Share

ตอนที่2 ตกงาน

เรื่องราวก่อนหน้า

ณ เมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนริมฟุตบาทใล้กับบีทีเอสแห่งหนึ่งค่อนข้างคึกคักเพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่จับจ่ายซื้ออาหารเย็นกลับไปทานที่พักหลังเลิกงานบางกลุ่มก็นั่งสังสรรค์กันเพราะวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์แต่กลุ่มที่นั่งทานอาหารกันแล้วดูท่าจะไม่เฮฮาก็เป็นกลุ่มของณจันทร์พราวมุกและณิชา เพราะวันนี้มีข่าวร้ายก็คือณจันทร์ถูกไล่ออกโดยเรื่องไม่เป็นเรื่องในขณะที่ชีวิตของเธอกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต

“ทำไมโชคไม่ดีแบบนี้นะแม่ครูกำลังป่วยเค้ายังมาตกงานตอนนี้อีก”

ณจันทร์เอ่ยเสียงอ่อนเขี่ยช้อนไปมาบนจานข้าวพลาสติกสีฟ้าแม้นอาหารตรงหน้าจะเรียงรายไปด้วยของอร่อยและท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องครวญครางเรียกร้องอาหารแต่เธอก็ไม่อยากตักมันเข้าปากแม้แต่คำเดียวเพราะเครียดที่มาตกงานช่วงที่แม่ครูของเธอป่วยและต้องการใช้เงินในการรักษา

“เพราะยัยน้ำเน่านั่นแท้ๆเลยงี่เง่าสารพัดไม่ถูกชะตาตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว”

พราวมุกสบถอย่างคนอารมณ์เสียเพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าน้ำหนึ่งลูกสาวของเจ้าของบริษัทบัญชีที่เธอและณจันทร์ทำงานอยู่ไม่ชอบพวกเธอตั้งแต่เข้าไปสมัครงานกันแล้วยิ่งพักหลังมานี้น้ำหนึ่งมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองเธอและณจันทร์ก็ชอบถูกหมายหัวเป็นพิเศษทำงานเสร็จแล้วก็ถูกให้แก้งานบ้างแกล้งให้อยู่จนดึกบ้างแล้วนี่ล่าสุดก็เล่นงานณจันทร์เรื่องทำงานไม่เรียบร้อยและไล่ออกตามอำเภอใจอีกตอนนี้พราวมุกก็ต้องทำงานที่นั่นโดยไม่มีณจันทร์เป็นเพื่อนไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง

“ช่างมันเถอะพราวไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องไม่ดีแล้ว”

ณิชาปรามให้พราวมุกเลิกพูดถึงคนที่ไม่น่าพูดถึงไหนๆณจันทร์ก็ถูกไล่ออกแล้วหากพูดอะไรมากก็จะเป็นการตอกย้ำความเสียใจของณจันทร์อีกณิชาแม้จะไม่ได้อยู่บริษัทเดียวกับเพื่อนรักทั้งสองแต่เธอก็พอรู้กิตติศัพท์ของน้ำหนึ่งจากปากพราวมุกอยู่บ้างเพราะพักหลังมานี้เพื่อนเธอกลับมาบ่นถึงผู้หญิงคนนี้ทุกวัน

“โสไม่รู้ว่าตะวันทำแบบนี้เพื่ออะไรทั้งที่ยอมรับปากที่จะหมั้นแล้วแท้ๆ”

โสภิตาที่นั่งอยู่บนรถตู้คันหรูด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวเธอเอ่ยกับสารภีพี่สาวของเธออย่างอ่อนใจกับลูกสาวคนเดียวที่ขยันสร้างเรื่องให้เธอได้ปวดหัวอยู่บ่อยๆ เธอสังหรณ์ใจเอาไว้ตั้งแต่คราแรกแล้วว่าปานตะวันลูกสาวของเธอจะต้องทำเรื่องอะไรก่อนที่วันงานหมั้นจะมาถึงแน่

“บ่นลูกตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรหรอกโสเธอก็รู้ว่ายัยตะวันชอบทำอะไรที่คาดเดาอะไรไม่ได้อยู่แล้วตอนนี้ที่ทำได้ก็คือภาวนาให้นักสืบตามตัวกลับมาได้เร็วๆเท่านั้น”

สารภีเห็นว่าพวกเธอคงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากรอพึ่งนักสืบ

“เดี๋ยวโชคจอดรถก่อน”

โสภิตาดูจะมีความหวังอีกครั้งเพราะสายตาของเธอดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่คิดว่าเป็นลูกสาวของตัวเองแน่ๆจึงสั่งให้โชคคนขับรถจอดกะทันหัน

“ครับคุณโส”

“มีอะไรยัยโส”

สารภีเห็นท่าทีร้อนรนของโสภิตาเธอก็หันซ้ายหันขวาตามน้องสาวเช่นที่น้องเธอทำในตอนนี้

