Share

Chapter 44. เขาจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ดี

            หานลี่จูนั่งมองห่อยาที่วางอยู่ตรงหน้า  เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือครึ่งชั่วยามแล้ว หานหรงเหยาเอ่ยปากบอกคนเป็นพี่อย่างเขาว่า ใกล้จะแต่งงาน อยากบำรุงร่างกายเพื่อว่าที่เจ้าสาวจึงมาขอรับยาจากเขา  ทั้งที่ไม่ได้กินยามานาน  น้องชายคนรองจะแต่งงาน  กำลังจะสร้างครอบครัวของตนเอง น้องชายคนเล็กกำลังจะเข้ากองทัพ ท่านพ่อท่านแม่อายุก็มาก เวลานี้เขาคือคนเดียวที่ดูแลทุกอย่างในจวน

            บอกตัวเองให้ทำใจปล่อยวาง แต่หลายปีผ่านมาเขาก็ยังไม่อาจปล่อยวางได้อย่างแท้จริง จนวันนี้ที่เห็นรอยยิ้มของบิดามารดา เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว นานเพียงใดแล้วที่ครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันเช่นนี้  ยิ่งเห็นหานหรงเหยามีความสุขกับหลิวเข่อซิง ก็ยิ่งรู้ว่าคนที่ปวดใจก็คือเขากับหลัวซู่เหมย เป็นเช่นนี้แล้ว จะต่างอะไรจากการหันคมมีดเข้าหาตนเอง  สุดท้ายแล้วคนที่เจ็บก็คือเขา

            เขาจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ดี

            หานหรงเหยาเข้ามาอย่างเงียบๆ หานลี่จูที่เหม่อลอยอยู่ไม่รู้ว่าน้องชายเข้ามา จนกระทั่งหานหรงเหยาเอื้อมมือไปหยิบห่อยาเบื้องหน้าขึ้นมา

            “ดีจริง พี่ใหญ่เตรียมยาให้ข้าแล้วหรือ”

            “เอ่อ...”  หานลี่จูได้สติลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วคว้าห่อยากลับคืน “ยาชุดนี้เก่าแล้ว เจ้าอย่าเอาไปเลย ประเดี๋ยวให้หมอจัดยาชุดใหม่ให้ดีกว่า”

            หานหรงเหยายังคงยิ้มบางๆ ที่มุมปาก วางห่อยาลงที่เดิมแล้วเอ่ย “ตั้งแต่เล็ก ข้าก็เห็นพี่ใหญ่ดูแลทุกอย่างในจวน สามปีมานี้ข้าทำตัวเหลวไหลทิ้งบ้านไปอยู่ชายแดน ทำให้พี่ใหญ่ต้องดูแลท่านพ่อท่านแม่และน้องสามตามลำพัง”

            “รู้อย่างนี้แล้ว เจ้าแต่งงานแล้วก็อยู่ที่นี่เถิด อย่ากลับไปชายแดนเลย  ท่านพ่อท่านแม่ชรามากแล้ว อยู่ที่จวนนี้คอยดูแลกิจการของตระกูล หรืออยากรับตำแหน่งขุนนางกรมใด พี่ก็จะช่วยเหลือ”

            “แล้วพี่ใหญ่เล่า คิดอย่างไรกับข้า”

            ดวงตาของหานลี่จูกระตุกแต่กระนั้นก็ยังคงยิ้มกลบเกลือน “เจ้าเป็นน้องของพี่ จะให้พี่คิดอย่างไร” พลันเขาก็ยิ้มจริงใจออกมา “ท่านพ่อไม่แต่งภรรยารอง ไม่รับอนุ มีมารดาเป็นภรรยาเอกเพียงคนเดียว หลังจากข้าเกิดก็รู้ว่าท่านแม่เพียงพยายามจะมีบุตรอีกเพื่อแผ่กิ่งก้านสาขาให้สกุลหาน กว่าจะได้เจ้ามาก็ยากเย็น  เจ้าคลอดก่อนกำหนด ร่างกายไม่แข็งแรง ท่านแม่ต้องดูแลเจ้ามากเป็นพิเศษ หลังจากสุขภาพท่านแม่ดีขึ้น ก็ตั้งครรภ์เจ้าสาม ยังดีที่เจ้าสามเป็นเด็กแข็งแรง ท่านพ่อท่านแม่จึงไม่เหนื่อยมาก”

            “แต่เพราะข้าอ่อนแอ ท่านแม่จึงทุ่มเทแรงกายและใจเพื่อให้ข้ามีชีวิตรอด”

            “เพราะร่างกายข้าอ่อนแอ จึงเหมือนขโมยท่านแม่มาจากทุกคน”

            “อืม”  หานลี่จูขานรับอย่างไม่รู้ตัว แล้วถอนหายใจออกมา “เพราะเจ้าอ่อนแอ ไม่ว่าอยากได้อะไร ทุกคนก็จะสรรหามาให้”

            “แต่ข้าไม่เคยอยากได้อะไรเลย”  หานหรงเหยารู้สึกได้ว่ายามนี้ทุกถ้อยคำของพี่ใหญ่ล้วนออกมาจากใจ

