Share

ตอนที่37 เจ็บปวด

“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”

ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว

“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น

“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”

ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อย

พราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้

“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”

กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ

“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั้นก็เพราะเราต้องหาเงินไปรักษาแม่ครูแล้วจันทร์ก็ไม่รู้ด้วยว่าที่คุณโสให้คุณปานตะวันหมั้นกับคุณนนเพราะต้องการเงินไปพยุงบริษัท”

พราวมุกคิดว่าหากนนทวัตรได้รับรู้ข้อนี้เขาคงไม่โกรธณจันทร์ขนาดนี้แน่

“เพื่อนผมตอนนี้มันน่าจะยังโกรธอยู่แล้วพนันได้เลยว่ามันไม่ฟังอะไรทั้งนั้นรอให้มันใจเย็นกว่านี้ก่อนดีกว่า”

“แล้ว..คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณนนจะเอาเรื่องเพื่อนฉันไหม”

“ไม่หรอกผมรู้มาว่านนไปคุยกับคุณโสภิตาแล้วว่าจะเอาเงินช่วยบริษัทคุณโสเองแลกกับการที่จะให้คุณโสไปพูดเรื่องถอนหมั้นแล้วหลังจากนั้นก็ห้ามครอบครัวคุณโสไปยุ่งกับครอบครัวตัวเองอีก”

“ถึงกับตัดขาดกันแบบนี้...คงโกรธมากแน่ๆ”

พราวมุกทิ้งตัวลงโซฟาด้วยท่าทีเหนื่อยใจเธอไม่อยากให้นนทวัตรมองณจันทร์ไม่ดีเพราะเพื่อนเธอไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง

“ใช่..”

กวินรู้เลยว่าคนอย่างนนทวัตรหากอยู่ในความโกรธแบบนี้หัวแข็งไม่ฟังอะไรแน่นอนหากเป็นเขาเจอแบบนี้ก็คงโกรธจัดเหมือนกันทางเดียวที่ทำได้คือปล่อยให้เวลารักษาแผลใจของนนทวัตรหากเพื่อนเขาดีขึ้นแล้วคงคุยอะไรด้วยง่ายขึ้น

วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสองเดือนหลังจากที่หมางใจกันในวันนั้นณจันทร์กับนนทวัตรก็เยียวยาหัวใจตัวเองโดยการหันมาสนใจแต่งานและหมดความสดใสจนคนรอบข้างรู้สึกได้แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะเป็นเรื่องของแผลใจ

ตอนนี้นนทวัตรมีสถานะโสดร่วมสองเดือนแล้วเพราะหลังจากที่นนทวัตรไปหาโสภิตาวันนั้นไม่กี่วันโสภิตาก็ไปเจรจาขอถอนหมั้นปานตะวันกับทางบ้านนนทวัตรทันทีโดยให้เหตุผลว่าลูกสาวของเธอเป็นคนอยากถอนหมั้นเองทำเอาทางบ้านนนทวัตรแปลกใจกันอยู่พอสมควรทั้งที่เห็นเด็กสองคนเริ่มจะรักกันดีแต่ทำไมกลับมีเรื่องขอถอนหมั้นออกมาได้แต่ก็ยังคงไม่ได้เค้นถามเรื่องราวจากลูกชายเพราะหลังจากเรื่องถอนหมั้นจบนนทวัตรก็ขอไปบริหารงานที่ต่างจังหวัดแทนที่จะอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร

“คุณโสภิตาคือแม่ของคุณปานตะวันใช่ไหมครับ”

เช้าของวันนี้ขณะที่โสภิตาและสารภีนั่งทานกาแฟกันอยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆตำรวจหลายนายก็กรูกันเข้ามาที่บ้านของโสภิตา

“ค่ะฉันคือแม่ของตะวันคุณตำรวจเจอเธอเหรอคะ”

โสภิตาเอ่ยด้วยท่าทีมีความหวังแต่แอบแปลกใจว่าทำไมตำรวจมาถามเธอเรื่องปานตะวันทั้งที่เธอก็ไม่ได้ไปแจ้งความเรื่องลูกหายรอพึ่งนักสืบอย่างเดียว

“ครับ..ผมมีข่าวที่จะต้องแจ้งให้คุณทราบเราได้พบร่างของคุณปานตะวันถูกฆาตรกรรมอยู่ที่ป่าบริเวณชายแดนครับ”

“อ..อะไรนะ..”

ยังไม่ทันที่ตำรวจจะเล่ารายละเอียดอะไรต่อโสภิตาก็ไม่รับรู้อะไรแล้วเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าตำรวจหลายนาย

“ฮือๆๆ...”

หลังจากตำรวจกลับไปพักใหญ่โสภิตาฟื้นมาได้ก็ร้องให้ไม่หยุดโดยมีสารภีคอยกอดปลอบใจอยู่ข้างๆ

“ทำใจนะโสอย่างน้อยเราก็ยังได้ร่างของตะวันมาทำพิธี..แต่พี่คงไม่อยู่ช่วยโสทำพิธีนะพี่ทำใจไม่ได้ขอไปบวชให้หายทุกข์ใจแล้วกัน”

“ใครช่างใจร้ายทำลูกโส..ฮือๆๆ”

โสภิตาสะอื้นปานจะขาดใจเหมือนตอนนี้คนที่เธอรักก็จากเธอไปกันหมดจนเธอมองอนาคตไม่ออกแล้วว่าจะอยู่ต่อไปยังไง

“ไหนบอกไม่เหลือหลักฐานไงไอ้พวกโง่ทำไมตำรวจหามันเจอได้ห้ะ”

สารภีโทรหาใครบางคนในกลางดึกทั้งรีบเก็บของลงกระเป๋าอย่างเร่งรีบ

เกือบเที่ยงคืนแล้วแต่ณจันทร์ยังคงไม่นอนเพราะเธอยังคงอดคิดเรื่องเก่าไม่ได้เธอยังคงเปิดวิดีโอเก่าๆวนไปทุกครั้งที่นึกถึงนนทวัตรแอบตำหนิตัวเองที่ตั้งใจว่าจะสนใจแค่งานแต่ก็ยังอดใจเปิดเรื่องราวเก่าๆดูไม่ได้

ทางด้านนนทวัตรตอนนี้ยังคงนั่งดื่มทุกวันหลังเลิกงานเขาดื่มทุกวันเพื่อให้ตัวเองนอนหลับโดยที่ไม่คิดเรื่องความเจ็บปวดแต่บางครั้งการดื่มหนักๆก็ยิ่งทำให้ภาพเก่าๆไหลกลับมาในหัวอย่างไม่ควรจะเป็น

“ทำไม..ทำไมผมลืมภาพคุณไม่ได้ซะที”

ว่าจบก็ขว้างมือถือที่เปิดภาพณจันทร์เอาไว้กับผนังห้องจนแตกกระจายและยกขวดไวน์ราราแพงกรอกปากอีกอึกใหญ่ยิ่งนานวันเข้าความเศร้าก็เหมือนจะทวีคูณไม่ได้ลดลงเพราะดันไปคิดถึงโหยหาคนที่ไม่ควรคิดถึง

วันต่อมา

“มันเป็นไปได้ยังไงคุณโส”

ภัทรพลรู้ข่าวก็รีบพาภรรยามาที่บ้านของโสภิตาทันที

“โสก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะตอนนี้ต้องรอตำรวจหาหลักฐานว่าตะวันไปที่นั่นได้ยังไง”

“แต่..ตำรวจบอกว่าหนูตะวันน่าจะจากไปตั้งแต่สี่เดือนก่อนเค้าสันนิษฐานผิดหรือเปล่าผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆนะ”

“ฉันผิดเองค่ะ...ตะวันที่พวกคุณเจอไม่ใช่เธอหรอกค่ะ”

อนงค์นาถและภัทรพลมองหน้าโสภิตาด้วยความไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด

โสภิตาเลือกที่จะเล่าความจริงเพราะตอนนี้เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

“เฮ้อ..เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ”

ภัทรพลกับอนงค์นาถได้ฟังความจริงก็ผิดหวังในตัวโสภิตาแต่ตอนนี้ทั้งสองก็ยังมีความเห็นใจโสภิตามากกว่า

“ขอบคุณพวกคุณทั้งสองมากๆที่ให้อภัยฉัน”

“เราเลิกพูดเรื่องเก่าเถอะค่ะ..แล้วคุณโสอยู่คนเดียวเหรอคะ”

อนงค์นาถเห็นสภาพของโสภิตาก็รู้สึกเป็นห่วง

“ค่ะ..พี่สาทำใจเรื่องตะวันไม่ได้เลยขอไปบวชค่ะตอนนี้ฉันเลยต้องจัดการทุกอย่างคนเดียว”

“สวัสดีครับคุณโส”

“สวัสดีค่ะสารวัตร”

โสภิตารีบยืนต้อนรับสารวัตรพงษ์พัฒน์พร้อมกับตำรวจอีกสองคน

“ผมจะแจ้งเรื่องความคืบหน้าเรื่องคนที่ไปกับคุณตะวันครับ”

“ค่ะ.. สารวัตรพูดได้เลยค่ะสองคนนี้เป็นเพื่อนฉันเองค่ะ”

เมื่อได้รับอนุญาตให้พูดพงษ์พัฒน์ก็แจ้งความคืบหน้าที่ได้รู้ว่าวันที่ปานตะวันเดินทางไปที่เกิดเหตุเธอไม่ได้ไปคนเดียวแต่มีสารภีเป็นคนไปด้วยและขากลับจากกล้องวงจรจับได้คือสารภีกลับมาคนเดียวและเชื่อว่าฆาตรกรคือสารภีส่วนมีคนช่วยหรือไม่นั้นต้องสอบสวนจากสารภีอีกครั้ง

ทุกคนรู้แบบนี้ต่างก็อึ้งไปตามๆกันและเป็นอีกครั้งที่โสภิตาเป็นลมไม่รับรู้อะไรและเป็นสองสามีภรรยาที่สนทนากับตำรวจแทนว่าตอนนี้สารภีไม่อยู่ขอไปบวชและตำรวจก็ให้ความเห็นว่าสารภีคงไม่ได้ไปบวชแต่ตอนนี้หลบหนีมากกว่า

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status