เมื่อมีคนหนึ่งออกไปจากกิจกรรม คนที่ทำหน้าที่พิธีกรก็เลยต้องประกาศหาคนมาร่วมสนุกเพิ่ม แต่เพราะรอบสุดท้ายเป็นการจับคู่เต้นรำก็เลยไม่มีใครอยากเข้าร่วมเนื่องจากคนที่จะเข้ามาใหม่ไม่มีโอกาสทำความรู้จักผู้หญิงทั้งห้าคนเลยสักนิด
เมื่อพอจะเดาสถานการณ์ได้ว่าตัวเองคงจะไม่มีใครเลือกให้เป็นคู่เต้นรำ ไอรดาเลยคิดจะถอนตัวแต่ยังเดินไปไม่ถึงพิธีกรผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่าจะเข้ารวมกิจกรรมนี้แทนผู้ชายคนที่เดินออกไป
“ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้คุณผู้ชายที่เข้ามาใหม่เสียเปรียบผมให้เวลาคุณทำความรู้จักกับสาวๆ ทั้งห้าคนละหนึ่งนาทีนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมองเธอตั้งแต่เริ่มกิจกรรมแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเริ่มกิจกรรมของคุณได้เลย” ปิญชาน์ไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลาเพราะตัวเงอ และอีกอย่างเขาก็ตั้งใจมาเต้นรำกับหญิงชุดดำอยู่แล้วเมื่อชายหนุ่มยืนยันไปแบบนั้นพิธีกรก็เลยอธิบายขั้นตอนการเลือกคู่เต้นรำ ซึ่งครั้งนี้ฝ่ายจะมอบดอกไม้ให้กับฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายหญิงจะยังไม่ออกไปเต้นรำด้วย เพราะไม่อยากเป็นการบังคับจนเกินไป ฝ่ายหญิงมีสิทธิ์ที่จะออกไปเต้นรำด้วยหรือไม่ก็ได้
และทันทีที่เพลงแรกจบก็ถือว่ากิจกรรมนี้จบลงเช่นกัน ถ้าคู่ไหนอยากจะเต้นรำกันต่อหรือต่างฝ่ายต่างแยกย้ายก็แล้วแต่ความสมัครใจของทั้งสองคน
สาวๆ ต่างพากันตื่นเต้นเพราะผู้ชายที่เข้ามาใหม่นั้นทั้งหล่อทั้งหุ่นดีแม้ว่าจะมองหน้าไม่ค่อยชัดเท่าไหร่แต่ทุกคนก็ลงความเห็นว่าเขานั้นหล่อกว่าอีกสี่คนที่เหลืออย่างเห็นได้ชัด
พอพิธีกรให้สัญญาญฝ่ายชายก็เดินเข้ามาหาฝ่าหญิง ไอรดาไม่ได้สนใจมองคนอื่นว่าถูกเลือกหรือไม่เพราะเธอกำลังใจเต้นแรงเมื่อผู้ชายที่เข้ามาใหม่เมื่อครู่เดินตรงมาที่เธอพร้อมกับส่งดอกไม้ในมือให้เธอ ก่อนจะก้มเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงออกมาจากตัวเขา
“ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ คุณสารัชเป็นคนส่งผมมา”
“พี่รัชที่เป็นเจ้าของร้านเหรอคะ”
ไอรดาถามและหันไปมองหน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ก็เห็นว่าสารัชพยักหน้า หญิงสาวก็เลยเบาใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มาหลอกเธอ
พอถึงคราวที่ฝ่ายหญิงจะต้องเอาดอกไม้ไปคืนให้ฝ่ายชายเพื่อเป็นการตอบตกลงว่าเธอจะเต้นรำด้วยไอรดาก็เดินตรงไปที่เขาอย่างไม่ลังเล
หลังจากเต้นรำจบเพลงแรกแล้วปิญชาน์ก็ชวนหญิงสาวขึ้นนั่งดื่มกันต่อที่โซนวีไอพีบนชั้นสอง เพราะคิดว่าภาคินจะยังรออยู่แต่พอขึ้นมาแล้วก็พบว่าตอนนี้ทั้งภาคินและสารัชนั้นหายออกไปจากร้านแล้ว
“คุณชาน์ทำงานที่นี่เหรอคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มรีบรับสมอ้างเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกเสียหน้า และเขาก็อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น อยากรู้ว่าเธอมีมุมมองยังไงถ้าเขาเป็นแค่พนักงานในร้านคนหนึ่ง และถ้าคุยกันถูกคอเขาก็จะบอกกับเธอว่าเขาไม่ใช่พนักงานแต่เป็นเพื่อนกับสารัชที่บังเอิญมานั่งดื่มที่นี่
“อัยย์ไม่เคยเรียกเด็กมานั่งคุยแบบนี้มาก่อน จะเป็นไรไหมถ้าอัยย์จะถามว่าเขาคิดราคากันยังไงเหมือนผู้หญิงที่นั่งดริ้งค์หรือเปล่าคะ”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“งั้นอัยย์ต้องสั่งเครื่องดื่มใช่ไหมคะคุณถึงจะได้เงิน”
“ครับ”
“อัยย์ขอบคุณนะคะที่ลงไปเต้นรำกับอัยย์เมื่อกี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอัยย์คงได้หน้าแตกแน่ๆ ที่ไม่มีคู่เต้นรำ เดี๋ยวอัยย์จะสั่งเครื่องดื่มสัก 10 ดริ้งค์นะคะเพื่อเป็นการขอบคุณ”
“ผมว่ามันมากไปหรือเปล่าครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หรือว่าคุณต้องไปนั่งคุยกับคนอื่น”
“เปล่าหรอกครับ คืนนี้ผมคงคุยกับคุณแค่คนเดียว”
“ทำงานนี้มานานหรือยังคะ” เธอมาที่นี่หลายครั้งแต่ไม่เคยเจอเขา และก็ไม่รู้ว่าที่ร้านของสารัชมีเด็กมานั่งคุยแบบนี้ด้วย
“ขอโทษนะครับ ที่นี่เรามีกฎว่าห้ามถามเรื่องส่วนตัวของพนักงานครับ เรามีหน้าที่รับฟังเท่านั้น” ปิญชาน์จำกฎแบบนี้ได้เพราะเขาก็เคยเรียกเด็กมานั่งคุยอยู่หลายครั้ง
“เหรอคะ จะว่าไปก็คุณก็เหมือนหมอนะคะ”
“หมอเหรอครับ” ชายหนุ่มตกใจที่เธอบอกว่าเขาเหมือนหมอเพราะคืนนี้เขาว่าตัวเองไม่ได้ใกล้เคียงกับคำนั้นเลย
“ค่ะ เหมือนจิตแพทย์ค่ะ ที่คอยรับฟังปัญหาของคนอื่น”
“แล้วคุณมีปัญหาอะไรจะเล่าให้ผมฟังไหมล่ะครับ”
“คุณจะรักษาความลับของฉันได้ไหมล่ะครับ”
“แน่นอนเพราะผมก็มีจรรยาบรรณของผมนะครับ แต่ถ้าไม่สะดวกใจก็ไม่ต้องพูดนะครับ ผมไม่ได้บังคับ อ้อ แล้วผมเห็นคุณสวมแหวนแต่งงาน แล้วคุณมาเที่ยวแบบนี้ผมจะไม่เดือดร้อนใช่ไหมครับ”
“ฉันหย่าแล้วค่ะ” เพราะเขาสัญญาว่าจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับไอรดาเลยกล้าพูดออกไป
“หย่าแล้ว หมายถึงคุณเป็นแม่หม้ายเหรอครับ”
“ค่ะ ฉันเป็นแม่หม้ายถ้าจะเรียกให้ถูกก็คงจะเป็นแม่หม้ายป้ายแดง เพราะฉันเพิ่งอย่าไปเมื่อเช้าเองค่ะ”
“อยากเล่าไหมครับ”
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอย่างฟังเรื่องราวของเธอทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยอยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร
“ขอเล่าไปดื่มไปนะคะ”
“ได้สิครับ”
คนที่บอกจะเล่าไปดื่มก็กระดกเครื่องดื่มเข้าปากราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า
“คุณว่าอัยย์สวยไหม”
“ครับ”
“คุณว่าอัยย์เซ็กซี่ไหม” หญิงสาวลุกขึ้นหมุนตัวให้เขาดูสามรอบก่อนจะนั่งลงบนตักเขาอย่างไม่ตั้งใจ
“ครับ” ปิญชาน์เริ่มหายใจติดขัดเพราะตอนนี้หน้าอกของหญิงสาวแทบจะทิ่มหน้าเขาอยู่แล้ว
“นั้นไง ฉันทั้งสวยทั้งเซ็กซี่แต่ก็ยังถูกผู้ชายทิ้ง”
“ใครกันที่มันตาต่ำแบบนั้น”
“นั่นสิ ตาต่ำมาก ถ้าเป็นคุณ คุณจะทิ้งฉันไหมล่ะ”
“ไม่มีทาง หุ่นแบบคุณใครทิ้งก็ทั้งบ้าทั้งโง่แล้วครับ”
“ถ้างั้นเขาก็เป็นคนบ้าที่โง่มาก ที่ทิ้งฉัน”
“ครับ”
“ฉันโดนทิ้ง ฉันเป็นแม่หม้ายแล้วชีวิตคงไม่อะไรแย่กว่านี้อีกแล้วล่ะ”
“มันแน่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ คุณยังรักเขาเหรอเหรอครับถึงยังไม่ยอมถอดแหวนแต่งงานออก”
“เรียกว่าเคยรักดีกว่าค่ะ แต่ที่ยังไม่ยอมถอดแหวนก็เพราะในหนึ่งปีนี้เราจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าเราหย่ากันแล้ว”
“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณโสด ถ้าผมจะจีบได้ไหม”