            “รวมถึงซู่เหมยด้วยหรือไม่”  หานลี่จูเลี้ยงดูหานหรงเหยามาตั้งแต่เกิด เมื่อเผชิญหน้ากันเช่นนี้กลับรู้ได้ในทันทีว่า  ความลับดำมืดที่ซุกซ่อนไว้ถูกเปิดเผยแล้ว  น่าแปลกที่เขารู้สึกโล่งใจอย่างยากจะอธิบาย ราวกับรอเวลานี้มานานเหลือเกิน หรือบางที คงถึงเวลาที่เขาต้องยุติทุกอย่างแล้ว แม้ความจริงนี้อาจทำให้เขาไม่เหลือสิ่งใดเลยก็ตาม

            “ข้า...”  หานหรงเหยาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนเอ่ย “สำหรับข้าแล้วผู้สืบทอดตำแหน่งจากท่านพ่อก็คือพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นผู้มากความสามารถ เก่งทั้งบุ๋นบู๊ การที่ซู่เหมยแต่งงานกับพี่ใหญ่ก็ทำให้ข้าเบาใจ อย่างน้อยข้าก็รู้ว่านางจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุข”

            หานลี่จูหัวเราะเย็นชาราวกับเย้ยเยาะตนเอง “ข้าเองก็เคยคิดว่า เมื่อนางแต่งเข้ามาแล้ว หัวใจนางจะมีเพียงข้า แต่สามปีที่ผ่านมา เจ้าก็ยังคงเป็นคนในหัวใจของนาง”

            “พี่ใหญ่ นับตั้งแต่วันที่นางเป็นภรรยาของท่าน ฐานะของนางคือพี่สะใภ้ข้าและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป”  ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย “เดิมทีข้ารู้อยู่แก่ใจว่าสุขภาพตัวเองไม่สู้ดี หัวใจอ่อนแอและไม่อาจมีชีวิตได้ยืนยาวเช่นผู้อื่น ข้าควรตัดใจจากนาง  แต่ก็ปล่อยให้ถลำลึกหลงรักนางสุดหัวใจ แต่เมื่อนางแต่งงานกับพี่ใหญ่ ข้าก็รู้ว่าต้องทำเช่นไร การที่ข้าเลือกไปอยู่ชายแดน ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้พ้นคำครหาที่อาจนำเรื่องเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัว และอีกส่วนคือตัวข้าเองที่อยากลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง การใช้ชีวิตที่นั้นทำให้ข้าเติบโตขึ้น ได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และที่สำคัญ ข้าได้พบกับเข่อซิง”

            “นางคงดีกับเจ้ามาก” 

            “อืม นางไม่เหมือนผู้ใด นางดีกับข้ามากจริงๆ” หานหรงเหยายิ้มกว้าง “ข้าดีใจที่พี่ใหญ่สนับสนุนข้ากับเข่อซิง”

            หานลี่จูเห็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานานบนใบหน้าของหานหรงเหยาแล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าบุรุษเบื้องหน้าได้ก้าวพ้นจากห้วงรักในอดีตได้แล้ว เป็นเขาสินะ ที่โง่งมยึดมั่นกับความคิดของตนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ไม่สิ มันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง การกำหินก้อนหนึ่งในอุ้งมือ แม้เป็นเพียงหินก้อนเล็กๆ แต่เมื่อกำแน่นเกินไป คมของหินก็บาดเข้าผิวเนื้อทำให้เจ็บปวด  หากคลายมือออก หินก้อนนั้นก็เป็นเพียงก้อนหินก้อนหนึ่ง และเมื่อวางมันลง ไม่ยึดมั่นไม่เหนี่ยวรั้ง ความเจ็บปวดก็ไม่บังเกิดขึ้นอีก

            “มีเรื่องที่เจ้าต้องรู้”

            หานหรงเหยาเห็นสายตาของหานลี่จูหยุดที่ห่อยา เขารู้ว่าพี่ใหญ่จะพูดเรื่องอะไร จึงรีบชิงพูดขึ้นก่อน

            “เรื่องใดที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันผ่านไปเถิด”

            “เจ้า...เจ้ารู้?”

            “ข้ารู้แค่ว่า ทุกสิ่งที่พี่ใหญ่จัดส่งมาให้นั้นคือความห่วงใยอย่างจริงใจ ที่ข้าไม่ได้ดื่มยาเหล่านั้นก็แค่เพราะเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ต้องกินยาทุกวัน และเป็นเข่อซิงที่ทำให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นได้ พี่ใหญ่...ท่านพ่อท่านแม่ชรามากแล้ว อย่าให้พวกท่านรับรู้เรื่องเหล่านี้เลย มันก็เหมือนครั้งที่พวกเราสามคนยังเด็ก มีทะเลาะผิดใจกันบ้าง แต่เราก็ปรับความเข้าใจกันได้ พี่ใหญ่เป็นคนใจกว้างไม่เคยถือสาข้ากับน้องสาม ครั้งนี้ข้าก็หวังว่า ท่านจะยุติเรื่องเหล่านี้ได้เอง”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status