Share

Chapter 38. ต่อให้เจ้าตายก็ยังเป็นคนของข้า

            นิ้วเรียวยาวแยกกลีบดอกไม้ที่คล้ำไปเล็กน้อยแต่ภายในยังคงคับแน่นดึงดูดผีเสื้อหนุ่ม  ฟันคมขบกัดที่ยอดอกจนเปียกชุ่มและบวมขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่สองนิ้วแทรกในร่องรักที่บีบรัด เร่งเร้าให้คายน้ำหวานออกมา  หานลี่จูถอนริมฝีปากจากเต้าคู่งามที่ช้ำเป็นจ้ำเลือดเพราะริมฝีปากของเขา แล้วยื่นหน้าไปกระซิบเสียงพร่า

            “เจ้าคิดถึงหรงเหยาอยู่สินะ แต่ร่างกายเจ้าเป็นของข้า ต่อให้เจ้าตายก็ยังเป็นคนของข้า”

            หลัวซู่เหมยได้แต่ครางสะอื้นร่างกายเกร็งกระตุกด้วยนิ้วร้ายของเขา  หานลี่จูดึงนิ้วออกจากร่องรักแล้วดึงผ้าออกจากปากนาง ส่งนิ้วที่เปื้อนคาวรักส่งเข้าในไปโพรงปากที่น้ำลายเปื้อนเปรอะมุมปาก  หยดน้ำตาใสหลั่งริน  เขาขยับนิ้วเข้าออกในโพรงปากสวยหรี่ตามองราวกับปีศาจร้ายไม่เหลือเค้าบุรุษผู้อ่อนโยนที่ใครต่อใครกล่าวถึง  มือข้างหนึ่งกระตุกสายรัดเอวแล้วปลดกางเกงให้เลื่อนลงเผยแก่นกายที่แข็งขัน  เขาจับมือนุ่มมากุมลำเอ็นของตนแล้วกุมมือนางอีกทีเพื่อชักนำให้นางขยับมือสาวแก่นกายที่ขยายใหญ่ขึ้นทุกขณะ  หานหลี่จูครางเสียงต่ำในลำคออย่างพอใจ กวาดนิ้วในโพรงปากของนางและเย้าแย่ลิ้นน้อยๆ นางครางปนสะอื้นแล้วเขาก็ถอนนิ้วมือออก แล้วประคองแท่งหยกร้อนแทรกในร่องรักที่เปียกชุ่ม

            “อ่า...เจ้าฉ่ำแฉะมากถึงเพียงนี้ ชอบที่ข้าทำหรือเจ้าคิดถึงหรงเหยากันแน่”

เขาพูดเสียงต่ำแล้วกดกระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุด ร่างเล็กผวาเฮือก นางสะบัดหน้าไปมา ทั้งจุกและเสียวซ่าน แก่นกายของเขาใหญ่โต แต่ก่อนนั้นเขาทะนุถนอมนาง นอกจากคืนแรกที่ร่วมหอแล้ว หลังจากนั้นหากนางไม่ยินยอมเขาก็ไม่แตะต้อง แต่คืนนั้นนางดื่มสุราเป็นเพื่อนเขาและพลั้งปากเรียกเขาว่า  ‘หรงเหยา’ นับตั้งแต่นั้น  ความอ่อนโยนที่เคยมีก็มลายหายไปสิ้น

            เอวสอบขยับเคลื่อนไหวรุนแรงกระแทกกระทั้นจนร่างสั่นไหว ทรวงอกคู่งามกระเพื่อมเย้ายวน  จนเขาต้องเอื้อมมือไปขยำอย่างมันมือ นางหลุดเสียงหวีดร้องออกมา ร่างกายเกร็งกระตุกและร่องรักตอดรัดแน่นจนอีกฝ่ายคำรามอย่างพอใจ เขาถอนแก่นกายออกแล้วจับร่างที่หมดเรี่ยวแรงต่อต้านให้พลิกค่ำในท่าหมอบคลาน  เขาคุกเข่าอยู่ด้านหลัง ยกสะโพกนางขึ้นสูงแล้วแบะแก้มก้นของนางออกเผยร่องรักที่เปียกจนน้ำรักฉ่ำเยิ้ม  แท่งหยกร้อนระอุถูกส่งเข้าไปอีกครั้ง แม้จะเสียวซ่านจนไม่อาจต่อต้านได้แต่แรงกระหน่ำจากด้านหลังในท่วงท่าที่น่าอายนี้   ทำให้หลัวซู่เหมยได้แต่หลั่งน้ำตา เขาโยกเอวบดคลึงและฟาดฝ่ามือใส่แก้มก้นจนกลายเป็นรอยแดง

            “ซู่เหมย...”  

