เมื่อมีคนหนึ่งออกไปจากกิจกรรม คนที่ทำหน้าที่พิธีกรก็เลยต้องประกาศหาคนมาร่วมสนุกเพิ่ม แต่เพราะรอบสุดท้ายเป็นการจับคู่เต้นรำก็เลยไม่มีใครอยากเข้าร่วมเนื่องจากคนที่จะเข้ามาใหม่ไม่มีโอกาสทำความรู้จักผู้หญิงทั้งห้าคนเลยสักนิด
เมื่อพอจะเดาสถานการณ์ได้ว่าตัวเองคงจะไม่มีใครเลือกให้เป็นคู่เต้นรำ ไอรดาเลยคิดจะถอนตัวแต่ยังเดินไปไม่ถึงพิธีกรผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่าจะเข้ารวมกิจกรรมนี้แทนผู้ชายคนที่เดินออกไป
“ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้คุณผู้ชายที่เข้ามาใหม่เสียเปรียบผมให้เวลาคุณทำความรู้จักกับสาวๆ ทั้งห้าคนละหนึ่งนาทีนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมองเธอตั้งแต่เริ่มกิจกรรมแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเริ่มกิจกรรมของคุณได้เลย” ปิญชาน์ไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลาเพราะตัวเงอ และอีกอย่างเขาก็ตั้งใจมาเต้นรำกับหญิงชุดดำอยู่แล้วเมื่อชายหนุ่มยืนยันไปแบบนั้นพิธีกรก็เลยอธิบายขั้นตอนการเลือกคู่เต้นรำ ซึ่งครั้งนี้ฝ่ายจะมอบดอกไม้ให้กับฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายหญิงจะยังไม่ออกไปเต้นรำด้วย เพราะไม่อยากเป็นการบังคับจนเกินไป ฝ่ายหญิงมีสิทธิ์ที่จะออกไปเต้นรำด้วยหรือไม่ก็ได้
และทันทีที่เพลงแรกจบก็ถือว่ากิจกรรมนี้จบลงเช่นกัน ถ้าคู่ไหนอยากจะเต้นรำกันต่อหรือต่างฝ่ายต่างแยกย้ายก็แล้วแต่ความสมัครใจของทั้งสองคน
สาวๆ ต่างพากันตื่นเต้นเพราะผู้ชายที่เข้ามาใหม่นั้นทั้งหล่อทั้งหุ่นดีแม้ว่าจะมองหน้าไม่ค่อยชัดเท่าไหร่แต่ทุกคนก็ลงความเห็นว่าเขานั้นหล่อกว่าอีกสี่คนที่เหลืออย่างเห็นได้ชัด
พอพิธีกรให้สัญญาญฝ่ายชายก็เดินเข้ามาหาฝ่าหญิง ไอรดาไม่ได้สนใจมองคนอื่นว่าถูกเลือกหรือไม่เพราะเธอกำลังใจเต้นแรงเมื่อผู้ชายที่เข้ามาใหม่เมื่อครู่เดินตรงมาที่เธอพร้อมกับส่งดอกไม้ในมือให้เธอ ก่อนจะก้มเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงออกมาจากตัวเขา
“ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ คุณสารัชเป็นคนส่งผมมา”
“พี่รัชที่เป็นเจ้าของร้านเหรอคะ”
ไอรดาถามและหันไปมองหน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ก็เห็นว่าสารัชพยักหน้า หญิงสาวก็เลยเบาใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มาหลอกเธอ
พอถึงคราวที่ฝ่ายหญิงจะต้องเอาดอกไม้ไปคืนให้ฝ่ายชายเพื่อเป็นการตอบตกลงว่าเธอจะเต้นรำด้วยไอรดาก็เดินตรงไปที่เขาอย่างไม่ลังเล
หลังจากเต้นรำจบเพลงแรกแล้วปิญชาน์ก็ชวนหญิงสาวขึ้นนั่งดื่มกันต่อที่โซนวีไอพีบนชั้นสอง เพราะคิดว่าภาคินจะยังรออยู่แต่พอขึ้นมาแล้วก็พบว่าตอนนี้ทั้งภาคินและสารัชนั้นหายออกไปจากร้านแล้ว
“คุณชาน์ทำงานที่นี่เหรอคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มรีบรับสมอ้างเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกเสียหน้า และเขาก็อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น อยากรู้ว่าเธอมีมุมมองยังไงถ้าเขาเป็นแค่พนักงานในร้านคนหนึ่ง และถ้าคุยกันถูกคอเขาก็จะบอกกับเธอว่าเขาไม่ใช่พนักงานแต่เป็นเพื่อนกับสารัชที่บังเอิญมานั่งดื่มที่นี่
