“เพราะคู่หมั้นคุณมันรวยกว่าผมแต่นั้นใช่ไหมคุณถึงได้คืนดีกับผมยากนัก”
ธนกร หนุ่มวัย22ย่าง23ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแฟนเก่าของปานตะวัน เขาเคืองใจกับเหตุการณ์วันนี้พอสมควรเพราะไม่คิดว่าปานตะวันที่รักกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งเมื่อเลิกกับเขาได้ไม่เท่าไรก็จะหมั้นกับนักธุรกิจที่โปรไฟล์ดีกว่าเขาหลายเท่า
ธนกรคบกับปานตะวันตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งด้วยกันที่มหาลัยดังตลอดเวลาที่คบกับธนกรชอบนอกใจปานตะวันตลอดแต่ก็ไม่เปิดตัวใครเป็นแฟนเหมือนปานตะวันจนกระทั่งล่าสุดที่ปานตะวันเลิกเด็ดขาดกับธนกรก็เพราะชายหนุ่มดันเจ้าชู้ไม่เลือกโดยการไปนอนกับเพื่อนของปานตะวันทำให้เธอตัดทั้งเพื่อนตัดทั้งแฟนไปในคราวเดียว ธนกรพยายามง้อปานตะวันตลอดหลังจากเลิกกันแล้วยิ่งได้มารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะหมั้นกับคนอื่นดขาก็ยิ่งรู้สึกหวงก้างหนักกว่าเดิมหลายเท่าและจะพยายามแย่งเธอกลับมาเป็นของเขาให้ได้
ณจันทร์กลับห้องพักมาได้เธอก็รีบเล่าเรื่องที่น่าตกใจให้กับณิชาและพราวมุกได้ฟัง
“แล้วได้พูดคุยอะไรกับคุณนนหรือเปล่าจันทร์”
พราวมุกตกใจไปกับเพื่อนด้วยไม่ใช่แค่เรื่องที่เจอคนจะลวนลามแต่เรื่องที่ณจันทร์เจอนนทวัตรแล้วเขาอาจจะแปลกในถึงเรื่องการแต่งตัวของคุณหนูไฮโซที่ทำไมถึงได้มาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ยีนส์ตรงหน้าได้
“เปล่าอะอาศัยจังหวะที่คุณนนไล่ผู้ชายคนนั้นแล้วเค้าก็เลยรีบหนีออกมากลัวว่าถ้าทักทายอะไรตอนนั้นจะเผลอทำอะไรที่ไม่เป็นตัวปานตะวันออกมา”
ณจันทร์ส่ายหัวหงึกหงักดีที่เธอรีบชิ่งออกมาก่อนที่จะได้พูดคุยอะไรกันกับนนทวัตรหากครั้งหน้าได้เจอกันแล้วค่อยขอโทษกับการเสียมารยาทครั้งนี้
“ดีแล้วล่ะ..คุณนนเค้าไปทำอะไรที่ห้างนั้นอยู่ไกลจากบริษัทเค้ามากไม่ใช่เหรอ”
ณิชารู้ว่าบริษัทใหญ่ที่นนทวัตรเข้าบริหารไม่ได้ใกล้กับห้างสรรพสินค้าที่ณจันทร์ไปเลยทำไมถึงได้บังเอิญไปเจอชายหนุ่มที่นั่นได้
“ฉันเห็นเค้านั่งทานข้าวกับคุณลลิตา”
“ลูกสาวนักการเมืองที่ชอบเป็นข่าวอะเหรอ... เธอรู้จักกับคุณนนได้ยังไงหรือเป็นแฟนกัน”
ณิชาเริ่มหน้าเสีย
“ไม่รู้เหมือนกัน”
ณจันทร์ส่ายหัว
“ไม่ใช่หรอกมั้งถ้ามีแฟนแล้วจะตกลงรับหมั้นคุณปานตะวันทำไม..อีกอย่างฉันพึ่งไปศึกษาประวัติคนบ้านนี้มาลูกชายคนเล็กอย่างคุณนนไม่มีข่าวเสียหายกับผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว”
พราวมุกกอดอกพูดเสียงดังฟังชัด
“เป็นแบบนั้นก็ดีเรื่องอื่นช่างมันเถอะแล้วนี่หายขวัญเสียหรือยังจันทร์”
ณิชาได้ยินแบบนี้ก็คลายกังวลด้วยกลัวว่าถึงวันหมั้นหากนนทวัตรมีแฟนแล้วแฟนของเขาก็จะมาแหกอกเพื่อนเธอที่เป็นปานตะวันตัวปลอมให้เป็นเรื่องเป็นราว
“ไม่เป็นอะไรแล้ว..ตอนนี้โอเค”
