“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องตรวจปิดลงในเวลา 20.15 น. แพทย์หญิงไอรดาทิ้งร่างพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง เธอตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็นับเวลารวม 12 ชั่วโมง นี่ยังไม่รวมเวรกลางคืนที่เธอคอยรับคนไข้เด็กจากห้องคลอดอีกสองคืน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้คุณหมอสาวนั่งตัวตรงอีกครั้งเพราะคิดว่าจะมีคนไข้มาตรวจกับเธอถึงแม้จะเลยเวลาตรวจไปแล้วแต่ถ้ายังมีคนไข้ ไอรดาก็มักจะตรวจจนกว่าจะหมด เพราะรู้ว่าถ้าตนเองไม่ตรวจ คนไข้เหล่านั้นก็จะต้องไปตรวจต่อกับคุณหมอที่ห้องฉุกเฉินซึ่งบางครั้งก็ไม่มีหมอเฉพาะทางเด็ก
“หมดแรงเลยเหรอคะหมออัยย์” นีรนุชพยาบาลประจำแผนกเด็กถามขึ้น
“ค่ะ พี่นุช อัยย์ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ต้องกลับช้าอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ได้รับไปไหนว่าแต่หมออัยย์เถอะค่ะ อีกสองวันก็จะแต่งงานแล้วยังจะรับขึ้นเวรอีกนะคะ”
“ก็หลังแต่งอัยย์ขอลางานต่ออีกหนึ่งอาทิตย์นี่คะ เลยต้องแลกเวรกับหมอปิ่น”
“จะไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะคะ”
“ยังไม่รู้เลยค่ะพี่นุช แฟนอัยย์ไม่ยอมบอกอะไรเลย”
“น่ารักจังนะคะ สงสัยคุณติคงอยากให้หมออัยย์เซอร์ไพรส์” นีรนุชเคยเจอว่าที่สามีคุณหมอไอรดาอยู่หลายครั้ง เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี สุภาพและดูอบอุ่นเหมาะกับคุณหมอไอรดาราวกับกิ่งทองใบหยก
“นั่นสิคะ พี่ติน่ะเก็บความลับเก่งมาก อัยย์เลยไม่รู้จะเตรียมเสื้อผ้าแบบไหนไปเที่ยวเลยล่ะคะ”
“พี่ว่าคงไม่พ้นแถวยุโรปแน่ ที่นั่นกำลังอากาศหนาวเหมาะกับคู่รักค่ะ”
“พี่นุชพูดแบบนี้สงสัยว่าอัยย์คงต้องไปหาชุดเพิ่มแล้วล่ะคะ”
“อย่าห่วงแต่ชุดไปเที่ยวนะคะ อีกสองวันก็จะถึงวันงานแล้วพี่ว่าหมออัยย์ควรจะนอนพักให้มากๆ นะคะ พี่บอกก่อนเลยว่าถึงเราเป็นเจ้าสาวยืนยิ้มอย่างเดียวก็จริงแต่มันเหนื่อยมากๆค่ะ” นีรนุชพูดตามประสบการณ์ของตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่นุช อัยย์อึดอยู่แล้วถ้างั้นคงไม่ขึ้นเวรควบได้หรอกค่ะ”
“จริงสิ หมออัยย์ของพวกเราน่ะทั้งสวยและอึด แล้ววันนี้ว่าที่เจ้าบ่าวจะมารับไหมคะ”
“ไม่ค่ะ คุณยายบอกไม่ให้เจอกันก่อนวันแต่งงานสามวันค่ะ วันนี้อัยย์จะไปเม้าท์กับหมอริตาค่ะ” ไอรดาหมายถึงสริตาที่เป็นวิสัญญีแพทย์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับเอมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมและลากยาวมาจนถึงตอนนี้
“ถึงว่าพี่เห็นหมอริตามาเดินด้อมๆ มองๆ คงจะมาตามหมออัยย์นั่นเอง งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ เจอกันที่งานแต่งวันมะรืนค่ะ”
“ที่แผนกไม่มีใครไปงานตอนเช้าไหมคะ”“ไม่จ้ะ ตอนเช้าอยากให้เป็นงานของครอบครัว พวกเราเลยว่าจะยกกันไปทั้งแผนกตอนเย็นทีเดียวค่ะ”
“ได้ค่ะ ไปตามที่อัยย์ปักหมุดไว้รับรองไม่หลงค่ะ”
พอนีรนุชออกจากห้องไปแล้วไอรดาก็เก็บของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋า พอเดินออกมาจากห้องตรวจ ไฟบริเวณแผนกกุมารเวชก็ปิดเกือบหมดจะเหลือก็แค่ไฟตรงทางเดินเท่านั้น
“ริตา ขอโทษนะ รอนานไหม” ไอรดาเดินมาคล้องแขนหมอสริตาอย่างประจบ
“รอจนจะหลับแล้ว คนไข้เยอะเหรออัยย์” หมอสามมารอเพื่อนตั้งแต่สองทีมจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองทุ่มครึ่ง
“อือ กว่าจะตรวจคนสุดท้ายเสร็จแผนกอื่นเข้าก็กลับบ้านกันหมดแล้ว”
