Share

ตอนที่21 กลัวความมืด

“เกาะเล็กครับ”

“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”

“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”

อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด

“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”

ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้

สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ

“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”

ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็นคู่หมั้นของเขา

“อย่าพึ่งคิดอะไรไปก่อนเลยจันทร์โตแล้วนะเค้าเชื่อว่าจันทร์รู้ว่าควรดูแลตัวเองยังไง”

พราวมุกมีแอบคิดแบบณิชาเหมือนกันแต่เธอก็เชื่อว่าณจันทร์ยังมีไม้มีมือหากใครจะทำอะไรไม่สมควรเธอต้องปกป้องตัวเองได้แน่และยังเชื่อเหมือนเดิมว่านนทวัตรจะต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษในตัวสูง

“พี่สาคะตกลงนักสืบที่เราจ้างไปไม่มีอะไรคืบหน้าจริงๆใช่หรือเปล่าคะ”

เป็นอีกวันที่โสภิตายังคงเครียดหนักเพราะไม่มีวี่แววว่าจะตามตัวปานตะวันเจอแถมถ้ายังไม่เจอลูกเธออยู่แบบนี้ณจันทร์ก็จะต้องมาสวมรอยเป็นปานตะวันอยู่เรื่อยไป

“เค้าก็รายงานพี่มาแบบนั้นนะ..พี่บอกแล้วไงให้ใจเย็นๆ”

สารภีว่าพร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีไม่ได้กังวลอะไร

“หรือโสจะไปบอกความจริงกับครอบครัวคุณพลดีเพราะโสไม่อยากให้หนูจันทร์ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของบ้านเราแล้ว”

โสภิตาเริ่มคิดว่าไม่อนากจะหลอกลวงใครอีกต่อไปเพราะแค่เครียดเรื่องตามหาลูกไม่เจอก็แทบนอนไม่หลับอยู่แล้วนี่ยังต้องกังวลเรื่องที่จะต้องปั้นหน้าหลอกครอบครัวของเพื่อนสามีอีก

“อย่าลืมสิโสว่าเราทำทุกอย่างก็เพื่อช่วยพยุงบริษัทที่คุณรุจรักและบริษัทนี่ก็จะเป็นสมบัติเอาไว้ให้ตะวันเราเดินมาถึงจุดนี้กันแล้วจะปล่อยให้สิ่งที่ทำมาเสียเปล่าไม่ได้นะโส..ส่วนเรื่องณจันทร์ถ้าเธอกลับมาเราก็ให้เงินพิเศษเธอเป็นค่าตอบแทนก็ได้ที่ยอมเล่นละครต่อ”

“ก็ได้ค่ะ”

สารภีไม่เห็นด้วยกับความคิดน้องสาวเธออย่างมากในเมื่อขึ้นหลังเสือแล้วจะมายอมงง่ายๆคงไม่ดีแน่โสภิตาเมื่อถูกคนเป็นพี่เตือนสติเข้าเธอก็ตามสารภีไปโดยไม่ได้ค้านอะไร

ครื่น...ซ่าาา..

คืนนี้ที่เกาะเหมือนจะมีพายุเข้าเพราะลมแรงตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเข้าฟ้ามืดลมฟ้าลมฝนก็เหมือนจะแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ฝนตกก็หนาวเหมือนกันนะเนี่ย”

ณจันทร์นอนกอดผ้าห่มผืนไม่หนามากขดอยู่ที่โซฟาแม้นจะไม่ได้เห็นอะไรข้างนอกเธอก็พอจะเดาได้ว่าฟ้าฝนข้างนอกแรงน่าดูเพราะดูจากฟ้าที่แล่บและและส่งเสียงร้องคำรามไม่หยุด

ฟึ่บบ “อ้าว..ดับซะงั้น”

คนที่กำลังจะข่มตาหลับลงจู่ๆโคมไฟที่ส่งแสงสลัวอยู่มุมข้างโซฟาก็ดับลงสาวเจ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องไฟฟ้าเพราะเธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมหรือแสงสว่างจากโคมไฟในคืนนี้เพราะกำลังจะนอนแล้ว

“ตะวัน..ตะวัน”

“มีอะไรคะ”

สาวเจ้าลุกขึ้นพรวดหลังจากที่กำลังจะหลับตาลงอีกรอบเพราะได้ยินเสียงนนทวัตรเรียกดังมาจากข้างในห้อง

“ตะวัน..คุณอยู่ไหน”

เสียงของชายหนุ่มแม้นจะดังแต่ดูสั่นเครือเหมือนคนที่กำลังตื่นกลัวอะไรสักอย่างจนณจันทร์รับรู้ได้

“คุณนน.. เรียกฉันทำไม”