“อัยย์ไม่เคยเรียกเด็กมานั่งคุยแบบนี้มาก่อน จะเป็นไรไหมถ้าอัยย์จะถามว่าเขาคิดราคากันยังไงเหมือนผู้หญิงที่นั่งดริ้งค์หรือเปล่าคะ”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“งั้นอัยย์ต้องสั่งเครื่องดื่มใช่ไหมคะคุณถึงจะได้เงิน”
“ครับ”
“อัยย์ขอบคุณนะคะที่ลงไปเต้นรำกับอัยย์เมื่อกี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอัยย์คงได้หน้าแตกแน่ๆ ที่ไม่มีคู่เต้นรำ เดี๋ยวอัยย์จะสั่งเครื่องดื่มสัก 10 ดริ้งค์นะคะเพื่อเป็นการขอบคุณ”
“ผมว่ามันมากไปหรือเปล่าครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หรือว่าคุณต้องไปนั่งคุยกับคนอื่น”
“เปล่าหรอกครับ คืนนี้ผมคงคุยกับคุณแค่คนเดียว”
“ทำงานนี้มานานหรือยังคะ” เธอมาที่นี่หลายครั้งแต่ไม่เคยเจอเขา และก็ไม่รู้ว่าที่ร้านของสารัชมีเด็กมานั่งคุยแบบนี้ด้วย
“ขอโทษนะครับ ที่นี่เรามีกฎว่าห้ามถามเรื่องส่วนตัวของพนักงานครับ เรามีหน้าที่รับฟังเท่านั้น” ปิญชาน์จำกฎแบบนี้ได้เพราะเขาก็เคยเรียกเด็กมานั่งคุยอยู่หลายครั้ง
“เหรอคะ จะว่าไปก็คุณก็เหมือนหมอนะคะ”
“หมอเหรอครับ” ชายหนุ่มตกใจที่เธอบอกว่าเขาเหมือนหมอเพราะคืนนี้เขาว่าตัวเองไม่ได้ใกล้เคียงกับคำนั้นเลย
“ค่ะ เหมือนจิตแพทย์ค่ะ ที่คอยรับฟังปัญหาของคนอื่น”
“แล้วคุณมีปัญหาอะไรจะเล่าให้ผมฟังไหมล่ะครับ”
“คุณจะรักษาความลับของฉันได้ไหมล่ะครับ”
“แน่นอนเพราะผมก็มีจรรยาบรรณของผมนะครับ แต่ถ้าไม่สะดวกใจก็ไม่ต้องพูดนะครับ ผมไม่ได้บังคับ อ้อ แล้วผมเห็นคุณสวมแหวนแต่งงาน แล้วคุณมาเที่ยวแบบนี้ผมจะไม่เดือดร้อนใช่ไหมครับ”
“ฉันหย่าแล้วค่ะ” เพราะเขาสัญญาว่าจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับไอรดาเลยกล้าพูดออกไป
“หย่าแล้ว หมายถึงคุณเป็นแม่หม้ายเหรอครับ”
“ค่ะ ฉันเป็นแม่หม้ายถ้าจะเรียกให้ถูกก็คงจะเป็นแม่หม้ายป้ายแดง เพราะฉันเพิ่งอย่าไปเมื่อเช้าเองค่ะ”
“อยากเล่าไหมครับ”
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอย่างฟังเรื่องราวของเธอทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยอยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร
“ขอเล่าไปดื่มไปนะคะ”
“ได้สิครับ”
คนที่บอกจะเล่าไปดื่มก็กระดกเครื่องดื่มเข้าปากราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า
“คุณว่าอัยย์สวยไหม”
“ครับ”
“คุณว่าอัยย์เซ็กซี่ไหม” หญิงสาวลุกขึ้นหมุนตัวให้เขาดูสามรอบก่อนจะนั่งลงบนตักเขาอย่างไม่ตั้งใจ
“ครับ” ปิญชาน์เริ่มหายใจติดขัดเพราะตอนนี้หน้าอกของหญิงสาวแทบจะทิ่มหน้าเขาอยู่แล้ว
“นั้นไง ฉันทั้งสวยทั้งเซ็กซี่แต่ก็ยังถูกผู้ชายทิ้ง”
“ใครกันที่มันตาต่ำแบบนั้น”
“นั่นสิ ตาต่ำมาก ถ้าเป็นคุณ คุณจะทิ้งฉันไหมล่ะ”
“ไม่มีทาง หุ่นแบบคุณใครทิ้งก็ทั้งบ้าทั้งโง่แล้วครับ”
“ถ้างั้นเขาก็เป็นคนบ้าที่โง่มาก ที่ทิ้งฉัน”
“ครับ”
“ฉันโดนทิ้ง ฉันเป็นแม่หม้ายแล้วชีวิตคงไม่อะไรแย่กว่านี้อีกแล้วล่ะ”
“มันแน่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ คุณยังรักเขาเหรอเหรอครับถึงยังไม่ยอมถอดแหวนแต่งงานออก”
“เรียกว่าเคยรักดีกว่าค่ะ แต่ที่ยังไม่ยอมถอดแหวนก็เพราะในหนึ่งปีนี้เราจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าเราหย่ากันแล้ว”