“ริตาไม่เข้าใจเลยว่าทำไม่อัยย์จะต้องทุ่มเทกับงานมากขนาดนี้ ดูสิจะแต่งงานอยู่อีกสองวันแล้วยังจะห่วงทำงานอีก” คุณหมอสาวมองหน้าเพื่อนรักอย่างเอือมระอา เพราะไอรดาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน หญิงสาวจะทุ่มเทกับทุกๆ เรื่อง จนบางครั้งเธอก็มองว่ามันมากเกินไป
“เอาน่าอย่าบ่นไปหน่อยเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าอัยย์อยากกินชาบู”
“จะมาอยากกินอะไรกันตอนนี้ ริตาว่าอัยย์ควรกินอะไรที่มันเบาๆ เดี๋ยวชุดแต่งงานใส่ไม่ได้จะหาว่าริตาไม่เตือนนะ”
“ใส่ไม่ได้ก็ขยายไซซ์เอาสิ ง่ายจะตาย”
“เบื่อที่จะพูดกับคนเห็นแก่กินแล้ว ริตาว่าคืนนี้อัยย์กินได้แค่สลัดกับผลไม้เท่านั้นแหละ”
“แค่นั้นมันจะอิ่มที่ไหนล่ะ ขอแซนด์วิชอีกชิ้นได้ไหม”
ว่าที่เจ้าสาวโอดครวญเพราะสองวันมานี้เธอใช้พลังงานไปมากกว่าปกติ ทั้งออกตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอก ราวน์คนไข้ที่แผนกผู้ป่วยในและยังต้องเข้าเวรคอยรับเด็กจากห้องคลอด และเมื่อคืนเหมือนจะเป็นฤกษ์ดีเพราะเธอรับเด็กจากการผ่าคลอดไปถึง 4 คนซึ่งเด็กๆ พวกนั้นก็อาจจะกลายมาเป็นคนไข้ของเธอ ทั้งในเวลารับวัคซีนและเวลาเจ็บป่วย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็อยากให้ลูกของตนเองได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากคุณหมอที่ดูแลในวันแรกที่พวกเขาลืมตาขึ้นมา
“ให้ครึ่งชิ้นจ้ะ” สริตาไม่ยอมใจอ่อนเพราะกลัวว่าเพื่อนจะพุงป่องเวลาใส่ชุดเจ้าสาว แล้วคนจะเอาไปนินทาว่าเจ้าสาวป่องก่อนแต่ง
“โอยยย ริตาใจร้าย”
“ไม่ต้องมาบ่นเลย รีบกลับกันได้แล้ว พรุ่งนี้ริตามีเคสแต่เช้า”
“อ้าว ไหนว่าจะไปขัดตัวกัน”
“มีเคสผ่าคลอดน่ะ ถ้าเสร็จเร็วจะตามไปที่ร้าน ว่าแต่เพื่อนคนอื่นได้รับชุดกันครบแล้วใช่ไหม”
“ทางร้านส่งให้ครบแล้ว อัยย์เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องจัดงานให้มันวุ่นวายด้วย”
“คำถามนี้ริตาว่าอัยย์เก็บไปถามคุณยายนวลแขดีกว่าไหม”“ถ้าถามได้อัยย์ถามไปแล้วสิ ริตาก็รู้ว่าอัยย์ไม่กล้าขัดใจคุณยาย” เพราะคุณยายนวลแขเป็นคนเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กเนื่องจากบิดามารดาของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังแบเบาะ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณยายนวลแขจะพูดหรือจะบอกให้เธอทำอะไร ไอรดาก็ยอมทำตามทุกอย่าง รวมถึงการแต่งงานครั้งนี้ด้วย
ไอรดากับอติรุจน์รู้จักกันมานานเพราะทั้งสองครอบครัวนั้นสนิทสนมกันมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด แต่เธอกับชายหนุ่มไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่ เนื่องจากไอรดานั้นเรียนหนักมากในขณะที่เขาก็เอาแต่ทำงาน แต่หลังจากเรียนจบแพทย์ครอบครัวทั้งสองก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน
หญิงสาวไม่ได้คัดค้าดแต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์เธอบอกกับคุณยายนวลแขว่าเธอยังต้องใช้ทุนอีกถึงสามปีแล้วจากนั้นก็จะขอเรียนต่อเฉพาะทาง ถ้าเรียนจบแล้วอติรุจน์ยังไม่มีใครเธอก็จะยอมตกลงแต่งงานด้วย
แต่ไอรดาก็พลาดอย่างหนักเมื่อคุณยายช่วยร่นเวลาให้ด้วยจ่ายเงินคืนให้กับรัฐบาลและยังเป็นคนออกเงินค่าเรียนเฉพาะทางให้เธออีกด้วย
ระหว่างที่หญิงสาวไปต่อเฉพาะทางที่อเมริกา อติรุจน์ก็มักจะแวะไปหาเธอที่นั่นอยู่บ่อยครั้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเริ่มดีขึ้น เธอพูดคุยปรึกษากับชายหนุ่มได้ทุกเรื่อง เขาเป็นผู้รับฟังที่ดีมาตลอด
