ไอรดามาถึงคอนโดมิเนียมโครงการหรูที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก หญิงสาวเข้าไปติดต่อกับพนักงานขายเพื่อเลือกห้องที่ตัวเองถูกใจมากที่สุด จากนั้นก็โทรศัพท์ไปบอกบริษัทรับย้ายของที่ให้ไปเอาของใช้ส่วนตัวที่เธอแพ็คลงกล่องไว้ที่คอนโดเดิมมายังคอนโดแห่งใหม่ ซึ่งของเหล่านั้นเดิมทีเธอเตรียมจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของอติรุจน์หลังแต่งงาน
แต่เมื่อทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดเธอจึงต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะคอนโดของตนเองนั้นได้ประกาศขายไปแล้ว และเจ้าของคนใหม่ก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในเดือนหน้า
คอนโดแห่งใหม่นี้มีขนาดสองห้องนอนสองห้องน้ำเป็นห้องเกือบริมสุด มีระเบียงมองออกไปวิวแม่น้ำพระยา มีห้องนั่งเล่นและครัวอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่จะอยู่กันคนละฝั่ง อีกด้านจะเป็นพื้นที่ครัว ที่มีโต๊ะทานข้าววางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวกั้นระหว่างครัวกับพื้นที่นั่งเล่น
ไอรดาพอใจกับขนาดของห้องและพื้นที่การใช้สอยมากในอนาคตเธอวางแผนว่าอาจจะใช้ห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานและห้องหนังสือ แต่วันนี้คงได้แค่เอาของที่อยู่ในกระเป๋ามาจัดให้เข้าที่เพราะบริษัทขนส่งแจ้งพรุ่งนี้พวกเขาถึงจะนำของมาส่งให้เธอได้
เก็บของเสร็จและนั่งดูทีวีได้ไม่นานเสียงออดที่หน้าประตูก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบลุกไปเปิดอย่างรวดเร็ว
“อัยย์ เล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมยังไม่เดินทางอีกไหนว่าจะไปฮันนีมูน แล้วนี่คอนโดของใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่ไปอยู่บ้านพี่ติแล้วเหรอ”
“ริตาถามเยอะจังอัยย์ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี แล้วซื้อของกินมาไหมอัยย์หิว”
“ใครจะมีเวลาซื้อล่ะ เลิกงานก็รีบตรงมาที่นี่เลย”
“เป็นไงล่ะ ขับรถไม่ถึงสิบนาทีใช่ไหม”
“อือ ใกล้ที่ทำงานมาก เฮ้ย! อัยย์อย่าเปลี่ยนเรื่องนะ เล่ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ออกไปหาอะไรกินก่อนได้ไหม อัยย์หิว”
“จะกินอะไรสั่งมาได้ไหมขี้เกียจออกไป”
“ก็ได้ งั้นอัยย์สั่งนะ อยากกินข้าวหมูกรอบ ริตาจะกินอะไร”
“เอาสุกี้น้ำ ไม่ใส่วุ้นเส้น”
“กลัวอ้วนเหรอ”
“อือ ใครจะเป็นเหมือนอัยย์ล่ะ กินเท่าไร่ก็ไม่อ้วน”
“เดี๋ยวอัยย์สั่งข้าวก่อน ริตาไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหมดูสิหน้ามันเชียว”
“ไม่ต้องแซวเลยนี่ออกจากห้องผ่าตัดก็รีบมาเลยนะ ดึกนี้มีเคยวางยาสลบอีกเคสคงอยู่กับอัยย์ได้ไม่นานหรอก”
“แค่ริตามาหาก็ดีใจแล้ว”
สิรตารีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะกลับออกมานั่งจ้องหน้าไอรดาที่วันนี้เธอควรจะไปฮันนีมูนกับสามี ไม่ใช่มานั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้
“อัยย์เล่ามาเถอะ ริตารู้ว่าอัยย์กำลังมีปัญหา”
“ปัญหามันใหญ่มากด้วย อัยย์ไม่รู้จะเล่าจากตรงไหนมันสับสนไปหมด”
“ถ้างั้นริตาขอถามว่าทำไมถึงไม่ไปฮันนีมูน”
ไอรดาตอบคำถามเพื่อนจากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่คืนเข้าหอให้กับสริตาฟังรวมถึงเรื่องคอนโดและเงินสิบล้านค่าหย่าที่เพิ่งได้มาอย่างไม่มีปิดบัง
“ตายตาย ริตาไม่อยากจะเชื่อคนเราทำไม่ถึงปิดบังกันได้นานขนาดนี้ ครอบครัวเขาไม่รู้เลยเหรอ”
