Share

Chapter 32. อดทนหน่อยนะ ภรรยาตัวน้อยของข้า

หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา นางไม่อาจรับความเสียดเสียวนี้ได้อีก ร่างกายสั่นระริกและหอบหายใจจนตัวโยน เสียงหายทางปากเป็นเสียงครางปนสะอื้น หานหรงเหยายื่นมือเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าแล้วยิ้มอ่อนโยน

“อดทนหน่อยนะ ภรรยาตัวน้อยของข้า”

หลิวเข่อซิงยังหูอื้อตาพร่า เห็นเพียงปากเขาขยับแต่ไม่รู้ว่าพูดอะไร มือใหญ่จับเรียวขาขึ้นพาดบ่าแล้วเริ่มขยับเอวสอบนำพาความเสียวซ่านมาอีกครั้ง เข่อซิงสะบัดหน้าไปมา คงเพราะอัดอั้นมานานทำให้ชายหนุ่มใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง  แก่นกายของเขายังแข็งแกร่งและดุดัน เข่อซิงร้องครางจนเสียงแหบแห้งอย่างน่าสงสาร แต่เขาก็ยังโยกเอวถี่กระชั้น  ร่างกายหญิงสาวร้อนเร่ายิ่งกว่าเดิมหลั่งน้ำหวานอาบไล้แก่นกายของเขาจนฉ่ำเยิ้มเปื้อนเปรอะต้นขา กลิ่นหอมหวานเย้ายวน  ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างรวมถึงปลายนิ้วเท้า ช่องทางอ่อนนุ่มรัดแน่นส่งให้ชายหนุ่มไม่อาจอดทนได้อีก  เขาส่งแก่นกายเข้าไปจนสุดรัดเอวนางไว้แนบแน่นและปลดปล่อยน้ำรักขาวขุ่นออกมาในที่สุด

เสียงคำรามครางสุขสมและน้ำรักอุ่นร้อนของหานหรงเหยาทำให้นางรู้ว่าเขาถึงปลายทางแล้ว  ชายหนุ่มมองคนใต้ร่างที่หอบหายใจแรง ดวงตากลมโตมีคราบน้ำตาฉ่ำวาว เขาโน้มหน้าจูบดวงตาคู่สวยแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วพลิกตัวนางมาไว้ในอ้อมกอด

เขาอมยิ้มมองเจ้าปีศาจตัวน้อยที่ผ่อนลมหายใจยาว และหัวใจเริ่มเต้นเป็นปกติ  เขาขยับขึ้นนั่งทำให้หลิวเข่อซิงลืมตามอง

“ข้าไม่ได้ไปไหน แค่ไปรินน้ำให้เจ้า”

ปีศาจสาวเขินอาย  แต่นางหิวน้ำจริงๆ เขาลุกขึ้นทั้งที่เปลือยเปล่า ไม่คิดจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ เขารินน้ำให้ตนเองและของหญิงสาว นางยันกายขึ้นนั่งรีบคว้าผ้าห่มมาปิดเนินอก  หานหรงเหยาคลี่ยิ้มแล้วยื่นถ้วยน้ำจ่อที่ริมฝีปากป้อนน้ำให้นางดื่มอย่างใจเย็น

“ต้องการอีกหรือไม่”

“พอแล้ว” นางพูดแล้วผลักมือเขาออกเบาๆ

“ดื่มอีกนิดสิ” เขาคะยั้นคะยอให้นางดื่มน้ำอีก “ประเดี๋ยวเจ้าจะต้องร้องจนเสียงแหบอีกรอบ”

“อะ..อะไร...อะไรนะ”  เข่อซิงเบิกตากลมโตจ้องมองเขาแต่อดหลุบตาลงมองสิ่งที่แข็งขันขึ้นมาอีกไม่ได้

เขาไปอดยากมาจากไหน ควรเป็นนางไม่ใช่หรือที่ควรหิวโหยเพราะไม่ได้กินพลังหยางจากเขา

หานหรงเหยาเห็นเจ้าปีศาจตัวน้อยทำท่าจะคลานหนี  เขาคว้าข้อเท้านางไว้ก่อน การได้หยอกเย้านางคือความสุขอย่างหนึ่งของเขา แต่การมีนางข้างกายคือความสุขที่สุดที่เขามี หลายวันมานี้นอกจากจะดูแลมารดาให้แข็งแรงแล้ว เขายังต้องช่วยสะสางงานของตระกูลรวมทั้งหาหนทางกลับไปอยู่ชายแดนให้ได้

แท้ที่จริงแล้ว เขารู้สึกว่าเมืองหลวงไม่เหมาะกับเขา หรืออาจจะเรียกว่า เขาไม่เหมาะกับเมืองหลวง แต่หากต้องเดินทางตอนนี้ ก็เกรงว่าจะเห็นแก่ตัวเกินไป เขายังไม่ได้ดูแลท่านพ่อท่านแม่ให้ดี

“หรงเหยา” นางเรียกเขาเสียงอ่อน วิงวอนด้วยสายตา เหตุใดวันนี้เขากินดุเหลือเกิน แต่หานหรงเหยาแสร้งไม่เข้าใจ เขาปีนขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มของนางออก เผยแผ่นหลังขาวราวหยกใส เขาโน้มลงจูบแผ่นหลังของนางเพียงแผ่วเบาแต่นางหลุดเสียงครางหวานออกมา

