“ฉันว่าชุดนี้สวยดีนะคะ”
ณจันทร์มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวารู้สึกว่าชอบชุดที่ใส่เป็นพิเศษเพราะเป็นชุดผ้าไหมแขนยาวรัดรูปเปิดช่วงไหล่พองามและเป็นกระโปรงหางปลาที่ยาวกำลังดีน่าจะลุกนั่งและเดินได้สะดวกด้วย
“เห็นไหมคะฉันบอกแล้วว่าชุดนี้เข้ากับคุณที่สุดไปให้คุณนนดูก่อนดีกว่าค่ะว่าชอบหรือเปล่า”
พริมมาว่าจบก็พาณจันทร์ออกมาจากห้องลองชุด
“ชุดนี้เป็นไงคะคุณนนคุณโอเคหรือเปล่า”
นนทวัตรมองไปยังคนที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งตัวเขารู้สึกว่าชุดที่หญิงสาวใส่เข้ากับเธอมากกว่าชุดแหวกหน้าแหวกหลังที่เธอเลือกครั้งแรกเสียอีก
“อืม..”
“เอาชุดนี้เลยค่ะไม่ต้องแก้ด้วย”
ณจันทร์หันมาบอกกับพริมมาด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อเธอชอบนนทวัตรชอบเรื่องชุดหมั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเธอจะได้กลับเสียที
“ผมนึกว่าคุณจะโวยวายซะอีกที่ไม่ได้ชุดที่ตัวเองชอบทำไมจู่ๆอยากเปลี่ยนแนวซะล่ะชุดก่อนหน้าที่คุณเลือกทั้งแหวกหน้าแหวกหลังตอนนี้กลับอยากได้ชุดเรียบๆ”
นนทวัตรที่กำลังขับรถกลับไปส่งปานตะวันที่บ้านเขาก็อดที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวยอมเปลี่ยนชุดหมั้นอย่างง่ายดาย
“แล้วมันเข้ากับฉันไหมล่ะคะ”
“ก็..ดูดีกว่าชุดที่เลือกครั้งก่อนเยอะ”
“ใช่ค่ะที่เลือกเพราะคิดว่ามันดูดีที่สุดแค่นั้นค่ะไม่มีอะไรมาก”
ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบปนรอยยิ้มอ่อนจะตอบเขาไปตามตรงว่าเธอชอบชุดใหม่มากกว่าชุดเดิมก็คงจะไม่ใช่คำพูดที่จะออกมาจากปากปานตะวันแน่
“ชุดที่เช่ามาค่ะ”
ณจันทร์เอาชุดที่พึ่งไปรับมาจากร้านออกมาให้โสภิตาได้ดู
“นี่ไม่ใช่ชุดที่ตะวันเลือกนี่นา”
โสภิตามองชุดที่ณจันทร์กำลังเอาไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าของปานตะวันเธอก็พอจะรู้ว่าชุดนี้ไม่เหมือนในรูปที่ปานตะวันเคยให้เธอได้ดูตอนไปลองเพราะชุดนั้นมันดูเปิดเนื้อหนังกว่านี้มาก
“ค่ะ..ชุดที่คุณปานตะวันเลือกช่างแก้ให้ไม่ทันจันทร์เลยเลือกมาใหม่ค่ะ”
“อ๋อ..ก็ดีเหมือนกันชุดที่ตะวันเลือกดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร”
“เสร็จธุระแล้วจันทร์ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวฉันให้คนรอขับรถไปส่งหนูข้างล่างแล้วนะมันเย็นมากแล้วกลับแท็กซี่เองฉันกลัวว่าหนูจะเป็นอันตราย”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
ณจันทร์เก็บชุดเรียบร้อยแล้วเธอก็เตรียมตัวกลับทันทีเพราะไม่อยากกลับในตอนฟ้ามืด
“จันทร์”
“คะคุณแม่”
อ่อเปล่าจ่ะ”
โสภิตามองตามหลังณจันทร์ตาละห้อยรู้สึกอยากจะคุยต่อกับหญิงสาวอีกสักพักแต่ก็เกรงใจ
สองวันต่อมา
วันนี้ณจันทร์รู้สึกประหม่าไม่น้อยเพราะเป็นวันงานหมั้นของนนทวัตรและปานตะวันคนที่เธอจะต้องสวมรอยสาวเจ้าแต่งหน้าทำผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินสูดหายใจเข้าออกพักใหญ่จนรู้สึกดีขึ้น
“หนูจันทร์โอเคหรือเปล่า”
“ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะคุณแม่”
ณจันทร์พอจะยิ้มได้หน่อยเมื่อเห็นโสภิตาเดินเข้ามาหาที่ห้องแต่งตัว
“ฉันจะคอยอยู่ข้างๆหนูไม่ต้องกลัวนะ”
“ค่ะ..”