“อือ ไม่มีใครรู้เลย”
“แสดงว่าที่เขาไปหาอัยย์บ่อยๆ ตอนไปเรียนนั่นก็เพราะผลประโยชน์ของเขาทั้งหมดใช่ไหม”
“ใช้สิ ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมหรือทุกครั้งที่เราไปเที่ยวด้วยกันเขาจะพาเลขาไปด้วยโดยอ้างว่าเพราะยังมีงานที่ต้องทำ กลางวันเขาก็เที่ยวกันเราปกติ พอกลางคืนเขาก็ไปนอนห้องเดียวกับเลขา ไอ้เราก็หลงดีใจนึกว่าเป็นสุภาพบุรุษหลงปลื้มมาตั้งสามปี มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ”
“เรียกแค่สิบล้านยังน้อยไปด้วยซ้ำเพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าอัยย์แต่งงานแล้ว”
“แต่งแล้วหย่าแล้ว ตอนนี้เราก็แม่หม้ายคนหนึ่ง”
“เอาน่ามันก็แค่สถานะ อย่าไปคิดอะไรมากเลย ลองคิดดูอีกทีริตาว่าอัยย์โชคดีที่รู้รสนิยมของเขา ถ้าไม่อย่างนั้นนั้นคงแย่”
“นั้นสิ คิดแล้วก็นึกภาพไม่ออกเลย ถ้าเรากับเขามีอะไรกัน เวลาอยู่กับเราเขาเป็นสามี แต่พอไปอยู่กับเลขาเขาก็กลายเป็นภรรยา มันคงฟังดูพิลึกมาก”
“อัยย์โกรธเขาไหม”
“โกรธสิ โกรธมาก แต่ก็พยายามเข้าใจความรักของเขานะ แต่เขาก็น่าจะบอกกับทางบ้านไปตรงๆ ไม่ใช่ดึงอัยย์เข้ามาเกี่ยวด้วยแบบนี้”
“นั้นสิ เขาก็เห็นแกตัวอยู่เหมือนกัน แล้วทีนี่อัยย์จะเอายังไงต่อละ”
“ก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละ”
“ตั้งปีหนึ่งเลยนะ”
“เราอยู่มาได้โดยไม่มีแฟนตั้งหลายปี ทนอีกปีเดียวไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“แล้วนี้ต้องอยู่แต่ในห้องไปจนกว่าเขาจะกลับเหรอ น่าเบื่อแย่เลย”
“ไม่หรอกเราว่าคืนนี้จะลองไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาดูบ้าง”
“ไม่กลัวเจอคนรู้จักเหรอ”
“แล้วครั้งนั้นที่อัยย์แต่งหน้าเข้มๆ แต่งตัวโป๊ๆ มารอริตาที่หน้าโรงพยาบาลริตาจำได้ไหมล่ะ”
“อ้อ ลุคนั้นเปรี้ยวจี๊ดเลย ถ้าแต่งแบบนั้นคงไม่มีใครจำได้หรอก”
“อัยย์เป็นแม่หม้ายไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะคนที่จะข้ามาคงไม่อยากได้ผู้หญิงมือสองหรอก ริตาว่าจริงไหมล่ะ”
“มันแน่ซะที่ไหน ผู้ชายบางคนก็ไม่สนใจอดีต”
“แต่อัยย์เข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย”
“อย่าปิดโอกาสตัวเองสิ ถ้าเจอคนที่ชอบก็บอกเขาไปตรงๆ ถ้าเขารับได้ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร”
“พูดเหมือนคืนอัยย์ออกไปแล้วจะได้คู่เลยนะ”
“ใครจะรู้ล่ะ อ้อคืนนี้มันคืนคนโสด ร้านพี่ชายริตาจัดกิจกรรมด้วยนะสนใจไหมเดี๋ยวริตาโทรจองโต๊ะให้”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ อัยย์แค่อยากไปดื่ม”
“ดื่มคนเดียวถ้าเมาจะกลับยังไง”
“อัยย์คงมาเมามายจนไม่ได้สติหรอกน่า แต่ถ้าเมาจริงๆ พี่รัชก็คงให้คนมาส่งเองแหละ” เพราะหลายครั้งแล้วที่เธอนั่งดื่มจนเมาแล้วพี่ชายของเพื่อนก็ในเด็กที่ร้านพามาส่ง
หลังจากทานข้าวอิ่มแล้วสริตาก็ขอนอนพักก่อนจะกลับไปทำงาน พอสี่ทุ่มไอรดาก็ปลุกเพื่อนขึ้นมาล้างหน้าล้างตาอีกครั้ง
“ริตา ไปส่งอัยย์ที่ผับนะ ขากลับอัยย์ว่าจะเรียกแท็กซี่”
“จะกลับกี่โมงล่ะ เผื่อว่าริตาทำงานเสร็จจะได้มารับ”
“อย่าเลยพรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก เข้าเคสเสร็จก็รีบกลับไปพักเถอะอัยย์นั่งแท็กซี่กลับจะสะดวกกว่า”
“งั้นก็ตามใจแต่ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่รัชแล้วกัน”
