Share

ตอนที่9 งานหมั้น

“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”

ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย

“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”

พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด

“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”

นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก

“อืม..”

“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”

ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที

“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”

นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย

“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”

“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ”

“ใช่ค่ะที่เลือกเพราะคิดว่ามันดูดีที่สุดแค่นั้นค่ะไม่มีอะไรมาก”

ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบปนรอยยิ้มอ่อนจะตอบเขาไปตามตรงว่าเธอชอบชุดใหม่มากกว่าชุดเดิมก็คงจะไม่ใช่คำพูดที่จะออกมาจากปากปานตะวันแน่

“ชุดที่เช่ามาค่ะ”

ณจันทร์เอาชุดที่พึ่งไปรับมาจากร้านออกมาให้โสภิตาได้ดู

“นี่ไม่ใช่ชุดที่ตะวันเลือกนี่นา”

โสภิตามองชุดที่ณจันทร์กำลังเอาไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าของปานตะวันเธอก็พอจะรู้ว่าชุดนี้ไม่เหมือนในรูปที่ปานตะวันเคยให้เธอได้ดูตอนไปลองเพราะชุดนั้นมันดูเปิดเนื้อหนังกว่านี้มาก

“ค่ะ..ชุดที่คุณปานตะวันเลือกช่างแก้ให้ไม่ทันจันทร์เลยเลือกมาใหม่ค่ะ”

“อ๋อ..ก็ดีเหมือนกันชุดที่ตะวันเลือกดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร”

“เสร็จธุระแล้วจันทร์ขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวฉันให้คนรอขับรถไปส่งหนูข้างล่างแล้วนะมันเย็นมากแล้วกลับแท็กซี่เองฉันกลัวว่าหนูจะเป็นอันตราย”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่”

ณจันทร์เก็บชุดเรียบร้อยแล้วเธอก็เตรียมตัวกลับทันทีเพราะไม่อยากกลับในตอนฟ้ามืด

“จันทร์”

“คะคุณแม่”

อ่อเปล่าจ่ะ”

โสภิตามองตามหลังณจันทร์ตาละห้อยรู้สึกอยากจะคุยต่อกับหญิงสาวอีกสักพักแต่ก็เกรงใจ

สองวันต่อมา

วันนี้ณจันทร์รู้สึกประหม่าไม่น้อยเพราะเป็นวันงานหมั้นของนนทวัตรและปานตะวันคนที่เธอจะต้องสวมรอยสาวเจ้าแต่งหน้าทำผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินสูดหายใจเข้าออกพักใหญ่จนรู้สึกดีขึ้น

“หนูจันทร์โอเคหรือเปล่า”

“ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะคุณแม่”

ณจันทร์พอจะยิ้มได้หน่อยเมื่อเห็นโสภิตาเดินเข้ามาหาที่ห้องแต่งตัว

“ฉันจะคอยอยู่ข้างๆหนูไม่ต้องกลัวนะ”

“ค่ะ..”

คำพูดแสนอบอุ่นเช่นนี้เสมือนยาชั้นดีที่ทำให้ใจของณจันทร์เริ่มกลับมาเป็นปกติและควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง

“แล้วคุณสาไม่มาด้วยเหรอคะ”

ณจันทร์กวาดสายตามองไปที่ประตูห้องแต่งตัว

“เห็นบอกว่าปวดหัวตั้งแต่เมื่อคืนน่ะจ่ะวันนี้เลยไม่ได้มา..เราไปข้างนอกกันเถอะตอนนี้คุณนนกับแขกผู้ใหญ่อยู่ข้างนอกกันแล้ว”

“ค่ะ”

“นั่นหนูวาวากับหนูลูกหยีจำได้ใช่ไหมหนูจันทร์”

โสภิตาพาณจันทร์ออกมาจากห้องแต่งตัวเข้างานมาได้ก็บังเอิญเห็นพิมพ์อักษรและวนิดาเพื่อนสนิทของปานตะวันจึงต้องสะกิดให้ณจันทร์รู้ตัวก่อนเพราะรู้ว่าสองคนนั้นต้องเดินเข้ามาหาณจันทร์แน่นอน

“ค่ะคุณแม่”

“สวัสดีค่ะคุณแม่/สวัสดีค่ะคุณแม่”

