Share

Chapter 36. กฎของปีศาจจิ้งจอกแดงสกุลหลิว

“ยินดีด้วยๆ ข่าวมงคลเช่นนี้ ข้าขอแสดงความยินดีจากใจจริง”

หานหรงเหยาเพียงแค่ยิ้มรับ ยังไม่ทันเอ่ยเล่าสิ่งใด บานประตูก็เปิดออก ร่างอรชรของหลิวชิงเซียงก็ก้าวเข้ามา นางคารวะซุนเจ้าเฟิงอย่างเต็มพิธีแล้วจึงย่อกายคารวะหานหรงเหยา

“คารวะองค์ชายสามเพคะ ที่ปรึกษาหาน”

ซุนเจ้าเฟิงสีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจที่นางวางตัวเหินห่างแต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้นอกจากโบกมือไปมา “เพิ่งรู้ว่าผู้ดูแลหลิวเล่นเพลงพิณได้ไพเราะยิ่งนัก เห็นทีโอกาสหน้าข้าต้องขอมาฟังเจ้าบรรเลงพิณที่นี่อีก”

“หม่อมฉันมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ที่นี่ก็มีนักดนตรีเล่นพิณได้ไพเราะหลายคน องค์ชายสามชอบก็เชิญมาฟังได้ทุกเวลาเพคะ”

หลิวเข่อซิงกระตุกแขนเสื้อหาหานหรงเหยาแล้วเอ่ยถาม “ข้าต้องพูดกับเจ้าคนนิสัยไม่ดีเหมือนศิษย์พี่หรือไม่”

“ไม่ต้อง! ข้าไม่ชอบ!” ซุนเจ้าเฟิงรีบตอบทันที “แต่ห้ามเรียกข้าว่า ‘เจ้าคนนิสัยไม่ดี’อีก ถ้าข้านิสัยไม่ดีจริง เจ้าไม่ได้มาอยู่ตรงนี้หรอก”

“ความจริงเรียกคนนิสัยไม่ดีก็ถูกแล้ว คนนิสัยดีที่ไหนมาทวงบุญคุณผู้อื่นกันเล่า”  หลิวเข่อซิงบ่นพึมพำ

“นี่เจ้ากล้าว่าข้ารึ ถ้าไม่ใช่เพราะร้อยตำลึงของข้า นางก็คงอยู่ในหอนางโลมที่ชายแดนนั้น”

“ถ้าจำไม่ผิด คนของหม่อมฉันรายงานว่า ที่ปรึกษาหานจะจ่ายเงินเองแต่ท่านปฏิเสธแล้วชิงจ่ายเงินก่อน เพื่อซื้อนางเป็นของขวัญให้ที่ปรึกษาหาน”

หลิวเข่อซิงกระตุกแขนเสื้อหานหรงเหยาอีกครั้ง “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยเหรอ”

“เอ่อ...คือ...” ซุนเจ้าเฟิงนึกอยากตบปากตัวเอง ตอนนี้สถานะของหลิวเข่อซิงไม่ใช่สาวใช้แล้ว เขาอึกอักพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยอมให้หลิวชิงเซียงยิ้มเยาะใส่

“พวกท่านมาหาข้าถึงที่นี่มีเรื่องใดรึ”  นางถามพลางเดินมานั่งที่เก้าอี้แล้วรินน้ำชาให้ตนเอง

“ข้าจะแต่งงานกับเข่อซิง มีเรื่องอยากขอคำปรึกษาจากผู้ดูแลหลิว”

“แต่งงาน”   หลิวชิงเซียงประหลาดใจเล็กน้อย

หานหรงเหยาเข้าใจไปว่าหลิวชิงเซียงคงคิดว่าเขาไม่จริงใจกับเข่อซิงจึงรีบอธิบาย “เข่อซิงจะเป็นภรรยาเอก และไม่รับหญิงใดอีก ขอผู้ดูแลหลิวโปรดเข้าใจด้วย ข้าต้องการใช้ชีวิตกับนางอย่างแท้จริง”

ซุนเจ้าเฟิงไม่แปลกใจนักที่ได้ยินสหายรักกล่าวเช่นนั้น หานหรงเหยาเป็นคนมั่นรักและตั้งใจมีภรรยาเดียว แต่หลิวชิงเซียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทว่าก็ยังส่งยิ้มให้ทั้งสอง

“ข้ายินดีด้วย”

“เรามีเรื่องต้องการปรึกษา ศิษย์ เอ่อผู้ดูแลหลิว”

“เรื่อง?”

“เรื่อง...” หลิวเข่อซิงอึกอักปรายตามองไปทางซุนเจ้าเฟิง  หลิวชิงเซียงปรายตามองตามแล้วยิ้ม

“เข้าใจแล้ว”  หลิวชิงเซียงพยักหน้ารับ

“ก็คุยกันไปสิ ข้าเป็นสหายเขา ฟังด้วยไม่ได้หรือไง”

“ที่หุบเขาจื่อเซ่อก็มีกฎของคนในหุบเขา หากองค์ชายสามต้องการฟังก็ต้องรับหม่อมฉันไว้เป็นชายา เท่านี้องค์ชายสามก็เสมือนเป็นคนในหุบเขาและหม่อมฉันสามารถเล่าเรื่องในนั้นให้ท่านรับรู้ได้”

“เหลวไหล!”  ซุนเจ้าเฟิงขึงตาใส่แต่หลิวชิงเซียงยิ้มกึ่งขบขัน และดูท่าทางนางพูดจริง เพราะหานหรงเหยาและหลิวเข่อซิงก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกปากแก้ตัวแทน