และพอเธอเรียนจบกลับมาทำงานได้สามเดือนการแต่งงานจึงถูกกำหนดขึ้นด้วยความเต็มใจของทั้งสองคน
ระยะเวลา 3 ปีที่ได้รู้จักกับอติรุจน์ชายหนุ่มไม่เคยทำให้เธอลำบากใจเลย แม้ว่าเธอจะขึ้นเวรจนไม่มีเวลาให้เขา แต่อติรุจน์ก็ไม่เคยว่า หนำซ้ำเขายังคอยสนับสนุนและเป็นกันชนที่ดีระหว่างเธอกับคุณยายซึ่งบางครั้งก็ทะเลาะกัน เรื่องที่หญิงสาวเอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาพัก เขาเป็นเหมือนกับกับหลุมหลบภัยของเธอ เพราะทุกครั้งที่มีปัญหาชายหนุ่มจะอยู่เคียงข้างและจับมือเธอไว้อยู่ตลอด เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เจอผู้ชายที่แสนดีอย่างอติรุจน์
พิธีแต่งงานถูกแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นแบบไทยและช่วงเย็นเป็นพิธีฉลองมงคลสมรสซึ่งจะจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวเพื่อให้เพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายได้มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างสะดวกในช่วงเช้าจัดเป็นพิธีแบบไทย ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านสวนของคุณยายนวลแขที่จังหวัดนครปฐม แขกที่มาร่วมงานจึงมีแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายเพียงเท่านั้นทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างสวยงามตามความต้องการของคุณยายนวลแข ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็ยอมตามใจทุกอย่างเพราะมีความเคารพนับถือกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างคุณยายนวลแขก็เป็นคนจัดการงานนี้ด้วยตนเองเพราะอยากทำให้วันสำคัญของหลานสาวเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดทั่วบริเวณบ้านเรือนไทยถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้จริงทั้งหมด ทำให้ทั่วบริเวณงานเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น คนที่มาเป็นแขกต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปากไอรดาสวมชุดไทยศิวาลัยสีงาช้างพาดสไบสีเดียวกันปักดิ้นเงิน ผมถูกเกล้ารอบศีรษะ เปิดให้เห็นใบหน้าสวยหวานราวกับหลุดออกมาจากวรรณคดี ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเสริมให้ดูเด่นชัดขึ้น พวกแก้มปัดสีอ่อนเน้นความเป็นธรรมชาติ ปากบางทาด้วยสีชมพู อ่อนๆ พอเธอปรากฏกา
ไอรดาใช้เวลาอาบน้ำสระผมเกือบหนึ่งชั่วโมง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นกับคืนเข้าหอ จากที่ฟังเพื่อเล่ามานั้นส่วนใหญ่คู่บ่าวสาวจะหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยจากงานแต่งมาตั้งแต่เช้ามืด แต่สำหรับเธอนั้นแค่นี้ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร เพราะเคยอยู่เวรแบบไม่ได้พักยาวนานถึง 48 ชั่วโมงก็ทำมาแล้ว หญิงสาวสวมชุดนอนวาบหวิวที่เพื่อนๆ ให้มาเป็นของขวัญและย้ำว่าให้สวมชุดนี้คืนวันแต่งงาน ไอรดามองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เมื่อมองร่างกายของตัวเองแล้วก็ยิ้มอย่างภูมิใจถึงแม้จะเป็นคนชอบทานอาหารขยะและขนมหวานแต่ก็บังคับให้ตัวเองออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดทั้งเรือนร่างแทบไม่มีไขมันส่วนเกินเลยสักนิดแถมหน้าอกคุณแม่และคุณยายก็ให้มาอย่างล้นเหลือแต่พอออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอไม่ได้รออยู่อย่างที่คิดไว้เธอเห็นว่ามันนานเกินไปที่เขาจะอยู่ในห้องน้ำ บวกกับตอนนี้ตัวเองก็อยากจะออกไปหาน้ำดื่มสักแก้ว จึงคิดว่าจะไปตามเขาที่ห้องนอนเผื่อว่าเขาจะเผลอหลับอยู่ในห้องนั้นยังเดินไปไม่ถึงห้องนอนแขกไอรดาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันออกมาจากห้องนั้น ตอนแรกเธอก็คิดว่าอติรุจน์อาจจะกำลังคุยโทรศัพท์ แต่พอเดินเ
