“อัยย์ครับ อัยย์”
“คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม
“ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป
“คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ”
“ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”
“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ”
“วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ”
“คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง”
“ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”
“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”
“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่
“เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ”
“ขอจูบได้ไหมจะได้มีแรงประชุมทั้งวัน”
“อย่าเลยอัยย์ยังไม่ได้แปรงฟัน”
“งั้นติดไว้ก่อนเย็นนี้ค่อยทบต้นทบดอก”
“ไม่พูดด้วยแล้วคุณรีบไปเถอะ อัยย์จะนอนต่อ”
“โอเค ผมไปก็ได้คุณอย่าลืมตื่นมาทานข้าวนะครับ”
“ค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เรื่องกินสำหรับอัยย์แล้วเรื่องใหญ่มาก”
“อย่าลืมกินเยอะๆ นะครับจะได้มีแรง” ชายหนุ่มพูดกลั้วเสียงหัวเราะก่อนจะรีบออกไปจากห้องนอนก่อนที่จะห้ามใจไม่ไหวจับคนขี้เซากดลงบนที่นอนอีกครั้ง
ปิญชาน์กลับมาที่ห้องพักของตัวเองแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปประชุมวิชาการซึ่งวันนี้เป็นการประชุมวันสุดท้ายและในตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ขึ้น ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่เข้าร่วมเพราะไม่อยากเสียเวลาที่จะอยู่กับไอรดา
ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนการประชุมจะเริ่มชายหนุ่มจึงรีบตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรมเพราะเมื่อคืนเข้าใช้พลังงานไปมาก ถ้าเช้านี้ไม่ได้ทานอะไรคงเข้าประชุมไม่รู้เรื่องแน่ๆ
บริเวณห้องอาหารในเวลาสายแบบนี้ผู้คนค่อนข้างบางตาเพราะส่วนใหญ่นั้นทานเรียบร้อยและเข้าประชุมกันแล้ว เนื่องจากเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวคนอื่นเลยมีไม่มากเท่าไหร่
“พี่หมอชาน์คะ ทางนี้ค่ะ” เสียงใสที่เรียกทำให้ปิญชาน์หันไปตามเสียงเขายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเรียกนั้นเป็นใคร”
“น้องพั้นซ์ มาประชุมกับเขาด้วยเหรอครับ”
“ค่ะ พั้นซ์เพิ่งมาเมื่อวานค่ะ พอดีวันแรกมีเคสที่โรงพยาบาลค่ะ เมื่อวานตอนเย็นพี่หมอที่หน้าโรงแรมว่าจะเข้าไปทักและชวนไปหาอะไรทานแต่พอคุยกับเพื่อเสร็จหันมาอีกทีพี่หมอก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะ”
“อ๋อ เมื่อวานพี่ออกไปกับเพื่อนครับพอดีว่าเขาพักอยู่อีกที่”
“แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงพี่หมอจะมาด้วยไหมคะ”
“พี่ยังไม่แน่ใจเลยครับ ถ้ามาก็อาจจะอยู่ได้ไม่นาน”
“จะไปหาเพื่อนอีกเหรอคะ พั้นช์ว่าคงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแล้วมั้งคะ พามาแนะนำให้น้องรู้จักบ้างสิคะ”