“พูดจริงรึ”

หลิวเข่อซิงพยักหน้ายืนยัน

“อ้อ! ถ้าเป็นได้แค่อนุ หม่อนฉันไม่รับนะเพคะ” 

“พวกเจ้าคุยกันไปเองแล้วกัน ข้าไปหาสุราดื่ม”  ซุนเจ้าเฟิงยอมล่าถอยอย่างที่แม่ทัพใหญ่ไม่เคยทำมาก่อน

เพียงแม่ทัพใหญ่ก้าวเท้าออกไปแล้ว หลิวชิงเซียงก็หัวเราะออกมา แล้วยื่นมือไปลูบศีรษะหลิวเข่อซิงอย่างเอ็นดู

“ข้าจะส่งข่าวให้ท่านแม่ทราบ ท่านแม่ต้องดีใจมากแน่ๆ”

“ท่านแม่จะไม่โกรธข้าเหรอ”  นางถามอย่างไม่มั่นใจ

“เด็กโง่ เรื่องดีเช่นนี้ท่านแม่จะโกรธได้อย่างไร”  หลิวชิงเซียงหัวเราะออกมาแล้วสบตากับหานหรงเหยา “ท่านต้องการดวงชะตาวันเกิดของนางสินะ”

“ข้ามีวันเกิดด้วยเหรอ” นางทำตาโต

“ถึงเจ้าจะเป็นจิ้งจอกแดงกำพร้า แต่วันที่เจ้ากลายร่างเป็นมนุษย์ได้นั้น นับเป็นวันเกิดของเจ้า อย่างไรข้าจะส่งข่าวให้ท่านแม่ทราบ จะได้เตรียมสินเดิมให้เจ้าด้วย”

“สินเดิม? ข้ามีสินเดิมด้วยเหรอ”  นางยังทำหน้างุนงงหนักเข้าไปอีก

“เจ้าแต่งงานเข้าสกุลหาน จะให้น้อยหน้าผู้ใดได้อย่างไร”  นางเอ่ยแล้วสบตากับหานหรงเหยา “แม้พวกเราจะเป็นปีศาจ แต่ก็เคยมีบางคนที่แต่งงานอยู่กินกับมนุษย์ แต่ท่านคงรู้ว่าพวกเรามีชีวิตยืนยาวกว่ามนุษย์ และใช้ชีวิตได้ไม่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป เพียงแต่นางต้องกินพลังชีวิต หากไม่ได้กินจากท่าน นางก็ต้องจากผู้อื่น”

“ข้ายินดีให้นางกินพลังชีวิตของข้า เพียงแต่ว่า...ถ้าวันหนึ่งข้าจากโลกนี้ไป เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดปกป้องนาง ถึงเวลานั้น ข้าหวังใจว่าผู้ดูแลหลิวจะไม่ทอดทิ้งนางให้ต้องอยู่ตามลำพัง”

หลิวเข่อซิงไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเรื่องนี้ นางย่อมรู้ดีว่าต้องมีวันนั้น เขาต้องจากนางไปก่อน แต่ไม่ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน กี่วัน กี่คืน นางก็ขออยู่เคียงข้างเขาจนลมหายใจสุดท้าย

หลิวชิงเซียงเลิกคิ้วแล้วย้ายสายตามาจ้องมองที่หลิวเข่อซิง

“ตอนอยู่ที่หอชมบุหลัน เจ้าไม่ได้ศึกษตำราจิ้งจอกแดงสกุลหลิวของเราเลยหรือไร”

“ก็...ก็อ่านอยู่นะเจ้าค่ะ แต่มีหลายเล่ม ข้ายังอ่านไม่ครบทุกเล่ม”

หลิวชิงเซียงกลอกตามองบนแล้วกวักมือเรียกให้หานหรงเหยาเข้ามานั่งใกล้ๆ “ข้าขอจับชีพเจ้าของท่านหน่อย”

“ได้” หานหรงเหยายื่นมือไปวางบนโต๊ะ หลิวชิงเซียงวางนิ้วที่ตำแหน่งชีพจรแล้วพลิกข้อมือของเขาหงายขึ้น ริมฝีปากบางขยับเหมือนท่องมนต์พลันเส้นเลือดบนท่อนแขนปรากฏเด่นชัด หลิวเข่อซิงตื่นตกใจรีบลุกขึ้นไปดูใกล้ๆ

“ไม่ต้องตกใจ” หลิวชิงเซียงเอ่ยแล้วปล่อยมือออกจากจุดชีพจรของชายหนุ่ม  พลันทุกสิ่งกลับมาเป็นปกติราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “เดิมทีที่หัวใจของท่านไม่แข็งแรง แต่หลังจากที่ท่านได้เสพสังวาสกับเข่อซิงก็มีการถ่ายเทพลังงาน ท่านมอบพลังหยางให้นาง นางมอบพลังหยินให้ท่าน ร่างกายปรับเปลี่ยนจนเกิดความสมดุล หัวใจของท่านจึงกลับมาเต้นเป็นปกติเช่นคนทั่วไป”

“ผู้ดูแลหลัวหมายความว่า...หัวใจของข้า...”

“อย่างที่ท่านเข้าใจ หัวใจของท่านตอนนี้ปกติดี อีกอย่างพิษในร่างของท่านก็ถูกขับออกจนหมด อีกไม่นานร่างกายของท่านจะฟื้นคืนกำลังได้เต็มที่”

“ถูกพิษ...ข้าถูกพิษอะไรกัน”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status