ไอรดาโทรไปถามนุกูลผู้เป็นลุงถึงอาการป่วยของคุณยายก็ได้รับคำตอบว่าเป็นจริงอย่างที่อติรุจน์พูด แต่พอเธอบอกจะกลับไปเยี่ยมลุงของเธอก็ถามถึงการไปฮันนีมูน ทำให้หญิงสาวน้ำท่วมปากไม่กล้าพูดเรื่องที่ตัวเธอกำลังจะหย่า “หนูอัยย์ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ตอนนี้คุณยายท่านกำลังใจดียิ่งเห็นว่าหนูอัยย์แต่งงานและมีความสุขดี ท่านก็ยิ่งมีความสุขไปกับหนูอัยย์ด้วย” “แล้วเรื่องผ้าตัดล่ะคะคุณลุง อัยย์จะลองถามเพื่อนๆ ดูว่ามีหมอที่ไหนเก่งๆ บ้าง” “เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่างหรอกจ้ะ หมอที่รักษาคุณยายน่ะท่านเก่งมาก จบจากเมืองนอกเลยนะ” “กำหนดผ่าตัดวันไหนคะ” “วันที่ 15 เดือนหน้าจ้ะ” “อีกตั้งสองอาทิตย์เลยนะคะลุงนุ” “คุณหมอเขานัดผ่าตัดตามอาการคนไข้น่ะลูก” ไอรดาเข้าใจเงื่อนไขข้อนี้ดีแต่เธอก็ยังเป็นห่วงคุณยายมาก ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยลดระยะเวลาการรอคอยได้เธอก็อยากจะทำ “ลุงนุบอกชื่อหมอมาได้ไหมเผื่อว่าอัยย์จะรู้จัก” “ถ้าหนูใช้ความเป็นหมอ ใช้ความสนิทสนมไปขอลัดคิว ลุงว่ามันไม่ยุติธรมกับคนไข้คนอื่นเลย หนูอัยย์คงไม่ทำแบบนั้น
ไอรดามาถึงคอนโดมิเนียมโครงการหรูที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก หญิงสาวเข้าไปติดต่อกับพนักงานขายเพื่อเลือกห้องที่ตัวเองถูกใจมากที่สุด จากนั้นก็โทรศัพท์ไปบอกบริษัทรับย้ายของที่ให้ไปเอาของใช้ส่วนตัวที่เธอแพ็คลงกล่องไว้ที่คอนโดเดิมมายังคอนโดแห่งใหม่ ซึ่งของเหล่านั้นเดิมทีเธอเตรียมจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของอติรุจน์หลังแต่งงานแต่เมื่อทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดเธอจึงต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะคอนโดของตนเองนั้นได้ประกาศขายไปแล้ว และเจ้าของคนใหม่ก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในเดือนหน้า คอนโดแห่งใหม่นี้มีขนาดสองห้องนอนสองห้องน้ำเป็นห้องเกือบริมสุด มีระเบียงมองออกไปวิวแม่น้ำพระยา มีห้องนั่งเล่นและครัวอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่จะอยู่กันคนละฝั่ง อีกด้านจะเป็นพื้นที่ครัว ที่มีโต๊ะทานข้าววางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวกั้นระหว่างครัวกับพื้นที่นั่งเล่น ไอรดาพอใจกับขนาดของห้องและพื้นที่การใช้สอยมากในอนาคตเธอวางแผนว่าอาจจะใช้ห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานและห้องหนังสือ แต่วันนี้คงได้แค่เอาของที่อยู่ในกระเป๋ามาจัดให้เข้าที่เพราะบริษัทขนส่งแจ้งพรุ่งนี้พวกเขาถึงจะนำของมาส่งให
ไอรดามาถึงผับในเวลาเกือบจะห้าทุ่ม ปกติแล้วเธอจะมาดื่มคลายเครียดกับสริตาอยู่บ่อยๆ เพราะที่นี่เป็นผับของพี่ชายสริตาซึ่งไอรดาก็รู้สึกเป็นอย่างดี “สวัสดีครับคุณลูกค้าได้จองโต๊ะหรือนัดใครไว้หรือเปล่าครับ” บริกรชายรีบเข้ามาต้อนรับทันทีเมื่อเธอเดินถึงบริเวณประตูทางเข้า “ไม่ได้จองไว้ค่ะ โต๊ะเต็มเหรอคะ” “โต๊ะไม่เต็มหรอกครับ แต่คืนนี้ทางร้านเราจัดกิจกรรมพิเศษหาคู่ให้คนโสด พอดีผมเห็นว่าคุณมาคนเดียวก็เลยอยากจะแนะนำให้ร่วมกิจกรรมดูครับ อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มแล้ว ทางร้านยังขาดผู้หญิงสวยๆ มาร่วมกิจกรรมคนหนึ่งพอดี” “จับคู่นี่คือต้องจับคู่กันจริงหรือแค่สนุกสนานคะ” “แค่สนุกในงานครับ ส่วนใครถูกใจใครแล้วจะนัดกันออกข้างนอกต่ออันนี้เราให้สิทธิ์ของลูกค้าเต็มที่ครับ คุณผู้หญิงสนใจไหมครับ “ก็น่าสนใจดีนะคะ” “เดินตามผมมาเลยครับ” เพราะคิดว่าไม่มีอะไรเสียหายมันก็แค่สนุกและผ่อนคลายไอรดาเลยเดินตามบริกรไปโดยที่ไม่ได้แวะทักทายเจ้าของผับเหมือนกับทุกครั้งที่มาเที่ยว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีทั้งหมดห้าคู่โดยทางร้านจะให้ทุกคนได