“เพื่อนจริงๆ ครับ”
“พูดแบบนี้ก็เลยอดลุ้นเลย เมื่อไหร่พี่หมอจะหาแฟนสักทีคะ น้องละเบื่อพ่อกับแม่มากที่พยายามจับคู่เราอยู่นั่นแหละ”
“พั้นช์ก็รีบหาแฟนสิครับ ท่านจะได้ไม่จับคู่เรา”
“พี่ก็พูดเหมือนว่าแฟนมันหาง่ายนะคะ อาชีพอย่างเราไม่ค่อยมีเวลาด้วยสิ ถ้ามีแฟนพั้นช์ก็กลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจ”
“งั้นก็หาแฟนเป็นหมอสิ”
“พูดเหมือนคุณแม่เลยค่ะว่าให้หาแฟนอาชีพเดียวกัน แต่พั้นช์ว่ามันน่าเบื่อนะคะ ถ้าพั้นช์จะมีแฟนก็อยากได้แฟนที่ไม่ใช่หมอค่ะ อยากได้คนที่มีเวลาให้เรามากๆ”
“นั่นสินะ เราไม่ค่อยมีเวลาก็ต้องหาคนที่มีเวลามากๆ มันจะได้บาลานซ์กัน”
“แล้วเพื่อนพี่หมอล่ะคะทำงานอะไร”
“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยถามเขาสักที”
คำตอบของหมอรุ่นพี่ทำให้พัณณ์ชิตาค่อนข้างจะแปลกใจว่ารุ่นพี่ของเธอคนนี้คบกับเพื่อนในลักษณะไหน
“ใกล้เวลาเริ่มประชุมแล้วล่ะพั้นช์ พี่ว่าเรารีบไปกันดีกว่านะ” ปิญชาน์รีบตัดบทเพราะไม่อยากให้คุณหมอรุ่นน้องถามอะไรมากไปกว่านี้เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย ครั้นจะไปถามสารัชว่าเธอเป็นใคร ทำงานอะไรก็กลัวว่าจะทำให้เธอเดือดร้อน
การประชุมวันสุดท้ายค่อนข้างเข้มข้นช่วงเวลาพักกลางวันปิญชาน์ก็ยังมีข้อสงสัยที่จะถามอาจารย์หมอเขาจึงไม่ได้กลับไปทานอาหารกลางวันกับไอรดา เขาใช้โทรศัพท์อีกเครื่องไลน์ไปถามเธอว่าทานข้าวหรือยัง พอเธอตอบมาว่าทานแล้วเขาก็พูดคุยกับเพื่อนและอาจารย์หมอต่อจนถึงเวลาประชุมในภาคบ่าย
ออกจากห้องประชุมก็รีบตรงดิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะอยากจะไปหาไอรดาที่บ้านพักก่อนจะกลับมาที่งานเลี้ยงให้ทันเวลา
“พี่หมอจะรีบไปไหนคะ งานเริ่มตั้งหนึ่งทุ่ม นี่ยังไม่หกโมงเลยค่ะ” พัณณ์ชนิตาทักทายเขาที่หน้าลิฟต์
“ว่าจะแวะไปหาเพื่อนหน่อยครับ”
“ชวนเธอมาด้วยสิคะ พั้นช์อยากรู้จักค่ะ”
“เธอไม่ค่อยสะดวกครับ เอาไว้ถ้าเธอสะดวกพี่จะแนะนำให้พั้นช์รู้จักเป็นคนแรกเลยนะครับ”
“พั้นช์จะรอต้อนรับพี่สะใภ้นะคะ”
“ครับ พี่ไปก่อนนะเจอกันในงานนะครับ”
ปิญชาน์มาถึงบ้านพักก็เป็นเวลาที่ไอรดากลับมาจากข้างนอกพอดี
“คุณชาน์ กินเค้กด้วยกันไหมอัยย์ซื้อมาหลายชิ้นเลย” ไอรดาชูถึงเค้กในมือที่เธอซื้อจากคาแฟ่แห่งหนึ่งกลับมาด้วย เพราะนั่งดื่มกาแฟและทานที่ร้านแล้วถูกใจกับรสชาติจึงซื้อกลับมาด้วย
“ขอบคุณครับ อัยย์กินข้าวเย็นหรือยัง” ปิญชาน์เดินตามเธอเข้ามานั่งในห้องรับแขกโดยมีเจ้าของบ้านนั่งลงข้างๆ
“ยังเลยค่ะ อัยย์เพิ่งกินข้าวกลางวันไปตอนบ่ายสองเองค่ะ คุณล่ะคะจะอยู่ทานด้วยกันไหม”
“ผมต้องไปงานเลี้ยงตอนหนึ่งทุ่มครับ ขอโทษนะครับที่อยู่ทานด้วยไม่ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แต่ผมรีบกลับมานะครับ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวด้วยกันดีไหมผมประชุมเสร็จแล้ว”
“อัยย์นึกว่าประชุมเสร็จคุณจะรีบกลับไปทำงานต่อเสียอีก”
