ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ
“นี่”
และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้
“พี่เมฆ”
ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร
“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”
ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่
“เมื่อคืน..เมื่อคืน”
ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที
“จะไปไหนผิง”
เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้นเขาจึงรีบวิ่งตามเธอออกไปทันที
“ผิง.. หนมผิง”
“ว้ายยย...”
คนที่วิ่งอย่างไม่มีสติเกือบจะตกบันไดหลายขั้นแต่โชคยังดีที่เมฆามารวบตัวของเธอเอาไว้ได้ทันภาพที่ทั้งสองกอดกันกลมอยู่ในสายตาของดำรงค์และเอมอรพ่อและแม่ของเมฆาที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ
“อะไรกันตาเมฆ..แล้วนี่พาใครมา”
เอมอรรีบสาวเท้าขึ้นบันไดมาถามหาความจริงกับลูกชายที่จู่ๆเอาผู้หญิงเข้ามาที่บ้านโดยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน
“เห่อะ!”
คนที่ตกใจเห็นจะเป็นเอมอรเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่คนที่หน้าระรื่นคือดำรงค์เขาสบถขำออกมาอย่างมีความสุขที่เห็นว่าลูกชายพาผู้หญิงมาที่นี่ด้วยคราแรกคิดว่าลูกชายตัวเองจะไม่คิดมีแฟนกับคนอื่นเค้าเสียแล้วเพราะไม่เคยพาใครมาแนะนำให้รู้จักเลย
เอมอรตวัดมองสามีด้วยสายตาไม่พอใจที่ดูจะเห็นดีเห็นงามที่ลูกชายพาผู้หญิงมาเธอไม่ได้คิดตั้งแง่กับใครแต่กลัวว่าผู้หญิงจะเสียเกียรติมากกว่าที่มาค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายแบบนี้
“เธอชื่อหนมผิงครับเป็นรุ่นน้องผมเมื่อคืนเธอเมาไม่รู้เรื่องผมเลยพาเธอมานอนพักที่นี่”
“เมา”
“อ.. เอ่อ.. สวัสดีค่ะ”
ณิชารีบยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองคราแรกคิดว่าตัวเองอยู่โรงแรมที่ไหนเสียอีกไม่คิดว่าเมฆาจะพาเธอมาที่บ้านของเขา
“ปกติเธอก็ไม่เคยเมาหรอกครับ...ผมชวนเธอดื่มเอง”
สาวเจ้าเอาแต่ก้มหน้ายังดีที่ถูกแก้ต่างให้ไม่อย่างนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองคงมองเธอไม่ดีแน่ที่รู้ว่าไปดื่มจนเมาจนมาที่นี่ยังไงก็ไม่รู้เรื่อง
“แล้วเมื่อคืนนอนห้องเดียวกันเหรอลูก”
“ครับ”
คำที่เมฆาพยักหน้ารับคนเป็นแม่ไปตามตรงทำเอาณิชาแทบร้องให้เพราะไม่อยากจะนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เธอจำอะไรไม่ได้แล้วตัวของเธอก็ถูกกระทำอะไร้บางก็ไม่รู้
“น..หนูขอตัวนะคะ”
ณิชารีบไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองและหมายจะเดินลงบันไดไปแต่ถูกเมฆารั้งเอาไว้ก่อนเพราะเขาต้องอธิบายกับเธอให้เข้าใจว่าสิ่งที่เธอคิดเป็นเรื่องเข้าใจผิด
“เดี๋ยว..ผิงน่าจะกำลังเข้าใจผิด”
“เมื่อคืนพี่นอนที่โซฟาเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของผิงป้าทิพย์เป็นคนเปลี่ยนให้”
“ง..งั้นเหรอคะ”
สาวเจ้าค่อยหายใจหายคอสะดวกและรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
“ใช่”
“ขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะที่มารบกวน..ขอโทษพี่เมฆด้วยผิงขอตัวกลับก่อนนะคะ”
คนตัวเล็กก้มหัวขอโทษผู้ใหญ่ทั้งสอง
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“หนูลากลับก่อนนะคะ”
“จ่ะ..”