ณจันทร์ส่ายหัวทั้งฉีกยิ้มอ่อนให้เพื่อนรักทั้งสองสบายใจทั้งที่ตอนนี้ก็ยังสงสัยในใจว่าผู้ชายคนนั้นที่เข้าใจว่าเธอคือปานตะวันและพยายามจะลวนลามเธอเป็นใครกันแน่
“ช่วงนี้พ่อว่าไปมาหาสู่กับบ้านนั้นบ่อยๆก็ดีนะลูกจะได้ทำความรู้จักกันสนิทกว่านี้ก่อนที่จะหมั้น”
ภัทรพลเข้ามาหานนทวัตรที่บ้านของชายหนุ่มช่วงเย็นเขาเอ่ยกับลูกชายคนเล็กขณะที่นั่งทานข้าวด้วยกันถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่ารู้ว่าลูกชายของเขาและปานตะวันอาจจะเคยเจอกันบ้างแต่ก็ไม่ได้สนิทมากนักตอนนี้เขาจึงอยากให้ทั้งคู่ใกล้กันมากขึ้นเพราะจะหมั้นกันในอีกไม่กี่วันแล้ว
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างครับ..ยังไงก็ต้องหมั้นต้องแต่งกันอยู่แล้วครับยังมีเวลารู้จักกันอีกนานผมไม่รีบ”
นนทวัตรแทบจะอิ่มข้าวเมื่อได้ยินชื่อปานตะวันทั้งที่ทานไปได้ไม่เท่าไร
“แล้วแต่แกแล้วกัน”
ภัทรพลดูไม่ได้อยากบังคับอะไรนนทวัตรเพราะที่ลูกชายตนยอมหมั้นตามสัญญาก็ดีเท่าไรแล้วแค่ที่มาพูดเรื่องนี้แค่อยากให้คนที่กำลังจะมาเป็นคู่ชีวิตกันได้รู้จักกันลึกกว่าเดิมเท่านั้น
ที่นนทวัตรไม่อยากได้ยินชื่อปานตะวันเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกไม่พอใจปานตะวันด้วยไม่ชอบพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งของหญิงสาวที่วันนี้แม้แต่คำขอบคุณหรือหยุดพูดคุยสักคำก็ไม่มี
วันต่อมา
วันนี้ณจันทร์เข้ามาบ้านของโสภิตาตั้งแต่ช่วงสายๆเพื่อแต่งหน้าทำผมแต่งตัวเตรียมรอทานข้าวกับครอบครัวของนนทวัตรที่จะมาหารือจริงจังเรื่องงานหมั้นที่จะถึง
“คุณตะวันสวยแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ”
ณจันทร์ที่อยู่ในชุดมินิเดรสแบรนด์ดังสีชมพูหวานทำผมลอนฟาร่าสวมใส่จิวเวอรี่ชิ้นน้อยแต่มีราคาแต่งหน้าอ่อนๆด้วยเครื่องสำอางที่มีราคาสาวเจ้าเห็นตัวเองในกระจกก็ถึงกับตะลึงกับภาพของตัวเองอยู่เหมือนกัน
“แน่นอน..หลานฉันไม่มีตรงไหนไม่เพอเฟ็ค”
สารภียืนกอดอกอมยิ้มอ่อนที่เห็นณจันทร์ดูจะแปลกตากับภาพของตัวเอง ไม่เพียงณจันทร์ที่ละสายตาจากตัวเองในกระจกไม่ได้เป็นโสภิตาเหมือนกันที่เอาแต่จับจ้องมองณจันทร์อมยิ้มไม่พูดไม่จาจนสารภีจับสังเกตได้ว่าน้องสาวเธอคงกำลังเอ็นดูณจันทร์เช่นปานตะวันอยู่แน่นอน
“โส..จันทร์เหมือนตะวันมากเลยเธอว่าหรือเปล่า”
“ค่ะ..เหมือน”
คำว่าเหมือนทำให้โสภิตาหลุดจากภวังค์ได้และคำเตือนของสารภีที่ห้ามไม่ให้เธอมองณจันทร์เหมือนลูกก็เข้ามาในหัว
โต๊ะอาหาร
เมื่อถึงช่วงกลางวันภัทรพลอนงค์นาถและนนทวัตรก็ได้มาถึงบ้านของโสภิตาตรงเวลาที่นัด เมื่อแขกมาถึงแล้วอาหารบนโต๊ะก็พร้อมพอดีตอนนี้ทุกคนจึงมานั่งพูดคุยกันทานอาหารกันไปด้วย
เหล่าผู้ใหญ่ดูจะผ่อนคลายในการพูดคุยถึงเรื่องสมัยก่อนกัน แต่สองหนุ่มสาวแทบจะไม่มองหน้ากันก็ว่าได้สาเหตุเป็นเพราะนนทวัตรยังคงเคืองใจและทิฐิกับปานตะวันคิดว่าเธอเป็นคนเย่อหยิ่งตลอดเวลาส่วนณจันทร์เองก็ไม่ค่อยกล้าสบตานนทวัตรเท่าไรเพราะเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งทานอาหารอยู่เงียบๆด้วยใบหน้าไม่สดใส
