“พี่เมฆรู้ได้ไงคะว่าผิงทำงานอยู่ที่นี่”
ณิชาออกมาคุยกับเมฆาที่ร้านกาแฟใก้ล้ๆกับที่ทำงานของเธอช่วงพักกลางวัน
“จันทร์บอกพี่เอาไว้”
“แล้วมาหาผิงที่นี่มีธุระอะไรเหรอคะ”
“พี่ติดต่อจันทร์ไม่ได้เลยเธอหายไปตั้งแต่วันนั้นที่มีผู้ชายมาพาเธอไปผิงพอจะรู้หรือเปล่าว่าเค้าเป็นใคร”
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมฆาร้อนใจจนต้องรบกวนเวลาของณิชาเพื่อมาขอคุยกับเธอเรื่องณจันทร์
“คุณนนใช่ไหมคะ”
“อ่อใช่..เห็นจันทร์เรียกเค้าว่าแบบนั้น”
เมฆารีบพยักหน้าเพราะเขาจำได้ว่าวันนั้นณจันทร์เรียกผู้ชายคนที่มาหาเธอว่านน
“คือ..”
ณิชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่ารายละเอียดให้เมฆาได้ฟังว่าทำไมณจันทร์ถึงไปรู้จักกับนนทวัตรได้
“แบบนี้นี่เอง”
“ผิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าจันทร์จะกลับมาเมื่อไรเพราะก็ติดต่อจันทร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ”
“จันทร์จะปลอดภัยใช่หรือเปล่า...วันนั้นที่คุณนนพาจันทร์ออกไปดูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”
เมฆามองออกว่าวันนั้นนนทวัตรน่าจะไม่พอใจที่เห็นเขากับณจันทร์เพราะคิดว่าเธอคือปานตะวัน
“จริงเหรอคะ”
“อืม..คงโมโหที่เห็นพี่อยู่กับคู่หมั้นตัวเองล่ะมั้ง”
“แต่ที่คุณโสโทรมาบอก..เห็นว่าคุณนนแค่จะพาจันทร์ไปเที่ยวดูงานด้วยกันแล้วก็ถือโอกาสเที่ยวด้วยน่าจะไม่มีอะไรแล้วมั้งคะ”
“ไม่มีอะไรก็ดี..แล้วจันทร์จะต้องเป็นปานตะวันไปนานเท่าไร”
“อันที่จริงก็เลิกเป็นตั้งแต่หลังงานหมั้นแล้วล่ะค่ะแต่ก็อย่างว่าจันทร์ดันไปเหมือนคุณปานตะวันแล้วก็เข้ามาอยู่ในวังวนนี้แล้ว”
“แปลกเหมือนกันนะคนสองคนจะเหมือนกันขนาดนั้นจริงๆเหรอ”
เป็นเรื่องที่เมฆาแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนสองคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันจะเหมือนกันจนคนแยกไม่ออกขนาดนั้นเลยหรือ
“พราวกับผิงก็คิดเหมือนกันแต่จากรูปที่เห็นก็ปฏิเสธไม่ได้”
“หนมผิง”
“คะ”
“ถ้าพี่จะถามเรื่องจันทร์หนมผิงจะยินดีตอบพี่หรือเปล่า”
ชายหนุ่มเริ่มเปิดประเด็นด้วยอาการเคอะเขินเล็กน้อยแต่มันก็เป็นเรื่องที่เขาอยากรู้แต่ไม่กล้าถามณจันทร์ตามตรง
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“พี่อยากรู้ว่า.. จันทร์มีใครหรือยัง”
ณิชาหน้าชาเล็กน้อยเพราะเข้าใจว่าที่เมฆาถามเธอเรื่องของณจันทร์แบบนี้เท่ากับว่าเมฆามีความรู้สึกกับณจันทร์มากกว่าพี่น้องแน่นอน
“อ..อ๋อ..ผิงเข้าใจแล้วค่ะ..จันทร์ไม่มีใครหรอกค่ะเราตั้งใจทำงานกันอย่างเดียวเลย”
ณิชาพยายามปั้นหน้ายิ้มและทำตัวให้เป็นปกติที่สุดทั้งที่ในใจเริ่มมีอาการหน่วงอยู่ไม่น้อยเพราะแอบชอบเมฆามาตั้งนานดันมารู้ตอนนี้ว่าเขาสนใจณจันทร์
“รู้แบบนี้พี่ค่อยโล่งอกจากนี้พี่จะได้เดินหน้าทำคะแนนกับจันทร์..พี่ชอบความน่ารักของจันทร์ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว”
“ค่ะ.. ยังไงก็สู้ๆนะคะ”
“ขอบคุณนะ”
เมฆายิ้มร่าเพราะดูจะมีหวังเต็มที่ส่วนณิชานั้นตอนนี้เหมือนคนหน้าชื่นอกตรมแม้จะรู้สึกอกหักแต่หากคนที่เธอรักทั้งสองจะยกระดับความสัมพันธ์ที่ดีเธอก็ต้องยินดีด้วย
“อืม..”
