“เค้าไม่ยอมเลิกกับตะวันง่ายๆหรอกนะ”
ณจันทร์ตัวแทบลอยเมื่อถูกผู้ชายคนที่จะลวนลามเธอวันนั้นกระชากตัวก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ปล่อยฉันค่ะ..คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
สาวเจ้ารีบสะบัดมือออกจากมือหนาที่เหนียวเป็นปลาหมึกด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
“เพราะคู่หมั้นตะวันหล่อกว่ารวยกว่าเค้าใช่หรือเปล่าถึงไม่ยอมคืนดีกับเค้าง่ายๆ”
ธนกรกระชากตัวหญิงสาวมากอดเอาไว้แน่น ณจันทร์ชะงักฉุกคิดก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างเพ่งพิจารณาและคิดว่าเขาคงเป็นแฟนเก่าปานตะวันแน่นอนด้วยพอจะจับใจความจากคำที่ชายหนุ่มพูดได้
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเรียกคนมาลากคุณออกไป”
ยิ่งรู้ว่าเขาคือแฟนเก่าของปานตะวันเธอก็ต้องยิ่งอยู่ให้ห่างเพราะวันนี้เป็นวันหมั้นของปานตะวันและนนทวัตรเธอจะทำอะไรให้ชื่อเสียงของปานตะวันเสียหายไม่ได้
“ทำอะไรกัน”
ณจันทร์ผงะและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนคนที่โอบเธอเอาไว้และรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะมีเรื่องผิดใจกับนนทวัตรแน่นอน
“แล้ววันหลังผมจะมาหาคุณใหม่”
ธนกรมองค้อนไปยังนนทวัตรและหันมากระซิบกับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินหนีออกไป ทิ้งระเบิดให้ณจันทร์เป็นฝ่ายรับหน้าอยู่ตรงนี้เพียงคนเดียว
“มานี่เลย”
นนทวัตรลากณจันทร์เข้าห้องแต่งตัวไปด้วยกันเขาดูอารมณ์คุกรุ่นอยู่พอสมควรแม้นจะไม่ได้รักกันกับคู่หมั้นตัวเองจริงๆแต่เมื่อมาเห็นหญิงสาวและชายคนอื่นมากอดกันในงานวันหมั้นของตัวเองมันเหมือนเป็นการถูกหยามหน้าอยู่พอสมควร
“ผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่คุนวิ่งหนีที่ห้าง..ตกลงคุณเป็นอะไรกับเค้ากันแน่”
นนทวัตรวาดมือจับหัวไหล่มนทั้งสองของณจันทร์เอาไว้แน่นเขาจ้องเธอเขม็งไม่วางสายตารังสีความโกรธของเขาทำณจันทร์เริ่มรู้สึกประหม่ากลัวอารมณ์ของนนทวัตรพอสมควรหญิงสาวก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะพูดออกไป
“แฟนเก่าค่ะ”
“หึ่..”
นนทวัตรสบัดมือผละตัวออกจากหญิงสาวสองก้าวมือหนาทั้งสองตอนนี้กำแน่น
“ถ้าเป็นแฟนเก่า..ดูท่าเค้าจะไม่อยากเลิกกับคุณนะ”
“แต่ฉันเลิกกับเค้าแล้วนะคะ”
ณจันทร์รีบเงยหน้าอธิบายถึงความจริงที่นนทวัตรต้องเข้าใจให้ได้
“ผมว่าถ้าคุณยังเคลียกับเค้าไม่ได้..ไม่ควรจะมารื้อสัญญาการหมั้นตั้งแต่แรก”
นนวัตรกรอกตาถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ดีที่เหตุกาณ์เมื่อครู่เกิดที่หน้าห้องแต่งตัวเลยไม่มีผู้ใหญ่หรือใครมาเห็นหากผู้ชายคนนั้นมายุ่มย่ามกับหญิงสาวกลางงานเขาได้อับอายไปทั้งตระกูลแน่
“ขอโทษที่ทำให้คุณนนรู้สึกไม่ดีนะคะ..แต่ฉันจบกับเค้าแล้วจริงๆ”
ณจันทร์รู้ว่าตอนนี้นนทวัตรไม่พอใจมากแต่สิ่งที่เธอจะยืนยันเพื่อรักษาชื่อเสียงของปานตะวันได้ก็คือคำว่าเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วจริงๆ
นนทวัตรเดินส่ายหัวไม่สบอารมณ์ออกไปจากห้อง “ปั้ง” เสียงปิดประตูที่ดังก้องเกิดจากแรงเหวี่ยงของความโมโหทำเอาณจันทร์สะดุ้งเฮือกก่อนจะนั่งฟุบด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวที่เก้าอี้หน้ากระจก
“อะไรนักหนาเนี่ย..เฮ้อ..”
ณจันทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่วันนี้ดูเหมือนเธอจะต้องเจออะไรตื่นเต้นตั้งแต่เช้าจนมาถึงตอนนี้หวังว่าผ่านพรุ่งนี้ไปชีวิตของเธอจะเข้าสู่โหมดของความสงบสุขเช่นเดีมเสียที
แกร๊ก
“คุณแม่”
ณจันทร์ที่พึ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแอบตกใจกับเสียงประตูที่เปิดแต่ก็หายตกใจเมื่อคนที่เข้ามาคือโสภิตา
“ฉันโอนเงินเข้าบัญชีให้หนูแล้วนะ..ขอบใจมากที่ทำหน้าที่แทนตะวันได้อย่างดีไม่รู้ว่าต่อจากนี้เราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่ายังไงก็ขอให้หนูมีแต่ความโชคดีนะ”
“ขอบคุณค่ะ..ปัญหาทุกอย่างของคุณแม่ขอให้มันผ่านไปเร็วๆนะคะ”
ณจันทร์ไม่อยากจะพูดย้ำเรื่องของปานตะวันแต่ก็อยากจะให้กำลังใจโสภิตาในฐานะคนที่เคยเป็นลูกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
“ขอบใจจะ..ฉันกลับก่อนนะ”
“ค่ะ”
โสภิตาไม่อยากพูดคุยอะไรกับณจันทร์ให้นานกว่านี้เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เพราะรู้สึกว่าเธอกำลังเสียลูกสาวไปเป็นครั้งที่สอง
“คุณไปหาตะวันไหนบอกไม่ได้รักตะวันแล้วไง”
กมลเนตรนางแบบสาวสวยเธอเข้ามาต่อว่าธนกรที่คอนโดอย่างเจ็บใจเพราะไม่พอใจที่ธนกรไปขอปานตะวันคืนดีทั้งที่บอกกับเธอว่าไม่ได้รักปานตะวันและรักเธอมานานจนเธอยอมนอนด้วยและยอมเสียเพื่อนอย่างปานตะวัน ดีที่เพื่อนอีกสองคนยังไม่รู้เรื่องนี้ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะถูกเลิกคบไปด้วย วันนี้ที่เธอต้องบอกวนิดาและพิมพ์อักษรว่าไม่สบายก็เพราะไม่อยากไปสู้หน้าปานตะวันเท่านั้น
“พูดแบบนั้นไปก็เพราะอยากได้เธอเท่านั้นแหละ”
ธนกรตวาดกลับกมลเนตรด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เพราะเขาก็ไม่ได้แคร์เธอเท่าไรคนที่เขาสนใจและยกให้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่คบกันอย่างเปิดเผยคือปานตะวันเท่านั้น
“เลว”
กมลเนตรกำมือแน่นกัดฟันกรอดก่อนจะวาดฝ่ามือเรียวลงไปที่แก้มสากของธนกร
ปึก.. “โอ้ย..”