“อาหารที่บ้านนี้อร่อยมากเลยนะครับเห็นทีหลังงานหมั้นตานนกับหนูตะวันจะต้องไปมาหาสู่บ้านนี้บ่อยๆแล้ว”
ภัทรพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี แต่คำพูดของเขาดันทำให้สารภีและโสภิตาหน้าเจื่อนเพราะรู้ว่สหลังจากงานหมั้นหากพวกเธอยังตามปานตะวันตัวจริงไม่ได้บ้านนี้ก็คงไม่มีปานตะวันอยู่แล้วเพราะเธอมีเงินจ้างณจันทร์ให้อยู่แค่งานหมั้นเท่านั้น
“เอ่อ..ค่ะ”
โสภิตาเริ่มยิ้มเจื่อนแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรภัทรพลออกไป
“หนูตะวันดูซูบไปนะลูก”
อนงค์นาถหันมาคุยกับว่าที่ลูกสะใภ้ที่นั่งเงียบด้วยคำถามที่ปนความเป็นห่วงเท่าที่เธอสังเกตหญิงสาวท่าจะทานอาหารได้น้อยถึงได้ซูบผอมลงกว่าตอนที่เธอเจอครั้งก่อนที่มาคุยเรื่องสัญญาหมั้น
“เอ่อ..”
ณจันทร์เริ่มไปไม่เป็นเพราะไม่ได้คิดว่าจะถูกคุยอะไรด้วยในวงสนทนาเพราะเห็นผู้ใหญ่คุยกันเรื่องอดีตกันมาพักใหญ่แล้ว
“แกก็ดูแลหุ่นตามประสาผู้หญิงที่จะต้องสวยในวันสำคัญน่ะค่ะ”
เป็นสารภีที่แก้หน้าแทนให้หลานสาวตัวปลอมได้อย่างทันท่วงที
“เข้าใจแล้วล่ะค่ะ”
อนงค์นาถได้ยินคำตอบเช่นนี้ก็อมยิ้มเข้าใจได้เป็นอย่างดีเพราะนึกถึงตอนตัวเองสาวๆก่อนวันสำคัญก็ดูแลหุ่นเป็นพิเศษเหมือนกัน
หลังจากจบมื้ออาหารเหล่าผู้ใหญ่ก็ให้คนที่กำลังจะหมั้นมาพูดคุยกันสองต่อสองที่สวนหย่อมหลังบ้านหลังใหญ่“วันนั้นคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”เป็นนนทวัตรที่เปิดประเด็นพูดกับหญิงสาวถึงเรื่องเหตุการณ์วันนั้น“เอ่อ..คือ..วันนั้นฉันต้องขอโทษคุณนนด้วยนะคะที่ไม่ได้อยู่ขอบคุณคือฉันตกใจมากน่ะค่ะ”ณจันทร์คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงนนทวัตรก็ต้องได้มีโอกาสถามเธอเรื่องนี้แน่นอน“อืม..”นนทวัตรหยุดเดินหันมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้งเพื่อที่จะดูสีหน้าแววตาของเธอว่าต้องการขอบคุณเขาหรือพูดเพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่เฝ้ามองอยู่กันแน่แล้วก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากที่เขาเคยเจอความเย่อหยิ่งที่เขาเคยเห็นในแววตาของหญิงสาวไม่มีแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังวางใจมองเธอในแง่ดีไม่ได้อยู่ดี“ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องขอบคุณหรือไม่ขอบคุณแล้วล่ะแต่คำถามที่ผมถามไปคุณยังไม่ได้ตอบ”“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มร่าที่แท้ที่เขาถามก็เพราะเป็นห่วงเธอนั่นเอง“เปล่า..ผมไม่ได้เป็นห่วงผมแค่ถามตามมารยาท”นนทวัตรส่ายหัวทั้งมีสีหน้าเมินเฉยต่อรอยยิ้มของหญิงสาวแถมคำตอบของเขาที่ให้เธอก็ทำเอ
