Share

Chapter 45.  ถูกจับตัว

            “ข้า...” ราวกับมีก้อนแข็งๆมาจุกที่ลำคอ หานลี่จูพูดอะไรไม่ออก หรือบางที อาจไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ เพราะยามนี้แค่มองตาก็เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อสารได้หมดสิ้นแล้ว

            เสียงโวยวายด้านนอก  เรียกความสนใจจากหานลี่จูและหานหรงเหยา บานประตูถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมร่างของหานหลี่เจี๋ยที่ประคองหลัวซู่เหมยเข้ามา

            “พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านมาอยู่นี่เอง!”

            หานลี่จูสาวเท้าเข้าไปประคองหลัวซู่เหมยทันที เขาพาร่างสั่นเทามานั่งที่เก้าอี้แล้วตวัดสายตามองเสี่ยวจิ้งที่วิ่งตามมา

            “เกิดอะไรขึ้นฮูหยินน้อย!” หานลี่จูตวาดเสียงดังทำให้เสี่ยวจิ้งถึงกับเข่าอ่อนลงไปคุกเข่าเบื้องหน้า

            “เข่อซิง...” หลัวซู่เหมยรีบพูดขึ้น

            “เกิดอะไรขึ้น” หานหรงเหยาหายใจไม่ทั่วท้อง

            “เข่อซิงถูกจับตัวไป”  หลัวซู่เหมยเงยหน้าสบตากับหานหรงเหยา

            “บังอาจ! ใครกล้าแตะต้องคนสกุลหานของเรา!”   หานลี่จูจ้องเขม็งไปที่เสี่ยวจิ้ง “ทุกครั้งที่ออกไปนอกจวนก็ให้มีผู้ติดตามไปมิใช่รึ เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้”

            “ข้าเพิ่งกลับจากตลาดม้า พบพี่สะใภ้เกิดเรื่องที่ร้านขายผ้า แรกทีเดียวตั้งใจจะติดตามคนร้ายแต่ พี่สะใภ้อาการไม่สู้ดีจึงพานางกลับมาก่อน”

            “เจ้าเป็นอะไร” หานลี่จูเบาเสียงลงแล้วลูบคลำเนื้อตัวของภรรยาด้วยความร้อนใจ แต่หลัวซู่เหมยส่ายหน้าไปมา น้ำตาหยดใสไหลริน

            “เข่อซิงปกป้องข้า ...นางถูกนักพรตจับตัวไป”

            “นักพรต? นักพรตอะไรกัน”   หานลี่จูไม่รู้เรื่องเหล่านี้จึงงุนงง  ทว่าหลัวซู่เหมยยื่นมือไปจับมือของหานหรงเหยา

            “เจ้า...เจ้ารู้ใช่หรือไม่...เข่อซิง...”

            “ข้ารู้” ไม่รอให้หลัวซู่เหมยพูดจบเขาก็รู้ว่านางหมายถึงเรื่องใด “แต่นางไม่เคยทำร้ายใคร รวมทั้งข้าด้วย”

            “แต่ว่า...”

            “ที่ข้าแข็งแรงเช่นนี้เป็นเพราะนาง นางไม่มีวันเป็นปีศาจร้าย”

            ‘นางเป็นปีศาจนะใช่ แต่นางจิตใจดีงาม ไม่มีทางทำร้ายใครแน่นอน’

            หลัวซู่เหมยยกมือขึ้นวางที่หน้าท้อง นางไม่รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์จริงหรือไม่ ระดูนางมาไม่ปกติ แต่การที่เข่อซิงปกป้องนาง ยอมเจ็บแทนนาง ทำให้นางรู้สึกผิด ผิดจนน้ำตาหลั่งรินเป็นสายราวสายฝน

            “นางถูกจับตัวไปที่ใด”

            “น่าจะเป็นอารามที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเจ้าค่ะ”   เสี่ยวจิ้งไม่กล้าพูดมากไป หากเจ้านายไม่พูด นางก็ไม่ปริปาก

            “นักพรตผู้นั้นใบหน้าดูอ่อนโยนมีเมตตา แต่ทำร้ายข้ากับเข่อซิง เพื่อปกป้องข้า นางจึงถูกจับตัวไป”  หลัวซู่เหมยไม่กล้าพูดที่หลิวเข่อซิงมีหูและหางเป็นจิ้งจอกแดง

            “ข้าจะไปช่วยนางเอง”

            “ให้ข้าไปด้วย” หานหลี่เจี๋ยอาสาทันที

            “ข้าจะสั่งคนของจวนติดตามหาเข่อซิง”  หานลี่จูเตรียมสั่งการ

            หานหรงเหยาซาบซึ้งใจที่พี่ใหญ่และน้องสามห่วงใยเข่อซิงมากถึงเพียงนี้ แต่ฐานะของเข่อซิงไม่ควรให้คนรู้เห็นมาก แค่หลัวซู่เหมยไม่เอ่ยออกมาต่อหน้าหานลี่จูและหานหลี่เจี๋ยก็นับว่าดีแล้ว

            “พี่ใหญ่ดูแลพี่สะใภ้เถิด ส่วนเจ้าอยู่ที่นี่ รอฟังข่าว หากข้าต้องการกำลังเสริม เจ้าค่อยตามไปช่วย”

            “ทำไมไม่ให้ข้าไปพร้อมกับท่าน อย่างไรนางก็เป็นว่าที่พี่สะใภ้ของข้า เป็นคนในสกุลหาน ข้าไปช่วยก็นับว่าถูกต้องแล้ว”