ตัวของกมลเนตรเซถลาลงไปจมกับโซฟาด้วยแรงผลักของชายหนุ่ม
“ก็เธอมันง่ายเองจะมาเรียกร้องอะไร..ว่าฉันเลวเธอก็เลวเหมือนกันที่กล้านอนกับผัวเพื่อนได้”
ธนกรชี้หน้ากมลเนตรสบถใส่เธอเสียงฝาดเขายอมรับว่าตัวเองเลวแต่คนที่เลวไม่แพ้เขาก็คือหญิงสาวที่กล้าทรยศเพื่อนตัวเองเหมือนกัน
ณจันทร์และณิชามองพราวมุกที่กำลังวางสายจากโรงพยาบาลเป็นตาเดียวเพราะอยากรู้ว่าทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งเรื่องการผ่าตัดของแม่ครูว่าอะไร
“เค้าโทรมาว่าไงพราว”
เป็นณิชาที่เริ่มเอ่ยปากถามด้วยเห็นว่าพราวมุกเอาแต่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรเสียที
“พยาบาลบอกว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดีตอนนี้เหลือแค่รอให้แม่ครูฟื้นเท่านั้น”
“รู้แบบนี้ก็โล่งใจพยาบาลบอกหรือเปล่าว่าให้เยี่ยมได้เมื่อไร”
ณจันทร์บีบมือณิชาแน่นดีใจที่ได้ฟังข่าวดีที่อยากได้ยิน
“ยังไม่ได้บอกเดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าโทรถามอีกทีก็ได้”
“อืม..เออลืมไปเลย..พราวตัวจำผู้ชายคนนั้นที่พราวไปชนได้หรือเปล่า”
“ทำไมเหรอ”
“วันนี้เค้าเจอที่งานเค้าชื่อคุณกวินเป็นเพื่อนกับคุณนน”
“แสดงว่าเค้าก็ต้องเห็นตัวในสภาพที่ไม่ใช่คุณหนูน่ะสิ..เค้าไม่สงสัยอะไรใช่ไหม”
พราวมุกเบิกตาตกใจกับเรื่องบังเอิญ
“นั่นสิ”
ณิชาเองก็ตกใจกับเรื่องที่ได้ฟังไม่ต่างจากพราวมุก
“ดูแล้ว..ก็น่าจะไม่นะ”
“เฮ้อ..ค่อยโล่งอก”
ณจันทร์เข้าใจว่ากวินน่าจะไม่ได้สงสัยอะไรเพราะยังพูดคุยกับเสมือนว่าเธอคือปานตะวันปกติไม่ได้ถามเรื่องราววันนั้น
อาทิตย์ต่อมา“จะทำยังไงดีคะพี่สาตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตะวันเลย”โสภิตาเริ่มมีอาการเครียดทานอะไรไม่ค่อยลงแม้นจะได้เงินจากสินสอดหมั้นมาพยุงบริษัทแต่ทุกข์ใจที่ผ่านจากงานหมั้นของปานตะวันมาเป็นอาทิตย์แล้วนักสืบยังไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวลูกสาวของเธอเจอเลย“เอาน่า..ตอนนี้ก็ใจเย็นไปก่อนถ้าทางบ้านนั้นถามก็บอกว่าตะวันไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้..ไม่แน่ตะวันอาจจะอยากกลับมาบ้านเองก็ได้นะโสอย่าเครียดไปก่อนเลย”เป็นสารภีที่เข้ามากอดปลอบโสภิตาด้วยเห็นว่าน้องเธอเครียดไปก็ไม่ได้อะไรวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“คุณยายคะ”พราวมุกรีบรับร่างของหญิงชราที่กำลังจะเป็นลมขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลเพื่อที่จะจัดระเบียบชุดก่อนจะขึ้นไปสัมภาษณ์งาน“คุณพยาบาลคะช่วยด้วยค่ะ”เมื่อเห็นว่ามีพยาบาลเดินเข้ามาพราวมุกจึงรีบเรียกให้เขามาช่วยพยุงหญิงชราทันทีครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณท่านความดันสูงมากเลยนะคะช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ทานอาหารที่มีไขมันต่ำไม่มีรสจัดนะคะ”หมอสาวไม่ลืมกำชับกับแก้วเกตหญิงวัยเกือบ80ที่เป็นผู้บริหารเก่าของโรงพยาบาลนี้“ฟังด้วยนะครับคุณยายไม่อย่างนั้นผมจะให้คนทำอาหารคลีนให้ทานทุกวันแล้วก็ห