“ผมว่างอีกหนึ่งวันครับ คุณล่ะครับวางแผนจะมาเที่ยวที่นี่อีกกี่วัน”
“ถ้าตามแพลนก็จะอยู่จนถึงวันมะรืนค่ะ”
“ลางานมาเหรอครับ”
“ค่ะ อัยย์ลางานไปฮันนีมูน”
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อัยย์ดีใจที่รู้เรื่องของเขาก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ คุณชาน์คะ อัยย์ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ครับ”
“คุณว่าถ้าอัยย์ไม่รู้ความจริง เขาจะนอนกับอัยย์ จะทำเหมือนผู้ชายทำกับผู้หญิงไหมคะ”
“ผมตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชายตราบใดที่เข้ายังมีไอ้นั่นอยู่เขาก็ทำแบบนั้นกับผู้หญิงได้ครับ”
“ขนลุกเลยค่ะ” ไอรดาคิดแล้วก็ขนลุกซึ่งถ้าหากคืนนั้นเธอไม่รู้เรื่องของเขาเธอก็คงได้กลายเป็นภรรยาของผู้ชายที่เป็นภรรยาของคนอื่น
“อัยย์โชคดีที่รู้เรื่องนี้ก่อนเพราะมีอีกหลายคนที่ไม่รู้เลยว่าสามีตัวเองนั้นนอนได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง” เพราะลักษณะงานที่ทำอยู่เลยพอจะรู้เรื่องภายในครอบครัวของคนไข้อยู่มาก แต่ก็เล่าอะไรให้เธอฟังมากไม่ได้เนื่องจากว่ามันผิดจรรยาบรรณ
“คิดแบบนี้อัยย์ก็สบายใจค่ะ”
“เราอย่าพูดถึงเรื่องของเขาอีกเลยพูดเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องที่เราจะคบกันไงครับ ผมอยากฟังคำตอบชัดๆ อีกครั้ง”
คุณหมอหนุ่มขยับมาประชิดแล้วกับไอรดาไว้ในอ้อมกอดของตนเอง ใบหน้าหล่ออยู่ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นบนแก้มเนียน
“ขออัยย์คิดอีกนิดได้ไหม”
“ผมจะมาฟังคำตอบคืนนี้นะครับ”
“แต่คุณจะไปงานเลี้ยงนี่คะ”
“ผมจะรีบกลับมา”
“อย่าหมดสนุกเพราะต้องรีบมาหาอัยย์เลยค่ะ เอาเป็นว่างานเลิกค่อยมาหาอัยย์ก็ได้ แต่ถ้ามันดึกเกินไปคุณก็นอนพักที่โรงแรมก่อน ตอนเช้าเราค่อยคุยกันก็ได้”
“ถ้าไม่ได้คุยคงนอนไม่หลับอีกแน่นๆ เอาเป็นว่าดึกแค่ไหนผมก็จะมาหาคุณ”
“ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นอัยย์ก็จะรอค่ะ”
“ผมไปล่ะนะ”
“ค่ะ ขอให้สนุกนะคะ”
เขาบอกจะไปแต่ยังนั่งนิ่งจนไอรดาชักสงสัย
“ทำไมไม่ลุกล่ะคะ”
“อยากให้อัยย์หอมแก้มก่อนไป”
จริงๆ แล้วเขาอยากจะจูบเธอมากกว่าแต่ก็กลัวว่าถ้าจูบแล้วจะไม่ได้ออกไปจากบ้านพักแน่ๆ เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้ไอรดาเขาก็มักจะคุมตัวเองไม่อยู่
ไอรดายิ้มก่อนจะกดจมูกไปบนแก้มของเขาทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา
“รู้สึกดีจังที่มีคนหอมแก้มก่อนออกจากบ้าน” ปิญชาน์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินออกจากบ้านตรงไปยังห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมในเวลาหนึ่งทุ่มพอดี
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