คำพูดแสนอบอุ่นเช่นนี้เสมือนยาชั้นดีที่ทำให้ใจของณจันทร์เริ่มกลับมาเป็นปกติและควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง
“แล้วคุณสาไม่มาด้วยเหรอคะ”
ณจันทร์กวาดสายตามองไปที่ประตูห้องแต่งตัว
“เห็นบอกว่าปวดหัวตั้งแต่เมื่อคืนน่ะจ่ะวันนี้เลยไม่ได้มา..เราไปข้างนอกกันเถอะตอนนี้คุณนนกับแขกผู้ใหญ่อยู่ข้างนอกกันแล้ว”
“ค่ะ”
“นั่นหนูวาวากับหนูลูกหยีจำได้ใช่ไหมหนูจันทร์”
โสภิตาพาณจันทร์ออกมาจากห้องแต่งตัวเข้างานมาได้ก็บังเอิญเห็นพิมพ์อักษรและวนิดาเพื่อนสนิทของปานตะวันจึงต้องสะกิดให้ณจันทร์รู้ตัวก่อนเพราะรู้ว่าสองคนนั้นต้องเดินเข้ามาหาณจันทร์แน่นอน
“ค่ะคุณแม่”
“สวัสดีค่ะคุณแม่/สวัสดีค่ะคุณแม่”
ณจันทร์ยิ้มอ่อนให้กับสองสาวเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เข้ามาสวัสดีโสภิตาเธอจำข้อมูลได้ว่าเธอทั้งสองคือวนิดาลูกสาวผู้จัดละครชื่อดังและพิมพ์อักษรทายาทร้านทองที่มีหลายสาขา
“สวัสดีจ่ะ..ขอบใจที่มางานตะวันนะลูก”
“งานหมั้นของเพื่อนรักทั้งทีต้องมาอยู่แล้วล่ะค่ะ..ยินดีด้วยนะตะวัน”
วนิดายื่นมือเรียวจับแขนของณจันทร์แสดงความยินดีหน้าระรื่นเพราะเพื่อนเธอจะพ้นจากผู้ชายเจ้าชู้อย่างธนกรมาเจอผู้ชายโปรไฟล์ดีอย่างนนทวัตร
“ยินดีด้วยนะ..พอดีวันนี้เกวไม่สบายเลยไม่ได้มาด้วย”
“ขอบคุณนะ..มากันแค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะเชิญนั่งด้านในกันก่อนนะ”
ณจันทร์หันไปพยักหน้ารับพิมพ์อักษรด้วยรอยยิ้มอ่อน
“วาวาแกว่าตะวันแปลกๆเปล่าอะ”
วนิดาเข้ามานั่งในงานได้เธอก็ต้องหันมากระซิบกับพิมษ์อักษรถึงพฤติกรรมของปานตะวัน
“นั่นสิ..ดูสุภาพกว่าเดิมเยอะเลย”
“คงเป็นเพราะอยู่ในงานที่มีผู้ใหญ่เยอะล่ะมั้ง”
“คงงั้น”
พิมพ์อักษรคิดว่าเธอคิดไปเองคนเดียวเสียอีกทั้งการแต่งตัวและน้ำเสียงการพูดการจากับเพื่อน
“เดี๋ยวฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับเลยนะคะ”
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีหมั้นณจันทร์ก็อยากจะรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเพราะเหนื่อยที่จะต้องรับหน้ากับผู้ใหญ่หลายคนนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะต้องปั้นหน้าโกหกคนหลายๆคนในวันเดียวทำให้รู้สึกแย่พอสมควร
“อืม”
“ยินดีด้วยนน..ยินดีด้วยนะครับคุณตะวัน..”
ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้เดินห่างออกจากนนทวัตรจู่ๆก็มีเสียงคนทักจนเธอต้องหันหลังกลับมา คนที่กำลังทักทายอยู่ตรงหน้าณจันทร์ทำเธอตกอกตกใจกับการได้เจอเขาที่นี่พอสมควรเพราะชายหนุ่มคือคนที่พราวมุกได้เดินชนและเสียมารยาทกับเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ไม่ยักรู้ว่าเขาจะรู้จักปานตะวันและนนทวัตรด้วย
“ช่วงนี้ผมไม่เห็นคุณไปที่ผับเลยไม่ชอบเที่ยวกลางคืนแล้วเหรอครับ”
“อ๋อ..ค่ะ..คือฉันกลับมารักษาสุขภาพน่ะค่ะคงไม่ได้เที่ยวอย่างเมื่อก่อนสักพัก”
ณจันทร์ตอบกลับชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ครับ..ยังไงผับของผมยังต้อนรับเสมอนะครับ”
“ค่ะ..เดี๋ยวฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ”
“ครับ”
ณจันทร์รีบสาวเท้าสับด้วยกลัวว่าจะมีคนมาเอ่ยทักอีก
“วันนี้พอคุณตะวันอยู่ในชุดเรียบร้อยๆเธอดูสวยมากเลยแกว่าหรือเปล่า”
กวินมองตามหลังปานตะวันด้วยสายตาที่ชื่นชมรู้สึกว่าการแต่งตัวรียบร้อยเช่นนี้เหมาะกับเธอมากกว่า
“ก็..ดูปกติไม่ได้มากมาย”
นนทวัตรเริ่มอึกอักตอบโดยที่ไม่ได้มองตากวินเพราะเขาก็คิดเช่นเดียวกับเพื่อนไม่ผิดเพี้ยนแต่ไม่ได้ยอมรับความจริงเป็นคำพูดออกมาเท่านั้น
“เค้าไม่ยอมเลิกกับตะวันง่ายๆหรอกนะ”ณจันทร์ตัวแทบลอยเมื่อถูกผู้ชายคนที่จะลวนลามเธอวันนั้นกระชากตัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“ปล่อยฉันค่ะ..คุณมาที่นี่ได้ยังไง”สาวเจ้ารีบสะบัดมือออกจากมือหนาที่เหนียวเป็นปลาหมึกด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่“เพราะคู่หมั้นตะวันหล่อกว่ารวยกว่าเค้าใช่หรือเปล่าถึงไม่ยอมคืนดีกับเค้าง่ายๆ”ธนกรกระชากตัวหญิงสาวมากอดเอาไว้แน่น ณจันทร์ชะงักฉุกคิดก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างเพ่งพิจารณาและคิดว่าเขาคงเป็นแฟนเก่าปานตะวันแน่นอนด้วยพอจะจับใจความจากคำที่ชายหนุ่มพูดได้“ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกคนมาลากคุณออกไป”ยิ่งรู้ว่าเขาคือแฟนเก่าของปานตะวันเธอก็ต้องยิ่งอยู่ให้ห่างเพราะวันนี้เป็นวันหมั้นของปานตะวันและนนทวัตรเธอจะทำอะไรให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายไม่ได้“ทำอะไรกัน”ณจันทร์ผงะและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนคนที่โอบเธอเอาไว้และรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะมีเรื่องผิดใจกับนนทวัตรแน่นอน“แล้ววันหลังผมจะมาหาคุณใหม่”ธนกรมองค้อนไปยังนนทวัตรและหันมากระซิบกับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินหนีออกไป ทิ้งระเบิดให้ณจันทร์เป็นฝ่ายรับหน้าอยู่ตรงนี้เพีย
อาทิตย์ต่อมา“จะทำยังไงดีคะพี่สาตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตะวันเลย”โสภิตาเริ่มมีอาการเครียดทานอะไรไม่ค่อยลงแม้นจะได้เงินจากสินสอดหมั้นมาพยุงบริษัทแต่ทุกข์ใจที่ผ่านจากงานหมั้นของปานตะวันมาเป็นอาทิตย์แล้วนักสืบยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวลูกสาวของเธอเจอเลย“เอาน่า..ตอนนี้ก็ใจเย็นไปก่อนถ้าทางบ้านนั้นถามก็บอกว่าตะวันไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้..ไม่แน่ตะวันอาจจะอยากกลับมาบ้านเองก็ได้นะโสอย่าเครียดไปก่อนเลย”เป็นสารภีที่เข้ามากอดปลอบโสภิตาด้วยเห็นว่าน้องเธอเครียดไปก็ไม่ได้อะไรวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“คุณยายคะ”พราวมุกรีบรับร่างของหญิงชราที่กำลังจะเป็นลมขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลเพื่อที่จะจัดระเบียบชุดก่อนจะขึ้นไปสัมภาษณ์งาน“คุณพยาบาลคะช่วยด้วยค่ะ”เมื่อเห็นว่ามีพยาบาลเดินเข้ามาพราวมุกจึงรีบเรียกให้เขามาช่วยพยุงหญิงชราทันทีครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณท่านความดันสูงมากเลยนะคะช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ทานอาหารที่มีไขมันต่ำไม่มีรสจัดนะคะ”หมอสาวไม่ลืมกำชับกับแก้วเกตหญิงวัยเกือบ80ที่เป็นผู้บริหารเก่าของโรงพยาบาลนี้“ฟังด้วยนะครับคุณยายไม่อย่างนั้นผมจะให้คนทำอาหารคลีนให้ทานทุกวันแล้วก็ห
ห้างสรรพสินค้าณจันทร์กลับจากสัมภาษณ์งานเธอก็เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเข้ามาในโซนเครื่องเขียนเธอต้องหาสมุดปากกาเตรียมเอาไว้สำหรับการทำงาน“ตะวัน”“อ้าว..เกว”ณจันทร์หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงสาวสวยที่เรียกชื่อปานตะวันณจันทร์ก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวคือกมลเนตรหรือเกวนางแบบสาวและเป็นลูกสาวเจ้าของคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง“ไม่นึกว่าจะเจอแกในร้านแบบนี้นะ”กมลเนตรมองเพื่อนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าด้วยสายตาของความสงสัยไม่ยักรู้ว่าคุณหนูไฮโซอย่างปานตะวันจะมาแต่งตัวเฉิ่มๆเชยๆไม่มีแบรนด์แต่เธอก็ไม่ได้ทักเรื่องนี้ออกไปเพียงทักทายด้วยความสงสัยว่าปานตะวันมาทำอะไรที่ร้านเครื่องเขียนเพราะปกติแล้วเรื่องการซื้อของยิบย่อยพวกนี้เพื่อนเธอไม่ได้ชอบอยู่แล้ว“อ๋อ..ก็ดูอะไรไปเพลินๆน่ะ”ณจันทร์เริ่มปั้นหน้าไม่ถูกแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“แกหายโกรธฉันแล้วเหรอถึงยอมพูดกับฉัน”“โกรธ..”ณจันทร์นึกไปถึงเรื่องเมื่องานวันหมั้นเพราะคิดว่ากมลเนตรน่าจะหมายถึงเรื่องที่ไม่สบายและไม่ได้ไปงานวันหมั้นของปานตะวัน“ที่เกวไม่สบายแล้วไม่ได้ไปงานหมั้นน่ะเหรอเรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว
“ของคุณตะวันค่ะ”ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆวันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไป
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูถึงตาครอบครัวผมจะดูซิว่าเค้ายังอยากได้สะใภ้แบบคุณอยู่หรือเปล่าไปบอกยกเลิกการหมั้นกับครอบครัวผมซะแล้วเรื่องหมกเม็ดเน่าเฟะของคุณผมจะปล่อยผ่าน”“ไม่..ถ้าคุณอยากจะบอกอะไรครอบครัวคุณ..คุณก็บอกไปเลยฉันก็มีคำอธิบายของฉันเหมือนกัน”หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เธออธิบายอะไรชายหนุ่มไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเชื่อไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงมั่วไม่เลือกที่ทำได้ตอนนี้ก็คือปลดล็อคประตูรถและเดินออกไปจากนนทวัตรให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชายหนุ่มให้เสียสุขภาพจิตอีก“จะไปไหน.. ตะวัน.. ตะวัน”นนทวัตรลงรถตามหญิงสาวมาติดๆทำให้เธอต้องเร่งสปีดสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตแต่ขาสั้นๆของเธอก็ไม่ทันคนขายาวอย่างชายหนุ่มอยู่ดีตอนนี้ร่างของเธอจึงถูกเขารวบอุ้มกลับไปที่รถดังเดิมท่ามกลางสายตาของคนที่เดินไปมาข้างถนนแต่ทุกคนทำได้แค่มองเท่านั้นด้วยคงคิดว่าเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง“ปล่อยฉันนะ..”นนทวัตรอุ้มคนที่กำลังดีดดิ้นนั่งตักอยู่ที่ฝั่งคนขับด้วยกันและรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที“ปล่อย..”“อยากดิ้นก็ดิ้นไปผมจะขับรถถ้าอยากให้ตายกันทั้งคู่ก็ดิ้นต่อ”สิ้นเสียง
