Share

Chapter 28.  พี่สะใภ้

            “พี่ใหญ่เคยเชิญท่านหมอมาตรวจพี่สะใภ้แล้วหรือ?”

            “อืม ก็ให้นางกินยาบำรุงร่างกาย  ข้าคิดว่าถ้าเชิญหมอหลวงมาตรวจสุขภาพเจ้าก็จะให้ดูซู่เหมยไปพร้อมกัน”

            “เป็นเช่นนั้นก็ดี”  หานหรงเหยาพยักหน้ารับ

            “เอาเป็นว่า เจ้าอย่าพูดเรื่องกลับชายแดนให้ท่านแม่ได้ยินก็พอ” พี่ใหญ่ดักคอไว้อย่างรู้ทัน “เจ้าอยู่ที่นี่ก็มีงานการให้ช่วยแบ่งเบาภาระ กิจการของสกุลหานมีมากมาย ข้าเองก็วุ่นวายจนปลีกตัวไม่ได้ เจ้าหลี่เจี๋ยก็ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต จนป่านนี้ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันจนท่านพ่ออยากให้เขาไปอยู่ค่ายทหารเผื่อฝึกฝนให้มีความรับผิดชอบ”

            “ได้ ข้ากลับมาแล้วจะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของพี่ใหญ่”

            “ดีแล้ว”  เขาพยักหน้ารับ “เจ้ากลับไปพักผ่อนที่เรือนเถิด มีอะไรข้าจะให้คนไปตาม”

            “ขอรับพี่ใหญ่”

            หานหรงเหยาลุกขึ้นแล้วเดินออกมาเงียบๆ มีเรื่องมากมายที่เขาต้องวางลำดับความสำคัญและจัดการให้ลุล่วง เห็นที่ว่าเขาคงไม่ได้กลับชายแดนง่ายๆ เป็นแน่  ทว่าเมื่อเดินมาถึงเรือนของตนกลับได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านใน  หัวคิ้วขมวดยุ่งแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปทันที พลันสิ่งที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เขาชะงักไป

            “เกิดเรื่องใดขึ้น!”

            น้ำเสียงดุดันของหานหรงเหยาทำเอาสาวใช้สองคนสะดุ้งโหยงปล่อยมือจากการฉุดกระชากร่างที่สวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยของหลิวเข่อซิง

            “เข่อซิง”  เขารีบปราดเข้าไปหาร่างที่สั่นเทาพลางยื่นมือไปกระชับสาบเสื้อนางให้ปิดมิดชิด “ใครทำเจ้า”

            “นางทำตัวเองต่างหาก” หลัวซู่เหมยเอ่ยเสียงเรียบ ในใจร้อนรุ่มที่เห็นหานหรงเหยาปกป้องสาวใช้คนหนึ่งมากขนาดนี้

            “พี่สะใภ้มาทำอะไรในห้องของข้า” 

            หลัวซู่เหมยสูดลมหายใจลึกแต่ยังคลี่ยิ้มอ่อนหวาน “หากข้าไม่มาตรวจความเรียบร้อยจะรู้ได้อย่างไรว่า  สาวใช้คนหนึ่งแอบปีนเตียงผู้เป็นนาย นางเปลือยกายอยู่บนเตียงของเจ้า! ข้าเป็นนายหญิงของจวนต้องลงโทษสาวใช้แพศยาคนนี้”

            “นางเป็นคนของข้า มีเรื่องใดข้าจะสอบสวนนางเอง”

            “เห็นจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ข้าเคยพูดแล้วว่าบ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง อยู่ในจวนนี้ท่านแม่สามีให้ข้าดูแลปกครอง หากละเลยนางไปสักคน ก็ย่อมมีผู้อื่นทำตาม แล้วอย่างนี้จะปกครองบ่าวไพร่ได้อย่างไร!”

            หานหรงเหยาไม่คิดว่า สตรีที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างหลัวซู่เหมยจะแสดงกิริยาเช่นนี้ออกมา ทำไมนางจึงดูร้ายกาจถึงเพียงนี้           แขนเสื้อของเขาถูกกระตุกทำให้ต้องก้มลงมอง แม้ใบหน้าจะซีดเผือดด้วยความตื่นตระหนกแต่นางก็ยังยิ้มให้เขา

            “ข้า...ข้าไม่เป็นไร พวกเขาไม่เห็นตอนที่ข้าเป็น...”