ห้างสรรพสินค้าณจันทร์กลับจากสัมภาษณ์งานเธอก็เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเข้ามาในโซนเครื่องเขียนเธอต้องหาสมุดปากกาเตรียมเอาไว้สำหรับการทำงาน“ตะวัน”“อ้าว..เกว”ณจันทร์หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงสาวสวยที่เรียกชื่อปานตะวันณจันทร์ก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวคือกมลเนตรหรือเกวนางแบบสาวและเป็นลูกสาวเจ้าของคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง“ไม่นึกว่าจะเจอแกในร้านแบบนี้นะ”กมลเนตรมองเพื่อนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าด้วยสายตาของความสงสัยไม่ยักรู้ว่าคุณหนูไฮโซอย่างปานตะวันจะมาแต่งตัวเฉิ่มๆเชยๆไม่มีแบรนด์แต่เธอก็ไม่ได้ทักเรื่องนี้ออกไปเพียงทักทายด้วยความสงสัยว่าปานตะวันมาทำอะไรที่ร้านเครื่องเขียนเพราะปกติแล้วเรื่องการซื้อของยิบย่อยพวกนี้เพื่อนเธอไม่ได้ชอบอยู่แล้ว“อ๋อ..ก็ดูอะไรไปเพลินๆน่ะ”ณจันทร์เริ่มปั้นหน้าไม่ถูกแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“แกหายโกรธฉันแล้วเหรอถึงยอมพูดกับฉัน”“โกรธ..”ณจันทร์นึกไปถึงเรื่องเมื่องานวันหมั้นเพราะคิดว่ากมลเนตรน่าจะหมายถึงเรื่องที่ไม่สบายและไม่ได้ไปงานวันหมั้นของปานตะวัน“ที่เกวไม่สบายแล้วไม่ได้ไปงานหมั้นน่ะเหรอเรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว
“ของคุณตะวันค่ะ”ณจันทร์เอาของปานตะวันที่มีไม่กี่ชิ้นมาให้กับโสภิตาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธนกรทำไมจะต้องให้เธอไปเอาของแค่นี้กลับด้วย“แล้วหนูจันทร์ไปเจอกับแฟนเก่าตะวันที่ไหน”“บังเอิญเจอครั้งสองครั้งค่ะตานี่ตามตื๊อจะขอคืนดีกับคุณตะวันท่าเดียวต้องไปเอาของออกจากคอนโดถึงจะยอมจบ”“แล้วเค้าจะยอมจบจริงๆใช่ไหม”โสภิตารับรู้ว่าลูกสาวของเธอเลิกกับธนกรไปพักใหญ่แล้วไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะยังคงตามตื๊อลูกสาวเธอไม่เลิก“ค่ะเห็นว่าจะไม่มายุ่งอะไรกับคุณตะวันแล้ว”“ขอบใจหนูจันทร์มากนะที่เสียเวลาสวมรอยเป็นตะวันอีก”โสภิตายื่นมือลูบหัวของณจันทร์เบาๆด้วยสายตาเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่จันทร์ช่วยได้ก็ช่วยค่ะ”ณจันทร์ยิ้มกว้างมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับโสภิตาเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนที่เธอเต็มใจเป็นปานตะวันในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่โสภิตาล้วนๆวันต่อมาวันนี้สามสาวมาทำบุญกันตั้งแต่เช้าที่วัดใกล้กับโรงพยาบาลของแม่ครูดวงเดือน“ขอให้ต่อไปนี้มีแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด”พราวมุกยกมือท่วมหัวขณะที่กำลังกรวดน้ำพร้อมกับเพื่อนทั้งสองที่ใต้ต้นไม่ใหญ่“ทำสังฆทานแล้วไปปล่อยปลากันเถอะจะได้ไป
“พี่ลิตาเห็น”“ใช่”“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่าครับ”ธนกรเห็นทีเรื่องนี้จะต้องคุยกับลลิตายาวจึงต้องหาที่สะดวกๆในการคุยร้านกาแฟXXX“แบบนี้นี่เอง...เชื่อจริงๆใช่ไหมว่าปานตะวันรับหมั้นคุณนนเพราะประชดเราน่ะ”“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ..แต่ปกติผมทำผิดกี่ครั้งปานตะวันก็ให้อภัยผมตลอดแล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดปานตะวันขอเลิกกับผมไม่กี่อาทิตย์ก็มีข่าวว่าเธอจะหมั้นกับนนทวัตรมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอประชดผมตอนนี้ผมอยากได้เธอคืนมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผมก็ยอม”“ถ้าพี่จะขอยื่นมือช่วย..