Share

ตอนที่6 แฟนเก่า

“เพราะคู่หมั้นคุณมันรวยกว่าผมแต่นั้นใช่ไหมคุณถึงได้คืนดีกับผมยากนัก”

ธนกร หนุ่มวัย22ย่าง23ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแฟนเก่าของปานตะวัน​ เขาเคืองใจกับเหตุการณ์วันนี้พอสมควรเพราะไม่คิดว่าปานตะวันที่รักกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งเมื่อเลิกกับเขาได้ไม่เท่าไรก็จะหมั้นกับนักธุรกิจที่โปรไฟล์ดีกว่าเขาหลายเท่า

ธนกรคบกับปานตะวันตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งด้วยกันที่มหาลัยดังตลอดเวลาที่คบกับธนกรชอบนอกใจปานตะวันตลอดแต่ก็ไม่เปิดตัวใครเป็นแฟนเหมือนปานตะวันจนกระทั่งล่าสุดที่ปานตะวันเลิกเด็ดขาดกับธนกรก็เพราะชายหนุ่มดันเจ้าชู้ไม่เลือกโดยการไปนอนกับเพื่อนของปานตะวันทำให้เธอตัดทั้งเพื่อนตัดทั้งแฟนไปในคราวเดียว ธนกรพยายามง้อปานตะวันตลอดหลังจากเลิกกันแล้วยิ่งได้มารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะหมั้นกับคนอื่นดขาก็ยิ่งรู้สึกหวงก้างหนักกว่าเดิมหลายเท่าและจะพยายามแย่งเธอกลับมาเป็นของเขาให้ได้

ณจันทร์กลับห้องพักมาได้เธอก็รีบเล่าเรื่องที่น่าตกใจให้กับณิชาและพราวมุกได้ฟัง

“แล้วได้พูดคุยอะไรกับคุณนนหรือเปล่าจันทร์”

พราวมุกตกใจไปกับเพื่อนด้วยไม่ใช่แค่เรื่องที่เจอคนจะลวนลามแต่เรื่องที่ณจันทร์เจอนนทวัตรแล้วเขาอาจจะแปลกในถึงเรื่องการแต่งตัวของคุณหนูไฮโซที่ทำไมถึงได้มาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ยีนส์ตรงหน้าได้

“เปล่าอะอาศัยจังหวะที่คุณนนไล่ผู้ชายคนนั้นแล้วเค้าก็เลยรีบหนีออกมากลัวว่าถ้าทักทายอะไรตอนนั้นจะเผลอทำอะไรที่ไม่เป็นตัวปานตะวันออกมา”

ณจันทร์ส่ายหัวหงึกหงักดีที่เธอรีบชิ่งออกมาก่อนที่จะได้พูดคุยอะไรกันกับนนทวัตรหากครั้งหน้าได้เจอกันแล้วค่อยขอโทษกับการเสียมารยาทครั้งนี้

“ดีแล้วล่ะ..คุณนนเค้าไปทำอะไรที่ห้างนั้นอยู่ไกลจากบริษัทเค้ามากไม่ใช่เหรอ”

ณิชารู้ว่าบริษัทใหญ่ที่นนทวัตรเข้าบริหารไม่ได้ใกล้กับห้างสรรพสินค้าที่ณจันทร์ไปเลยทำไมถึงได้บังเอิญไปเจอชายหนุ่มที่นั่นได้

“ฉันเห็นเค้านั่งทานข้าวกับคุณลลิตา”

“ลูกสาวนักการเมืองที่ชอบเป็นข่าวอะเหรอ... เธอรู้จักกับคุณนนได้ยังไงหรือเป็นแฟนกัน”

ณิชาเริ่มหน้าเสีย

“ไม่รู้เหมือนกัน”

ณจันทร์ส่ายหัว

“ไม่ใช่หรอกมั้งถ้ามีแฟนแล้วจะตกลงรับหมั้นคุณปานตะวันทำไม..อีกอย่างฉันพึ่งไปศึกษาประวัติคนบ้านนี้มาลูกชายคนเล็กอย่างคุณนนไม่มีข่าวเสียหายกับผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว”