เอมอรและดำรงค์รับไหว้หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มและมองตามหลังทั้งสองที่เดินลงบันไดไปพร้อมกันจนทั้งคู่ออกจากหน้าบ้านไปแล้วเอมอรถึงหันหลับมาถามคนเป็นสามี
“แฟนลูกเหรอคะ”
“จะไปรู้เหรอตาเมฆไม่ได้แนะนำนี่”
ดำรงค์ส่ายหัวปนยิ้มอ่อนเขาไม่แน่ใจเรื่องนั้นแต่เชื่อว่าหากเมฆาพามาที่นี่แถมยังนอนห้องเดียวกันก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่าทั้งสองจะคบกัน
“เมื่อคืนผิงจำได้ว่า..อยู่ที่ร้าน”
ณิชาหันมาคุยกับเมฆาหลังจากนั่งเงียบอยู่บนรถพักใหญ่
“พราวโทรบอกพี่ว่าผิงยังไม่กลับโทรหาก็ไม่รับพี่เลยให้เพื่อนพี่เช็คสัญญาณมือถือผิงแล้วก็ไปเจอที่บาร์ผิงเมามากแล้วก็อาเจียนพี่เลยพากลับไปที่บ้านให้ป้าทิพย์แม่บ้านพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้..โทษทีที่ทำให้ผิงเข้าใจผิด”
“ผิงต้องขอโทษพี่เมฆมากกว่าที่ทำให้พี่เมฆเดือดร้อน”
“บอกพี่ได้หรือเปล่าว่าทำไมถึงไปนั่งดื่มคนเดียวแบบนั้น”
คำถามนี้ของเมฆาเป็นสิ่งที่ณิชาไม่อยากจะตอบเขามากที่สุด
“แค่..อยากลองดื่มเฉยๆค่ะไม่มีอะไร”
“วันหลังให้พี่ไปนั่งเป็นเพื่อนก็ได้”
“ค่ะ”
คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักให้บทสนทนาเรื่องนี้ผ่านไปแต่ครั้งหน้าเธอคงไม่คิดจะเมาอีกแล้ว
สามสี่วันแล้วที่ณจันทร์ต้องอยู่ที่เกาะกับนนทวัตรเขาก็ไม่ได้มาแกล้งอะไรเธอมากและณจันทร์ก็ดูแลนนทวัตรตลอดจนแผลของเขาแห้งสนิทดีจนตัดไหมไปแล้ว แม้นจะเห็นถึงความดีของหญิงสาวแต่เขาก็ยังใจแข็งไม่ยอมพาเธอกลับไปง่ายๆเพราะต้องการให้เธอยอมรับปากว่าจะถอนหมั้นแต่ตัวณจันทร์ก็ไม่ได้ยอมพูดรับปากง่ายๆเหมือนกัน
“อยู่ที่นี่หลายวันแล้วไม่คิดถึงความสบายบ้างเหรอ”
“อืม..คิดหรือเปล่าน้า”
ณจันทร์รู้ว่าชายหนุมต้องการให้เธอบอกว่าอะไรจึงเอ่ยน้ำเสียงยียวนกลับแอบคิดหมั่นไส้อีกฝ่ายเล็กน้อยที่พอแผลหายดีได้เขาก็เริ่มจะหลับมาหาเรื่องกับเธอใหม่ทันที
“กวนผมเหรอ”
“เปล๊า..ฉันถามอะไรหน่อยสิที่คุณบอกว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่ที่เกาะโกหกใช่ไหม”
“อืม..ใช่ผมยอมรับว่าโกหกแต่คุณก็ไม่ต้องหวังว่าจะไปให้ใครช่วยพาคุณออกไปจากที่นี่เพราะคนที่นี่ฟังคำสั่งผมทั้งนั้น”
“ชิ..”
สองสามวันมานี้เขาชอบกวนประสาทเธอเล่นเพราะชอบดูดวงตาที่จ้องมองค้อนของเธอแท้เธอจะทำให้เขารู้ว่าเธอไม่พอใจแต่อาการของเธอนั่นแหละที่เป็นสิ่งที่เขามองแล้วพึงพอใจเพราะดวงตากลมโตที่มองค้อนคู่นั้นเหมือนลูกแมวน้อยอย่างไงอย่างงั้น
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร
เช้าวันต่อมาก๊อกๆๆนนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร“จะไปแล้วเหรอคะ”“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน“ช่างมันเถอะค่ะ”นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด
“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”“ใช่ค่ะ”พราวมุกเห็นด้วยก