“จ้ะ งั้นไปกับเถอะเดี๋ยวริตาจะไปไม่ทันเข้าเคส”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เขาจะผ่าตัดกันได้ยังไงในเมื่อวิสัญญียังไม่ได้ว่างยาสลบ”
“ใครว่าหมอผ่าตัดสำคัญ อัยย์ว่าหมอวางยาก็สำคัญกว่าอีกนะ”
“ก็สำคัญทุกคนนั่นแหละจ้ะ ถ้างั้นหมอก็คงทำงานไม่สำเร็จ ว่าแต่ชุดนี้ไม่โป๊ไปแน่นะ” สริตามองชุดสายเดี่ยวสีดำตัวสั้นของเพื่อนด้วยความไม่สบายใจ
“ไม่หรอกน่า ไปเที่ยวผับจะให้แต่งตัวเรียบร้อยได้ยังไงล่ะ”
ไอรดามาถึงผับในเวลาเกือบจะห้าทุ่ม ปกติแล้วเธอจะมาดื่มคลายเครียดกับสริตาอยู่บ่อยๆ เพราะที่นี่เป็นผับของพี่ชายสริตาซึ่งไอรดาก็รู้สึกเป็นอย่างดี “สวัสดีครับคุณลูกค้าได้จองโต๊ะหรือนัดใครไว้หรือเปล่าครับ” บริกรชายรีบเข้ามาต้อนรับทันทีเมื่อเธอเดินถึงบริเวณประตูทางเข้า “ไม่ได้จองไว้ค่ะ โต๊ะเต็มเหรอคะ” “โต๊ะไม่เต็มหรอกครับ แต่คืนนี้ทางร้านเราจัดกิจกรรมพิเศษหาคู่ให้คนโสด พอดีผมเห็นว่าคุณมาคนเดียวก็เลยอยากจะแนะนำให้ร่วมกิจกรรมดูครับ อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มแล้ว ทางร้านยังขาดผู้หญิงสวยๆ มาร่วมกิจกรรมคนหนึ่งพอดี” “จับคู่นี่คือต้องจับคู่กันจริงหรือแค่สนุกสนานคะ” “แค่สนุกในงานครับ ส่วนใครถูกใจใครแล้วจะนัดกันออกข้างนอกต่ออันนี้เราให้สิทธิ์ของลูกค้าเต็มที่ครับ คุณผู้หญิงสนใจไหมครับ “ก็น่าสนใจดีนะคะ” “เดินตามผมมาเลยครับ” เพราะคิดว่าไม่มีอะไรเสียหายมันก็แค่สนุกและผ่อนคลายไอรดาเลยเดินตามบริกรไปโดยที่ไม่ได้แวะทักทายเจ้าของผับเหมือนกับทุกครั้งที่มาเที่ยว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีทั้งหมดห้าคู่โดยทางร้านจะให้ทุกคนได
เมื่อมีคนหนึ่งออกไปจากกิจกรรม คนที่ทำหน้าที่พิธีกรก็เลยต้องประกาศหาคนมาร่วมสนุกเพิ่ม แต่เพราะรอบสุดท้ายเป็นการจับคู่เต้นรำก็เลยไม่มีใครอยากเข้าร่วมเนื่องจากคนที่จะเข้ามาใหม่ไม่มีโอกาสทำความรู้จักผู้หญิงทั้งห้าคนเลยสักนิด เมื่อพอจะเดาสถานการณ์ได้ว่าตัวเองคงจะไม่มีใครเลือกให้เป็นคู่เต้นรำ ไอรดาเลยคิดจะถอนตัวแต่ยังเดินไปไม่ถึงพิธีกรผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่าจะเข้ารวมกิจกรรมนี้แทนผู้ชายคนที่เดินออกไป “ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้คุณผู้ชายที่เข้ามาใหม่เสียเปรียบผมให้เวลาคุณทำความรู้จักกับสาวๆ ทั้งห้าคนละหนึ่งนาทีนะครับ” “ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมองเธอตั้งแต่เริ่มกิจกรรมแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเริ่มกิจกรรมของคุณได้เลย” ปิญชาน์ไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลาเพราะตัวเงอ และอีกอย่างเขาก็ตั้งใจมาเต้นรำกับหญิงชุดดำอยู่แล้ว เมื่อชายหนุ่มยืนยันไปแบบนั้นพิธีกรก็เลยอธิบายขั้นตอนการเลือกคู่เต้นรำ ซึ่งครั้งนี้ฝ่ายจะมอบดอกไม้ให้กับฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายหญิงจะยังไม่ออกไปเต้นรำด้วย เพราะไม่อยากเป็นการบังคับจนเกินไป ฝ่ายหญิงมีสิทธิ์ที่จะออกไปเต้นรำด้วยหรือไม่ก็ได้ และท