วันต่อมา“นักสืบแจ้งพี่มาว่าถ้าเราไม่ดำเนินการโอนเงินงวดล่าสุดให้เค้าจะไม่ดำเนินการตามหาตะวันต่อแล้วนะโส”สารภีคุยโทรศัพท์กับสำนักงานนักสืบที่เธอว่าจ้างเรียบร้อยก็กลับมาคุยกับโสภิตาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล“พี่สาบอกนักสืบนะคะว่าเดี๋ยวโสจะรีบโอนให้ภายในเย็นวันพรุ่งนี้ค่ะไม่ต้องห่วง”“แล้วโสเอาเงินมาจากไหน”“โสว่าจะเอาเครื่องเพชรที่คุณรุจเคยซื้อให้ไปขายค่ะ”“แต่นั่นมันของแทนใจคุณรุจเลยนะโส”“ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการตามหาตะวันแล้วล่ะค่ะพี่สา”โสภิตารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและวิธีแก้ปัญหาคือวิธีที่เธอไตร่ตรองมาดีแล้ว“จะมาที่นี่ก็น่าจะโทรบอกกันก่อนนะคะคุณนนน้าจะได้เตรียมต้อนรับ”โสภิตารีบเข้ามารับหน้านนทวัตรเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาหาที่บ้านกะทันหัน“ผมยุ่งๆน่ะครับเลยลืมที่จะโทรบอกทางนี้ก่อนพอดีคุณพ่อให้ผมมารับปานตะวันไปดูสถานที่จัดงานน่ะครับ”“เอ่อ..”โสภิตาเริ่มไปไม่เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ฉุกละหุกเลยไม่รู้ว่าจะตอบนนทวัตรว่าอย่างไร“ตะวันออกไปข้างนอกกับเพื่อนน่ะเดี๋ยวป้าจะลองโทรตามให้นะ”สิ้นเสียงของสารภีโสภิตาค่อยเริ่มหายใจหายคอคล่องหน่อยหากเธออยู่คน
“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก“อืม..”“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ
“เค้าไม่ยอมเลิกกับตะวันง่ายๆหรอกนะ”ณจันทร์ตัวแทบลอยเมื่อถูกผู้ชายคนที่จะลวนลามเธอวันนั้นกระชากตัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“ปล่อยฉันค่ะ..คุณมาที่นี่ได้ยังไง”สาวเจ้ารีบสะบัดมือออกจากมือหนาที่เหนียวเป็นปลาหมึกด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่“เพราะคู่หมั้นตะวันหล่อกว่ารวยกว่าเค้าใช่หรือเปล่าถึงไม่ยอมคืนดีกับเค้าง่ายๆ”ธนกรกระชากตัวหญิงสาวมากอดเอาไว้แน่น ณจันทร์ชะงักฉุกคิดก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างเพ่งพิจารณาและคิดว่าเขาคงเป็นแฟนเก่าปานตะวันแน่นอนด้วยพอจะจับใจความจากคำที่ชายหนุ่มพูดได้“ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกคนมาลากคุณออกไป”ยิ่งรู้ว่าเขาคือแฟนเก่าของปานตะวันเธอก็ต้องยิ่งอยู่ให้ห่างเพราะวันนี้เป็นวันหมั้นของปานตะวันและนนทวัตรเธอจะทำอะไรให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายไม่ได้“ทำอะไรกัน”ณจันทร์ผงะและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนคนที่โอบเธอเอาไว้และรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะมีเรื่องผิดใจกับนนทวัตรแน่นอน“แล้ววันหลังผมจะมาหาคุณใหม่”ธนกรมองค้อนไปยังนนทวัตรและหันมากระซิบกับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินหนีออกไป ทิ้งระเบิดให้ณจันทร์เป็นฝ่ายรับหน้าอยู่ตรงนี้เพีย
