“เอามือถือมา”
เมื่อเรียกครั้งแรกนนทวัตรเห็นว่าหญิงสาวยังคงเฉยเขาจึงรีบจอดรถข้างทางแล้วตะคอกให้เธอได้ยินถึงสิ่งที่เขาต้องการอีกครั้ง
“เอามือถือมา!”
ณจันทร์ที่กกำลังกลั้นน้ำตารีบส่งมือถือที่เขาซื้อให้ใส่มือคนที่ยื่นขอ นนทวัตรรับมือถือมาได้เขาก็กดโทหาหญิงสาวด้วยเบอที่เขาซื้อให้เธอเมื่อมันไม่ติดเขาจึงกำมือถือเอาไว้แน่นก่อนจะหันมาจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งด้วยความเคืองใจอย่างมาก
“เปลี่ยนเบอหนีผม…ลองดีกับผมครั้งแล้วครั้งเล่านะตะวัน”
ว่าจบคนที่เต็มไปด้วยโทสะก็รีบเหยียบคันเร่งออกตัวบึ่งไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาทันที เมื่อขับมาถึงก็รีบฉุดกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาติดๆ
“คุณนน..จะพาฉันไปไหน”
“ชอบควงคนโน้นทีคนนี้ทีไม่ใช่เหรอลองกับผมอีกคนจะเป็นไร”
“ฉันไม่เคยมั่วกับใครนะคะคุณนน”
สาวเจ้าพอจะรู้แล้วว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไรจึงรีบสลัดมือออกจากมือของนนทวัตรและรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่มันก็ทำให้เธอวิ่งไม่สะดวกจนถูกคนตัวโตรวบอุ้มเข้าลิฟท์ไปจนได้
“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดคุณเหรอห้ะ”
“คุณนนปล่อย”
นนทวัตรไม่คิดจะปล่อยหญิงสาวตามคำสั่งของเธอแม้นหญิงสาวจะตะโกนดังแค่ไหนก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเพราะลิฟท์ที่เขาพาเธอขึ้นมาคือลิฟท์ส่วนตัวที่ขึ้นถึงชั้นเพนท์เฮ้าส์ของเขาเลย
“คุณนนอย่าทำแบบนี้”
คนที่ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้างรีบดีดตัวขึ้นแต่ก็ถูกผลักให้นอนราบไปกับเตียงเช่นเดิมแล้วตัวของเธอก็ถูกขึงเอาไว้ด้วยน้ำหนักของคนที่กำลังโมโหไม่มีสติ
“ลองดูกับผมสักครั้งสิจะได้เปรียบเทียบกับผัวคุณได้ไงว่าใครลีลาดีกว่ากัน”
ว่าจบก็ก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางอย่างไม่คิดทะนุถนอม
“หยุด…อื้อ…คุณนนปล่อย”
และแล้วไม่นานนักเสื้อผ้าชิ้นน้อยของสาวเจ้าก็ถูกกระชากจนฉีกขาดหล่นลงข้างเตียงเธอต้องตกเป็นของคนที่กำลังมีโทสะจนขาดสติกว่านนทวัตรจะรู้ตัวว่าทำสิ่งที่ไม่ควรลงไปก็เมื่อตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนแรกของหญิงสาวหัวใจที่เต็มไปด้วยความโกรธคราแรกหายไปเป็นปลิดทิ้งและมีเพียงแค่ความรู้สึกผิดแทนจึงหยุดกระทำสิ่งที่ไม่ควรทำได้
“ผมขอโทษ”
นนทวัตรกอดคนที่นอนสะอื้นตัวสั่นเทาเอาไว้แน่น
“ฉันพูดอะไรคุณก็ไม่คิดจะฟังจะมาขอโทษตอนนี้มันได้อะไร”
สาวเจ้าเอ่ยเสียงสั่นสะอึกสะอื้นทั้งยังไม่อยากลืมตาดูสภาพตัวเองตอนนี้ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาของความเสียใจไหลลงมาที่หางตาเท่านั้น
“คุณตัดขาดการติดต่อกับผมพอผมไปหาที่บ้านแม่คุณก็บอกว่าคุณไปต่างประเทศแล้วผมก็ไปเจอคุณกับไอ้ไทม์นั่นที่ร้านอาหารจะให้ผมคิดยังไง…ทั้งหมดมันทำให้ผมเข้าใจว่าคุณต้องการหลบหน้าผมแล้วไปอยู่กับแฟนเก่า”