ตอนนี้ณจันทร์อยู่บนเรือยอร์ชลำหรูที่มีเพียงแค่เธอและนนทวัตรเป็นคนขับ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ที่ห้องใต้ท้องเรืออยู่หลายรอบครุ่นคิดว่าหากเธอบอกกับนนทวัตรว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันเรื่องทุกอย่างที่วุ่นวายในชีวิตของเธอตอนนี้ก็น่าจะจบ“คุณนน”หญิงสาวเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังขับเรือท่ามกลางทะเลที่รายล้อมไปด้วยความมืด“มีอะไร...ถ้าอยากจะกลับก็กระโดดลงทะเลว่ายน้ำไปเอง”นนทวัตรไม่ได้หันมามองหญิงสาวแม้แต่เพียงหางตามีเพียงคำพูดเหน็บแนมเธอเท่านั้นที่เขาส่งกลับไป“กรุณาพูดกับฉันดีๆเป็นหรือเปล่าคะ”ณจันทณ์เริ่มขมวดคิ้วอีกรอบรู้ว่าเขายังคงอคติกับเธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ชอบจิกกัดเธอตลอดทุกคำที่พูดด้วยทั้งที่เธอก็พูดด้วยดีๆ“ก็พอใจจะพูดแบบนี้...คุณมาทักผมก่อนเองมีอะไรจะพูดก็พูดมา”“คือ..ฉัน”เมื่อถูกถามกลับเข้าคนที่เตรียมคำพูดมาก็เริ่มไปไม่เป็นเพราะหน้าของโสภิตาลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเห็นใจโสภิตาถ้าหากเธอพูดความจริงออกไปมันก็จะดีต่อตัวเธอที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับวงเวียนชีวิตของเหล่าไฮโซแต่ผลร้ายก็จะไปตกอยู่กับโสภิตาซึ่งคิดไปคิดมาเธอก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่เข้
ปังง..คนตัวโตที่พึ่งเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดังจนคนที่นั่งด้านนอกสะดุ้งเล็กน้อยแต่หลังจากหายตกใจเธอก็สบถขำออกมาณจันทร์เชื่อแล้วว่ายังไงที่นี่ก็มีคนเพราะเมื่อครู่ชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอเองว่าจะมีคนเอาของมาให้และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“เก่งให้ตลอดก็แล้วกัน”นนทวัตรเห็นทีสิ่งที่คิดว่าแกล้งหญิงสาวได้จะไม่ได้ผลและคงจะต้องเล่นแรงขึ้นเพราะไม่ชอบที่สาวเจ้าทำอวดเก่งใส่ตัวเองเท่าไรนักวันต่อมาโรงพยาบาล XXX“คุณพราวมุกคะท่านผอ.เรียนเชิญให้ไปพบตอนบ่ายสองค่ะ”“ร.. เรียกพบฉันมีอะไรเหรอคะ”พราวมุกนั่งมองหน้ากับกนกวรรณหัวหน้าบัญชีด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมาถามชุติมาเลขาของผอ.ที่มาแจ้งข่าวด้วยตัวเองด้วยท่าทีประหม่า“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”ชุติมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแค่นี้และย้ำให้เธอมาบอกด้วยตัวเองว่าจบเธอก็เดินกลับไป“ค่ะ”พราวมุกเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่เข้าตาใครทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันที่สอง“เค้าเรียกพราวไปทำอะไรเหรอคะหัวหน้า”พราวมุกหันมาถามกนกวรรณอีกรอบ“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติท่านผอ.ไม่เคยเรียกพบใครด้วย”กนกวรรณสาวใหญ่ที่ทำงา