ไอรดาอาบน้ำไปด้วยใช้ความคิดไปด้วยจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขามายืนอยู่ด้านหลังเธอแล้ว “ผมช่วยอาบไหมอัยย์” “คุณชาน์เข้ามาได้ยังไงคะ” “ก็ห้องน้ำตัวล็อกมันเสีย” เขาตอบขณะที่เข้ามายืนประชิด สาวตาจ้องไปที่เรือนร่างที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ราวกับเธอเป็นภาพศิลปะที่หาดูยาก “คุณชาน์อย่างจ้องอัยย์แบบนั้นสิคะ” พูดพลางเอาสองมือปิดส่วนสงวนทั้งบนทั้งล่าง “จะปิดทำผมเห็นมาทั้งตัวแล้ว ให้ผมช่วยอาบนะ จะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวก็สบายหรอก” “แต่อัยย์อาบเองได้” “อย่าห้ามเลยผมอยากทำนะครับอัยย์” แล้วคนมีวาทะศิลป์ก็ทำให้หญิงสาวยอมอีกจนได้ ฝ่ามือร้อนลูบไปตามผิวเนียนอย่างแผ่วเบาในขณะที่ไอรดาได้แต่ยื่นนิ่งมองทุกการกระทำของเข้าด้วยหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ ร่างกายเธอเสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขาลากผ่าน ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นมันขยายใหญ่จนดูน่าเกรงขาม หญิงสาวลำคอแห้งผากเมื่อคิดว่าความเป็นชายของเขานั้นต่างจากที่เธอเคยเห็นทั้งขนาดและความยาวและไม่คิดเลยว่าทุกครั้งที่เข้าไปในตัวเธอนั้นมันสร้างควา
ปิญชาน์เช็ดตัวให้คนที่นอนหมดแรงจนสะอาดเอี่ยมจากนั้นตัวเองก็รีบอาบน้ำและกลับมานอนกอดร่างที่เปลือยเปล่า ให้ศีรษะของเธอหนุนบนท่อนแขน มือใหญ่โอบเอวเธอไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงไอรดากระซิบบอกรักนั่นยิ่งทำให้เขานอนหลับอย่างมีความสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะกลายเป็นเพียงความฝันเมื่อตื่นเช้ามาเขาเจอโน้ตที่หญิงสาวเขียนทิ้งไว้พร้อมกับเช็คเงินสดหนึ่งแสนบาท ‘ขอบคุณที่เข้ามาทำให้อัยย์มีความสุข ขอบคุณที่มาเติมเต็มนะคะ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปได้ยาก อัยย์ไม่ใช่คนตัวเปล่า ถึงจะหย่าแล้วแต่สถานะทางสังคมก็ยังต้องดำเนินต่อ ขอโทษที่ไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ หวังว่าคุณจะให้อภัยนะคะ รักคุณนะ....อัยย์’ ปิญชาน์ทั้งโกรธทั้งโมโหที่เธอทิ้งเขาไปแบบนี้ แม้จะดีใจกับคำบอกรัก แต่สิ่งที่เธอทำนั้นเขาคิดว่ามันมากเกินไป เธอทำราวกับว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว ชายหนุ่มรีบสวมเสื้อผ้าและกลับไปเก็บของที่โรงแรม ระหว่างทางที่ขับรถกลับก็พยายามจะติดต่อกับหญิงสาว อยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องแต่เธอคงจะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของ
วันนี้อติรุจน์มารับไอรดาที่คอนโดตั้งแต่เช้าจากนั้นก็นัดแนะคำพูดให้ตรงกัน ก่อนจะเอาของฝากไปให้ที่บ้านบิดามารดาของชายหนุ่ม ทั้งสองแสดงว่าเป็นคู่ที่รักกันมากจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนต่างยิ้มและรอคอยที่จะอุ้มหลาน ไอรดาได้แต่ยิ้มรับเพราะเรื่องนี้มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นและเธอก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด แต่ที่หนักใจก็ตอนที่กำลังไปยังบ้านสวนของคุณยายนวลแข ไอรดากลัวว่าจะโดนคุณยายจับได้ “เมื่อกี้เรายังผ่านมาได้ พี่ว่าอัยย์อย่ากังวลไปเลยนะ” อติรุจน์เห็นหญิงสาวเอาแต่เงียบก็พูดปลอบใจ “ก็อัยย์กลัวนี่คะพี่ติ ถ้าคุณยายถามอะไรพี่ติเป็นคนตอบได้ไหม ส่วนอัยย์จะไปคุยกับคุณลุงคุณป้า” “ได้สิ อัยย์แค่นั้นยิ้มก็พอ เรื่องที่เหลือพี่จัดการเอง” พอลงจากรถเด็กรับใช้คนสนิทของคุณยายก็รีบเข้ามารับถุงของฝากขึ้นไปบนบ้านเรือนไทยก่อนที่ไอรดาและสามีจะเดินตามไปขึ้น “สวัสดีค่ะคุณยาย” ไอรดาเข้าไปกอดอย่างประจบ “สวัสดีครับคุณยาย ผมซื้อพวกวิตามินแล้วก็ผ้าพันคอสวยๆ มาฝากคุณยายกับป้าอรด้วยนะครับ ส่วนของลุงนุกับพี่ณัฐผมก็ซื้อกระเป๋าหนังอย่างดีกับน้ำหอมมาฝาก”
“เฮ้อ!”เสียงถอนหายใจดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องตรวจปิดลงในเวลา 20.15 น. แพทย์หญิงไอรดาทิ้งร่างพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง เธอตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็นับเวลารวม 12 ชั่วโมง นี่ยังไม่รวมเวรกลางคืนที่เธอคอยรับคนไข้เด็กจากห้องคลอดอีกสองคืนก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูทำให้คุณหมอสาวนั่งตัวตรงอีกครั้งเพราะคิดว่าจะมีคนไข้มาตรวจกับเธอถึงแม้จะเลยเวลาตรวจไปแล้วแต่ถ้ายังมีคนไข้ ไอรดาก็มักจะตรวจจนกว่าจะหมด เพราะรู้ว่าถ้าตนเองไม่ตรวจ คนไข้เหล่านั้นก็จะต้องไปตรวจต่อกับคุณหมอที่ห้องฉุกเฉินซึ่งบางครั้งก็ไม่มีหมอเฉพาะทางเด็ก“หมดแรงเลยเหรอคะหมออัยย์” นีรนุชพยาบาลประจำแผนกเด็กถามขึ้น“ค่ะ พี่นุช อัยย์ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ต้องกลับช้าอีกแล้ว”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ได้รับไปไหนว่าแต่หมออัยย์เถอะค่ะ อีกสองวันก็จะแต่งงานแล้วยังจะรับขึ้นเวรอีกนะคะ”“ก็หลังแต่งอัยย์ขอลางานต่ออีกหนึ่งอาทิตย์นี่คะ เลยต้องแลกเวรกับหมอปิ่น”“จะไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะคะ”“ยังไม่รู้เลยค่ะพี่นุช แฟนอัยย์ไม่ยอมบอกอะไรเลย”“น่ารักจังนะคะ สงสัยคุณติคงอยากให้หมออัยย์เซอร์ไพรส์” นีรนุชเคยเจอว่าที่สามีคุณหมอไอรดาอยู่หลายครั้ง เข
พิธีแต่งงานถูกแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นแบบไทยและช่วงเย็นเป็นพิธีฉลองมงคลสมรสซึ่งจะจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวเพื่อให้เพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายได้มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างสะดวกในช่วงเช้าจัดเป็นพิธีแบบไทย ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านสวนของคุณยายนวลแขที่จังหวัดนครปฐม แขกที่มาร่วมงานจึงมีแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายเพียงเท่านั้นทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างสวยงามตามความต้องการของคุณยายนวลแข ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็ยอมตามใจทุกอย่างเพราะมีความเคารพนับถือกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างคุณยายนวลแขก็เป็นคนจัดการงานนี้ด้วยตนเองเพราะอยากทำให้วันสำคัญของหลานสาวเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดทั่วบริเวณบ้านเรือนไทยถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้จริงทั้งหมด