ไทม์จะโอเคหรือเปล่า”“พี่ลิตา”ธนกรเงยหน้ามองจ้องลลิตาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าลลิตาจะเอ่ยคำเมื่อครู่ออกมา“พี่ก็เป็นคนชอบพูดตรงๆ..พี่สนใจคุณนน”ลลิตาไม่ได้พูดอะไรมากและพอจะรู้ว่าธนกรน่จะเข้าใจว่าที่เธอขอยื่นมือเข้าช่วยให้ธนกรคืนดีกับปานตะวันเพราะต้องการอะไร“แล้วคุณจะได้รู้กันว่าไม่ควรมาโกหกคนอย่างผม”นนทวัตรนั่งกำมือแน่นมองจ้องเขม็งไปยังรูปจากกล้องวงจรปิดเขาเหมือนถูกหักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่ชอบโกหกตาใสแต่คิดไปคิดมามีรูปพวกนี้ก็ดีเขาจะได้เจรจาให้หญิงสาวเอ่ยขอถอนหมั้นได้ง่ายขึ้นร้านอาหาร“เหนื่อยหรือเปล่ามาทำงานวันแรกพี่ก็พาออ
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูถึงตาครอบครัวผมจะดูซิว่าเค้ายังอยากได้สะใภ้แบบคุณอยู่หรือเปล่าไปบอกยกเลิกการหมั้นกับครอบครัวผมซะแล้วเรื่องหมกเม็ดเน่าเฟะของคุณผมจะปล่อยผ่าน”“ไม่..ถ้าคุณอยากจะบอกอะไรครอบครัวคุณ..คุณก็บอกไปเลยฉันก็มีคำอธิบายของฉันเหมือนกัน”หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เธออธิบายอะไรชายหนุ่มไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเชื่อไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงมั่วไม่เลือกที่ทำได้ตอนนี้ก็คือปลดล็อคประตูรถและเดินออกไปจากนนทวัตรให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชายหนุ่มให้เสียสุขภาพจิตอีก“จะไปไหน.. ตะวัน.. ตะวัน”นนทวัตรลงรถตามหญิงสาวมาติดๆทำให้เธอต้องเร่งสปีดสับขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตแต่ขาสั้นๆของเธอก็ไม่ทันคนขายาวอย่างชายหนุ่มอยู่ดีตอนนี้ร่างของเธอจึงถูกเขารวบอุ้มกลับไปที่รถดังเดิมท่ามกลางสายตาของคนที่เดินไปมาข้างถนนแต่ทุกคนทำได้แค่มองเท่านั้นด้วยคงคิดว่าเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง“ปล่อยฉันนะ..”นนทวัตรอุ้มคนที่กำลังดีดดิ้นนั่งตักอยู่ที่ฝั่งคนขับด้วยกันและรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที“ปล่อย..”“อยากดิ้นก็ดิ้นไปผมจะขับรถถ้าอยากให้ตายกันทั้งคู่ก็ดิ้นต่อ”สิ้นเสียง
ตอนนี้ณจันทร์อยู่บนเรือยอร์ชลำหรูที่มีเพียงแค่เธอและนนทวัตรเป็นคนขับ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ที่ห้องใต้ท้องเรืออยู่หลายรอบครุ่นคิดว่าหากเธอบอกกับนนทวัตรว่าเธอไม่ใช่ปานตะวันเรื่องทุกอย่างที่วุ่นวายในชีวิตของเธอตอนนี้ก็น่าจะจบ“คุณนน”หญิงสาวเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังขับเรือท่ามกลางทะเลที่รายล้อมไปด้วยความมืด“มีอะไร...ถ้าอยากจะกลับก็กระโดดลงทะเลว่ายน้ำไปเอง”นนทวัตรไม่ได้หันมามองหญิงสาวแม้แต่เพียงหางตามีเพียงคำพูดเหน็บแนมเธอเท่านั้นที่เขาส่งกลับไป“กรุณาพูดกับฉันดีๆเป็นหรือเปล่าคะ”ณจันทณ์เริ่มขมวดคิ้วอีกรอบรู้ว่าเขายังคงอคติกับเธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ชอบจิกกัดเธอตลอดทุกคำที่พูดด้วยทั้งที่เธอก็พูดด้วยดีๆ“ก็พอใจจะพูดแบบนี้...คุณมาทักผมก่อนเองมีอะไรจะพูดก็พูดมา”“คือ..ฉัน”เมื่อถูกถามกลับเข้าคนที่เตรียมคำพูดมาก็เริ่มไปไม่เป็นเพราะหน้าของโสภิตาลอยเข้ามาอยู่ในโสตประสาททำให้เธอรู้สึกเห็นใจโสภิตาถ้าหากเธอพูดความจริงออกไปมันก็จะดีต่อตัวเธอที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับวงเวียนชีวิตของเหล่าไฮโซแต่ผลร้ายก็จะไปตกอยู่กับโสภิตาซึ่งคิดไปคิดมาเธอก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่เข้
