Share

Chapter 47. หัวใจ(ปีศาจ)จิ้งจอกแดง

ดวงตาคู่งามฉ่ำวาวด้วยหยาดน้ำตา  หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา นางเป็นปีศาจจิ้งจอกแดงก็จริง แต่ไม่เคยทำร้ายมนุษย์

            “ข้า...ข้าไม่เคยทำร้ายใคร...ท่าน ปะ...ปล่อยข้าไปเถิด”

            “ปีศาจอย่างพวกเจ้า หากไม่เสพพลังชีวิตจากมนุษย์จะอยู่ได้อย่างไร” เขายังคงใบหน้าแย้มยิ้ม “และหากไม่ได้เสพพลังหยางจากบุรุษจะมีพลังได้อย่างไร”

            หลิวเข่อซิงส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ข้าไม่...”

            “เจ้าจะปฏิเสธไปไย ในเมื่อตัวเจ้าก็รู้ดีว่าตนเองมีปราณหยางไหลเวียนในกาย” เขาลดมือลงจากปลายคางของปีศาจสาว “ทำชั่วมามากแล้ว ข้าจะขอหัวใจของเจ้าเอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็แล้วกัน”

            “หัวใจของข้า...”  นางยกมือกุมหัวใจตนเอง นางลืมไปได้อย่างไรว่าหัวใจของจิ้งจอกคือยาวิเศษชนิดหนึ่ง  โดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกแดงที่กินพลังพลังวิญญาณของมนุษย์ และจะยิ่งดีขึ้นเมื่อปีศาจตนนั้นได้กินพลังหยางบริสุทธิ์

            ไม่หรอก นางไม่ได้ลืม แต่ทำเป็นจำไม่ได้ เดิมนางเป็นจิ้งจอกแดงตัวน้อย แต่ถูก ‘ท่านแม่’ มอบปราณปิศาจให้กลายเป็นปีศาจที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อที่นางจะได้สะสมพลังหยาง ทว่านางขลาดกลัวจนเกินไป  จึงเป็นได้แค่ปีศาจขั้นต่ำ  คอยรับใช้ท่านแม่และบรรดาศิษย์พี่   นางถูกเลี้ยงดูเพื่อเอา ‘หัวใจ’ มาสังเวยพวกเขาเท่านั้น  มีชีวิตมาร้อยสิบหกปี นางหลงลืมความจริงอันสำคัญนี้ จนกระทั่งนางได้พบหานหรงเหยา  เขาทำให้นางลืมความจริงที่นางถูกสร้างเพื่อสิ่งใด  นางทุ่มเททุกสิ่งที่มีเพื่อให้เขาได้มีชีวิตยืนยาว แม้จะไม่มีนางในช่วงเวลานั้นก็ตาม

            “นี่เจ้ามีความรักอย่างนั้นรึ”  สีหน้าของนักพรตซีห่าวเปลี่ยนเป็นประหลาด “เจ้าไม่รู้หรือไรว่ามนุษย์กับปีศาจไม่ควรรักกัน”

            หลิวเข่อซิงกัดริมฝีปากแน่น นางย่อมรู้เรื่องนี้ดี  แต่หานหรงเหยาไม่เหมือนผู้อื่น เขาจริงใจกับนาง

            “เจ้าคิดว่าเขาจริงใจกับเจ้าสินะ” นักพรตหนุ่มหัวเราะ คาดเดาความคิดนางได้ไม่ยาก  “เขาจริงใจกับเจ้าแต่เขารักเจ้าหรือไม่”

            “รัก....” 

            นางรักเขานั้นเป็นเรื่องชัดเจนอยู่แล้ว

            แต่เขารักนางหรือไม่นั้น นางไม่อาจล่วงรู้จิตใจของเขาได้

            นักพรตหนุ่มอ้าปากแต่ยังไม่ทันเอ่ยอะไร เขาก็รับรู้ได้ว่ามีคนและปีศาจหนึ่งตนกำลังเข้ามา  นักพรตซีห่าวหันหลังให้เข่อซิง  เพียงชั่วอึดใจผ้าม่านโปร่งบางสะบัดพลิ้วไหวเผยร่างสตรีงดงามในชุดสีแดงเพลิง  และบุรุษรูปร่างสูงโปร่งที่ปกติมักถือพัดในมือ  แต่ครั้งนี้มือข้างนั้นถือกระบี่ ปลายกระบี่ยังมีหยดเลือดติดอยู่ 

            “เข่อซิง” หานหรงเหยามองข้ามไหล่นักพรตหนุ่ม  เห็นร่างปีศาจของหลิวเข่อซิงหมอบอยู่บนแท่งหยกขนาดใหญ่คล้ายเตียง  

            “หรงเหยา” หลิวเข่อซิงมองชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตา “อย่า...อย่าเข้ามา”

            “ไม่ได้เจอกันนาน นักพรตซีห่าว” หลิวชิงเซียงเอ่ยขึ้น

            “แค่ห้าสิบปีเจ้าเรียกว่านานรึ” นักพรตซีห่าวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตาไม่ยิ้ม

            “ถ้าห้าสิบปีที่แล้ว ข้าไม่ละเว้นชีวิตเจ้า เจ้าคงไม่กลายเป็นหนามตำมือข้าเช่นนี้”

            นักพรตซีห่าวสยะยิ้มแล้วสะบัดแส้ม้าในมือ เกิดกระแสลมฟาดใส่ร่างของหญิงสาว หลิวชิงเซียงกระโดดตัวลอยตวัดฝ่ามือซัดดกลับ แต่เหมือนสิ่งที่นางซัดออกไปปะทะกับสิ่งที่มองไม่เห็น  กระแทกใส่ทำให้ร่างของนางกระเด็นออกไป ซุนเจ้าเฟิงกระโดดเข้าไปใช้ร่างกายของตนรับร่างของหญิงสาวไว้ทัน  ทำให้นางไม่กระแทกเข้ากับผนังห้อง  เขาจับไหล่นางไว้ให้นางผยุงตัวยืนได้มั่นคงแล้วโน้มหน้าลงถาม

            “เป็นอะไรหรือไม่”

            “ปล่อยข้า” นางสะบัดตัวออกจากมืออุ่นของเขา

            “นี่! ข้าช่วยเจ้าได้...นะ...”   ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี ซุนเจ้าเฟิงต้องอ้าปากค้าง ใบหูของหญิงสาวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหูของจิ้งจอกแดงและหางยาวฟู่ฟองปรากฎออกมา

            “จะ...เจ้า...เจ้า...”