“ขอเหตุผล”
“เพราะคุณทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ไงล่ะ สเปกผมเลยนะ”
“คุณก็คงปากหวานกับแขกทุกคน”
“ถึงผมจะปากหวานแต่ก็ไม่ใช้ทุกคนที่ผมยอมนอนด้วย”
“คุณพูดเหมือนจะนอนกันฉัน” ไอราดมองหน้าเขาอย่างใช้ความคิด อันที่จริงเขาก็หล่อถูกใจเธอที่สุดหล่อกว่าอดีตสามีของเธอด้วยซ้ำ
“ถ้าคุณสนใจ ผมคิดราคาไม่แพง ถือว่าต่างฝ่ายต่างหาความสุข” ตอนนี้ปิญชาน์สวมบทโฮสหนุ่มเพราะเขารู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนี้มาก เธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสา เธอผ่านการแต่งงานมาแล้ว ซึ่งเขาก็มั่นใจเลยว่าจะไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์อย่างแน่นอน
“นี่ฉันอดอยากถึงขนาดซื้อผู้ชายกินแล้วเหรอ” ไอรดาหัวเราะให้กับตัวเอง
“อย่าเรียกว่าซื้อผู้ชายสิครับ เรียกว่าซื้อความสุขดูจะเหมาะกว่า”
“ขอฉันกินเหล้าย้อมใจก่อนนะ”
“ผมให้คุณกินอีกสองแก้วแล้วเราจะออกไปหาความสุขด้วยกัน”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำเรื่องแบบนี้” เพราะมันไม่มีอะไรจะเสียหายแล้ว เธอแต่งงานแล้วจะมีใครที่ไหนคิดว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่อีก ในเมื่อเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนรักแต่เขากลับไม่ต้องการเพราะฉะนั้นเธอจะไปสนใจทำไม สู้หาความสุขให้ตัวเองอย่างที่ผู้ชายคนนี้บอกยังจะดีกว่า
“ใครๆ ก็มีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหละครับ ผมรับรองว่าคุณจะมีความสุข”
“คุณไม่รังเกียจแม่หม้ายเหรอคะ”
“มันก็แค่สถานะที่สังคมมอบให้เท่านั้น เวลาอยู่บนเตียงมันก็คือเรื่องของคนสองคน”
“แล้วเรื่องนี้เราจะรู้กันแค่สองคนใช่ไหม”
“แน่นอนครับ ผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมทำงานงานแบบนี้”
“คุณจะไม่แบล็กเมลฉันทีหลังใช่ไหม” หญิงสาวกังวลกับภาพลักษณ์คุณหมอใจดีของเด็กๆ และไหนจะคุณยายที่กำลังป่วยอยู่ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูท่านเธอคงได้กลายเป็นหลานอกตัญญูแน่ๆ
“ไม่หรอกครับ ถ้าผมทำแบบนั้นก็เท่ากับผมทุบหม้อข้าวตัวเองนะครับ ใครจะเชื่อใจแล้วเรียกใช้บริการผมอีกล่ะ คุณไม่รู้หรอกว่าการทำอาชีพนี้มันก็มีจรรยาบรรณเหมือนกัน”
“แล้วฉันต้องจ่ายคุณยังไง” ไอรดาถามออกไปตรงๆ เพราะเรื่องแบบนี้เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจ่ายกันยังไง
“แค่ค่าเครื่องดื่มที่คุณซื้อผมว่ามันก็มากพอที่ผมจะทำให้คุณมีความสุขแล้วล่ะครับ”
“คุณชาน์ อัยย์เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”ไอรดาถามขณะที่ประตูห้องของโรงแรมปิดลง“ไม่ทันแล้วครับคุณอัยย์”“ว๊าย..คุณชาน์”ไอรดาอุทานเมื่อชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังยืนงงอยู่ดึงให้เธอเข้าไปหาแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมทับสองขากันเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน“ทําไมล่ะครับ หรือคุณคิดว่าผมให้ความสุขคุณไม่ได้” เขาก้มถามอย่างใกล้ชิดจนเห็นแววตาของอีกฝ่ายว่าตอนนี้มีทั้งความกังวลและความตื่นตระหนกอยู่ในนั้น