พราวมุกกอดอกพูดเสียงดังฟังชัด

“เป็นแบบนั้นก็ดีเรื่องอื่นช่างมันเถอะแล้วนี่หายขวัญเสียหรือยังจันทร์”

ณิชาได้ยินแบบนี้ก็คลายกังวลด้วยกลัวว่าถึงวันหมั้นหากนนทวัตรมีแฟนแล้วแฟนของเขาก็จะมาแหกอกเพื่อนเธอที่เป็นปานตะวันตัวปลอมให้เป็นเรื่องเป็นราว

“ไม่เป็นอะไรแล้ว..ตอนนี้โอเค”

ณจันทร์ส่ายหัวทั้งฉีกยิ้มอ่อนให้เพื่อนรักทั้งสองสบายใจทั้งที่ตอนนี้ก็ยังสงสัยในใจว่าผู้ชายคนนั้นที่เข้าใจว่าเธอคือปานตะวันและพยายามจะลวนลามเธอเป็นใครกันแน่

“ช่วงนี้พ่อว่าไปมาหาสู่กับบ้านนั้นบ่อยๆก็ดีนะลูกจะได้ทำความรู้จักกันสนิทกว่านี้ก่อนที่จะหมั้น”

ภัทรพลเข้ามาหานนทวัตรที่บ้านของชายหนุ่มช่วงเย็นเขาเอ่ยกับลูกชายคนเล็กขณะที่นั่งทานข้าวด้วยกันถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่ารู้ว่าลูกชายของเขาและปานตะวันอาจจะเคยเจอกันบ้างแต่ก็ไม่ได้สนิทมากนักตอนนี้เขาจึงอยากให้ทั้งคู่ใกล้กันมากขึ้นเพราะจะหมั้นกันในอีกไม่กี่วันแล้ว

“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างครับ..ยังไงก็ต้องหมั้นต้องแต่งกันอยู่แล้วครับยังมีเวลารู้จักกันอีกนานผมไม่รีบ”

นนทวัตรแทบจะอิ่มข้าวเมื่อได้ยินชื่อปานตะวันทั้งที่ทาน​ไปได้ไม่เท่าไร

“แล้วแต่แกแล้วกัน”

ภัทรพลดูไม่ได้อยากบังคับอะไรนนทวัตรเพราะที่ลูกชายตนยอมหมั้นตามสัญญาก็ดีเท่าไรแล้วแค่ที่มาพูดเรื่องนี้แค่อยากให้คนที่กำลังจะมาเป็นคู่ชีวิตกันได้รู้จักกันลึกกว่าเดิมเท่านั้น

ที่นนทวัตรไม่อยากได้ยินชื่อปานตะวันเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกไม่พอใจปานตะวันด้วยไม่ชอบพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งของหญิงสาวที่วันนี้แม้แต่คำขอบคุณหรือหยุดพูดคุยสักคำก็ไม่มี

วันต่อมา

วันนี้ณจันทร์เข้ามาบ้านของโสภิตาตั้งแต่ช่วงสายๆเพื่อแต่งหน้าทำผมแต่งตัวเตรียมรอทานข้าวกับครอบครัวของนนทวัตรที่จะมาหารือจริงจังเรื่องงานหมั้นที่จะถึง

“คุณตะวันสวยแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ”

ณจันทร์ที่อยู่ในชุดมินิเดรสแบรนด์ดังสีชมพูหวานทำผมลอนฟาร่าสวมใส่จิวเวอรี่ชิ้นน้อยแต่มีราคาแต่งหน้าอ่อนๆด้วยเครื่องสำอางที่มีราคาสาวเจ้าเห็นตัวเองในกระจกก็ถึงกับตะลึงกับภาพของตัวเองอยู่เหมือนกัน

“แน่นอน..หลานฉันไม่มีตรงไหนไม่เพอเฟ็ค”