ทำให้ทั่วบริเวณงานเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น คนที่มาเป็นแขกต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปากไอรดาสวมชุดไทยศิวาลัยสีงาช้างพาดสไบสีเดียวกันปักดิ้นเงิน ผมถูกเกล้ารอบศีรษะ เปิดให้เห็นใบหน้าสวยหวานราวกับหลุดออกมาจากวรรณคดี ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเสริมให้ดูเด่นชัดขึ้น พวกแก้มปัดสีอ่อนเน้นความเป็นธรรมชาติ ปากบางทาด้วยสีชมพู อ่อนๆ พอเธอปรากฏกา
ไอรดาใช้เวลาอาบน้ำสระผมเกือบหนึ่งชั่วโมง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นกับคืนเข้าหอ จากที่ฟังเพื่อเล่ามานั้นส่วนใหญ่คู่บ่าวสาวจะหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยจากงานแต่งมาตั้งแต่เช้ามืด แต่สำหรับเธอนั้นแค่นี้ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร เพราะเคยอยู่เวรแบบไม่ได้พักยาวนานถึง 48 ชั่วโมงก็ทำมาแล้ว หญิงสาวสวมชุดนอนวาบหวิวที่เพื่อนๆ ให้มาเป็นของขวัญและย้ำว่าให้สวมชุดนี้คืนวันแต่งงาน ไอรดามองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เมื่อมองร่างกายของตัวเองแล้วก็ยิ้มอย่างภูมิใจถึงแม้จะเป็นคนชอบทานอาหารขยะและขนมหวานแต่ก็บังคับให้ตัวเองออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดทั้งเรือนร่างแทบไม่มีไขมันส่วนเกินเลยสักนิดแถมหน้าอกคุณแม่และคุณยายก็ให้มาอย่างล้นเหลือแต่พอออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอไม่ได้รออยู่อย่างที่คิดไว้เธอเห็นว่ามันนานเกินไปที่เขาจะอยู่ในห้องน้ำ บวกกับตอนนี้ตัวเองก็อยากจะออกไปหาน้ำดื่มสักแก้ว จึงคิดว่าจะไปตามเขาที่ห้องนอนเผื่อว่าเขาจะเผลอหลับอยู่ในห้องนั้นยังเดินไปไม่ถึงห้องนอนแขกไอรดาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันออกมาจากห้องนั้น ตอนแรกเธอก็คิดว่าอติรุจน์อาจจะกำลังคุยโทรศัพท์ แต่พอเดินเ
วันนี้อติรุจน์มารับไอรดาที่คอนโดตั้งแต่เช้าจากนั้นก็นัดแนะคำพูดให้ตรงกัน ก่อนจะเอาของฝากไปให้ที่บ้านบิดามารดาของชายหนุ่ม ทั้งสองแสดงว่าเป็นคู่ที่รักกันมากจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนต่างยิ้มและรอคอยที่จะอุ้มหลาน ไอรดาได้แต่ยิ้มรับเพราะเรื่องนี้มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นและเธอก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด แต่ที่หนักใจก็ตอนที่กำลังไปยังบ้านสวนของคุณยายนวลแข ไอรดากลัวว่าจะโดนคุณยายจับได้ “เมื่อกี้เรายังผ่านมาได้ พี่ว่าอัยย์อย่ากังวลไปเลยนะ” อติรุจน์เห็นหญิงสาวเอาแต่เงียบก็พูดปลอบใจ “ก็อัยย์กลัวนี่คะพี่ติ ถ้าคุณยายถามอะไรพี่ติเป็นคนตอบได้ไหม ส่วนอัยย์จะไปคุยกับคุณลุงคุณป้า” “ได้สิ อัยย์แค่นั้นยิ้มก็พอ เรื่องที่เหลือพี่จัดการเอง” พอลงจากรถเด็กรับใช้คนสนิทของคุณยายก็รีบเข้ามารับถุงของฝากขึ้นไปบนบ้านเรือนไทยก่อนที่ไอรดาและสามีจะเดินตามไปขึ้น “สวัสดีค่ะคุณยาย” ไอรดาเข้าไปกอดอย่างประจบ “สวัสดีครับคุณยาย ผมซื้อพวกวิตามินแล้วก็ผ้าพันคอสวยๆ มาฝากคุณยายกับป้าอรด้วยนะครับ ส่วนของลุงนุกับพี่ณัฐผมก็ซื้อกระเป๋าหนังอย่างดีกับน้ำหอมมาฝาก”