            หลิวชิงเซียงเพียงปรายตามองซุนเจ้าเฟิง นางไม่ใส่ใจว่าอีกฝ่ายจะเบิกตาโตจ้องมองนางด้วยความรู้สึกเช่นไร เวลานี้นางต้องรีบช่วยหลิวเข่อซิงออกมาจากเตียงหยกโลหิตนั้นเสียก่อน

            “หรงเหยา!” ซุนเจ้าเฟิงหันไปเรียกสหายที่ฟาดฟันกระบี่ใส่สาวกของนักพรตอยู่ “เจ้ารู้เรื่องนี้!”

            “อื้ม”  ชายหนุ่มยกเท้าถีบคนที่พุ่งเข้าใส่ เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเช่นนี้นานแล้ว อาจเพราะร่างกายขับพิษออกมาแล้วและได้พลังหยินของหลิวเข่อซิงมาปรับสมดุลร่างกายอย่างที่หลิวชิงเซียงเคยอธิบายไว้

            “นะ...นาง...พวกนางมีหู มีหาง!”

            “จิ้งจอกแดง หรือเรียกให้ถูกคือปีศาจจิ้งจอกแดง”  หานหรงเหยาเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตามองหาหลิวเข่อซิง ม่านโปร่งบางที่สะบัดพลิ้วไหวเผยร่างอ่อนระโหยที่หมอบอยู่บนก้อนหยกขนาดใหญ่ 

            “เข่อซิง!”

            ซุนเจ้าเฟิงเห็นหานหรงเหยาจะพุ่งไปหาหญิงสาวที่มีหูและหางจิ้งจอกแดงงอกออกมา เขาคว้าแขนสหายไว้ก่อนแล้วตะคอกเรียกสติ

            “นางเป็นปีศาจ!”

            “ข้ารู้” ดวงตาของหานหรงเหยายังจับจ้องร่างที่เปื้อนเลือดบนเตียงหยกนั้น “เข่อซิง!”

            “เจ้าถูกมนต์ดำของพวกนางเข้าแล้ว”  ซุนเจ้าเฟิงรีบห้ามสหายไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้กว่านี้

            “ข้ามีสติครบถ้วนทุกอย่าง” หานหรงเหยาหันมาพูดด้วยสายตาเจ็บปวด “เป็นนางที่ช่วยชีวิตข้า และนางเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งนางเพียงเพราะนางเป็นปีศาจ!”

            เขาเคยเสียคนรักอย่างหลัวซู่เหมยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ เขาปวดใจยิ่งกว่า เจ็บปวดจนใจเจ็บร้าวไปหมด หากสูญเสียนางไป เขาคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้

            “เจ้าไม่จำเป็นต้องช่วยข้าหรือช่วยนาง แต่ขอให้รู้ไว้ว่าเข่อซิงเป็น ปีศาจที่ดี ข้ากับเจ้าเคยร่วมสู้รบกับข้าศึกมาก่อน เราล้วนรู้ดีว่ามนุษย์ด้วยกันแสนน่ากลัวและน่ารังเกียจยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน  เจ้าอย่าขวางไม่ให้ข้าไปช่วยเข่อซิงเลย”

            ซุนเจ้าเฟิงไม่รู้ตัวว่าปล่อยมือจากแขนของสหายตั้งแต่เมื่อใด กว่าจะได้สติก็เห็นร่างของหานหรงเหยาพุ่งตัวไปหาหลิวเข่อซิงแล้ว

            “อย่าเข้ามา!”   หญิงสาวตะโกนสุดเสียงแม้เสียงจะแหบแห้งและการส่งเสียงทำให้นางเจ็บลำคอมากยิ่งขึ้น “หนีไป อย่าเข้ามาใกล้”

            “เข่อซิง!”

            “นี่เป็นหยกโลหิตที่ดูดกลืนพลังชีวิต ยกนี่ดูดพลังชีวิตไป ท่านอย่าเข้ามา”

หลิวเข่อซิงพูดถึงตอนนี้ก็กระอักโลหิตออกมา บรรดาศิษย์พี่เคยสอนนางให้ใช้มนต์คาถา  แต่นางไม่เคยทำสำเร็จ หญิงสาวรู้ว่าเขาจะต้องเข้ามาช่วย   นางจึงยันกายขึ้นนั่งแล้วรวบรวมเรี่ยวแรงที่มี ตั้งสมาธิแล้วใช้พลังปราณผลักร่างของหานหรงเหยาออกห่าง

            ซุนเจ้าเฟิงเข้าใจผิดคิดว่า  หานหรงเหยาถูกกระแทกออกมาจึงเข้าไปพยุง เขาหันไปมองหลิวเข่อซิง ทว่ากลับเห็นนางกระอักโลหิตออกมา เนื้อตัวนางเปื้อนเปรอะโลหิต แม้แต่น้ำตาที่ไหลก็กลายเป็นสีแดงชาด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status