ปังง..คนตัวโตที่พึ่งเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดังจนคนที่นั่งด้านนอกสะดุ้งเล็กน้อยแต่หลังจากหายตกใจเธอก็สบถขำออกมาณจันทร์เชื่อแล้วว่ายังไงที่นี่ก็มีคนเพราะเมื่อครู่ชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอเองว่าจะมีคนเอาของมาให้และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“เก่งให้ตลอดก็แล้วกัน”นนทวัตรเห็นทีสิ่งที่คิดว่าแกล้งหญิงสาวได้จะไม่ได้ผลและคงจะต้องเล่นแรงขึ้นเพราะไม่ชอบที่สาวเจ้าทำอวดเก่งใส่ตัวเองเท่าไรนักวันต่อมาโรงพยาบาล XXX“คุณพราวมุกคะท่านผอ.เรียนเชิญให้ไปพบตอนบ่ายสองค่ะ”“ร.. เรียกพบฉันมีอะไรเหรอคะ”พราวมุกนั่งมองหน้ากับกนกวรรณหัวหน้าบัญชีด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันกลับมาถามชุติมาเลขาของผอ.ที่มาแจ้งข่าวด้วยตัวเองด้วยท่าทีประหม่า“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”ชุติมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแค่นี้และย้ำให้เธอมาบอกด้วยตัวเองว่าจบเธอก็เดินกลับไป“ค่ะ”พราวมุกเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่เข้าตาใครทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันที่สอง“เค้าเรียกพราวไปทำอะไรเหรอคะหัวหน้า”พราวมุกหันมาถามกนกวรรณอีกรอบ“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติท่านผอ.ไม่เคยเรียกพบใครด้วย”กนกวรรณสาวใหญ่ที่ทำงา
“เป็นไปได้ยังไงพราว..ตัวเนี่ยนะเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน”เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับณิชามากเมื่อพราวมุกกลับมาเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน“ใช่..แต่ทางทนายจะต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน”หลังจากที่แก้วเกตบอกกับเธอว่าเธอน่าจะเป็นลูกของคนที่ชื่อสรุตาพราวมุกก็ไปโรงพยาบาลหาหมอประจำตระกูลของสรุตาและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอของพ่อกับแม่ที่เก็บตัวอย่างเอาไว้หรือไม่หากตรงก็เท่ากับว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปในทันที“ขอให้เป็นจริงนะพราว”ณิชาดีใจไปกับพราวมุกด้วยและภาวนาว่าขอให้เพื่อนเธอเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ“ถ้าเป็นจริงมันก็มีทั้งเรื่องน่ายินดีแล้วก็น่าเศร้าเพราะเค้าไม่เหลือคนในครอบครัวเลย”“นั่นสินะ...แต่อย่าลืมนะพราวว่าเรามีครอบครัวที่ใหญ่กว่าคนอื่นตั้งเยอะ”“จริงด้วยนะ..อยากให้แม่ครูกับจันทร์อยู่ด้วยตอนนี้จัง”พราวมุกนั่งจับมือกับณิชาแน่นเธอคงจะดีใจที่ได้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆไม่ใช่ว่าจะมีเงินใช้สุขสบายแต่ดีใจที่จะมีเงินมาให้แม่ครูพัฒนาบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่และชีวิตเด็กๆพี่ๆน้องๆร่วมบ้านก็จะได้ดีขึ้นไปด้วยทางด้านณจันทร์ตั้งแต่เช้าจรดเย็