“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณโสด ถ้าผมจะจีบได้ไหม”
“ขอเหตุผล”
“เพราะคุณทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ไงล่ะ สเปกผมเลยนะ”
“คุณก็คงปากหวานกับแขกทุกคน”
“ถึงผมจะปากหวานแต่ก็ไม่ใช้ทุกคนที่ผมยอมนอนด้วย”
“คุณพูดเหมือนจะนอนกันฉัน” ไอราดมองหน้าเขาอย่างใช้ความคิด อันที่จริงเขาก็หล่อถูกใจเธอที่สุดหล่อกว่าอดีตสามีของเธอด้วยซ้ำ
“ถ้าคุณสนใจ ผมคิดราคาไม่แพง ถือว่าต่างฝ่ายต่างหาความสุข” ตอนนี้ปิญชาน์สวมบทโฮสหนุ่มเพราะเขารู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนี้มาก เธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสา เธอผ่านการแต่งงานมาแล้ว ซึ่งเขาก็มั่นใจเลยว่าจะไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์อย่างแน่นอน
“นี่ฉันอดอยากถึงขนาดซื้อผู้ชายกินแล้วเหรอ” ไอรดาหัวเราะให้กับตัวเอง
“อย่าเรียกว่าซื้อผู้ชายสิครับ เรียกว่าซื้อความสุขดูจะเหมาะกว่า”
“ขอฉันกินเหล้าย้อมใจก่อนนะ”
“ผมให้คุณกินอีกสองแก้วแล้วเราจะออกไปหาความสุขด้วยกัน”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำเรื่องแบบนี้” เพราะมันไม่มีอะไรจะเสียหายแล้ว เธอแต่งงานแล้วจะมีใครที่ไหนคิดว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่อีก ในเมื่อเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนรักแต่เขากลับไม่ต้องการเพราะฉะนั้นเธอจะไปสนใจทำไม สู้หาความสุขให้ตัวเองอย่างที่ผู้ชายคนนี้บอกยังจะดีกว่า
“ใครๆ ก็มีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหละครับ ผมรับรองว่าคุณจะมีความสุข”
“คุณไม่รังเกียจแม่หม้ายเหรอคะ”
“มันก็แค่สถานะที่สังคมมอบให้เท่านั้น เวลาอยู่บนเตียงมันก็คือเรื่องของคนสองคน”
“แล้วเรื่องนี้เราจะรู้กันแค่สองคนใช่ไหม”
“แน่นอนครับ ผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมทำงานงานแบบนี้”
“คุณจะไม่แบล็กเมลฉันทีหลังใช่ไหม” หญิงสาวกังวลกับภาพลักษณ์คุณหมอใจดีของเด็กๆ และไหนจะคุณยายที่กำลังป่วยอยู่ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูท่านเธอคงได้กลายเป็นหลานอกตัญญูแน่ๆ
“ไม่หรอกครับ ถ้าผมทำแบบนั้นก็เท่ากับผมทุบหม้อข้าวตัวเองนะครับ ใครจะเชื่อใจแล้วเรียกใช้บริการผมอีกล่ะ คุณไม่รู้หรอกว่าการทำอาชีพนี้มันก็มีจรรยาบรรณเหมือนกัน”
“แล้วฉันต้องจ่ายคุณยังไง” ไอรดาถามออกไปตรงๆ เพราะเรื่องแบบนี้เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจ่ายกันยังไง
“แค่ค่าเครื่องดื่มที่คุณซื้อผมว่ามันก็มากพอที่ผมจะทำให้คุณมีความสุขแล้วล่ะครับ”
“คุณชาน์ อัยย์เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”ไอรดาถามขณะที่ประตูห้องของโรงแรมปิดลง“ไม่ทันแล้วครับคุณอัยย์”“ว๊าย..