นนทวัตรรู้สึกตัวตื่นเต็มที่เมื่อเข้าเวลาเย็นเขาไม่รู้สึกหนักหัวอย่างเมื่อเช้าแล้วแถมแผลยังมีคนทำให้ใหม่แล้วอีกไม่ต้องเดาก็คงจะเป็นฝีมือหญิงสาวเพราะวันนี้เขาไม่ได้สั่งให้ใครมาที่นี่
“คนอย่างคุณเนี่ยนะดูแลผม”
นนทวัตรนึกถึงภาพอันเลือนลางที่หญิงสาวช่วยดูแลเขาเมื่อช่วงเช้าก็เริ่มแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้มาช่วยเขาทั้งที่เขาทำไม่ดีกับเธอจริงๆแล้วเนื้อแท้ของเธอเป็นคนยังไงกันแน่
“วันนี้ไม่มาแล้วเหรอ”
ณจันทร์ยืนคนหม้อข้าวต้มกุ้งอยู่ในครัวทั้งชะเง้อมองไปนอกหนาต่างอย่างใจจดใจจ่อว่าจะมีใครมาที่นี่บ้างแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็น
“ทำอะไร”
“ว้าย..” ฟึ่บบ
จู่ๆคนตัวโตก็โผล่ทักทายคนที่กำลังยกหม้อใบเล็กที่พึ่งต้มไข่เสร็จออกจากเตาเธอจึงสะดุ้งเฮือกทำน้ำในหม้อน้อยกระฉอกใส่มือทั้งสองข้าง
“ตะวัน” ซ่า..
นนทวัตรรีบดึงของออกจามือของหญิงสาวก่อนจะเปิดก๊อกน้ำที่ซิ้งล้างจานและดึงมือของณจันทร์มาล้างน้ำเย็น
“คุณอะจู่ๆก็โผล่มาฉันตกใจหมด”
ณจันทร์บ่นน้ำเสียงอู้อี้เพราะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมือพอสมควร
“ขอโทษที”
เสียงขอโทษที่ดูอ่อนโยนอย่างที่ณจันทร์ไม่เคยได้ยินและท่าทีที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของนนทวัตรทำณจันทร์ต้องจ้องมองคนตัวโตด้วยสายตาที่แปลกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำขอโทษที่ดูนุ่มนวลจากปากของชายหนุ่มเช่นนี้
“ทำไมถึงช่วยดูแลผมล่ะ”
“ก็ฉันเป็นคนทำคุณเจ็บฉันมีสำนึกมากพอก็เลยต้องมานั่งดูแลคุณไง”
“เป็นงั้นก็ดี..นึกว่ามาทำดีเผื่อว่าผมจะพากลับ”
คำตอบของหญิงสาวเป็นที่น่าพอใจกับนนทวัตรพอสมควรแต่เขาก็ยังไม่วายทำปากดีใส่เธอกลับ
“ค่อยยังชั่วแล้วก็ปากดีเลยนะ...จะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณฉันขี้เกียจมาเถียงอะไรกับคุณแล้ว”
ณจันทร์ตวัดมองค้อนคนที่พูดจาไม่เข้าหูก่อนจะดึงมือของตัวเองออกจากมือเขาและปิดก๊อกน้ำเดินดุ่มออกไปข้างนอกครัวเพื่อหายาทา
“หึ่..”
นนทวัตรแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับสีหน้าของหญิงสาวเมื่อครู่ก่อนจะเดินตามเธอออกจากครัวไปเขาเคยถูกเธอมองค้อนแบบนี้อยู่ก่อนหน้าสองสามครั้งแต่นี้เธอดูน่าเอ็นดูเป็นพิเศษถึงทำให้เขายิ้มออกมาได้
“ผมทำให้”
นนทวัตรเข้าไปนั่งข้างๆหญิงสาวก่อนจะแสดงความรับผิดชอบการกระทำเมื่อครู่โดยการช่วยเธอทายาแต่สาวเจ้ากลับถอยหนีและยังระแวงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นเมื่อคืนเธอจึงเลี่ยงการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเขาดีกว่า
“ไม่เป็นไรค่ะแค่ทายาเอง..ถ้าจะช่วยก็ช่วยเดินไปหาอะไรทานเองในครัวนะคะ”
“อืม..ก็ได้”
ชายหนุ่มลุกออกจากโซฟาอย่างว่าง่ายเข้าใจในการกระทำของหญิงสาวว่าที่เธอปฏิเสธเขาอย่างออกนอกหน้าคงกลัวจะเกิดเรื่องอย่างเมื่อคืนแต่เขาก็คงไม่ปล่อยให้เกิดแม้นจะอยากบังคับเธอให้ขอถอนหมั้นแต่เขาก็ไม่ชอบเห็นน้ำตาของใคร
ช่วงสายของวันต่อมาวันนี้ภัทรพลมีเรื่องให้กลุ้มใจตั้งแต่เช้าเพราะทางบ้านของปานตะวันโทรมาหาเขาว่านนทวัตรจะพาตัวปานตะวันกลับเมื่อไรเขาเองก็ให้คำตอบอะไรไม่ได้เพราะยังติดต่อเจ้าลูกชายคนเล็กตัวดีไม่ได้เลย
“ตานนไม่ได้พาหนูตะวันไปที่เกาะที่จะสร้างรีสอร์ทแล้วไปอยู่ที่ไหน”
ยิ่งภัทรพลได้มาสาวเรื่องจากภูริเขาก็ยังได้คำตอบที่ไม่น่าพอใจอีก
“เกาะเล็กครับ”“ทำแบบนี้ได้ยังไงยังไม่ได้แต่งกับลูกสาวเค้าเลยพากันไปแบบนี้เสียหน้าฉันหมดกัน”“ใจเย็นๆค่ะคุณลูกเราแค่อยากจะทำความรู้จักกับหนูตะวันให้มากขึ้นก็ได้..เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะกลับมาก็จับแต่งกันไปเลยเป็นการให้เกียรติทางบ้านหนูตะวันด้วย”อนงค์นาถพยายามกล่อมให้สามีของเธอใจเย็นลงในเมื่อเรื่องมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็เห็นว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ดีที่สุด“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน”ภัทรพลเห็นด้วยกับภรรยาถ้ารู้ว่าลูกชายตนจะทำแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้แค่จัดงานหมั้นคงจับให้แต่งไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเกรงใจทางบ้านของโสภิตาที่ลูกชายทำอะไรตามใจตัวเองเช่นนี้สองสาวนั่งหน้าห่อเหี่ยวกันอยู่ที่ห้องเช่าเพราะเป็นห่วงณจันทร์หลังจากที่เธอโทรหาโสภิตาให้โทรถามทางบ้านของนนทวัตรว่าชายหนุ่มจะพาเพื่อนเธอกลับมาเมื่อไรกลับได้คำตอบว่าไม่มีกำหนดแถมยังติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกเธอก็ค่อนข้างเป็นกังวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ“จันทร์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมไปกับคุณนนสองต่อสองแบบนั้น”ณิชาหันมามองหน้าพราวมุกเธอไม่อยากจะคิดอะไรที่มันไม่ดีอีกแต่มันก็อดคิดไม่ได้เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอก็ถูกนนทวัตรเข้าใจว่าเป็น