“ผมบดข้าวกับตับให้ทะเลเรียบร้อยแล้วนะ”หลังจากที่พาทะเลกลับมาที่บ้านได้นนทวัตรถือถ้วยข้าวที่เขาพึ่งบดเสร็จออกมานั่งพร้อมหน้ากับหญิงสาวและเจ้าก้อนกลม“ขอบคุณค่ะ”ณจันทร์ยื่นมือรับถ้วยข้าวที่มือของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอเสียอย่างนั้นก่อนจะเข้ามานั่งตรงหน้าเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่บนรถเข็นแทน“วันนี้ผมขอป้อนเค้าบ้างได้หรือเปล่า”“ได้สิคะ”“อืม.. ฟู่”ข้าวบดคำโตที่เข้าปากเด็กชายไปตอนนี้ได้กระเด็นมาอยู่บนหน้าของนนทวัตรทั้งหมด“ทะเล”นนทวัตรรีบหันหน้าหลบร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกเจ้าตัวกลมจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว“เลอะหมดเลย”ณจันทร์รีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มทันทีและคิดว่าทะเลน่าจะไม่ชอบรสชาติของตับบดถึงได้พ่นออกมาแบบนี้“ทะเลน่าจะไม่ค่อยชอบรสชาติของตับบดน่ะค่ะเดี๋ยวฉันลองเอาฟักทองบดรวมดู”ณจันทร์เช็ดเหน้าให้นนทวัตรเรียบร้อยเธอจึงรีบเดินถือถ้วยข้าวเข้าไปในครัวใหม่เพื่อนำฟักทองที่ต้มแช่ตู่เย็นเอาไว้มาอุ่นและบดรวมไปกับข้าวของเด็กชายอีกครั้ง“แกล้งลุงเหรอห้ะ..เดี๋ยวก็ไม่ให้กินนมซะหรอก”นนทวัตรหันมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวกลมหลังจากที่หญิงสาวให้หลังไปแล้ว“แอ้ะ..”เจ้าแก้มยุ
“อืม..แต่ผมขอคุณอย่างเดียวขอแค่มีแค่ผมเท่านั้น”“ฉันยืนยันกับคุณอีกครั้งนะคะ...ว่าฉันเลิกกับไทม์แล้วจริงๆสิ่งที่คุณเห็นอาจจะเป็นเพราะไทม์อยากจะให้เราทะเลาะกันส่วนวันนั้นที่คุณเจอฉันที่ร้านอาหารกับผู้ชายคนอื่นมันไม่มีอะไรจริงๆค่ะ”“ผมจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง..ต่อไปนี้เราสงบศึกกันแล้วมาเรียนรู้กันให้มากขึ้นโอเคไหม”“ค่ะ”ร่างบางถูกรวบกอดเอาไว้แน่นคราแรกเธอตกใจพอสมควรแต่เมื่อได้รับอ้อมกอดที่อ่อนโยนอบอุ่นเธอก็เริ่มยิ้มออกมาได้..หญิงสาวเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าทำไมถึงได้เขินสายตาของชายหนุ่มแถมตอนนี้ยังไม่รู้สึกกลัวเขาอย่างก่อนหน้าว่าคงเป็นเพราะเธอน่าจะเริ่มมีใจให้ชายหนุ่มไปแล้วแน่นอนแอบตำหนิตัวเองที่เผลอใจจนได้แต่อีกใจก็ส่งเสียงบอกกับเธอว่าหากตอนนี้เป็นเวลาที่เธอจะได้มีความสุขก็ตักตวงมันไปให้เต็มที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันอย่างน้อยเธอก็มีเรื่องดีๆของเขาให้จดจำอาทิตย์ต่อมาธนกรเหมือนคนบ้าที่ตามหาปานตะวันไปทั่วไม่ว่าจะไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ถูกสารภีไล่กลับและบอกคำเดียวว่าปานตะวันไปต่างประเทศเขาไม่เคยเชื่อคำพูดของสารภีเพราะรู้ว่าตอนที่เขาคบกับปานตะวันเธอไม่ชอบหน้าเขาอยู่แล้ว นาทีนี้คนที่เขาจะขอความช่ว
วันต่อมา“หลับหรือยัง”นนทวัตรเดินมาชะเง้อหน้ามองหญิงสาวที่กำลังป้อนนมเจ้าตัวกลมที่จะหลับไม่หลับแหล่อยู่ที่หน้าประตูห้องนอน“กำลังจะหลับค่ะ”ณจันทร์เอ่ยกระซิบตอบกลับคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ“ผมลืมบอกคุณ..ลุงโนชบอกว่าอีกไม่กี่วันหมอก็จะให้ยิหวากลับแล้ว”“เหรอคะ..ฉันคงต้องคิดถึงทะเลมากๆแน่เลย”ณจันทร์ก้มมองหน้าเจ้าตัวกลมในอ้อมอกแอบใจหายเหมือนกันที่เธอจะไม่ได้เจอทะเลอีกแล้ว“เดี๋ยวผมจะพามาหาบ่อยๆดีหรือเปล่า”“ค่ะ”สาวเจ้าเริ่มมีแววตาไหววูบด้วยรู้ตัวว่าคงไม่มีเหตุที่จะต้องมาที่นี่อีกเพราะเมื่อกลับไปแล้วเธอก็คงจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นณจันทร์คนเดิมซ่า.. ซ่าา.. ช่วงเย็นแดดร่มลมตกณจันทร์อุ้มทะเลมานั่งเล่นที่ชายหาดเพื่อปล่อยให้หนูน้อยได้คลานเล่นกับธรรมชาติส่วนเธอก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องเก็บภาพแห่งความสุขเอาไว้แทบจะตลอดเวลาเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปจากที่นี่ในอีกไม่เท่าไร“ทะเลยิ้มให้น้าหน่อยสิครับ”“แอ้..”เจ้าตัวกลมหัวเราะร่าเล่นกล้องเรียกรอยยิ้มณจันทร์ให้ยิ้มตามได้เป็นอย่างดี“คุณ..”จู่ๆนนทวัตรก็กระโดดโผล่มาที่หน้ากล้องมือถือของณจันทร์ทำเอาสาวเจ้าตกอกตกใจจนแทบทำมือถือล่วง“คุณนน..ตกใจหมดค่ะ”“ถ