คุณชาน์”ไอรดาอุทานเมื่อชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังยืนงงอยู่ดึงให้เธอเข้าไปหาแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมทับสองขากันเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน“ทําไมล่ะครับ หรือคุณคิดว่าผมให้ความสุขคุณไม่ได้” เขาก้มถามอย่างใกล้ชิดจนเห็นแววตาของอีกฝ่ายว่าตอนนี้มีทั้งความกังวลและความตื่นตระหนกอยู่ในนั้น ในขณะที่ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา“ฉันว่ามันถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”“อะไรคือความถูกต้องล่ะครับในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราแค่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น”“แต่อัยย์”“นะครับอัยย์ ให้ผมถอยตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว”“เรื่องของเราต้องเป็นความลับนะคะ”“แน่นอนอัยย์”ปิญชาน์ตอบอย่างมั่นใจเพราะเขาก็ไม่อยากจะผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน เขาชอบชีวิตอิสระ เมื่อเห็นเธอนิ่งเขาก็การโน้มริมฝีปากลงไปมอบจุมพิตที่เร่าร้อนลงไปยังกลับปากสีแดงสดริมฝีปากของไอรดาถูกประกบทาบทับด้วยไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแนบชิด เป็นครั้งแรกก็สร้างความตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาน
“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ” “อ๊ะ! คุณชาน์”ไอรดาร้องเสียงหลงเมื่อเรียวขาคู่สวยของเธอถูกเขาจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเมื่อครู่ กลีบดอกไม้สีสวยลอยเด่นตรงหน้าเขาชัดเจน“อย่ามองแบบนั้น”“จะอายทำไมล่ะอัยย์ ผมว่ามันสวยผมชอบนะ”เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะดันขาของเธอให้กว้างออกมากพอที่ตัวเขาจะแทรกไปอยู่ตรงกลางได้ จากนั้นก็รีบสวมถุงยางอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนจับขาของไอรดาให้ยกชันขึ้น ทุกการกระทำของเขาทำให้ไอรดาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด ไอรดาสบตาคมปลาบ ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าขาวซับสีเลือดบอกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านหญิงสาวมองใบหน้าเขา ที่กำลังแดงก่ำ เส้นเลือดที่ลำคอเต้นจนเห็นชัด เธอไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง จะเหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกไหม แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกของแข็งร้อนรุกล้ำอยู่ตรงเบื้องล่าง“อ๊ะ คุณชาน์”หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากำลังชำแรกเข้ามาในตัวเธอจนอึดอัดและคับแน่น รู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“อัยย์อย่าเกร็ง สูดหายใจลึกๆ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ตนเองก็ขบกรามแน่น เขากำลั
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
วันนี้อติรุจน์มารับไอรดาที่คอนโดตั้งแต่เช้าจากนั้นก็นัดแนะคำพูดให้ตรงกัน ก่อนจะเอาของฝากไปให้ที่บ้านบิดามารดาของชายหนุ่ม ทั้งสองแสดงว่าเป็นคู่ที่รักกันมากจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนต่างยิ้มและรอคอยที่จะอุ้มหลาน ไอรดาได้แต่ยิ้มรับเพราะเรื่องนี้มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นและเธอก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด แต่ที่หนักใจก็ตอนที่กำลังไปยังบ้านสวนของคุณยายนวลแข ไอรดากลัวว่าจะโดนคุณยายจับได้ “เมื่อกี้เรายังผ่านมาได้ พี่ว่าอัยย์อย่ากังวลไปเลยนะ” อติรุจน์เห็นหญิงสาวเอาแต่เงียบก็พูดปลอบใจ “ก็อัยย์กลัวนี่คะพี่ติ ถ้าคุณยายถามอะไรพี่ติเป็นคนตอบได้ไหม ส่วนอัยย์จะไปคุยกับคุณลุงคุณป้า” “ได้สิ อัยย์แค่นั้นยิ้มก็พอ เรื่องที่เหลือพี่จัดการเอง” พอลงจากรถเด็กรับใช้คนสนิทของคุณยายก็รีบเข้ามารับถุงของฝากขึ้นไปบนบ้านเรือนไทยก่อนที่ไอรดาและสามีจะเดินตามไปขึ้น “สวัสดีค่ะคุณยาย” ไอรดาเข้าไปกอดอย่างประจบ “สวัสดีครับคุณยาย ผมซื้อพวกวิตามินแล้วก็ผ้าพันคอสวยๆ มาฝากคุณยายกับป้าอรด้วยนะครับ ส่วนของลุงนุกับพี่ณัฐผมก็ซื้อกระเป๋าหนังอย่างดีกับน้ำหอมมาฝาก”
ปิญชาน์เช็ดตัวให้คนที่นอนหมดแรงจนสะอาดเอี่ยมจากนั้นตัวเองก็รีบอาบน้ำและกลับมานอนกอดร่างที่เปลือยเปล่า ให้ศีรษะของเธอหนุนบนท่อนแขน มือใหญ่โอบเอวเธอไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงไอรดากระซิบบอกรักนั่นยิ่งทำให้เขานอนหลับอย่างมีความสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะกลายเป็นเพียงความฝันเมื่อตื่นเช้ามาเขาเจอโน้ตที่หญิงสาวเขียนทิ้งไว้พร้อมกับเช็คเงินสดหนึ่งแสนบาท ‘ขอบคุณที่เข้ามาทำให้อัยย์มีความสุข ขอบคุณที่มาเติมเต็มนะคะ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปได้ยาก อัยย์ไม่ใช่คนตัวเปล่า ถึงจะหย่าแล้วแต่สถานะทางสังคมก็ยังต้องดำเนินต่อ ขอโทษที่ไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ หวังว่าคุณจะให้อภัยนะคะ รักคุณนะ....อัยย์’ ปิญชาน์ทั้งโกรธทั้งโมโหที่เธอทิ้งเขาไปแบบนี้ แม้จะดีใจกับคำบอกรัก แต่สิ่งที่เธอทำนั้นเขาคิดว่ามันมากเกินไป เธอทำราวกับว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว ชายหนุ่มรีบสวมเสื้อผ้าและกลับไปเก็บของที่โรงแรม ระหว่างทางที่ขับรถกลับก็พยายามจะติดต่อกับหญิงสาว อยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องแต่เธอคงจะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของ
ไอรดาอาบน้ำไปด้วยใช้ความคิดไปด้วยจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขามายืนอยู่ด้านหลังเธอแล้ว “ผมช่วยอาบไหมอัยย์” “คุณชาน์เข้ามาได้ยังไงคะ” “ก็ห้องน้ำตัวล็อกมันเสีย” เขาตอบขณะที่เข้ามายืนประชิด สาวตาจ้องไปที่เรือนร่างที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ราวกับเธอเป็นภาพศิลปะที่หาดูยาก “คุณชาน์อย่างจ้องอัยย์แบบนั้นสิคะ” พูดพลางเอาสองมือปิดส่วนสงวนทั้งบนทั้งล่าง “จะปิดทำผมเห็นมาทั้งตัวแล้ว ให้ผมช่วยอาบนะ จะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวก็สบายหรอก” “แต่อัยย์อาบเองได้” “อย่าห้ามเลยผมอยากทำนะครับอัยย์” แล้วคนมีวาทะศิลป์ก็ทำให้หญิงสาวยอมอีกจนได้ ฝ่ามือร้อนลูบไปตามผิวเนียนอย่างแผ่วเบาในขณะที่ไอรดาได้แต่ยื่นนิ่งมองทุกการกระทำของเข้าด้วยหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ ร่างกายเธอเสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขาลากผ่าน ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นมันขยายใหญ่จนดูน่าเกรงขาม หญิงสาวลำคอแห้งผากเมื่อคิดว่าความเป็นชายของเขานั้นต่างจากที่เธอเคยเห็นทั้งขนาดและความยาวและไม่คิดเลยว่าทุกครั้งที่เข้าไปในตัวเธอนั้นมันสร้างควา
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