วันต่อมาตอนนี้นนทวัตรตื่นแล้วแต่เขายังคงจ้องมองคนที่หลับตาพริ้มและยังคงจับมือของเขาอยู่ไม่ปล่อยมุมปากหนาเริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยกับภาพที่กำลังมองแอบคิดในใจว่าเวลาหญิงสาวหลับก็ดูน่ารักเหมือนกันผิดกับตอนที่ต่อปากต่อคำกับเขาเป็นไหนๆ“คุณนน..ตื่นแล้วเหรอคะ”ณจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้นนทวัตรก็รีบตีสีหน้าปกติและหันไปสายตาเหลือบมองทางอื่นแทนไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขากำลังสนใจใบหน้าของเธออยู่“ฉันไปทำอาหารเช้าให้นะคะคุณไปล้างหน้าล้างตาเตรียมทานข้าวจะได้ทานยานะคะ”ณจันทร์เห็นแสงสว่างที่ผ่านมาทางม่านของหน้าต่างก็พอจะรู้ว่าวันนี้เธอน่าจะตื่นสายจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปเตรียมตัวทำอาหารเช้าชายหนุ่มจะได้ทานข้าวและทานยาตรงเวลานนทวัตรมองตามหลังคนที่ลุกลี้ลุกลนทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆยอมรับว่าเริ่มมองเธอดีขึ้นมาบ้างจากเหตุการณ์เมื่อคืน“ถ้าผมไม่เจ็บเพราะคุณ.. คุณจะดีกับผมแบบนี้หรือเปล่าตะวัน”แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวดีกับเขาเพราะรู้ตัวว่าทำเขาเจ็บหรือมาจากนิสัยจริงๆของเธอกันแน่ซุปเปอร์XX“หนมผิง”เมฆาเดินลากรถเข็นเข้ามาหาณิชาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อผักผลไม้
Rrrrr“ว่าไงพราว..หนมผิงกลับไปหลายชั่วโมงแล้วนะยังไม่ถึงห้องอีกเหรอ”เมฆาเริ่มมีสีหน้ากังวลหลังจากพราวมุกโทรมาถามว่าณิชาจะกลับตอนไหนและทำไมถึงติดต่อณิชาไม่ได้“ยังค่ะ..พราวโทรหาก็ไม่รับ”“เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนเช็คสัญญาณจากมือถือผิงถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไปส่งหนมผิงเองพราวไม่ต้องห่วง”“ค่ะพี่เมฆ”หลังคุยกับพราวมุกจบเมฆาก็ลองโทรหาณิชาแต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่รับสายเขาเช่นกันจึงรีบโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทันทีเพราะรู้สึกเป็นห่วงณิชาพอสมควรคราแรกคิดว่าเธอถึงห้องพักแล้วเสียอีก“อาม..ฉันมีเรื่องให้แกช่วย”หลังจากเมฆาโทรหาอานนท์เพื่อนที่เป็นตำรวจให้เช็คสัญญาณมือถือของณิชาว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหนหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเมฆาก็รู้ที่อยู่ของณิชาและรีบออกไปหาเธอทันทีณิชามานั่งดื่มที่บาร์ได้ร่วมชั่วโมงกว่าแล้วที่เธอเข้ามาในร้านแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเข้าเพราะอยากรู้ว่าความเมามันจะทำให้เธอลืมเรื่องปวดหัวใจไปได้หรือเปล่าแต่เหมือนมันก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี“ทำไม.. อึก.. ทำไมทำจายม่ายด้ายสักทีนะ”สาวเจ้าถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แน่นแต่ตัวของเธอฟุบอยู่บนโต๊ะแทบยกหัวตัวเองไม่ขึ้นแล้วแม้นจะไม่ได้ดื่มไปเยอะแต่คนที่ไม่เคยดื่มอย่า
ณิชาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเธอรู้สึกหนักหัวมากเป็นพิเศษมือน้อยควานหาแว่นด้วยความเคยชินแต่ก็แอบแปลกใจที่ทำไมควานหาที่หัวนอนแล้วไม่เจอ“นี่”และแล้วก็มีใครบางคนยื่นแว่นมาใส่มือของเธอเป็นเมฆาที่พึ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาเห็นหญิงสาวตื่นและกำลังควานหาอะไรบางอย่างและเขาก็เดาออกว่าเธอคงจะหาแว่นไม่เจอจึงรีบเดินมาหยิบให้“พี่เมฆ”ณิชาสวมแว่นได้ก็เงยหน้ามองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยความงุนงงทั้งมองไปรอบๆพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนึกย้อนไปเมื่อวานเธอจำได้ว่าไปนั่งที่บาร์แต่จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเธอมาที่นี่ได้อย่างไร“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืน..เรา”ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้อธิบายจบคนที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองและมาอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสองไม่พ้นที่จะเปลืองตัวในขณะที่ไม่มีสติแน่“เมื่อคืน..เมื่อคืน”ณิชาเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยความผิดหวังไม่คิดว่าเขาจะฉวยโอกาสในตอนที่เธอไม่ได้สติเลยเมื่อความโกรธเริ่มครอบงำสาวเจ้าก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหมายจะหนีไปจากที่นี่ทันที“จะไปไหนผิง”เมฆาที่มองตามหลังคนตัวเล็กด้วยความตกใจและคิดว่าเธอคงกำลังเข้าใจผิดเขาแน่ถึงได้มีสีหน้าตกใจวิ่งออกไปแบบนั้
“ไปกับผม”“จะพาฉันไปไหน”ณจันทร์ที่หมายจะเดินหนีไปเดินเล่นกลับถูกจูงมือให้เดินตามไปหน้าตาเฉย“ตามมาเถอะน่า”ณจันทร์เดินตามนนทวัตรมาถึงท่าเรือเห็นเขาลงเรือไปและถูกเรียกกวักมือให้ลงเรือตามเธอก็มีสีหน้ามีความหวังอีกครั้งว่าชายหนุ่มอาจจะใจดีพาเธอออกไปจากที่นี่แล้ว“จะพากลับบ้านเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่ผมจะทำยากที่สุดคุณก็รู้เพราะอะไร”นนทวัตรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะขับเรือออกจากท่า“แล้วพามาทำอะไร”“เปิดหูเปิดตา”“อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”สาวเจ้ายกมือเกาหัวแกรกๆแอบหวั่นใจว่าชายหนุ่มนั้นจะหาเรื่องอะไรแกล้งเธออีก อันที่จริงนนทวัตรไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรหญิงสาวเพียงแค่เขาอยากออกมาเปิดหูเปิดตาเองด้วยอยู่แต่ในบ้านหลังเล็กๆกับริมชายหาดวันนี้คิดอยากดูทิตย์ตกกลางทะเลจึงต้องลากเธอด้วยเรือยอร์ชขนาดกลางแล่นออกจากฝั่งไม่นานนักคนที่นั่งชมวิวไปเรื่อยอย่างณจันทร์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจและรีบสะกิดให้นนทวัตรหันไปดู“น.. นั่น”“บ้าจริง”ชายหนุ่มมีสีหน้าตื่นตระหนกไม่แพ้หญิงสาวเพราะตอนนี้ที่ลานหินสูงหน้าเกาะกำลังมีคนกระโดดลงมาและเขาเชื่อว่าคงไม่ได้มากระโดดน้ำเล่นแน่จึงรีบหันหัวเรือไปยังจุดที่มีคนกร
เช้าวันต่อมาก๊อกๆๆนนทวัตรพอจะยิ้มออกเมื่อมาเคาะประตูห้องที่เขาเคาะเปิดออกมาเป็นหน้าของหญิงสาวเท่ากับว่าตอนนี้เขาเชื่อใจของเธอได้พอสมควร“จะไปแล้วเหรอคะ”“อืม.. นี่..คุณตาบวมขนาดนี้เลยเหรอ”ตอนนี้สิ่งที่นนทวัตรสนใจคือเรื่องใบหน้าของหญิงสาวมากกว่าที่ดูบวมจนเขารับรู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอคงร้องให้หนักแน่นอน“ช่างมันเถอะค่ะ”นนทวัตรและณจันทร์ไปรับทะเลออกจากโรงพยาบาลในช่วงสายตอนนี้เจ้าเด็กชายตัวกลมวัยหกเดือนไม่มีของใช้อะไรสักอย่างทั้งสองจึงต้องแวะหาซื้อของใช้และนมผงของเด็กก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะ“แพมเพิสอันนี้ใช่หรือเปล่า”ณจันทร์ที่กำลังอุ้มเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับปุ๋ยเธอรีบส่ายหัวกับสิ่งที่นนทวัตรได้หยิบมา“อันนี้ของผู้หญิงค่ะ.. เลือกของเด็กผู้ชายมาสิคะ”“คุณทั้งสองมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานเห็นท่าชายหนุ่มเก้ๆกังๆและหญิงสาวที่ดูจะเลือกของเป็นแต่ไม่ค่อยถนัดเท่าไรเพราะอุ้มเด็กเล็กจึงรีบเข้ามาช่วยทันที“เอ่อ..ฉันขอนมผงของเด็กหกเดือนสัก5กล่องค่ะแล้วก็ขวดนมขวดใหญ่สามขวดกับขวดเล็ก2ขวดค่ะทิชชู่เช็ดก้นกับมหาหิงส์ด้วยนะคะ”นนทวัตรยืนจ้องหญิงสาวด้วยสายตาที่ทึ่งในตัวเธออีกครั้งไอ้คำว่าช่วยเขาเลี้ยงเด