“จันทร์ขึ้นมาเร็ว”ณจันทร์ขมวดคิ้วมองพราวมุกที่กำลังเปิดประจกรถส่งเสียงเรียกเธอพร้อมกับณิชา“เอารถใครมารับเค้าเนี่ย”ณจันทร์ยืนเกาหัวแกลกๆที่ริมฟุตบาท“รถเค้าเองขึ้นมาเร็วๆจะพาไปดูบ้านใหม่”“บ้านใหม่”“งงล่ะสิเรื่องมันยาวเดี๋ยวถึงบ้านจะเล่าให้ฟัง..ขึ้นมาก่อนเร็ว”เมื่อณจันทร์ขึ้นรถมาได้พราวมุกก็รีบบึ่งพาเพื่อนไปที่บ้านหลังใหญ่ของตระกูลคุณยายเธอทันทีและหน้าที่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของณิชากว่าจะเล่ากันจบทั้งสามก็มาถึงที่บ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ตัวเป็นถึงทายาทเศรษฐีเลยเหรอ”ณจันทร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหรูหันมาจับตัวพราวมุกและมองไปรอบๆอีกครั้ง“ใช่ตอนแรกเค้าก็ไม่อยากจะเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้วและนี่ก็คือบ้านของเรา”“ใหญ่โตขนาดนี้ทำความสะอาดยังไงไหวล่ะเนี่ย”“เค้าก็ว่างั้นแล้วก็ไม่อยากเสียเงินจ้างแม่บ้าน..เค้าเลยไปดูบ้านใหม่เอาไว้แล้ว”“ซื้อใหม่”“ใช่..”พราวมุกพยักหน้าหงึกหงักเธอไม่ได้คิดจะอยู่บ้านหลังนี้ถาวรเพราะใหญ่โตเกินไปและไม่ได้คิดอยากจะชีวิตแบบผู้ดีที่มีแม่บ้านหรือคนรถมาคอยรองมือรองเท้าจึงคิดว่าจะไปหาซื้อบ้านหลังที่ไม่ใหญ่มากพอจะให้เธอและเพื่อนทั้งสองอยู่กันได้อย่างสบายก็พ
ตื๊ดๆ “นอนหรือยังครับตะวัน”“ขอโทษนะคะคุณนน”ณจันทร์อ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอแต่ไม่เปิดเข้าไปในแอพลิเคชั่นเพราะไม่ต้องการให้นนทวัตรรับรู้ว่าเธอนั้นอ่านข้อความแล้วเพราะต่อจากนี้เธอตั้งใจตัดขาดกับเขาทุกช่องทางเมื่อบล็อกชายหนุ่มได้เธอก็ถอดซิมที่เขาซื้อให้ทิ้งรู้ว่าเขาคงจะมีอาการเคืองใจบ้างหากติดต่อเธอไม่ได้แต่เธอเห็น่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดแล้วที่เธอจะลืมเขาได้โดยเร็วที่สุด“คุณกำลังเล่นอะไรอยู่ตะวัน”เป็นอาทิตย์แล้วที่นนทวัตรว้าวุ่นในหัวใจเพราะตั้งแต่แยกกันกับหญิงสาวในวันนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยก่อนหน้าไม่กี่วันเขาไปบ้านของเธอก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่เท่านั้นจนตอนนี้นนทวัตรรู้สึกถึงความผิดปกติที่ดูท่าหญิงสาวน่าจะหลบหน้าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทั้งที่ก่อนกลับจากเกาะก็คุยกันดีๆบริษัทxxx“ช่วงนี้จันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าดูเครียดๆนะครับ”เมฆาเข้ามาคุยกับเลขาตัวเล็กเพราะเห็นเธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองตั้งแต่กลับมาทำงานแล้ว“เปล่าค่ะพี่เมฆ…จันทร์ดูเครียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ณจันทร์แอบหน้าเสียที่ความเศร้าของเธอมันทำให้คนอื่นดูออก“ใช่…จนพี่คิดว่าพี่อาจจะให้จันทร์ทำงานหนักเกินไป”สาวเจ้ารีบส่ายห