ปิญชาน์เช็ดตัวให้คนที่นอนหมดแรงจนสะอาดเอี่ยมจากนั้นตัวเองก็รีบอาบน้ำและกลับมานอนกอดร่างที่เปลือยเปล่า ให้ศีรษะของเธอหนุนบนท่อนแขน มือใหญ่โอบเอวเธอไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงไอรดากระซิบบอกรักนั่นยิ่งทำให้เขานอนหลับอย่างมีความสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะกลายเป็นเพียงความฝันเมื่อตื่นเช้ามาเขาเจอโน้ตที่หญิงสาวเขียนทิ้งไว้พร้อมกับเช็คเงินสดหนึ่งแสนบาท ‘ขอบคุณที่เข้ามาทำให้อัยย์มีความสุข ขอบคุณที่มาเติมเต็มนะคะ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปได้ยาก อัยย์ไม่ใช่คนตัวเปล่า ถึงจะหย่าแล้วแต่สถานะทางสังคมก็ยังต้องดำเนินต่อ ขอโทษที่ไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ หวังว่าคุณจะให้อภัยนะคะ รักคุณนะ....อัยย์’ ปิญชาน์ทั้งโกรธทั้งโมโหที่เธอทิ้งเขาไปแบบนี้ แม้จะดีใจกับคำบอกรัก แต่สิ่งที่เธอทำนั้นเขาคิดว่ามันมากเกินไป เธอทำราวกับว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว ชายหนุ่มรีบสวมเสื้อผ้าและกลับไปเก็บของที่โรงแรม ระหว่างทางที่ขับรถกลับก็พยายามจะติดต่อกับหญิงสาว อยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องแต่เธอคงจะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของ
ไอรดาอาบน้ำไปด้วยใช้ความคิดไปด้วยจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขามายืนอยู่ด้านหลังเธอแล้ว “ผมช่วยอาบไหมอัยย์” “คุณชาน์เข้ามาได้ยังไงคะ” “ก็ห้องน้ำตัวล็อกมันเสีย” เขาตอบขณะที่เข้ามายืนประชิด สาวตาจ้องไปที่เรือนร่างที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ราวกับเธอเป็นภาพศิลปะที่หาดูยาก “คุณชาน์อย่างจ้องอัยย์แบบนั้นสิคะ” พูดพลางเอาสองมือปิดส่วนสงวนทั้งบนทั้งล่าง “จะปิดทำผมเห็นมาทั้งตัวแล้ว ให้ผมช่วยอาบนะ จะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวก็สบายหรอก” “แต่อัยย์อาบเองได้” “อย่าห้ามเลยผมอยากทำนะครับอัยย์” แล้วคนมีวาทะศิลป์ก็ทำให้หญิงสาวยอมอีกจนได้ ฝ่ามือร้อนลูบไปตามผิวเนียนอย่างแผ่วเบาในขณะที่ไอรดาได้แต่ยื่นนิ่งมองทุกการกระทำของเข้าด้วยหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ ร่างกายเธอเสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขาลากผ่าน ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นมันขยายใหญ่จนดูน่าเกรงขาม หญิงสาวลำคอแห้งผากเมื่อคิดว่าความเป็นชายของเขานั้นต่างจากที่เธอเคยเห็นทั้งขนาดและความยาวและไม่คิดเลยว่าทุกครั้งที่เข้าไปในตัวเธอนั้นมันสร้างควา
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