ใช่เรื่องนี้มันเป็นความผิดของเธอณจันทร์รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ไม่คิดว่านนทวัตรจะกระทำกับเธอเช่นนี้ณจันทร์ยังคงเงียบปล่อยแค่เสียงสะอึกสะอื้นออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะตอบชายหนุ่มเช่นไรความในใจมีความอึดอัดหลายๆเรื่องเต็มไปหมด
“คุณต้องเชื่อฉันว่าฉันไม่ได้ยุ่งกับไทม์แล้วจริงๆฉันว่าเค้าพยายามทำทุกทางให้ฉันทะเลาะกับคุณ”
“ผมเชื่อคุณแล้วเชื่ออย่างสนิทใจว่าคุณไม่เคยผ่านใครมา..แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องตัดขาดการติดต่อกับผม”
ณจันทร์เริ่มสงบอารมณ์และเงียบไปครู่หนึ่งก่อยจะค่อยๆลืมตาหันมาพูดคุยกับนนทวัตร
“เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วไปได้ไหมคะฉันไม่อยากพูดถึง”
“ก็ได้หลังจากนี้เราจะลืมเรื่องไม่ดีไป”
ว่าจบนนทวัตรก็กระชับกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่นณจันทร์ในตอนนี้ยังคงปล่อยให้น้ำตาหลั่งไหลถามว่าโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่เธอก็โกรธจะบอกความจริงชายหนุ่มว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันก็ทำใจทำไม่ได้เพราะรู้สึกสงสารและเห็นใจโสภิตาจะให้หนีหน้าเขาไปเช่นเดิมก็รู้แล้วว่าผลมันจะเป็นอย่างไรตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตและความรู้สึกของเธอเลยมันสับสนไปหมด
วันต่อมา
“คุณใส่ชุดนี้ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ”
นนทวัตรมองคนที่เดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตตัวโครงสีขาวของเขาก่อนจะรีบเข้าไปรวบอุ้มเธอมานั่งตักที่เก้าอี้ของโต๊ะทานอาหาร
“ผมรู้ว่าคุณน่าจะนั่งเก้าอี้ไม่ถนัด”
ณจันทร์เปรยยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มเล็กน้อยที่ดูท่าวันนี้เขาดูจะเอาใจเธอเป็นพิเศษเดาว่าคงรู้สึกผิดต่อเธอมากแน่ๆ
“ข้าวต้มกุ้งผมสั่งให้เชฟที่โรงแรมทำมาส่งอร่อยมากแต่ยังไงผมก็คิดถึงข้าวต้มฝีมือคุณนะครับ”
คำพูดหวานๆของนนทวัตรทำอารมณ์ของณจันทร์เริ่มดีขึ้นพอสมควรตอนนี้เธอทั้งมีความสุขความทุกข์ปนไปกันหมดในใจภาวนาอยากจะให้ปานตะวันกลับมาเสียตอนนี้ด้วยกลัวว่าหากตัวเองต้องอยู่ใกล้ชิดนนทวัตรอีกเรื่อยๆหัวใจของเธอคงตัดเขาออกยากแน่
วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ณจันทร์ถูกนนทวัตรกักตัวให้อยู่ด้วยกันที่นี่เพราะหลังจากที่กลับจากเกาะเขาก็ไม่มีโอกาสได้อยู่กับเธออีกเลยและเขาจะใช้ช่วงเวลานี้กระชับความสัมพันธ์กับเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้สาวเจ้าจะได้ไม่ต้องทำตัวดื้อหายหน้าไปจากเขาอีก
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากที่คืนดีกับหญิงสาวเรียบร้อยแล้วนนทวัตรก็เช้าถึงเย็นถึงคนที่เป็นคู่หมั้นและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขารีบเคลียงานให้เสร็จเพื่อที่จะมาซื้อของเซอร์ไพรซ์หญิงสาวเมื่อตอนไปรับเธอมาอยู่ด้วยกันในสุดสัปดาห์นี้
“หึ่..”