ในขณะที่ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา“ฉันว่ามันถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”“อะไรคือความถูกต้องล่ะครับในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราแค่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น”“แต่อัยย์”“นะครับอัยย์ ให้ผมถอยตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว”“เรื่องของเราต้องเป็นความลับนะคะ”“แน่นอนอัยย์”ปิญชาน์ตอบอย่างมั่นใจเพราะเขาก็ไม่อยากจะผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน เขาชอบชีวิตอิสระ เมื่อเห็นเธอนิ่งเขาก็การโน้มริมฝีปากลงไปมอบจุมพิตที่เร่าร้อนลงไปยังกลับปากสีแดงสดริมฝีปากของไอรดาถูกประกบทาบทับด้วยไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแนบชิด เป็นครั้งแรกก็สร้างความตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาน
“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ” “อ๊ะ! คุณชาน์”ไอรดาร้องเสียงหลงเมื่อเรียวขาคู่สวยของเธอถูกเขาจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเมื่อครู่ กลีบดอกไม้สีสวยลอยเด่นตรงหน้าเขาชัดเจน“อย่ามองแบบนั้น”“จะอายทำไมล่ะอัยย์ ผมว่ามันสวยผมชอบนะ”เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะดันขาของเธอให้กว้างออกมากพอที่ตัวเขาจะแทรกไปอยู่ตรงกลางได้ จากนั้นก็รีบสวมถุงยางอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนจับขาของไอรดาให้ยกชันขึ้น ทุกการกระทำของเขาทำให้ไอรดาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด ไอรดาสบตาคมปลาบ ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าขาวซับสีเลือดบอกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านหญิงสาวมองใบหน้าเขา ที่กำลังแดงก่ำ เส้นเลือดที่ลำคอเต้นจนเห็นชัด เธอไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง จะเหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกไหม แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกของแข็งร้อนรุกล้ำอยู่ตรงเบื้องล่าง“อ๊ะ คุณชาน์”หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากำลังชำแรกเข้ามาในตัวเธอจนอึดอัดและคับแน่น รู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“อัยย์อย่าเกร็ง สูดหายใจลึกๆ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ตนเองก็ขบกรามแน่น เขากำลั
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ
ไอรดาใช้เวลานานกว่าจะพาตัวเองเดินขึ้นมายังห้องพัก และพอประตูห้องปิดลงหญิงสาวก็ฟุบใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ความผิดหวังครั้งนี้มันมากเกินจะเก็บเอาไว้ได้ ไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกทิ้งเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน ความรู้สึกครั้งนี้มันหนักหนากว่าครั้งแรกเพราะเธอคิดว่าหมอปิญชาน์เป็นคนที่เข้าใจเธอและอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด เธอรักเขามากและคิดว่าเขาก็คงจะรักเธอมากเหมือนกัน แต่นั่นมันอาจจะเป็นเธอเองที่คิดเข้าข้างตนเองมากเกินไป ใครที่ไหนจะมาจริงจังกับแม่หม้ายอย่างเธอกัน คนที่เรียนเก่งทำงานเก่งแต่ทักษะการใช้ชีวิตแทบไม่มีอย่างเธอก็เหมาะสมแล้วที่โดนเขาหลอก จากนี้ไอรดาคิดว่าคงไม่รับใครเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว เวลาที่เหลือจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เวลาว่างก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครตายเพราะไม่มีคู่เลยสักคน แม้จะยังทำใจไม่ได้แต่ไอรดาก็ไม่อยากให้ความเสียใจมาส่งผลต่อร่างกาย หญิงสาวจึงอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปหาอะไรทาน พอทานอิ่มก็กลับขึ้นมาบนห้องแล้วเธอก็บังเอิญเจอกับคุณหมอสิรภพที่กำลังจะกลับขึ้นห้องพอดี “หมออัยย์ผมกำลังจะไปหาที่ห้องเล
เมื่อปัญหาทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วไอรดาก็กลับมายิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง คุณหมอสาวตรวจคนไข้คนสุดท้ายของวันนี้เสร็จในเวลาเกือบจะสองทุ่มแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ถ้าไม่ถึงเวลาปิดแผนกเธอคงจะนั่งตรวจต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน “หมออัยย์ค่ะ คนไข้หมดแล้วยังไม่รีบกลับเหรอคะ” นีรนุชเดินเข้ามายังห้องตรวจเห็นว่าคุณหมอยังไม่เตรียมตัวกลับก็ถามขึ้น “ค่ะพี่นุช เดี๋ยวอัยย์ก็กลับแล้วค่ะ” “ตั้งแต่เป็ดโสดอีกครั้งดูหมออัยย์มีความสุขมากนะคะ” “พี่นุชดูออกเลยเหรอคะ” “ใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละค่ะ”“นี่อัยย์คิดว่าตัวเองเก็บอาการอยู่แล้วนะคะ”“พี่ไม่รู้ว่าหมออัยย์กับคุณติมีปัญหาอะไรกันถึงแม้จะแอบเสียใจที่หมออัยย์เลิกกับเขา แต่พอเห็นว่าหมอออัยย์มีความสุขแบบนี้พี่ก็ดีใจด้วยค่ะ” “ขอบคุณค่ะ อัยย์ก็มีความสุขจริงนั่นแหละค่ะ ส่วนเรื่องเลิกกันเพราะอะไรถ้าใครตาม ig พี่ติก็คงจะรู้เองล่ะคะ” ไอรดาไม่ได้บอกใครถึงเหตุผลที่ตนเองเลิกกับสามี เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งเรื่องที่เธอกับเขาหย่ากันเธอก็ไม่ได้เป็นคนป่าวประกาศแต่เป็นเขาเองที่
ไอรดาตัดสินใจพาครอบครัวของตนไปพบบิดามารดาของอติรุจน์ตามกำหนดเดิมเพราะอยากให้เรื่องทุกอย่างนั้นจบ เธอไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังอยู่แบบนี้จากที่เห็นใจในความรักของอติรุจน์และพนาที่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเรื่องที่เขาเอามาขู่เธอเมื่อวานนั้นมันน่าเกลียดจนเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม ความเป็นพี่เป็นน้องระหว่างเธอกับเขามันหมดลงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณยาย คุณอร คุณนุ เชิญด้านในก่อนนะคะ พวกเราดีใจที่ทุกคนแวะมาเยี่ยม” มารดาของอติรุจ์ออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น“บ้านน่าอยู่จังเลยนะคะ” อรอินเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเอ่ยชม“ขอบคุณนะคะ คราวหน้าถ้ามากรุงเทพก็มาพักที่บ้านได้นะคะ เพราะพักที่บ้านตาติกับหนูอัยย์คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ที่นี่ห้องหับเยอะแยะเลยค่ะ”“พวกคงไม่รบกวนคุณรจนาหรอกค่ะ ที่แวะมานี่ก็แค่จะมาแจ้งข่าว”“แจ้งข่าวอะไรเหรอครับ” คุณวสันต์ถามอย่างสงสัยเพราะนึกไม่ออกว่าจะมีข่าวอะไรที่คุณยายนวลแขถึงมาแจ้งด้วยตนเองแบบนี้ “ฉันไม่อยากจะอ้อมค้อมให้เสียเวลาหรอกนะคะ เอาเป็นว่าที่พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อจะเอาสินสอดและของหมั้น