“คุณชาน์ อัยย์เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”ไอรดาถามขณะที่ประตูห้องของโรงแรมปิดลง“ไม่ทันแล้วครับคุณอัยย์”“ว๊าย..คุณชาน์”ไอรดาอุทานเมื่อชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังยืนงงอยู่ดึงให้เธอเข้าไปหาแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมทับสองขากันเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน“ทําไมล่ะครับ หรือคุณคิดว่าผมให้ความสุขคุณไม่ได้” เขาก้มถามอย่างใกล้ชิดจนเห็นแววตาของอีกฝ่ายว่าตอนนี้มีทั้งความกังวลและความตื่นตระหนกอยู่ในนั้น ในขณะที่ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา“ฉันว่ามันถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”“อะไรคือความถูกต้องล่ะครับในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราแค่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น”“แต่อัยย์”“นะครับอัยย์ ให้ผมถอยตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว”“เรื่องของเราต้องเป็นความลับนะคะ”“แน่นอนอัยย์”ปิญชาน์ตอบอย่างมั่นใจเพราะเขาก็ไม่อยากจะผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน เขาชอบชีวิตอิสระ เมื่อเห็นเธอนิ่งเขาก็การโน้มริมฝีปากลงไปมอบจุมพิตที่เร่าร้อนลงไปยังกลับปากสีแดงสดริมฝีปากของไอรดาถูกประกบทาบทับด้วยไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแนบชิด เป็นครั้งแรกก็สร้างความตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาน
“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ” “อ๊ะ! คุณชาน์”ไอรดาร้องเสียงหลงเมื่อเรียวขาคู่สวยของเธอถูกเขาจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเมื่อครู่ กลีบดอกไม้สีสวยลอยเด่นตรงหน้าเขาชัดเจน“อย่ามองแบบนั้น”“จะอายทำไมล่ะอัยย์ ผมว่ามันสวยผมชอบนะ”เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะดันขาของเธอให้กว้างออกมากพอที่ตัวเขาจะแทรกไปอยู่ตรงกลางได้ จากนั้นก็รีบสวมถุงยางอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนจับขาของไอรดาให้ยกชันขึ้น ทุกการกระทำของเขาทำให้ไอรดาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด ไอรดาสบตาคมปลาบ ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าขาวซับสีเลือดบอกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านหญิงสาวมองใบหน้าเขา ที่กำลังแดงก่ำ เส้นเลือดที่ลำคอเต้นจนเห็นชัด เธอไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง จะเหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกไหม แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกของแข็งร้อนรุกล้ำอยู่ตรงเบื้องล่าง“อ๊ะ คุณชาน์”หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากำลังชำแรกเข้ามาในตัวเธอจนอึดอัดและคับแน่น รู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“อัยย์อย่าเกร็ง สูดหายใจลึกๆ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ตนเองก็ขบกรามแน่น เขากำลั
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ
ไอรดาใช้เวลานานกว่าจะพาตัวเองเดินขึ้นมายังห้องพัก และพอประตูห้องปิดลงหญิงสาวก็ฟุบใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ความผิดหวังครั้งนี้มันมากเกินจะเก็บเอาไว้ได้ ไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกทิ้งเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน ความรู้สึกครั้งนี้มันหนักหนากว่าครั้งแรกเพราะเธอคิดว่าหมอปิญชาน์เป็นคนที่เข้าใจเธอและอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด เธอรักเขามากและคิดว่าเขาก็คงจะรักเธอมากเหมือนกัน แต่นั่นมันอาจจะเป็นเธอเองที่คิดเข้าข้างตนเองมากเกินไป ใครที่ไหนจะมาจริงจังกับแม่หม้ายอย่างเธอกัน