“เหมือนโสเห็นตะวันค่ะ”

ยังไม่ทันได้หันมาคุยกับสารภีให้รู้เรื่องดีเมื่อรถจอดได้โสภิตาก็รีบลงจากรถสาวเท้าก้าวสับย้อนไปที่ร้านอาหารริมฟุตบาทใกล้กับสะพานลงจากบีทีเอสทันที

“ยัยโส”

สารภีที่เรียกน้องไม่ทันเธอก็ต้องลงรถตามโสภิตาไปติดๆเพราะเชื่อว่ายังไงน้องสาวเธอก็ต้องตาฝาดเพราะคนอย่างปานตะวันไม่มาเดินข้างถนนเช่นนี้แน่นอนหากเป็นห้างหรูหรือหน้าร้านอาหารดีๆก็ว่าไปอย่าง

“ตะวัน”

เสียงเรียกของใครบางคนที่กำลังยืนใกล้กับโต๊ะของณจันทร์ทำสามสาวรีบหันตามต้นเสียงกันเป็นตาเดียว

“คุณน้าเรียกใครเหรอคะ”

เป็นพราวมุกที่เอ่ยถามผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีดูมีชาติตระกูลแต่สีหน้าดูเศร้าหมองจนสามสาวรับรู้ได้ทั้งที่ยังมองได้ไม่นานและเป็นณจันทร์ที่มองไปยังหญิงวัยกลางคนตรงหน้าตาเขม็งสายตาของเธอมองเพ่งอย่างละเอียดด้วยรู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้าแปลกๆคุ้นจากในความรู้สึกแต่รู้ตัวว่ายังไงเธอก็เคยพบเจอกับผู้หญิงคนนี้มาก่อน

“อ..เอ่อ..ฉันคงจำคนผิดขอโทษด้วยนะหนู”

โสภิตามองไปยังหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนลูกสาวของเธอมากแต่ลักษณะองค์ประกอบด้านอื่นเช่นทรงผมการแต่งตัวหรือแม้กระทั่งเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกันเมื่อมามองใกล้ๆเช่นนี้เธอก็รู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ปานตะวันลูกสาวของเธอ

“โส..นี่..”

สารภีที่เดินตามโสภิตามาติดๆเมื่อมองไปยังหญิงสาวคนที่โสภิตามองเธอก็เกิดตกใจเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้พูดอะไรก็ถูกโสภิตาดึงมือให้หันหลังกลับไปเสียก่อน

“โสจำคนผิดค่ะกลับกันเถอะค่ะพี่สา”

“แต่เด็กคนนั้น...”

สารภีเอ่ยเสียงเบากระซิบกระซาบกับโสภิตาขณะที่จูงมือกันเดินกลับไปที่รถ

“เหมือนตะวันมากใช่ไหมคะ”

“ใช่”

“พี่สาคะขึ้นรถเถอะค่ะ”

โสภิตามองยังพี่สาวของเธอที่ยืนทำท่าคิดไม่ตกไม่ยอมขึ้นรถเสียทีจนเธอต้องเรียกเพราะตอนนี้รถที่ตามหลังมากำลังบีบแตรไล่กันแล้ว

“เอ่อ..อืม”

เมื่อสารภีขึ้นรถได้โชคก็ตีไฟเลี้ยวขอทางเพื่อขับรถออกไปทันที

“คุณน้าคนเมื่อกี้เค้าดูเศร้าแปลกๆเนอะ”

ณิชาเห็นผู้หญิงวัยกลางคนทั้งสองลับตาไปได้เธอก็พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา

“นั่นสิ”

ณจันทร์ชะเง้อมองรถตู้คันหรูที่พึ่งแล่นออกไปจนสุดลูกตาแอบรู้สึกหดหู่กับสายตาของผู้หญิงคนที่มาทักพวกเธอเมื่อครู่อย่างบอกไม่ถูก

“เห็นเหมือนกัน”

พราวมุกพยักหน้าเห็นด้วยกันสองสาวก่อนตักข้าวเข้าปากคำโตทั้งคิดในใจอย่างคนปลงว่าไม่ว่าจะคนรวยหรือคนจนต่างก็มีเรื่องที่ต้องให้ทุกข์กันทั้งนั้น

“โชค..ขับรถกลับไปส่งพวกฉันที่ที่จอดเมื่อกี้”

สารภีคิดอะไรออกก่อนจะเอ่ยปากบอกให้โชคหาที่กลับรถ

“ครับคุณสา”

“กลับไปทำอะไรคะพี่สา”

โสภิตาหันมองพี่สาวเธอด้วยสีหน้าฉงน

“พี่คิดอะไรบางอย่างออก..ขอให้เด็กคนนั้นยังอยู่ที่ร้านนั้นด้วยเถอะ”

คำพูดของสารภียิ่งสร้างความสงสัยให้โสภิตามากขึ้นกว่าเดิม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status