ภาพบางคนที่กำลังเดินดุ่มเข้ามาในห้างทำเสียอารมณ์ของนนทวัตรพอสมควรคนที่เขาเห็นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นธนกรนั่นเองและนนทวัตรก็คิดอะไรบางอย่างได้ว่าเขาควรจะสะสางเรื่องราวกับธนกรให้จบๆกันไปเพื่อที่จะไม่ให้ชายหนุ่มมาทำลายความรักของเขาและปานตะวันอีก
“ไหนพี่ลิตาบอกว่าแผนของเราจะทำให้นนทวัตรกับตะวันผิดใจกันไงครับดูเหมือนสองคนนั้นจะรักกันมากกว่าเดิมมากกว่าไปหากันเช้าเย็นแบบนั้น”
ธนกรเดินเข้ามาหาลลิตาที่ร้านกาแฟเล็กๆในโซนกลางห้างได้ก็รีบระบายอารมณ์ทันทีเพราะแทนที่เขาจะได้ยินข่าวจากยาหยีและวาวาว่านนทวัตรกับปานตะวันทะเลาะกันแต่กลับมารับรู้ว่าสองคนนั้นดูจะกระชับความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นมากกว่าเดิม
“เบาๆสิ”
ลลิตาเลิ่กลั่กพอสมควรเมื่อคนอื่นที่นั่งดื่มกาแฟเริ่มหันมามองทางโต๊ะของเธอเป็นตาเดียว
บทสนทนาของธนกรและลลิตาอยู่ในหูในตาของนนทวัตรทั้งหมดด้วยคราแรกชายหนุ่มกะว่าจะมาคุยกับธนกรให้เลิกยุ่งกับปานตะวันแต่ยังไม่ทันถึงตัวความลับของทั้งคู่ก็เปิดเผยขึ้นมาก่อนและรู้ว่าลลิตาไม่น่าจะใช่คนที่เชื่อถืออะไรได้อีกต่อไปเขาจึงรีบหันหลังกลับเปลี่ยนใจที่จะมีเรื่องกับธนกรที่นี่และเลือกที่จะโทรหาภูริให้จัดการยกเลิกสัญญากับลลิตาแทนโดยให้เหตุผลไปว่าเขาไม่ชอบคนไม่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาที่ร่วมกันทำร้ายปานตะวันส่วนธนกรให้ส่งคนไปสั่งสอนให้หลาบจำ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั
“ฮือๆ..อือ..ฮื่อๆๆ..”ณ บ้านแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแม้นที่นี่จะมีชื่อว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแต่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้เมื่อเลยกลางดึกบ้านแทบทุกหลังก็เงียบสงัดต่างจากบ้านของพราวมุกที่มีเพื่อนสาวที่กำลังอกหักอย่างณจันทร์ร้องห่มร้องให้เจียนขาดใจ“จันทร์เอ้ย..จะเป็นปกติได้เมื่อไรล่ะเนี่ย”พราวมุกสาวสวยร่างสูงเอ่ยกับณิชาเพื่อนรักอีกคนที่ยืนกอดอกมองณจันทร์กันอยู่ห่างๆ ทั้งสองรู้ว่าณจันทร์เป็นคนที่อ่อนแอและอ่อนไหวง่ายแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเห็นเพื่อนรักเสียใจปานขาดใจเช่นนี้“เราเข้าไปหาจันทร์ดีไหม”“หนม..”ยังไม่ทันที่สาวแว่นตัวเล็กอย่างณิชาจะเลื่อนประตูกระจกไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็ถูกพราวมุกดึงแขนเอาไว้ก่อน“ตัวก็รู้ว่าจันทร์ไม่ชอบให้เราเห็นอาการเสียใจขืนเราเข้าไปจันทร์ก็ทำตัวเข้มแข็งไม่ยอมปล่อยความเสียใจออกมาอีกให้จันทร์ได้ร้องระบายความทุกข์ออกมาให้มากที่สุดดีกว่าพรุ่งนี้เราค่อยชวนจันทร์ทำกิจกรรมอย่างอื่นให้สบายใจขึ้น”“ก็จริงอย่างที่ตัวว่านะพราว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับจันทร์ขนาดนี้นะ”ณิชาหน้าเสียเธอสองจิตสองใจแต่ก็ยอมปล่อยให้ณจันทร์ร้องให้ไปคนเดียวไปก่อนแอบสงสารเพื
เรื่องราวก่อนหน้าณ เมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนริมฟุตบาทใล้กับบีทีเอสแห่งหนึ่งค่อนข้างคึกคักเพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่จับจ่ายซื้ออาหารเย็นกลับไปทานที่พักหลังเลิกงานบางกลุ่มก็นั่งสังสรรค์กันเพราะวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์แต่กลุ่มที่นั่งทานอาหารกันแล้วดูท่าจะไม่เฮฮาก็เป็นกลุ่มของณจันทร์พราวมุกและณิชา เพราะวันนี้มีข่าวร้ายก็คือณจันทร์ถูกไล่ออกโดยเรื่องไม่เป็นเรื่องในขณะที่ชีวิตของเธอกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต“ทำไมโชคไม่ดีแบบนี้นะแม่ครูกำลังป่วยเค้ายังมาตกงานตอนนี้อีก”ณจันทร์เอ่ยเสียงอ่อนเขี่ยช้อนไปมาบนจานข้าวพลาสติกสีฟ้าแม้นอาหารตรงหน้าจะเรียงรายไปด้วยของอร่อยและท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องครวญครางเรียกร้องอาหารแต่เธอก็ไม่อยากตักมันเข้าปากแม้แต่คำเดียวเพราะเครียดที่มาตกงานช่วงที่แม่ครูของเธอป่วยและต้องการใช้เงินในการรักษา“เพราะยัยน้ำเน่านั่นแท้ๆเลยงี่เง่าสารพัดไม่ถูกชะตาตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว”พราวมุกสบถอย่างคนอารมณ์เสียเพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าน้ำหนึ่งลูกสาวของเจ้าของบริษัทบัญชีที่เธอและณจันทร์ทำงานอยู่ไม่ชอบพวกเธอตั้งแต่เข้าไปสมัครงานกันแล้วยิ่งพักหลังมานี้น้ำหนึ่งมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองเธอแล