Share

Chapter 42. จับปีศาจ

            “ชุดเจ้าสาวของข้า...”

            หลิวเข่อซิงเอ่ยทวนสิ่งที่ได้ยินอย่างงุนงง  สองวันมานี่หานหรงเหยามีงานลับที่เขาไม่อาจเปิดเผยให้นางรู้   กว่าจะกลับถึงจวนก็ค่ำมืด เขาไม่เล่านางก็ไม่ถาม  ด้วยรู้ดีว่าหากเป็นเรื่องงานแล้ว หานหรงเหยาทุ่มเทแรงกายและใจอย่างสุดกำลัง นางจึงไม่เคยเซ้าซี้ถามเอาเรื่องราวใด  เขาให้นางอยู่ในจวนอย่างสงบเสงี่ยมและเรียนรู้กฎระเบียบในบ้านกับหลัวซู่เหมย นางก็ยินดีทำตามที่เขาสั่ง  

            วันนี้ก็เช่นกัน หลัวซู่เหมยกับสาวใช้ชื่อเสี่ยวจิ้งเข้ามาหาหลิวเข่อซิง  พูดคุยเรื่องชุดเจ้าสาว นางยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย เพราะศิษย์พี่หลิวชิงเซียงบอกว่าจะจัดการให้

            “ขอพูดตามตรง ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นกำพร้า เกรงว่าจะเตรียมชุดวิวาห์ไม่ทันจึงถือวิสาสะเข้ามาสอบถามเจ้า”

            “วันวิวาห์ยังไม่ได้กำหนด ข้าเลยคิดว่าจะรอก่อนเจ้าค่ะ”  หลิว เข่อซิงตอบไปตามตรง ใบหน้าระบายยิ้มจนดวงตาหยี่เล็ก

            “เรื่องแบบนี้รอได้ที่ไหนกัน”  เสี่ยวจิ้งรีบพูดขึ้น “ฮูหยินน้อยกว้างขวางในเมืองหลวง รู้จักร้านตัดเย็บเสื้อผ้าที่ดีที่สุด แต่ชุดเจ้าสาวจะเร่งรีบเกินไปก็ไม่ดี ฮูหยินน้อยจึงคิดว่า เจ้าควรเตรียมตัวเสียตั้งแต่วันนี้จะดีที่สุด”

            “เป็นเช่นนี้เอง”  หลิวเข่อซิงพยักหน้ารับอย่างใส่ซื่อ “ข้าต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

            “ออกไปร้านผ้ากับข้า” หลัวซู่เหมยพูดด้วยรอยยิ้ม “เลือกผ้าไหมสวยๆ ให้สมกับที่เจ้าจะเข้ามาเป็นฮูหยินของหรงเหยา เสื้อผ้าเจ้ามีไม่กี่ชุดเองนี่ อย่างไรก็ดูไว้ตัดเสื้อผ้าอีกสิ”

            “เจ้าอย่าปฏิเสธความหวังดีของฮูหยินน้อยเลย อีกหน่อยก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เรื่องแค่นี้เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว” เสี่ยวจิ้งพูดเสริมทำให้หลิวเข่อซิงพยักหน้ารับเห็นด้วย

            “ได้เจ้าค่ะ”  หญิงสาวงยิ้มกว้าง นางลุกขึ้นจากเก้าอี้กลมด้วยท่าทีกระตือรือร้นเหมือนเด็กที่จะได้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน 

            วูบหนึ่งในใจรู้สึกผิด แต่หลัวซู่เหมยก็สลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวแล้วยันกายขึ้นจากเก้าอี้ นางรู้สึกหน้ามืดเล็กน้อย หลิวเข่อซิงยื่นมือไปประคองรวดเร็วกว่าเสี่ยวจิ้ง  ปลายนิ้วที่สัมผัสผิวกายของหลัวซู่เหมยทำให้ดวงตาของเข่อซิงกระตุกเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังคงแย้มยิ้มราวกับไม่รับรู้เรื่องใด

            “ระวังด้วยเจ้าค่ะ”

            “ขอบใจเจ้ามาก”  หลัวซู่เหมยสูดลมหายใจลึก มาถึงขั้นนี้แล้ว นางจะถอยไม่ได้ เพื่อหานหรงเหยาและคนสกุลหาน นางต้องทำ...

            รถม้าหรูหราสมฐานะสกุลหานพาคนทั้งสามไปร้านผ้าแห่งหนึ่ง ผ้าม่านที่หน้าต่างรถม้าขยับไหวตามแรงลม หลิวเข่อซิงมองออกไปเห็นอีกาบินผ่านไป นางดึงสายตากลับมาแล้วฉีกยิ้มกว้างให้หลัวซู่เหมยเช่นทุกครั้ง  โดยที่นางไม่เคยรู้เลยว่ารอยยิ้มของนางนั้น สร้างระลอกคลื่นความริษยาในใจใครบางคน  และในขณะเดียวกัน ความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้ามาในอก ทำให้หลัวซู่เหมยนั่งบีบมือตัวเองอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งเข่อซิงเอื้อมมือมาแตะหลังมือของนางเบาๆ  

            “ข้าขอบคุณฮูหยินน้อยที่ดูแลข้าอย่างดียิ่ง” 