เมื่อมีคนหนึ่งออกไปจากกิจกรรม คนที่ทำหน้าที่พิธีกรก็เลยต้องประกาศหาคนมาร่วมสนุกเพิ่ม แต่เพราะรอบสุดท้ายเป็นการจับคู่เต้นรำก็เลยไม่มีใครอยากเข้าร่วมเนื่องจากคนที่จะเข้ามาใหม่ไม่มีโอกาสทำความรู้จักผู้หญิงทั้งห้าคนเลยสักนิด เมื่อพอจะเดาสถานการณ์ได้ว่าตัวเองคงจะไม่มีใครเลือกให้เป็นคู่เต้นรำ ไอรดาเลยคิดจะถอนตัวแต่ยังเดินไปไม่ถึงพิธีกรผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่าจะเข้ารวมกิจกรรมนี้แทนผู้ชายคนที่เดินออกไป “ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้คุณผู้ชายที่เข้ามาใหม่เสียเปรียบผมให้เวลาคุณทำความรู้จักกับสาวๆ ทั้งห้าคนละหนึ่งนาทีนะครับ” “ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมองเธอตั้งแต่เริ่มกิจกรรมแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเริ่มกิจกรรมของคุณได้เลย” ปิญชาน์ไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลาเพราะตัวเงอ และอีกอย่างเขาก็ตั้งใจมาเต้นรำกับหญิงชุดดำอยู่แล้ว เมื่อชายหนุ่มยืนยันไปแบบนั้นพิธีกรก็เลยอธิบายขั้นตอนการเลือกคู่เต้นรำ ซึ่งครั้งนี้ฝ่ายจะมอบดอกไม้ให้กับฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายหญิงจะยังไม่ออกไปเต้นรำด้วย เพราะไม่อยากเป็นการบังคับจนเกินไป ฝ่ายหญิงมีสิทธิ์ที่จะออกไปเต้นรำด้วยหรือไม่ก็ได้ และท
“คุณชาน์ อัยย์เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”ไอรดาถามขณะที่ประตูห้องของโรงแรมปิดลง“ไม่ทันแล้วครับคุณอัยย์”“ว๊าย..คุณชาน์”ไอรดาอุทานเมื่อชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังยืนงงอยู่ดึงให้เธอเข้าไปหาแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมทับสองขากันเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน“ทําไมล่ะครับ หรือคุณคิดว่าผมให้ความสุขคุณไม่ได้” เขาก้มถามอย่างใกล้ชิดจนเห็นแววตาของอีกฝ่ายว่าตอนนี้มีทั้งความกังวลและความตื่นตระหนกอยู่ในนั้น ในขณะที่ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา“ฉันว่ามันถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”“อะไรคือความถูกต้องล่ะครับในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราแค่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น”“แต่อัยย์”“นะครับอัยย์ ให้ผมถอยตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว”“เรื่องของเราต้องเป็นความลับนะคะ”“แน่นอนอัยย์”ปิญชาน์ตอบอย่างมั่นใจเพราะเขาก็ไม่อยากจะผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน เขาชอบชีวิตอิสระ เมื่อเห็นเธอนิ่งเขาก็การโน้มริมฝีปากลงไปมอบจุมพิตที่เร่าร้อนลงไปยังกลับปากสีแดงสดริมฝีปากของไอรดาถูกประกบทาบทับด้วยไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแนบชิด เป็นครั้งแรกก็สร้างความตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาน
“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ” “อ๊ะ! คุณชาน์”ไอรดาร้องเสียงหลงเมื่อเรียวขาคู่สวยของเธอถูกเขาจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเมื่อครู่ กลีบดอกไม้สีสวยลอยเด่นตรงหน้าเขาชัดเจน“อย่ามองแบบนั้น”“จะอายทำไมล่ะอัยย์ ผมว่ามันสวยผมชอบนะ”เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะดันขาของเธอให้กว้างออกมากพอที่ตัวเขาจะแทรกไปอยู่ตรงกลางได้ จากนั้นก็รีบสวมถุงยางอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนจับขาของไอรดาให้ยกชันขึ้น ทุกการกระทำของเขาทำให้ไอรดาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด ไอรดาสบตาคมปลาบ ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าขาวซับสีเลือดบอกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านหญิงสาวมองใบหน้าเขา ที่กำลังแดงก่ำ เส้นเลือดที่ลำคอเต้นจนเห็นชัด เธอไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง จะเหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกไหม แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกของแข็งร้อนรุกล้ำอยู่ตรงเบื้องล่าง“อ๊ะ คุณชาน์”หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากำลังชำแรกเข้ามาในตัวเธอจนอึดอัดและคับแน่น รู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“อัยย์อย่าเกร็ง สูดหายใจลึกๆ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ตนเองก็ขบกรามแน่น เขากำลั
วันนี้อติรุจน์มารับไอรดาที่คอนโดตั้งแต่เช้าจากนั้นก็นัดแนะคำพูดให้ตรงกัน ก่อนจะเอาของฝากไปให้ที่บ้านบิดามารดาของชายหนุ่ม ทั้งสองแสดงว่าเป็นคู่ที่รักกันมากจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนต่างยิ้มและรอคอยที่จะอุ้มหลาน ไอรดาได้แต่ยิ้มรับเพราะเรื่องนี้มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นและเธอก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด แต่ที่หนักใจก็ตอนที่กำลังไปยังบ้านสวนของคุณยายนวลแข ไอรดากลัวว่าจะโดนคุณยายจับได้ “เมื่อกี้เรายังผ่านมาได้ พี่ว่าอัยย์อย่ากังวลไปเลยนะ” อติรุจน์เห็นหญิงสาวเอาแต่เงียบก็พูดปลอบใจ “ก็อัยย์กลัวนี่คะพี่ติ ถ้าคุณยายถามอะไรพี่ติเป็นคนตอบได้ไหม ส่วนอัยย์จะไปคุยกับคุณลุงคุณป้า” “ได้สิ อัยย์แค่นั้นยิ้มก็พอ เรื่องที่เหลือพี่จัดการเอง” พอลงจากรถเด็กรับใช้คนสนิทของคุณยายก็รีบเข้ามารับถุงของฝากขึ้นไปบนบ้านเรือนไทยก่อนที่ไอรดาและสามีจะเดินตามไปขึ้น “สวัสดีค่ะคุณยาย” ไอรดาเข้าไปกอดอย่างประจบ “สวัสดีครับคุณยาย ผมซื้อพวกวิตามินแล้วก็ผ้าพันคอสวยๆ มาฝากคุณยายกับป้าอรด้วยนะครับ ส่วนของลุงนุกับพี่ณัฐผมก็ซื้อกระเป๋าหนังอย่างดีกับน้ำหอมมาฝาก”
ปิญชาน์เช็ดตัวให้คนที่นอนหมดแรงจนสะอาดเอี่ยมจากนั้นตัวเองก็รีบอาบน้ำและกลับมานอนกอดร่างที่เปลือยเปล่า ให้ศีรษะของเธอหนุนบนท่อนแขน มือใหญ่โอบเอวเธอไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงไอรดากระซิบบอกรักนั่นยิ่งทำให้เขานอนหลับอย่างมีความสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะกลายเป็นเพียงความฝันเมื่อตื่นเช้ามาเขาเจอโน้ตที่หญิงสาวเขียนทิ้งไว้พร้อมกับเช็คเงินสดหนึ่งแสนบาท ‘ขอบคุณที่เข้ามาทำให้อัยย์มีความสุข ขอบคุณที่มาเติมเต็มนะคะ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปได้ยาก อัยย์ไม่ใช่คนตัวเปล่า ถึงจะหย่าแล้วแต่สถานะทางสังคมก็ยังต้องดำเนินต่อ ขอโทษที่ไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ หวังว่าคุณจะให้อภัยนะคะ รักคุณนะ....อัยย์’ ปิญชาน์ทั้งโกรธทั้งโมโหที่เธอทิ้งเขาไปแบบนี้ แม้จะดีใจกับคำบอกรัก แต่สิ่งที่เธอทำนั้นเขาคิดว่ามันมากเกินไป เธอทำราวกับว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว ชายหนุ่มรีบสวมเสื้อผ้าและกลับไปเก็บของที่โรงแรม ระหว่างทางที่ขับรถกลับก็พยายามจะติดต่อกับหญิงสาว อยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องแต่เธอคงจะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของ
ไอรดาอาบน้ำไปด้วยใช้ความคิดไปด้วยจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขามายืนอยู่ด้านหลังเธอแล้ว “ผมช่วยอาบไหมอัยย์” “คุณชาน์เข้ามาได้ยังไงคะ” “ก็ห้องน้ำตัวล็อกมันเสีย” เขาตอบขณะที่เข้ามายืนประชิด สาวตาจ้องไปที่เรือนร่างที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ราวกับเธอเป็นภาพศิลปะที่หาดูยาก “คุณชาน์อย่างจ้องอัยย์แบบนั้นสิคะ” พูดพลางเอาสองมือปิดส่วนสงวนทั้งบนทั้งล่าง “จะปิดทำผมเห็นมาทั้งตัวแล้ว ให้ผมช่วยอาบนะ จะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวก็สบายหรอก” “แต่อัยย์อาบเองได้” “อย่าห้ามเลยผมอยากทำนะครับอัยย์” แล้วคนมีวาทะศิลป์ก็ทำให้หญิงสาวยอมอีกจนได้ ฝ่ามือร้อนลูบไปตามผิวเนียนอย่างแผ่วเบาในขณะที่ไอรดาได้แต่ยื่นนิ่งมองทุกการกระทำของเข้าด้วยหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ ร่างกายเธอเสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขาลากผ่าน ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นมันขยายใหญ่จนดูน่าเกรงขาม หญิงสาวลำคอแห้งผากเมื่อคิดว่าความเป็นชายของเขานั้นต่างจากที่เธอเคยเห็นทั้งขนาดและความยาวและไม่คิดเลยว่าทุกครั้งที่เข้าไปในตัวเธอนั้นมันสร้างควา
ปิญชาน์ดึงร่างไอรดาเข้ามาจนชิด มือรั้งท้ายทอยบังคับศีรษะทุยให้เงยหน้าขึ้น ปากหยักได้รูปปิดลงบนปากนุ่ม ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหาเรียวลิ้นเล็ก ดูดดื่มความหวานอย่างหิวกระหาย ไอรดาทรงตัวแทบไม่อยู่สองแขนยกขึ้นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างหลงลืมตัว จากคิดว่าจะแกล้งหยอกไอรดาแต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็เหมือนจมดิ่งลงไปในกองเพลิงจนถอนตัวไม่ขึ้น “คุณชาน์ ปล่อยอัยย์เถอะคะ” “ผมคิดถึงคุณทั้งวันจะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” “แต่อัยย์หนาวแล้วนะคะ คุณบอกเองว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” “เดี๋ยวก็อุ่นเองเชื่อผมสิ” เสียงกระซิบแหบพร่า ฟังดูเหมือนกับชายหนุ่มคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เธอรู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหนรู้แต่ร่างกายที่เบียดเสียดอยู่ตอนนี้นั้นมันร้อนรุ่มกว่าทุกครั้ง “คุณชาน์คุณจะทำอะไร” “ก็ทำให้คุณหายหนาวไงครับ”พูดพลางคว้าเอวคอดและดึงเข้าหาตนเองให้ชิดมากยิ่งขึ้น จนหญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้หน้าท้องของเธอกำลังถูกบางอย่างที่แข็งร้อนดุนดันชายหนุ่มบีบคลึงสะโพกกลมกลึงริมฝีปากบดจูบเคล้าเคลียจนไอรดาอ่อนราวขี้ผึ้งรนไฟ “อื้อ”