“สร้อยไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย”แก้วเกตเอ่ยกับเปรมด้วยท่าทางไม่สบายใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะเขียนพินัยกรรมเรื่องการคลุมถุงชนหลานทั้งสองขึ้นมา“คุณสร้อยเชื่อใจคุณแก้วเกตที่สุดครับเลยเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา”เปรมรู้ดีว่าจุดประสงค์ของสร้อยแสงดาวคือต้องการให้ทายาทคนสุดท้ายของเธออยู่ในหูในตาของคนที่ไว้ใจได้และสมบัติของเธอที่ตกทอดมาก็อยากจะให้อยู่ในความดูแลของแก้วเกตเช่นกันจึงเขียนพินัยกรรมออกมาเช่นนี้“ล..แล้วเด็กสองคนพึ่งจะเจอกันจะให้แต่งงานเลยเหรอ”ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันกวินและพราวมุกมีหันมาสบตากันบ้างแต่ต่างคนก็ต่างหลบสายตากันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะต้องมาแต่งงานกันกะทันหัน“เรื่องโรงพยาบาลยายคืนให้หนูได้นะลูกแต่เรื่องเงินสองพันล้านหนูพราวต้องตัดสินใจเอาเองแล้วล่ะ”แก้วเกตหันมาคุยกับพราวมุกเรื่องโรงพยาบาลเธอพร้อมที่จะยกให้ทายาทของสร้อยแสงดาวอยู่แล้วแต่เรื่องเงินสองพันล้านเห็นทีเธอจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่คนสองคนจะตัดสินใจกันแล้ว“ผมต้องตัดสินใจด้วยสิครับคุณย่า..ผมพึ่งเจอกับคุณพราวไม่กี่ครั้งเองจะให้มาแต่งงานกันได้ยังไง”“ใช่ค่ะ”พราวมุกเห็นด้วยก
“ผมบดข้าวกับตับให้ทะเลเรียบร้อยแล้วนะ”หลังจากที่พาทะเลกลับมาที่บ้านได้นนทวัตรถือถ้วยข้าวที่เขาพึ่งบดเสร็จออกมานั่งพร้อมหน้ากับหญิงสาวและเจ้าก้อนกลม“ขอบคุณค่ะ”ณจันทร์ยื่นมือรับถ้วยข้าวที่มือของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอเสียอย่างนั้นก่อนจะเข้ามานั่งตรงหน้าเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่บนรถเข็นแทน“วันนี้ผมขอป้อนเค้าบ้างได้หรือเปล่า”“ได้สิคะ”“อืม.. ฟู่”ข้าวบดคำโตที่เข้าปากเด็กชายไปตอนนี้ได้กระเด็นมาอยู่บนหน้าของนนทวัตรทั้งหมด“ทะเล”นนทวัตรรีบหันหน้าหลบร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกเจ้าตัวกลมจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว“เลอะหมดเลย”ณจันทร์รีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มทันทีและคิดว่าทะเลน่าจะไม่ชอบรสชาติของตับบดถึงได้พ่นออกมาแบบนี้“ทะเลน่าจะไม่ค่อยชอบรสชาติของตับบดน่ะค่ะเดี๋ยวฉันลองเอาฟักทองบดรวมดู”ณจันทร์เช็ดเหน้าให้นนทวัตรเรียบร้อยเธอจึงรีบเดินถือถ้วยข้าวเข้าไปในครัวใหม่เพื่อนำฟักทองที่ต้มแช่ตู่เย็นเอาไว้มาอุ่นและบดรวมไปกับข้าวของเด็กชายอีกครั้ง“แกล้งลุงเหรอห้ะ..เดี๋ยวก็ไม่ให้กินนมซะหรอก”นนทวัตรหันมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวกลมหลังจากที่หญิงสาวให้หลังไปแล้ว“แอ้ะ..”เจ้าแก้มยุ