆโอเคแล้วหรือยังคะ”

“โอเค.. เรื่อง?”

เมฆามองจ้องไปยังคนที่ถามด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจคำถามของหญิงสาว

“ก็.. ตอนนั้น.. อกหัก”

“เรื่องจันทร์น่ะเหรอ..พี่โอเคแล้วล่ะ”

ทุกวันนี้เขากับจันทร์ก็เป็นแค่เจ้านายเลขาแล้วก็พี่น้องจนชินไปแล้วบางทีการรักษาความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดีกว่าคบกันแบบคนรักจริงๆและตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกดีกับคนที่ไม่ใช่ณจันทร์แล้ว

“รู้แบบนี้ผิงก็ดีใจค่ะ”

สาวเจ้าพอจะเปรยยิ้มออกมาได้อย่างเต็มอกเมื่อรู้ว่าเมฆามีความสุขจริงๆได้เสียที

“เป็นห่วงพี่เหรอ”

ชายหนุ่มเปรยถามคนตรงข้ามด้วยสายตาที่แอบมีเลศนัย

“ผิงก็เป็นห่วงทุกคนแหละค่ะ..ทานข้าวเถอะค่ะ”

ณิชาพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเลี่ยงตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจง

ทางด้านพราวมุกตอนนี้เธอก็บินมาญี่ปุ่นพร้อมกวินได้สองสามวันแล้วมาที่นี่เธอก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนและส่วนมากก็จะคุยกันเรื่องการทำงานเสียมากกว่า

“งานบริหารทำไมมันดูยุ่งยากจังจ้างคนอื่นทำไม่ได้เหรอคุณวิน”

พราวมุกที่เรียนรู้งานมาได้พักใหญ่เธอรู้สึกว่าการเป็นผู้บริหารอะไรสักอย่างมันคือการเรียนรู้ที่ไม่จบไม่สิ้นจริงๆจนตอนนี้เธอเริ่มท้อแล้ว

“จ้างได้แต่ยังไงคุณเป็นเจ้าของก็สมควรต้องรู้ทุกอย่างอยู่ดีแรกๆก็ดูยากแบบนี้นั่นแหละเดี๋ยวพอคุณได้เรียนรู้ลงมือทำก็จะทำทุกอย่างได้คล่องเอง”

“ตอนคุณเริ่มบริหารงานเองยากมากหรือเปล่าคะ”

พราวมุกจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายและอยากจะร้ว่าคนที่ทำงานเก่งๆอย่างกวินตอนแรกเริ่มเหนื่อยแบบเธอหรือเปล่า

“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ายากหรือไม่ยากหรอกรู้แค่ว่าต้องทำให้ได้เพราะตอนนั้นคุณพ่อผมป่วยคุณแม่ผมก็ต้องดูแลคุณพ่อผมก็ต้องช่วยคุณยายบริหารงานหลังจากนั้นไม่นานคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแต่คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็มาเสียด้วยอุบัติเหตุตอนนั้นมีแค่คำว่าต้องทำให้ได้เท่านั้น”

กวินนึกถึงตอนนั้นเขาไม่ได้มีคำว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยอยู่ในสมองเลยเพราะมันคือหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบจนลืมคำพวกนั้นไป

“คุณก็ดูเป็นนักสู้เหมือนกันนะคะ”

“คุณลองคิดว่ากำลังท้าทายความสามารถตัวเองดูสิแล้วจะมีสักกี่คนที่ได้มาบริหารกิจการใหญ่โตแบบนี้ถ้าคุณทำได้ดีคุณจะภูมิใจในตัวเองมากๆเชื่อผมสิ”

“ค่ะ...ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจฉัน”

พราวมุกยิ้มออกและขอบคุณชายหนุ่มจากใจจริงที่เขาทั้งช่วยเหลือเธอได้ตลอดและยังคงมีคำพูดปลุกใจหรือปลอบใจเธอได้ทุกเวลาจริงๆ

“เพชรชุดนี้ผมสั่งทำพิเศษให้คุณเลยนะครับ”

นนทวัตรเข้ามาสวมกอดทางด้านหลังณจันทร์และเปิดกล่องเครื่องเพชรให้หญิงสาวดูขณะที่เธอกำลังยืนทำอาหารเย็นเสาร์อาทิตย์นี้เป็นอีกครั้งที่นนทวัตรไปรับตัวหญิงสาวมาอยู่ด้วยและดูท่าเขาก็จะคลั่งรักเธอเป็นพิเศษอยากจะแต่งงานกับเธอไปให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่สาวเจ้าก็ยังปฏิเสธอยู่ร่ำไป

“ขอบคุณนะคะ”

“ถ้าชุดเครื่องเพชรนี้ไปอยู่บนตัวคุณคงสวยน่าดู”

“ปากหวานจังเลยนะคะ”

“ก็หวานแค่กับคุณเท่านั้นแหละครับ”

ว่าจบมือหนาก็หมุนคนตัวเล็กให้หันหน้ากลับมาหาก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางฉกชิมความหวานจนพอใจและแล้วอาหารเย็นวันนี้ก็ไม่ใช่อาหารที่ณจันทร์เป็นคนปรุงแต่เป็นเธอที่ต้องกลายมาเป็นอาหารบนเตียงให้เขาอีกครั้งต่างหาก

วันต่อมา

โรงแรมxxx

นนทวัตรมางานเลี้ยงเปิดโชว์รูมรถสาขาใหม่ของเพื่อนภัทรพลเมื่อเข้างานมาได้เจอแม่ตนก็รีบเข้าไปหาทันที

“เห็นตะวันมาหรือยังครับคุณแม่”

คนคลั่งรักอย่างนนทวัตรเมื่อคุยทักทายกับคนเป็นแม่เรียบร้อยก็มองซ้ายมองขวาหาหญิงสาวอันเป็นที่รักทันที

“เธอมาทักทายแม่อยู่นะแต่เห็นเดินออกไปที่ลานด้านนอกเมื่อกี้นี้เอง”

“ผมขอตัวไปหาเธอก่อนนะครับ”

ว่าจบก็เดินปรี่ออกไปที่ลานเอาท์ดอร์ด้านนอกที่มีรถหรูจอดเรียงรายกันอยู่

ณจันทร์เดินออกมาด้านนอกเพราะเมื่อครู่มีสตาฟในงานมาแจ้งให้เธอทราบว่ามีคนรอคุยอยู่ด้านนอก

“จันทร์ไม่รู้ว่าคุณสาจะมาที่งานนี้ด้วย”

สาวเจ้าเห็นคนที่นั่งรออยู่เป็นสารภีจึงรีบไปทักทาย

“ที่จริงเค้าเชิญยัยโสน่ะแต่ยัยโสไม่สบายฉันเลยมาแทน”

“คุณโสเป็นอะไรคะ”

ณจันทร์รีบหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับสารภีเอ่ยถามถึงโสภิตาด้วยท่าทีที่เป็นห่วง​ เป็นเวลาเดียวกับที่นนทวัตรกำลังเดินออกมาด้านนอก

“เครียดที่หาปานตะวันไม่เจอสักทีไง”

เสียงของสารภีทำนนทวัตรหยุดชะงักหลบมุมอยู่แถวรถsuvคันใหญ่​ เพราะแปลกใจกับคำพูดของสารภีพอสมควร

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status