ไอรดาสั่งอาหารเย็นมาทานระหว่างนั้นสริตาก็โทรศัพท์มาคุยด้วย “อัยย์พรุ่งนี้บ่ายริตาโดยยกเลิกเคส เราไปหาข้าวกินแล้วไปดูหนังกันสักเรื่องดีไหม อัยย์กลับมาจากปราณบุรีหรือยัง” “ยังเลย” “เหรอ งั้นริตาขับรถไปหาอัยย์ที่นั่นดีไหมจะได้หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน” “อยากกินอะไรเดี๋ยวอัยย์ซื้อไปให้ที่ห้องก็ได้ วันมะรืนต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” “จริงสิ ลืมเลย งั้นอัยย์ซื้อปูนึ่งกับกุ้งเผามาด้วยนะอ้อ อย่าลืมหมึกไข่นึ่งมะนาวร้านเดิมที่เราไปกินด้วย” “ได้สิ เขาขนมหม้อแกงไหม” “ไม่ล่ะ กินทีไรหยุดปากไม่ได้ทุกทีขี้เกียจต้องมาออกกำลังกาย อัยย์ล่ะไปที่นั่นเจอหนุ่มๆ บ้างไหมหรือว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง” “ก็พอเจอบ้าง” “เจอแล้วมีใครถูกใจบ้างไหมล่ะ บอกก่อนเลยนะครั้งนี้ต้องดูดีเลย ทั้งหน้าตา นิสัย อาชีพการงานจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” สริตาเตือนสติเพื่อนรัก “ดูขนานนั้นเลยเหรอ อัยย์ว่าเอาแค่ถูกใจอย่างเดียวก็ได้แล้วมั้งริตา” “มันก็ได้อยู่หรอกนะอัยย์ แต่ริตากลัวว่าคุณยายนวลแขจะไม่ถูกใจกับอัยย์ด้วยน่ะสิ อัย
“อัยย์ครับ อัยย์” “คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม “ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป “คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ” “ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ”“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” “วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ” “คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง” “ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ” “ขอจูบได
ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต “ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง” “จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” “คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย” “ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ” “นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก “ครับแค่จูบ”ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร“อื้ม”ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้
ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อ
ไอรดาแทบจะไม่มีแรงลุกจากที่นอนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนเธอกับผู้ชายที่ชื่อชาน์นั้นต่างตักตวงความสุขจากร่างกายของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกลายร่างเป็นสาวร่านสวาทถึงเพียงนี้ ความสุขที่เขามอบให้นั้นมันเป็นความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอไม่เสียใจเลยที่มีอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็สอนให้เธอรู้ว่าความสุขของการร่วมรักนั้นมันเป็นยังไงและมันมีความสุขมากแค่ไหนเธอกับเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธออายเกินกว่าจะเข้าไปใช้บริการอีก ตอนที่เขาขอแลกไลน์หญิงสาวจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งสริตาไอรดาก็คงไม่กล้าเล่าให้ฟังหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบบอกมาจากโรงแรม พอกลับมาถึงคอนโดก็เริ่มลงมือจัดของที่มาส่งให้หลังจากที่เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นานตลอดทั้งวันไอรดาก็วุ่นอยู่กับการจัดของ พอหิวก็สั่งอาหารมาทาน เธอจัดของได้เพียงครึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องพัก เพราะรู้สึกว่าร่างกายนั้นมันเริ่มไม่ไหวพอไม่ได้ทำงานหญิงสาวก็หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนอีกครั้ง แล้วเธอก็ชาวาบไปทั้งตัวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวเธ