แม่หม้ายป้ายแดงออกเที่ยวเพราะความเซ็งที่สามีของตนไปเป็นภรรยาคนอื่น เธอได้เจอกับปิญชาน์ ความสัมพันธ์เกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิด เธออยากหนี อยากจบ แต่สำหรับเขามันตรงกันข้าม
View Moreไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ
ไอรดาใช้เวลานานกว่าจะพาตัวเองเดินขึ้นมายังห้องพัก และพอประตูห้องปิดลงหญิงสาวก็ฟุบใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ความผิดหวังครั้งนี้มันมากเกินจะเก็บเอาไว้ได้ ไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกทิ้งเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน ความรู้สึกครั้งนี้มันหนักหนากว่าครั้งแรกเพราะเธอคิดว่าหมอปิญชาน์เป็นคนที่เข้าใจเธอและอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด เธอรักเขามากและคิดว่าเขาก็คงจะรักเธอมากเหมือนกัน แต่นั่นมันอาจจะเป็นเธอเองที่คิดเข้าข้างตนเองมากเกินไป ใครที่ไหนจะมาจริงจังกับแม่หม้ายอย่างเธอกัน คนที่เรียนเก่งทำงานเก่งแต่ทักษะการใช้ชีวิตแทบไม่มีอย่างเธอก็เหมาะสมแล้วที่โดนเขาหลอก จากนี้ไอรดาคิดว่าคงไม่รับใครเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว เวลาที่เหลือจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เวลาว่างก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครตายเพราะไม่มีคู่เลยสักคน แม้จะยังทำใจไม่ได้แต่ไอรดาก็ไม่อยากให้ความเสียใจมาส่งผลต่อร่างกาย หญิงสาวจึงอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปหาอะไรทาน พอทานอิ่มก็กลับขึ้นมาบนห้องแล้วเธอก็บังเอิญเจอกับคุณหมอสิรภพที่กำลังจะกลับขึ้นห้องพอดี “หมออัยย์ผมกำลังจะไปหาที่ห้องเล
เมื่อปัญหาทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วไอรดาก็กลับมายิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง คุณหมอสาวตรวจคนไข้คนสุดท้ายของวันนี้เสร็จในเวลาเกือบจะสองทุ่มแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ถ้าไม่ถึงเวลาปิดแผนกเธอคงจะนั่งตรวจต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน “หมออัยย์ค่ะ คนไข้หมดแล้วยังไม่รีบกลับเหรอคะ” นีรนุชเดินเข้ามายังห้องตรวจเห็นว่าคุณหมอยังไม่เตรียมตัวกลับก็ถามขึ้น “ค่ะพี่นุช เดี๋ยวอัยย์ก็กลับแล้วค่ะ” “ตั้งแต่เป็ดโสดอีกครั้งดูหมออัยย์มีความสุขมากนะคะ” “พี่นุชดูออกเลยเหรอคะ” “ใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละค่ะ”“นี่อัยย์คิดว่าตัวเองเก็บอาการอยู่แล้วนะคะ”“พี่ไม่รู้ว่าหมออัยย์กับคุณติมีปัญหาอะไรกันถึงแม้จะแอบเสียใจที่หมออัยย์เลิกกับเขา แต่พอเห็นว่าหมอออัยย์มีความสุขแบบนี้พี่ก็ดีใจด้วยค่ะ” “ขอบคุณค่ะ อัยย์ก็มีความสุขจริงนั่นแหละค่ะ ส่วนเรื่องเลิกกันเพราะอะไรถ้าใครตาม ig พี่ติก็คงจะรู้เองล่ะคะ” ไอรดาไม่ได้บอกใครถึงเหตุผลที่ตนเองเลิกกับสามี เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งเรื่องที่เธอกับเขาหย่ากันเธอก็ไม่ได้เป็นคนป่าวประกาศแต่เป็นเขาเองที่
ไอรดาตัดสินใจพาครอบครัวของตนไปพบบิดามารดาของอติรุจน์ตามกำหนดเดิมเพราะอยากให้เรื่องทุกอย่างนั้นจบ เธอไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังอยู่แบบนี้จากที่เห็นใจในความรักของอติรุจน์และพนาที่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเรื่องที่เขาเอามาขู่เธอเมื่อวานนั้นมันน่าเกลียดจนเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม ความเป็นพี่เป็นน้องระหว่างเธอกับเขามันหมดลงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณยาย คุณอร คุณนุ เชิญด้านในก่อนนะคะ พวกเราดีใจที่ทุกคนแวะมาเยี่ยม” มารดาของอติรุจ์ออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น“บ้านน่าอยู่จังเลยนะคะ” อรอินเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเอ่ยชม“ขอบคุณนะคะ คราวหน้าถ้ามากรุงเทพก็มาพักที่บ้านได้นะคะ เพราะพักที่บ้านตาติกับหนูอัยย์คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ที่นี่ห้องหับเยอะแยะเลยค่ะ”“พวกคงไม่รบกวนคุณรจนาหรอกค่ะ ที่แวะมานี่ก็แค่จะมาแจ้งข่าว”“แจ้งข่าวอะไรเหรอครับ” คุณวสันต์ถามอย่างสงสัยเพราะนึกไม่ออกว่าจะมีข่าวอะไรที่คุณยายนวลแขถึงมาแจ้งด้วยตนเองแบบนี้ “ฉันไม่อยากจะอ้อมค้อมให้เสียเวลาหรอกนะคะ เอาเป็นว่าที่พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อจะเอาสินสอดและของหมั้น
“เฮ้อ!”เสียงถอนหายใจดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องตรวจปิดลงในเวลา 20.15 น. แพทย์หญิงไอรดาทิ้งร่างพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง เธอตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็นับเวลารวม 12 ชั่วโมง นี่ยังไม่รวมเวรกลางคืนที่เธอคอยรับคนไข้เด็กจากห้องคลอดอีกสองคืนก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูทำให้คุณหมอสาวนั่งตัวตรงอีกครั้งเพราะคิดว่าจะมีคนไข้มาตรวจกับเธอถึงแม้จะเลยเวลาตรวจไปแล้วแต่ถ้ายังมีคนไข้ ไอรดาก็มักจะตรวจจนกว่าจะหมด เพราะรู้ว่าถ้าตนเองไม่ตรวจ คนไข้เหล่านั้นก็จะต้องไปตรวจต่อกับคุณหมอที่ห้องฉุกเฉินซึ่งบางครั้งก็ไม่มีหมอเฉพาะทางเด็ก“หมดแรงเลยเหรอคะหมออัยย์” นีรนุชพยาบาลประจำแผนกเด็กถามขึ้น“ค่ะ พี่นุช อัยย์ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ต้องกลับช้าอีกแล้ว”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ได้รับไปไหนว่าแต่หมออัยย์เถอะค่ะ อีกสองวันก็จะแต่งงานแล้วยังจะรับขึ้นเวรอีกนะคะ”“ก็หลังแต่งอัยย์ขอลางานต่ออีกหนึ่งอาทิตย์นี่คะ เลยต้องแลกเวรกับหมอปิ่น”“จะไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะคะ”“ยังไม่รู้เลยค่ะพี่นุช แฟนอัยย์ไม่ยอมบอกอะไรเลย”“น่ารักจังนะคะ สงสัยคุณติคงอยากให้หมออัยย์เซอร์ไพรส์” นีรนุชเคยเจอว่าที่สามีคุณหมอไอรดาอยู่หลายครั้ง เข...
Comments