            “อย่างไรนางก็เป็นสาวใช้ในจวนสกุลหาน หากข้าไม่ลงโทษก็เกรงว่าผู้อื่นจะทำตาม ท่านเองก็เคยอยู่ค่ายทหารมาก่อน เรื่องแค่นี้คงเข้าใจดี”

            “แต่ว่า...” หานหรงเหยาคิดโต้เถียง  ที่นางทำไปก็เพราะต้องการอบอุ่นเตียงให้เขา

            “หรงเหยา เรื่องนี้ให้ซู่เหมยจัดการเถิด”

            “ท่านแม่” หานหรงเหยาประหลาดใจที่มารดาเดินมาถึงเรือนของเขา “เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดกัน...นางไม่ได้ปีน...”

            “ข้า...เอ่อ...บะ...บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”   หลิวเข่อซิงรีบร้อนคุกเข่าลงทันที นางเงยหน้าขึ้นขยิบตาให้เขาเล็กน้อยแล้วก้มหน้าลง

            “ซู่เหมยพูดถูกแล้ว อย่างไรให้นางไปอยู่เรือนคนรับใช้เถิด แล้วแม่จะคัดบ่าวรับใช้มาปรนนิบัติเจ้าเอง”

            “ท่านแม่” เขาร้องขึ้นได้แค่นั้น มารดาก็ทำท่าจะเป็นลม หานหรงเหยาต้องรีบประคองให้นั่งที่เก้าอี้

            “ท่านหมอเคยเตือนไว้ไม่ให้ท่านแม่มีเรื่องกังวลใจ ท่านก็อย่าทำให้ท่านแม่ต้องลำบากใจเลย”

            หานหรงเหยาทำอะไรไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกโง่เขลาจัดการอะไรไม่ได้ คนหนึ่งเป็นมารดา หากเขาทำให้ไม่สบายใจก็จะล้มป่วยอีก การเดินทางกลับชายแดนคงต้องเลื่อนไปอีก แต่หลิวเข่อซิงก็เป็นคนสำคัญของเขา

            “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะไปอยู่ที่เรือนคนรับใช้เจ้าค่ะ”  หญิงสาวรีบพูดขึ้นทันที  นางรู้ว่าเขาลำบากใจ อย่างไรมารดาก็สำคัญที่สุด นางแค่ไปนอนเรือนคนรับใช้รวมกับผู้อื่นก็ไม่นับว่าแปลกอันใด นางเป็นสาวใช้นี่นะ จะให้นอนเตียงเดียวกับนายท่านได้อย่างไร

            “เข่อซิง...”

            “หรงเหยา แม่อยากพักผ่อน เจ้าไปส่งแม่หน่อยได้หรือไม่”

            หลิวเข่อซิงพยักหน้าให้เขา หานหรงเหยาสูดลมหายใจลึก คืนนี้คงต้องปล่อยไปก่อน แล้วเขาจะไปรับนางกลับมาในวันหลัง หานหรงเหยาประคองมารดา หลัวซู่เหมยเข้ามาช่วย ราวกับภาพวันวานหวนคืน นางคลุกคลีกับหานหรงเหยามาตั้งแต่เด็ก เคยเข้านอกออกในจวนสกุลหานมาก่อน  นางหมายมั่นในใจว่าจะได้เป็นสะใภ้สกุลหานจึงทำดีกับว่าที่แม่สามีมาตลอด แต่สุดท้าย นางกลับได้แต่งงานกับหานลี่จู

            เข่อซิงรอจนทั้งสามออกไปแล้วจึงลุกขึ้น บ่าวสองคนหัวเราะเยาะนาง แต่หลิวเข่อซิงกลับยิ้มซื่อออกมา นางโล่งใจที่อย่างน้อยก็ไม่มีผู้ใดเห็นตอนที่นางเป็นจิ้งจอกแดง   ปีศาจสาวได้แต่ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าหานหรงเหยาจะทำอะไรบุมบ่ามเพื่อนาง.

เวลานี้หลิวเข่อซิงไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าไหมอีกแล้ว ร่างอรชรสวมชุดสาวใช้จากผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ เสื้อผ้าและของใช้ของนาง หลัวซู่เหมยจัดการให้เสร็จสรรพ นางไม่ได้รับอนุญาตให้หยิบข้าวของของตนจากเรือนหานหรงเหยา  ซึ่งนางก็คิดว่าดีแล้ว เพราะในเรือนนอนของบ่าวรับใช้ที่นางอยู่ไม่มีที่ให้เก็บของ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status