            “เพราะพวกท่านไม่ใช่คู่ต่อกรกับนักพรตผู้นั้น”  หลิวชิงเซียงเอ่ยขึ้น นางย่อกายคารวะหานลี่จูและฮูหยินน้อย แต่เพียงพยักหน้าให้หาน หลี่เจี๋ยเล็กน้อยเท่านั้น

            “เจ้าเป็นใคร” หานหลี่เจี๋ยก็เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป เจอหญิงงามก็ยืดอกโอ้อวดตนเอง แต่หลิวชิงเซียงไม่ได้ใส่ใจ นางสาวเท้าเข้ามาใกล้หานหรงเหยาแล้วยื่นซองกระดาษให้เขา

             “ขออภัยทุกท่าน ข้าหลิวชิงเซียง เป็นศิษย์พี่ของหลิวเข่อซิง เดิมทีคิดจะเอาดวงตะชาวันเกิดของนางงมาให้ และพูดคุยเรื่องงานแต่งงาน แต่ได้ยินเรื่องร้ายขึ้น ยามนี้ข้าคงต้องไปช่วยเข่อซิงก่อน”

            น้ำเสียงอ่อนหวานแต่หนักแน่น ทำให้คนฟังรับรู้ได้ว่านางไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

            “ข้าไปด้วย”

            หลิวชิงเซียงสบตาหานหรงเหยาแล้วพยักหน้า “ไม่มีเวลามาก ข้าจะอธิบายเรื่องต่างๆ บนหลังม้าก็แล้วกัน”

            “ให้ข้าไปด้วยสิ”

            หลิวชิงเซียงรำคาญเด็กหนุ่มที่เซ้าซี้ไม่เลิกรา นางยกมือขึ้นแต่ยังไม่ทันร่ายมนต์ใด หานหรงเหยามาคว้าข้อมือนางไว้ก่อน

            “น้องชายข้าไม่รู้ความ ท่านอย่าได้ถือสา”  หานหรงเหยาหันไปสั่งน้องชาย “เพื่อความปลอดภัยของเข่อซิง ทำตามที่ข้าสั่ง”

            หานหลี่เจี๋ยยังคิดจะโต้เถียงแต่หานลี่จูปรามเอาไว้ก่อนทำให้หานหลี่เจี๋ยหน้าเสียยอมอยู่ในจวนอย่างจำใจ

            “หากเจ้าอยากทำตัวมีประโยชน์ก็อย่าให้ท่านพ่อท่านแม่รู้เรื่องนี้ แล้วรีบให้คนไปเชิญหมอมาตรวจดูอาการพี่สะใภ้ของเจ้า”

            “ข้าทราบแล้วพี่ใหญ่”

            หานหลี่เจี๋ยวิ่งเร็วๆออกไป หานหรงเหยาผงกศีรษะขอบคุณพี่ใหญ่แล้วรีบออกไปพร้อมหลิวชิงเซียง หานลี่จูโอบกอดร่างที่สั่นเทาของหลัวซู่เหมย นางเอนกายเข้าหาปล่อยให้ไออุ่นจากบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีปลอบประโลมจิตใจ สายตาและท่าทางของหานหรงเหยาเมื่อครู่นั้น ทำให้นางรู้ว่าในใจของเขาไม่มีนางอีกแล้ว

ความรักในวัยเยาว์ได้โบยบินจากไปแล้วอย่างแท้จริง.         

            เดิมทีหลิวชิงเซียงหายตัวไปก็ย่อมได้ แต่ต้องพาหานหรงเหยาติดตามไปด้วย  เพราะนักพรตบ้านั้นอาจวางม่านมนต์อำพรางไม่ให้หาพบ นางจึงขึ้นหลังม้าที่คนในจวนหานกั๋วกงหามาให้ หานหรงเหยาคว้ากระบี่แล้วขึ้นหลังม้า นางหรี่ตามองแล้วไม่เอ่ยอะไร เท่าที่จำได้ นางไม่เคยเห็นเขาถือกระบี่มาก่อน ในมือของเขามักจะถือพัดเสียมากกว่า  เมื่อเห็นว่าเขาพร้อมแล้วก็กระตุ้นม้าให้วิ่งไปทันที

            หานหรงเหยาไม่เอ่ยปากถาม หลิวชิงเซียงพาเขาไปที่ใด เขามั่นใจว่าเข่อซิงของเขาอยู่ที่นั้น ซุนเจ้าเฟิงที่เดินออกมานอกโรงเตี้ยมเห็นเงาร่างของหลิวชิงเซียงควบม้าผ่านหน้าไปพร้อมกับหานหรงเหยา สัญชาติญาณบอกเขาได้ทันทีว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น เขารีบขึ้นหลังม้าแล้วควบตามทั้งสองไป

            “เจ้าตามมาทำไม”  หลิวชิงเซียงเพียงเอี้ยวใบหน้ามาถามเสียงดังอย่างหงุดหงิด พ้นเขตบ้านเรือนแล้ว ผู้คนบางตาจึงสามารถเร่งความเร็วของม้าได้

            “พวกเจ้าไปที่ใด ข้าก็ไปด้วย”  ซุนเจ้าเฟิงตอบแล้วกระหวดแส้ลงก้นม้าทำให้ม้าของเขาวิ่งทันม้าของหลิวชิงเซียง หากนางได้ควบม้าในทุ่งหญ้างคงดูงดงามไม่น้อย ไม่คิดว่านางจะมีทักษะการขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status