สารภียืนกอดอกอมยิ้มอ่อนที่เห็นณจันทร์ดูจะแปลกตากับภาพของตัวเอง​ ไม่เพียงณจันทร์ที่ละสายตาจากตัวเองในกระจกไม่ได้เป็นโสภิตาเหมือนกันที่เอาแต่จับจ้องมองณจันทร์อมยิ้มไม่พูดไม่จาจนสารภีจับสังเกตได้ว่าน้องสาวเธอคงกำลังเอ็นดูณจันทร์เช่นปานตะวันอยู่แน่นอน

“โส..จันทร์เหมือนตะวันมากเลยเธอว่าหรือเปล่า”

“ค่ะ..เหมือน”

คำว่าเหมือนทำให้โสภิตาหลุดจากภวังค์ได้และคำเตือนของสารภีที่ห้ามไม่ให้เธอมองณจันทร์เหมือนลูกก็เข้ามาในหัว

โต๊ะอาหาร

เมื่อถึงช่วงกลางวันภัทรพลอนงค์นาถและนนทวัตรก็ได้มาถึงบ้านของโสภิตาตรงเวลาที่นัด​ เมื่อแขกมาถึงแล้วอาหารบนโต๊ะก็พร้อมพอดีตอนนี้ทุกคนจึงมานั่งพูดคุยกันทานอาหารกันไปด้วย​

เหล่าผู้ใหญ่ดูจะผ่อนคลายในการพูดคุยถึงเรื่องสมัยก่อนกัน​ แต่สองหนุ่มสาวแทบจะไม่มองหน้ากันก็ว่าได้​สาเหตุเป็นเพราะนนทวัตรยังคงเคืองใจและทิฐิกับปานตะวันคิดว่าเธอเป็นคนเย่อหยิ่งตลอดเวลาส่วนณจันทร์เองก็ไม่ค่อยกล้าสบตานนทวัตรเท่าไรเพราะเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งทานอาหารอยู่เงียบๆด้วยใบหน้าไม่สดใส​

“อาหารที่บ้านนี้อร่อยมากเลยนะครับเห็นทีหลังงานหมั้นตานนกับหนูตะวันจะต้องไปมาหาสู่บ้านนี้บ่อยๆแล้ว”

ภัทรพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี​ แต่คำพูดของเขาดันทำให้สารภีและโสภิตาหน้าเจื่อนเพราะรู้ว่สหลังจากงานหมั้นหากพวกเธอยังตามปานตะวันตัวจริงไม่ได้บ้านนี้ก็คงไม่มีปานตะวันอยู่แล้วเพราะเธอมีเงินจ้างณจันทร์ให้อยู่แค่งานหมั้นเท่านั้น

“เอ่อ..ค่ะ”

โสภิตาเริ่มยิ้มเจื่อนแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรภัทรพลออกไป

“หนูตะวันดูซูบไปนะลูก”

อนงค์นาถหันมาคุยกับว่าที่ลูกสะใภ้ที่นั่งเงียบด้วยคำถามที่ปนความเป็นห่วงเท่าที่เธอสังเกตหญิงสาวท่าจะทานอาหารได้น้อยถึงได้ซูบผอมลงกว่าตอนที่เธอเจอครั้งก่อนที่มาคุยเรื่องสัญญาหมั้น

“เอ่อ..”

ณจันทร์เริ่มไปไม่เป็นเพราะไม่ได้คิดว่าจะถูกคุยอะไรด้วยในวงสนทนาเพราะเห็นผู้ใหญ่คุยกันเรื่องอดีตกันมาพักใหญ่แล้ว

“แกก็ดูแลหุ่นตามประสาผู้หญิงที่จะต้องสวยในวันสำคัญน่ะค่ะ”

เป็นสารภีที่แก้หน้าแทนให้หลานสาวตัวปลอมได้อย่างทันท่วงที

“เข้าใจแล้วล่ะค่ะ”

อนงค์นาถได้ยินคำตอบเช่นนี้ก็อมยิ้มเข้าใจได้เป็นอย่างดีเพราะนึกถึงตอนตัวเองสาวๆก่อนวันสำคัญก็ดูแลหุ่นเป็นพิเศษเหมือนกัน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status