เขาเรียกนางเสียงพร่าทั้งที่ยังกระแทกกระทั้นเอวดุดันในร่องรักที่รัดลำเอ็นแน่น แต่ไม่อาจทำให้เขาลืมความปวดใจที่นางสร้างแผลใจให้แก่เขา เขารักนางไม่น้อยกว่าหานหรงเหยา รักตั้งแต่ครั้งแรกที่นางยังเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย แต่นางกลับปักใจรักน้องชายอ่อนแอขี้โรค และเป็นเขาที่ค่อยพูดกับบิดามารดาของหลัวซู่เหมยเรื่องร่างกายที่ทรุดโทรมใกล้ตายไปทุกขณะ เป็นเขาที่ทำให้คนทั้งเมืองหลวงเชื่อว่า หานหรงเหยาจะมีชีวิตได้ไม่นาน เขาต้องทุ่มเทแรงกายและใจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนหมายปอง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นผู้ปกครองจวนต่อจากบิดาเท่านั้น รวมถึงหญิงสาวที่เขาหมายปองอีกด้วย

            ไม่ว่าสิ่งใดที่เขาต้องการ เขาต้องได้มา เขาต้องครอบครองสิ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นวิธีต่ำช้าเลวทรามเพียงใดก็ตาม

            “ท่าน...ท่านพี่... ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว”

            “อดทนหน่อยซู่เหมย หากเจ้าทำตัวดีๆ ข้าจะมอบบุตรให้เจ้า” 

นางใจร้ายกับเขาเหลือเกิน  เขารักนางมากถึงเพียงนี้แต่นางก็ยังรักหานหรงเหยา ความเสียใจและโทสะผสมปนเปจนเขาแทบคลั่ง หลัวซู่เหมยพยายามคลานหนี  แต่มือใหญ่จับเอวนางไว้มั่นจนเอวนางเป็นรอยยิ้มมือ นั้นคือสาเหตุที่ผิวกายดุจหิมะของนางเป็นรอยช้ำไปทั่วร่าง

            เพราะต้องการมีบุตร นางจึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน ปล่อยให้อีกฝ่ายกระทำตามอำเภอใจ

            นางถึงจุดสุขสมอีกครั้งแล้ว เขารู้ดี หานลี่จูก้มมองลำเอ็นที่ผลุบเข้าออกในร่องรักที่คับแน่น เขาสาวลำเอ็นดุดันกระแทกเขาไปจนสุด ปลดปล่อยน้ำรักในตัวนาง ยามเมื่อถอนแก่นกายออกพร้อมเสียงครางต่ำของตน เขามองน้ำรักที่ไหลเยิ้มจนเปื้อนเปรอะโคนขาที่เป็นรอยแดงเพราะถูกเสียดสี นางพยายามขมิบกักเก็บน้ำรักของเขาไว้ การมีลูกคือความมั่นคงเดียวในการอยู่จวนแห่งนี้ หากนางยังไม่สามารถมีลูกได้อีก เห็นทีว่าแม่สามีต้องรับอนุมาให้สามีของนาง ยังมีหญิงสาวในเมืองอีกมากที่อยากได้ตำแหน่งภรรยารองของหานลี่จู  นางไม่อาจยอมให้ใครมาข่มเหงนางได้

            หลังพายุอารมณ์สงบนิ่ง หานลี่จูก้มมองร่างภรรยาที่ขดตัวสั่นเทาอย่างน่าสงสาร เขาปวดใจที่เห็นภรรยารักเป็นเช่นนี้ มือที่ยื่นไปหมายจะลูบผมปลอบประโลมแต่ชะงักกลางอากาศ  เส้นทางที่เขาเลือกเดินไม่อาจถอยหลังได้อีก เขาดึงมือกลับแล้วจัดเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่แล้วก้าวออกจากห้องไปอย่างไม่สนใจเสียงสะอึกสะอื้นนั้นอีก

            แต่หัวใจของเขาเจ็บปวดเหลือเกิน.

            หานลี่จูเดินออกมาด้านนอก เสี่ยวจิ้ง-สาวใช้ที่ติดตามหลัวซู่เหมยมาอยู่ที่จวนนี้ด้วยนั้น นางยืนเฝ้าด้านนอกด้วยท่าทีกระสับกระส่าย เมื่อนางเห็นเขาเข้าก็รีบก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา

            “เขาไปดูแลนาง”

            “เจ้าค่ะ”

            “เอายาไปทาให้นางด้วย”

            “เจ้าค่ะ”

            ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากมา ไม่รู้เหตุใดสองเท้าพาร่างที่เหม่อลอยมาที่ศาลาริมน้ำ ยามนี้มีเพียงแสงจากโคมไฟทีแขวนให้ความสว่างตรงทางเดิน  สายลมเย็นพัดผ่านลูบไล้หัวใจที่รุ่มร้อนให้เย็นลง เขายกมือขึ้นดูฝ่ามือตนเอง  เรื่องราวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน หานลี่จูเกิดก่อนหานหรงเหยาถึงแปดปี แปดปีที่เขาใช้ชีวิตลูกชายคนเดียวของสกุลหาน เป็นที่รักและถูกตามใจมาตลอด จนกระทั้งมารดาคลอดหานหรงเหยาก่อนกำหนด หลังจากนั้นสามปีมารดาให้กำเนิดหานหลี่เจี๋ยที่แข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกประการ  น้องชายคนรองสุขภาพไม่ดีบิดามารดาทุ่มเทความสนใจไปที่หานหรงเหยาจนละเลยเขาและน้องสาม  ไม่ว่าจะทำสิ่งใด หานหรงเหยาต้องมาก่อนเสมอ  แม้กระทั่งหญิงสาวที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ นางกลับมีใจให้หานหรงเหยา  ความริษยาที่เคยกดทับในใจกลายเป็นเพลิงเผาไหม้ให้เขารุ่มร้อนทุกข์ทรมาน เพื่อให้ได้ครอบครองหญิงงามที่ตนหมายปอง เขาจึงกลายเป็นคนชั่วช้าถึงเพียงนี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status