ณจันทร์ยิ้มอ่อนให้กับสองสาวเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เข้ามาสวัสดีโสภิตาเธอจำข้อมูลได้ว่าเธอทั้งสองคือวนิดาลูกสาวผู้จัดละครชื่อดังและพิมพ์อักษรทายาทร้านทองที่มีหลายสาขา

“สวัสดีจ่ะ..ขอบใจที่มางานตะวันนะลูก”

“งานหมั้นของเพื่อนรักทั้งทีต้องมาอยู่แล้วล่ะค่ะ..ยินดีด้วยนะตะวัน”

วนิดายื่นมือเรียวจับแขนของณจันทร์แสดงความยินดีหน้าระรื่นเพราะเพื่อนเธอจะพ้นจากผู้ชายเจ้าชู้อย่างธนกรมาเจอผู้ชายโปรไฟล์ดีอย่างนนทวัตร

“ยินดีด้วยนะ..พอดีวันนี้เกวไม่สบายเลยไม่ได้มาด้วย”

“ขอบคุณนะ..มากันแค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะเชิญนั่งด้านในกันก่อนนะ”

ณจันทร์หันไปพยักหน้ารับพิมพ์อักษรด้วยรอยยิ้มอ่อน

“วาวาแกว่าตะวันแปลกๆเปล่าอะ”

วนิดาเข้ามานั่งในงานได้เธอก็ต้องหันมากระซิบกับพิมษ์อักษรถึงพฤติกรรมของปานตะวัน

“นั่นสิ..ดูสุภาพกว่าเดิมเยอะเลย”

“คงเป็นเพราะอยู่ในงานที่มีผู้ใหญ่เยอะล่ะมั้ง”

“คงงั้น”

พิมพ์อักษรคิดว่าเธอคิดไปเองคนเดียวเสียอีกทั้งการแต่งตัวและน้ำเสียงการพูดการจากับเพื่อน

“เดี๋ยวฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับเลยนะคะ”

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีหมั้นณจันทร์ก็อยากจะรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเพราะเหนื่อยที่จะต้องรับหน้ากับผู้ใหญ่หลายคนนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะต้องปั้นหน้าโกหกคนหลายๆคนในวันเดียวทำให้รู้สึกแย่พอสมควร

“อืม”

“ยินดีด้วยนน..ยินดีด้วยนะครับคุณตะวัน..”

ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้เดินห่างออกจากนนทวัตรจู่ๆก็มีเสียงคนทักจนเธอต้องหันหลังกลับมา คนที่กำลังทักทายอยู่ตรงหน้าณจันทร์ทำเธอตกอกตกใจกับการได้เจอเขาที่นี่พอสมควรเพราะชายหนุ่มคือคนที่พราวมุกได้เดินชนและเสียมารยาทกับเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ไม่ยักรู้ว่าเขาจะรู้จักปานตะวันและนนทวัตรด้วย

“ช่วงนี้ผมไม่เห็นคุณไปที่ผับเลยไม่ชอบเที่ยวกลางคืนแล้วเหรอครับ”

“อ๋อ..ค่ะ..คือฉันกลับมารักษาสุขภาพน่ะค่ะคงไม่ได้เที่ยวอย่างเมื่อก่อนสักพัก”

ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ครับ..ยังไงผับของผมยังต้อนรับเสมอนะครับ”

“ค่ะ..เดี๋ยวฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ”

“ครับ”

ณจันทร์รีบสาวเท้าสับด้วยกลัวว่าจะมีคนมาเอ่ยทักอีก

“วันนี้พอคุณตะวันอยู่ในชุดเรียบร้อยๆเธอดูสวยมากเลยแกว่าหรือเปล่า”

กวินมองตามหลังปานตะวันด้วยสายตาที่ชื่นชมรู้สึกว่าการแต่งตัวรียบร้อยเช่นนี้เหมาะกับเธอมากกว่า

“ก็..ดูปกติไม่ได้มากมาย”

นนทวัตรเริ่มอึกอักตอบโดยที่ไม่ได้มองตากวินเพราะเขาก็คิดเช่นเดียวกับเพื่อนไม่ผิดเพี้ยนแต่ไม่ได้ยอมรับความจริงเป็นคำพูดออกมาเท่านั้น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status