Share

Chapter 22. สุรายา

            “เข่อซิง”  เขาพยายามบังคับสายตาให้หันไปทางอื่น แต่พบว่าไม่อาจละสายตาจากใบหน้างามที่ระบายยิ้ม รวมถึงผิวกายเนียนละเอียดดุจหยกใส และบัวคู่งามที่ปริ่มน้ำ

            “ข้าอยากแช่น้ำกับท่าน”  นางรีบร้อนกลัวเขาหนีไปก่อนจึงกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงเพื่อลดเวลาเปลื้องเสื้อผ้า แต่นางลืมไปว่าเมื่อนางคืนร่างมนุษย์ก็เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า

            “เข่อซิง”  นางจะรู้หรือไม่ว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดไม่ให้ตัวเองทำเรื่องที่ไม่ควรทำ “หากเข้าเมืองหลวงแล้ว อย่าทำเช่นนี้อีก ผู้อื่นจะมองเจ้าไม่ดี”

            “ไม่ดีอย่างไร ท่านเป็นนายของข้า ข้าต้องปรนนิบัติดูแลท่าน อ๊ะ!”  นางร้องอย่างนึกได้

            “มีเรื่องใด”

            “รอประเดี๋ยวนะ”  นางว่ายน้ำกลับไปที่กองเสื้อผ้า หยิบขวดสุรายาที่ซุนเจ้าเฟิงให้ไว้แล้วกลับมาหาเขา

            เห็นขวดก็รู้ว่าเป็นสุรา แต่นางไปได้มาจากที่ใดกัน หรือว่าเอามาจากหอชมบุหลันเหมือนยาบำรุงเลือดลมอะไรนั้นอีก นั้นทำให้หานหรงเหยาผงะหนี แต่เข่อซิงกลับคิดว่าเขาคงกลัวกินยาเช่นที่ผ่านมา นางจึงรีบยกสุราขึ้นจิบหมายใช้ปากป้อนสุราให้หานหรงเหยา แต่เพราะรสสุราแผดร้อนทำเอานางกลั้นไม่อยู่เผลอกลืนลงคอไปทันที

            “อ๊า! ร้อนจัง”

            “เจ้าดื่มอะไรลงไป” คราวนี้ชายหนุ่มรีบเข้ามาประคองโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย

            “สุรา...สุรายา” นางไอออกมาอีกหลายที แต่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่าง “เจ้าคนนิสัยไม่ดีให้ข้าไว้ บอกให้ท่านดื่มเพื่อบำรุงหัวใจ ข้า...ข้าจะใช้ปากป้อนให้ท่านแต่เผลอกลืนไปเสียก่อน”

            หานหรงเหยาหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เจ้าคนนิสัยไม่ดีนั้นคือซุนเจ้าเฟิงสินะ นี่คงหมายใจให้นางมอมสุราเขาสินะ  เขาส่ายหน้าไปมาแล้วยื่นมือไปหมายจะลูบหลังให้นาง แต่หลิวเข่อซิงยื่นมือมาคล้องคอเขาไว้ จ้องมองด้วยแววตาหวานเชื่อม

            “เข่อซิง”  กินไปอึกเดียวจะเมาแล้วหรือ? ท่าทางสุรารสแรงจริง ซุนเจ้าเฟิงคิดอะไรกันถึงให้สุรานี้

            “ข้าจะปรนนิบัติท่านเอง” นางกรอกสุราใส่ปากตนอีกอึก คราวนี้มุ่งมั่นไม่เผลอกลืนลงคออีก ขวดสุราตกลงในบ่อน้ำพร้อมกับมือเรียวที่ยกขึ้นประคองใบหน้าเขาไว้  ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อนางประกบริมฝีปากแล้วเป็นฝ่ายป้อนสุรารสหวานละมุนมันแต่ซ่านไปทั่วลิ้น 

            นี่มัน...

            “เข่อซิง” เขาดันร่างนางออก ปลายนิ้วที่สัมผัสเรือนร่างรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง นางจุมพิตเขาเพื่อกลืนกินพลังชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน  ทว่าแต่ละครั้งนางทำให้เขาแทบยั้งใจไม่อยู่  ความปรารถนาจะครอบครองมีมากขึ้นทุกครั้ง แต่ความไร้เดียงสาของนางทำให้ไม่กล้าทำสิ่งใดไปมากกว่านี้ 

            “เจ้าเมาแล้ว”

            “เมาได้อย่างไร ข้าไม่ได้ดื่มสุรา..”  กลิ่นกายของเขาทำให้นางใช้จมูกสูดดมซอกคอ อยากใกล้ชิดมากจนเป็นฝ่ายนั่งคร่อมตัก ร่างอิ่มเอิบบดเบียดแผงอกกำยำ

            “เข่อซิง”  ทรวงอกขาวผ่องทำให้เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เลือดในกายเดือดพล่านยากจะควบคุม

            ไม่สิ

            ไม่ถูกต้อง

            เขาเป็นคนควบคุมความต้องการของตนเองได้อย่างดีเยี่ยมมาตลอด ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่อาจต้านทานความต้องการนี้ได้

            หรือว่า สุรานั้น....