หลิวเข่อซิงคว่ำหน้าลงกับฟูกนอน ปากบอกปฏิเสธแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างน่าอาย มือแกร่งจับเอวคอดขึ้น แก่นกายบุรุษเพศร้อนระอุคลอเคลียปากถ้ำที่ยังมีคราบน้ำรักของเขาไหลออกมา ริมฝีปากร้อนเลื่อนจากแผ่นหลังมาขบเม้มติ่งหูดุจไข่มุก ลมหายใจหญิงสาวถี่กระชั้นขึ้นทันทีที่สองมือเอื้อมมากอบกุมและบีบเคล้นหน้าอกคู่สวย

“อื้อ...”  หญิงสาวครางเสียงหวาน

ชายหนุ่มถอนริมฝีปากจากติ่งหูที่ยามนี้แดงจัดราวถูกย้อมสี มือแกร่งเปลี่ยนมาจับเอวหญิงสาวไว้มั่นก่อนจะค่อยๆ ส่งแท่งหยกร้อนเข้าไปในร่องรักที่เปียกชุ่ม  ยามนี้นางหมอบคลานอย่างไร้เรี่ยวแรงสะโพกงามลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า ระลอกความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ทุกการขยับโยกทำให้เสียงหวานครางกระเส่าออกมา

“หรงเหยา...หรงเหยา”  หลิวเข่อซิงได้แต่พรำเรียกชื่อเขา รับรู้ถึงตัวตนของเขาที่เคลื่อนไหวในร่างกายของนาง วาบหวาม ร้อนแรง และดุดันจนนางแทบหายใจไม่ทัน นางได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอแต่ไม่กล้าแม้แต่จะเอี้ยวใบหน้าไปมอง เพราะกลัวสายตาที่เหมือนจะกลืนกินของเขา สายตาคู่นั้นราวกับร่ายมนตร์ทำให้นางไม่อาจดิ้นหลุดจากเขาได้  นางเคยแอบมองศิษย์พี่เสพพลังหยางจากบุรุษและเคยศึกษาจากหนังสือภาพวังวสันต์  นางเคยหวาดกลัวสิ่งเหล่านั้น แต่ยามนี้นางกลับปรารถนาจะแนบชิด ไม่ใช่ผู้อื่นแต่เป็นเพราะคนที่โอบกอดคือเขา คือหานหรงเหยาที่เข้ามาครอบครองหัวใจของนาง

“ข้าไม่ไหวแล้วนะ”

“เจ้าช่างหอมหวานถึงเพียงนี้ จะห้ามใจได้อย่างไร”

เขารู้และมั่นใจว่าความรู้สึกของตนที่มีต่อนางไม่ใช่เพราะนางร่ายมนตร์ใดใส่เขา นางบริสุทธิ์และไร้เดียงสา  นางกลัวว่าเขาจะจากไปเร็วจึงไม่กล้ากลืนกินพลังชีวิตจากเขา หลายวันก่อนพี่ใหญ่เชิญหมอหลวงมาตรวจอาการมารดาและได้ตรวจชีพจรของเขาและพบเรื่องน่าประหลาดใจยิ่ง หัวใจของเขาแข็งแรงขึ้น รวมทั้งร่างกายของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าหมอที่ไหนก็ต่างลงความเห็นว่าเขาจะมีชีวิตไม่ยืนยาวนัก  แต่เพราะยังไม่มั่นใจเขาจึงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และคิดจะให้หมออีกหลายๆ ท่านช่วยตรวจดูอีกหน่อย เขาไม่อยากดีใจเก้อ

“หราเหยา...ช้า...ช้าหน่อย อ๊า!”

หลิวเข่อซิงหวีดร้องพร้อมร่างกายที่เกร็งกระตุก ร่องรักขมิบถี่รัวทำให้หานหรงเหยาเองก็แทบทนไม่ไหว เคลื่อนไหวเอวสอบรัวแรง กระแทกแท่งหยกจนร่างบางสั่นระริก เม็ดเหงื่อซึมทั่วแผ่นหลัง เส้นผมยาวสยายเปียกชื้น  ความใหญ่โตที่ขยายจนคับแน่นทำให้หลิวเข่อซิงทนรับความเสียวซ่านไม่ไหว เขากระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างทำให้นางรู้สึกเหมือนมอดไหม้ด้วยไฟราคะที่เขาก่อขึ้น  ในที่สุดนางส่งเสียงครางสุขสมอีกครา

“ซิงเอ๋อร์...” เขาคำรามเรียกชื่อนางและปลดปล่อยอีกครั้ง กลิ่นหอมหวานของคาวรักอบอวลในห้องนอน  คราวนี้เข่อซิงหมดแรงแล้วจริงๆ นางครางปนสะอื้นเมื่อเขาถอนแก่นกายออก  เขาพลิกตัวจัดท่านอนให้ปีศาจสาวตัวน้อย

“เข่อซิง” เขาเรียกนางแต่หญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว หานหรงเหยาได้แต่ยิ้มบางๆ โอบกอดนางไว้ในอ้อมอกแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของคนสองคน

มีเรื่องมากมายที่เขาต้องพูดคุยกับนาง ช่างเถิด เขารอนางตื่นก็ได้ อื้ม...เหมือนจะได้ยินนางพูดว่าผู้ดูแลหลิวมาเมืองหลวงใช่ไหม  บางทีเขาอาจขอคำปรึกษาเรื่องร่างกายของเขาที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ได้ แต่ก่อนเขาไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่นัก แต่เพราะมีนางเข้ามาทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่

 เจ้าจิ้งจอกแดงตัวน้อยจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีเขาดูแล เขาเป็นห่วงนาง อยากดูแลนาง  และที่สำคัญ เขาอยากเป็นคนทำให้นางมีความสุข  ไม่ว่าชีวิตเขาจะเหลืออยู่เท่าไหร่ก็ตาม.

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status