คนที่เรียนเก่งทำงานเก่งแต่ทักษะการใช้ชีวิตแทบไม่มีอย่างเธอก็เหมาะสมแล้วที่โดนเขาหลอก จากนี้ไอรดาคิดว่าคงไม่รับใครเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว เวลาที่เหลือจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เวลาว่างก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครตายเพราะไม่มีคู่เลยสักคน แม้จะยังทำใจไม่ได้แต่ไอรดาก็ไม่อยากให้ความเสียใจมาส่งผลต่อร่างกาย หญิงสาวจึงอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปหาอะไรทาน พอทานอิ่มก็กลับขึ้นมาบนห้องแล้วเธอก็บังเอิญเจอกับคุณหมอสิรภพที่กำลังจะกลับขึ้นห้องพอดี “หมออัยย์ผมกำลังจะไปหาที่ห้องเล
เมื่อปัญหาทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วไอรดาก็กลับมายิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง คุณหมอสาวตรวจคนไข้คนสุดท้ายของวันนี้เสร็จในเวลาเกือบจะสองทุ่มแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ถ้าไม่ถึงเวลาปิดแผนกเธอคงจะนั่งตรวจต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน “หมออัยย์ค่ะ คนไข้หมดแล้วยังไม่รีบกลับเหรอคะ” นีรนุชเดินเข้ามายังห้องตรวจเห็นว่าคุณหมอยังไม่เตรียมตัวกลับก็ถามขึ้น “ค่ะพี่นุช เดี๋ยวอัยย์ก็กลับแล้วค่ะ” “ตั้งแต่เป็ดโสดอีกครั้งดูหมออัยย์มีความสุขมากนะคะ” “พี่นุชดูออกเลยเหรอคะ” “ใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละค่ะ”“นี่อัยย์คิดว่าตัวเองเก็บอาการอยู่แล้วนะคะ”“พี่ไม่รู้ว่าหมออัยย์กับคุณติมีปัญหาอะไรกันถึงแม้จะแอบเสียใจที่หมออัยย์เลิกกับเขา แต่พอเห็นว่าหมอออัยย์มีความสุขแบบนี้พี่ก็ดีใจด้วยค่ะ” “ขอบคุณค่ะ อัยย์ก็มีความสุขจริงนั่นแหละค่ะ ส่วนเรื่องเลิกกันเพราะอะไรถ้าใครตาม ig พี่ติก็คงจะรู้เองล่ะคะ” ไอรดาไม่ได้บอกใครถึงเหตุผลที่ตนเองเลิกกับสามี เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แม้กระทั่งเรื่องที่เธอกับเขาหย่ากันเธอก็ไม่ได้เป็นคนป่าวประกาศแต่เป็นเขาเองที่
ไอรดาตัดสินใจพาครอบครัวของตนไปพบบิดามารดาของอติรุจน์ตามกำหนดเดิมเพราะอยากให้เรื่องทุกอย่างนั้นจบ เธอไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังอยู่แบบนี้จากที่เห็นใจในความรักของอติรุจน์และพนาที่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเรื่องที่เขาเอามาขู่เธอเมื่อวานนั้นมันน่าเกลียดจนเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม ความเป็นพี่เป็นน้องระหว่างเธอกับเขามันหมดลงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณยาย คุณอร คุณนุ เชิญด้านในก่อนนะคะ พวกเราดีใจที่ทุกคนแวะมาเยี่ยม” มารดาของอติรุจ์ออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น“บ้านน่าอยู่จังเลยนะคะ” อรอินเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเอ่ยชม“ขอบคุณนะคะ คราวหน้าถ้ามากรุงเทพก็มาพักที่บ้านได้นะคะ เพราะพักที่บ้านตาติกับหนูอัยย์คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ที่นี่ห้องหับเยอะแยะเลยค่ะ”“พวกคงไม่รบกวนคุณรจนาหรอกค่ะ ที่แวะมานี่ก็แค่จะมาแจ้งข่าว”“แจ้งข่าวอะไรเหรอครับ” คุณวสันต์ถามอย่างสงสัยเพราะนึกไม่ออกว่าจะมีข่าวอะไรที่คุณยายนวลแขถึงมาแจ้งด้วยตนเองแบบนี้ “ฉันไม่อยากจะอ้อมค้อมให้เสียเวลาหรอกนะคะ เอาเป็นว่าที่พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อจะเอาสินสอดและของหมั้น