            “เข่อซิง...เจ้าต้อง...”

            “ข้าชอบ...” นางครางเสียงหวานขณะที่ขยับร่างเสียดสีกับกายแกร่ง

            “เจ้าชอบ...ชอบอะไร”  เขาแทบไม่กล้ามองนางกำลังแทะเล็มผิวกายของเขา

            “ชอบที่ได้แนบชิดเช่นนี้” นางพูดเสียงหวานฟังคล้ายเป็นเสียงคราง “ท่านน่ากินมาก อยากกินไปทั้งตัว”

            “เข่อซิง เจ้าถูกมอมยาแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่มีสติ”

            หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาที่จ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว  “ข้าอยากสัมผัสท่าน แต่ข้ากลัว..”

            “กลัว...กลัวสิ่งใด”

            “ข้ากินพลังชีวิตท่านก็เท่ากับชีวิตท่านเหลือพลังลดน้อยลง หากข้า...ข้าทำมากกว่านี้...กลืนกินพลังหยางของท่าน ท่านก็จะยิ่ง...ยิ่งชีวิตสั้นลง... แต่ข้าอยากให้ท่านอยู่...อยู่กับข้านานๆ”

            “เจ้ากลัวข้าจะจากไปเร็วอย่างนั้นหรือ?”

            “ใช่ ... ข้าไม่รู้ว่าถ้าไม่มีท่านอยู่แล้ว ข้าจะใช้ชีวิตอย่างไร”  นางเงยหน้าขึ้นมองเขา “หากข้าไม่กินพลังชีวิตของท่าน ข้าก็ต้องกินพลังชีวิตของผู้อื่น  แต่ข้า...ข้าไม่ชอบ ไม่อยากสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวผู้ใด  ข้าสับสนไม่รู้จะทำเช่นไรดี  ศิษย์พี่บอกว่า เราเป็นปีศาจห้ามมีความรู้สึกผูกพันกับมนุษย์ แต่ข้า...ข้า...”

            ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบ ริมฝีปากก็ถูกประกบอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา เขาขบเม้มริมฝีปากนางหยอกเย้าจนเผลอขึ้นให้เขาแทรกลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหอมหวาน ร่างบางอ่อนระทวยสองมือคล้องคอไว้แต่ฝ่ามือกร้านลูบไล้แผ่นหลังอย่างอ่อนโยน ทว่าปลุกให้รุ่มร้อน  เข่อซิงรู้สึกหัวสมองขาวโพลงไปหมด ทุกครั้งที่นางจูบเขาเพื่อกินพลังชีวิต เขาไม่เคยโต้ตอบนาง ปล่อยให้นางกลืนกินจนหนำใจแล้วผละออก แต่ครั้งนี้  จุมพิตของเขาร้ายกาจเหลือเกิน เกี่ยวกระหวัดพันลิ้นจนหอบครางอย่างไม่รู้ตัว ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังเลื่อนไปยังบั้นเอวและบางสิ่งแข็งขันดุนดัน  เมื่อครั้งอยู่หุบเขาจื่อเซ่อและหอชมบุหลัน นางเรียนรู้เรื่องระหว่างชายหญิง  กระทั้งเคยแอบดูบรรดาศิษย์พี่เสพสังวาสกับบุรุษเพื่อกินพลังหยาง แต่นางหวาดกลัวเกินไป  นั้นทำให้นางได้แต่ร้องขอกินเศษพลังชีวิตจากบรรดาศิษย์พี่โดยทำงานรับใช้แลกเปลี่ยน

            แต่นางกลับไม่เคยกลัวหรือรังเกียจหานหรงเหยา  นางรู้ว่าเขาต้องอดทนกับความสมองทึบของนาง กว่าจะสั่งสอนให้ทำอะไรได้แต่ละอย่างนั้นแสนยากเย็น  และเขายังคอยดูแลนางอย่างดี ไม่เคยรังเกียจแม้นางอยู่ในร่างจิ้งจอกแดง  นางรู้ว่าร่างกายของเขาค่อนข้างเย็นกว่าคนทั่วไป ยามค่ำคืนจึงคืนร่างเป็นจิ้งจอกแดงตัวน้อย แล้วแอบย่องขึ้นเตียงให้ขนนุ่มเพิ่มความอบอุ่นให้เขา  นางชอบเสียงหัวเราะของเขา ยอมเป็นทำตัวโง่งมให้เขาได้หัวเราะ นางรู้ วันคืนของเขาลดน้อยลงทุกที แต่นางกลับปรารถนาให้เขาอยู่ต่อไป อีกวัน อีกวันและอีกวัน  นางไม่อยากกินพลังชีวิตของเขาอีก แต่ก็ไม่อาจห้ามใจให้ไปจากเขาได้  ความรู้สึกเหล่านี้มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

            “เข่อซิง” 

           

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status