หญิงสาวค่อยๆเดินไปยืนแนบใกล้กับหน้าประตูห้องของชายหนุ่มและตะโกนถามอีกฝ่าย

“ผมกลัวความมืดเข้ามาหาผมหน่อย”

เสียงของนนทวัตรเริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆจนณจันทร์รู้ว่าอีกฝ่ายคงกลัวมากเธอจึงไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะเข้าไปในห้องของเขา

แกร๊กก

“คุณอยู่ตรงไหน”

“ผมอยู่ที่เตียง”

ณจันทร์ค่อยๆเดินไปตามเสียงของชายหนุ่มที่ส่งมาหาเธอจนเข้าถึงตัวของเขาได้และเข้าไปนั่งใกล้ๆ

“ฉันอยู่นี่ค่ะ..คุณกลัวความมืดมากเลยเหรอคะ”

ณจันทร์ถูกนนทวัตรจับมือเอาไว้แน่นความสั่นเทาจากร่างกายชายหนุ่มทำณจันทร์ต้องรีบวาดมือลูบหลังให้นนทวัตรได้ผ่อนคลายความกลัวลง

“ผมไม่ชอบอยู่ในที่มืดตั้งแต่เด็กแล้ว”

ชายหนุ่มเริ่มที่จะกลับมาตั้งสติและพยายามหายใจให้เป็นจังหวะปกติเมื่อมีคนอยู่ใกล้ๆ

“ฉันจะอยู่ข้างๆคุณ...ค่อยๆหายใจเข้าออกลึกๆนะคะ”

“อืม..”

“คุณทานยาก่อนนอนหรือยังคะ”

ณจันทร์ปล่อยให้นนทวัตรได้หายใจหายคอให้เป็นปกติครู่หนึ่งก่อนจะหาเรื่องคุยกับเขาเพื่อที่จะทำให้นนทวัตรไม่ต้องจดจ่ออยู่กับการกลัวความมืดอย่างเดียว

“เรียบร้อยแล้ว”

“แล้วพรุ่งนี้คุณอยากทานอะไรคะฉันจะได้ตื่นมาทำให้”

“ข้าวต้มเหมือนเดิมก็ได้”

“ติดใจฝีมือฉันงั้นสิ”

“ก็ยอมรับว่าคุณมีฝีมือการทำอาหาร”

“ขอบคุณที่ชม...เอ่อ..แล้วฉันจะปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวได้ตอนไหน”

“ถ้าห้องยังไม่มีแสงสว่างผมก็ไม่โอเค”

“ทำไมคุณถึงกลัวขนาดนี้ล่ะคะ”

ณจันทร์พอจะรู้ว่าชายหนุ่มเริ่มผ่อนคลายความกลัวมากแล้วเพราะดูจากน้ำเสียงที่เริ่มนิ่งเหมือนเดิมเธอจึงอยากจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้กลัวกับความมืดแบบนี้

“ตอนเด็กๆถูกพี่ผมแกล้งปล่อยไว้คนเดียวที่มืดๆเลยเป็นความกลัวตั้งแต่นั้นมา..คุณคงตลกมากสินะ”

ตอนนั้นนนทวัตรจำได้ดีที่ถูกณดลพี่ชายคนโตแกล้งตอนไปที่ไร่ของปู่เขาถูกขังอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ตอนมีงานเลี้ยงช่วงกลางคืนกว่าพ่อและแม่ของเขาจะตามไปช่วยเขาก็ร้องให้จนหลับไปแล้วหลังจากนั้นพี่ชายของเขาก็ถูกตีจนก้นลายและถูกหักค่าขนมกักบริเวณจนพี่ชายของเขาเข็ดและไม่กล้าที่จะแกล้งเขาอีกเลยแต่นั่นมันก็ทำให้เขามีปมกลัวความมืดตั้งแต่นั้นมาจนทุกคืนที่นอนจะต้องมีแสงไฟให้เห็นตลอดแม้เพียงน้อยนิดก็ยังดี

“ฉันไม่ตลกกับความกลัวของคนอื่นหรอกค่ะ”

ณจันทร์ไม่ได้คิดจะขบขันชายหนุ่มเรื่องความกลัวของเขาหรือแม้แต่ความกลัวของคนอื่นเพราะเธอรู้ดีว่าต่างคนต่างก็มีเรื่องเป็นปมในใจของตัวเองเหมือนกับเธอที่กลัวความสูงจนถึงขั้นเป็นลมมาแล้วหลายครั้ง สองหนุ่มสาวพูดคุยกันไปพักใหญ่จนลมฟ้าลมฝนเริ่มซาลงด้วยความเพลียและไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาคุยกันแล้วจึงผลอยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัวกันทั้งคู่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status