อาทิตย์ต่อมา“จะทำยังไงดีคะพี่สาตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตะวันเลย”โสภิตาเริ่มมีอาการเครียดทานอะไรไม่ค่อยลงแม้นจะได้เงินจากสินสอดหมั้นมาพยุงบริษัทแต่ทุกข์ใจที่ผ่านจากงานหมั้นของปานตะวันมาเป็นอาทิตย์แล้วนักสืบยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวลูกสาวของเธอเจอเลย“เอาน่า..ตอนนี้ก็ใจเย็นไปก่อนถ้าทางบ้านนั้นถามก็บอกว่าตะวันไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้..ไม่แน่ตะวันอาจจะอยากกลับมาบ้านเองก็ได้นะโสอย่าเครียดไปก่อนเลย”เป็นสารภีที่เข้ามากอดปลอบโสภิตาด้วยเห็นว่าน้องเธอเครียดไปก็ไม่ได้อะไรวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“คุณยายคะ”พราวมุกรีบรับร่างของหญิงชราที่กำลังจะเป็นลมขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลเพื่อที่จะจัดระเบียบชุดก่อนจะขึ้นไปสัมภาษณ์งาน“คุณพยาบาลคะช่วยด้วยค่ะ”เมื่อเห็นว่ามีพยาบาลเดินเข้ามาพราวมุกจึงรีบเรียกให้เขามาช่วยพยุงหญิงชราทันทีครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณท่านความดันสูงมากเลยนะคะช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ทานอาหารที่มีไขมันต่ำไม่มีรสจัดนะคะ”หมอสาวไม่ลืมกำชับกับแก้วเกตหญิงวัยเกือบ80ที่เป็นผู้บริหารเก่าของโรงพยาบาลนี้“ฟังด้วยนะครับคุณยายไม่อย่างนั้นผมจะให้คนทำอาหารคลีนให้ทานทุกวันแล้วก็ห
ห้างสรรพสินค้าณจันทร์กลับจากสัมภาษณ์งานเธอก็เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเข้ามาในโซนเครื่องเขียนเธอต้องหาสมุดปากกาเตรียมเอาไว้สำหรับการทำงาน“ตะวัน”“อ้าว..เกว”ณจันทร์หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงสาวสวยที่เรียกชื่อปานตะวันณจันทร์ก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวคือกมลเนตรหรือเกวนางแบบสาวและเป็นลูกสาวเจ้าของคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง“ไม่นึกว่าจะเจอแกในร้านแบบนี้นะ”กมลเนตรมองเพื่อนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าด้วยสายตาของความสงสัยไม่ยักรู้ว่าคุณหนูไฮโซอย่างปานตะวันจะมาแต่งตัวเฉิ่มๆเชยๆไม่มีแบรนด์แต่เธอก็ไม่ได้ทักเรื่องนี้ออกไปเพียงทักทายด้วยความสงสัยว่าปานตะวันมาทำอะไรที่ร้านเครื่องเขียนเพราะปกติแล้วเรื่องการซื้อของยิบย่อยพวกนี้เพื่อนเธอไม่ได้ชอบอยู่แล้ว“อ๋อ..ก็ดูอะไรไปเพลินๆน่ะ”ณจันทร์เริ่มปั้นหน้าไม่ถูกแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“แกหายโกรธฉันแล้วเหรอถึงยอมพูดกับฉัน”“โกรธ..”ณจันทร์นึกไปถึงเรื่องเมื่องานวันหมั้นเพราะคิดว่ากมลเนตรน่าจะหมายถึงเรื่องที่ไม่สบายและไม่ได้ไปงานวันหมั้นของปานตะวัน“ที่เกวไม่สบายแล้วไม่ได้ไปงานหมั้นน่ะเหรอเรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว
“ของคุณตะวันค่ะ”ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆวันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไป
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