จู่ๆ หลิวเข่อซิงก็เอ่ยขึ้นมาทำให้หลัวซู่เหมยทำอะไรไม่ถูก ท่าทางไร้เดียงสาขนาดนี้ บางที... เงาภาพที่เห็นในคืนนั้นนางอาจเข้าใจผิดไปเอง นางลังเลและคิดเปลี่ยนใจไม่ไปพบนักพรตผู้นั้น  แต่รถม้าก็มาถึงที่หมายแล้ว สาวใช้ประคองผู้เป็นนายลงจากรถม้ารวมทั้งหลิวเข่อซิง  สายตาหลายคู่จับจ้องที่หลัวซู่เหมยที่พาหลิวเข่อซิงเข้ามาเลือกผ้าไหม โดยปกติจะมีคนนำผ้ามาให้นางเลือกที่จวน แต่ครั้งนี้ก็เพื่อหาทางให้หลิวเข่อซิงออกมานอกจวนจึงต้องมาถึงร้านด้วยตนเอง

            “พบกันครั้งแรก เจ้าก็สวมเสื้อผ้าสีแดงสด เจ้าคงชอบสีแดงเอามากสินะ”  หลัวซู่เหมยเห็นสีหน้าตื่นเต้นของหลิวเข่อซิงแล้วก็อดยิ้มขันไม่ได้ ก็นางทั้งลูบทั้งคลำทำตาโตเป็นประกายราวกับเด็กน้อย

            “ข้าชอบมากเจ้าค่ะ”  หญิงสาวพยักหน้ารับ “ข้าไม่เคยมีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ เอ่อ...ไม่สิ ก็มีเสื้อผ้าดีๆ แต่เป็นเสื้อผ้าที่ศิษย์พี่ยกให้ จนกระทั่งได้พบกับหรงเหยา เขาเห็นข้ามีเสื้อผ้าแค่สองชุดจึงซื้อให้ข้าใหม่ตั้งหลายชุด”

            “เสื้อผ้าของเจ้า หรงเหยาเลือกให้รึ”  นางถามน้ำเสียงเจือความริษยาอยู่หลายส่วน

            หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา “ข้าเลือกเอง”

            “นั้นสินะ เขาเป็นคนชอบสีอ่อนแบบเรียบง่าย แต่เจ้า...”    

หลัวซู่เหมยอดกวาดตามองเข่อซิงไม่ได้ สตรีส่วนใหญ่ล้วนชอบเสื้อผ้าสีสันสดใส รวมทั้งนางด้วย แต่เพราะรู้ว่าหานหรงเหยาชอบแบบเรียบๆ สบายตา เสื้อผ้าของนางจึงมีแต่สีอ่อนและปักลายน้อยนิด เน้นการตัดเย็บประณีตและเนื้อผ้าชั้นดี

            เสี่ยวจิ้งหยิบผ้าพับหนึ่งขึ้นแล้วคลี่ออกมาทาบบนตัวของเข่อซิง “ผืนนี้ก็เหมาะกับเจ้า”

            “มากเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”  หลิวเข่อซิงยอมรับว่าตนเองชอบผ้าที่เสี่ยวจิ้งเลือกให้ แต่ผ้าสำหรับตัดชุดเจ้าสาวและที่หลัวซู่เหมยเลือกให้ไว้ตัดเย็บชุดลำลองได้อีกหลายชุด  ยังไม่นับรวมเสื้อผ้าที่มีอยู่ก่อนแล้ว นางไม่เคยมีเสื้อผ้ามากมายขนาดนี้มาก่อน

            “ถ้าเจ้าชอบก็เอาไปเถิด ถือว่า...ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องไปอยู่เรือนคนรับใช้”  หลัวซู่เหมยพูดออกมาแล้วก็อดประหลาดใจไม่ได้ เหตุใดนางต้องขอโทษเข่อซิง นางไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย แม่สามีเองก็ยังเห็นดีกับสิ่งที่นางตัดสินใจทำเช่นนั้น

            หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา “อย่าขอโทษข้าเลยเจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยเป็นผู้ดูแลกฎบ้าน หรงเหยาบอกว่าต่อไปข้าต้องเรียนรู้จากท่านและเชื่อฟังท่านให้มาก”

            “หรงเหยา...พูด..เช่นนั้นเหรอ”

            หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “เจ้าค่ะ”

            ในใจของเขา...ไม่มีนางแล้วหรือ? เวลาเพียงสามปีเขาลืมนางได้แล้วจริงๆ หรือ?  เขาไม่รู้เลยหรือไรว่านางปวดใจมากเพียงใดที่รู้ว่าข้างกายของเขามีหญิงอื่น หัวใจนางเจ็บราวถูกมีดกรีดที่เห็นเขามอบรอยยิ้มให้หลิวเข่อซิง

            หลิวเข่อซิงเห็นหลัวซู่เหมยนิ่งงันไป  ก็เงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ในดวงตางดงามของหลัวซู่เหมยเปิดเผยความนัยที่ซุกซ่อนไว้  ทำให้เข่อซิงผงะถอยหลังไปครึ่งก้าว  แต่นางเรียกสติกลับมาได้และแย้มยิ้มราวกับไม่รู้ถึงสายตาของอีกฝ่าย  ทว่านางกลับยกมือขึ้นกุมหัวใจ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status