Share

ตอนที่12 หนี

"นี่พอซะทีฉันไปทำอะไรให้เธอห้ะ"

นรีนาถฮึดสู้ผลักหญิงสาวจนกระเด็นออกจากตัวเธอเพราะหุ่นนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากเธอจึงสู้ได้

"แกมันเป็นมารหัวใจฉัน...นี่หลงถึงขั้นล่ามไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ"

บุญตาตวาดใส่หญิงสาวอย่างเคียดแค้น

"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ...ฉันกับนายพ่อเลี้ยงนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันที่เค้าจับฉันมาก็เพราะแค้นพ่อฉันเท่านั้นถ้าเธอไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้เค้าเธอก็พาฉันหนีสิ"

นรีนาถหยุดคิดครู่หนึ่งกับคำพูดของคนที่จ้องจิกเธอตรงหน้าทั้งรีบบอกให้หญิงสาวได้เข้าใจอะไรเสียใหม่และเผื่อว่างานนี้เธอจะได้รอดไปจากที่นี่เพราะคนตรงหน้าช่วยก็เป็นได้

"ถ้าเป็นอย่างที่แกว่าจริงถ้าฉันพาแกหนีพ่อเลี้ยงก็ได้ฆ่าฉันพอดี"

บุญตาเองก็ชะงักงันกับคำพูดของนรีนาถเช่นกันคิดๆดูแล้วหากพ่อเลี้ยงหนุ่มรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยนรีนาถไปเธอเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นศพเอาได้

"เธอก็อย่าให้เค้ารู้สิว่าเป็นคนพาฉันหนี"

นรีนาถทำสีหน้าอ้อนวอนบุญตาและมีหวังลึกๆว่าบุญตาจะยอมช่วยเธอ

"....."

"ว่ายังไงตกลงจะพาฉันหนีไหม"

เมื้อยังเห็นอีกฝ่ายเงียบนรีนาถจึงเค้นอีกรอบด้วยท่าทีร้อนใจ

"ถ้าเธอจะหนีงั้นก็ควรจะไปซะตอนนี้เลยเพราะกว่าที่พ่อเลี้ยงจะกลับก็เกือบมืด"

เมื่อเงียบอยู่ครู่หนึ่งบุญตาก็ต้องรีบบอกถึงความคิดในใจเพราะเธอรู้ว่าวันนี้เมืองรามนั้นจะกลับมาที่ไร่อีกทีก็ค่อนข้างเย็น

"เธอพอจะมีมีดหรืออะไรที่ตัดเชือกนี่ได้ไหม"

นรีนาถยิ้มออกที่ตอนนี้เธอก็เจอคนที่ช่วยเธอได้เสียที

"เดี๋ยวฉันมา.."

"เรียบร้อยไปแล้วอย่ากลับมาอีกล่ะ"

บุญตารีบวิ่งไปหามีดพร้ามาพักใหญ่จึงรีบกลับมาตัดให้หญิงสาวและพาเธอวิ่งออกมาข้างๆลำธาร

"แล้วฉันต้องไปทางไหนล่ะบุญตา"

นรีนาถดีใจอย่างมากที่เธอได้เป็นอิสระเสียที

"เลาะไปตามข้างลำธารโน่นมันมีทางไปเดินไปเรื่อยๆก็จะเจอถนนด้านนอกเอง"

บุญตาชี้ไปทางป่าทึบ

"ขอบใจเธอมากเลยนะบุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมเลย"

นรีนาถรีบขอบคุณบุญตาและรีบวิ่งไปทันที

"อืม..รีบไปเถอะ"

บุญตายิ้มกระหยิ่มมองตามหลังหญิงสาวอย่างพอใจทางมี่เธอบอกให้หญิงสาวไปนั้นมันออกจากที่นี่ได้จริงแต่น้อยคนนักที่จะออกไปได้เพราะจะถูกสัตว์มีพิษหรือไม่ก็เสือร้ายจัดการไปเสียก่อน

เรือนศังกร

"คำแก้วเอ็งไม่ไปดูคุณหญิงเค้าหน่อยรึทิ้งมาแบบนี้มันจะขัดคำสั่งพ่อเลี้ยงรึเปล่า"

ฟองจันทร์รู้สึกตะหงิดๆใจเล็กๆที่คำแก้วนั้นกลับมาช่วยตนทำงานบ้านแทนทีืจะอยู่เฝ้านรีนาถตามคำสั่งพ่อเลี้ยงหนุ่ม

"แก้วแค่อยากกลับมาช่วยแม่จันทร์น่ะจะอีกอย่างพี่หญิงก็ถูกผูกติดไว้อย่างนั้นแล้วก็ไม่สบายด้วยเธอคงไม่หนีไปไหนหรอกจะ"

คำแก้วเพียงอยากกลับมาช่วยงานบ้านหญิงชราอย่างฟองจันทร์เท่านั้นและคิดว่านรีนาถน่าจะไม่หนีๆปไหนได้เพราะเชือดที่ถูกล่ามไว้ก็ใหญ่พอสมควรแถมเจ้าตัวยังไม่ค่อยจะดีอีกต่างหาก

"งานทางนี้ไม่มีอะไรแล้วเอ็งไปเฝ้าคุณหญิงเค้าเถอะเดี๋ยวพ่อเลี้ยงกลับมาจะถูกเอ็ดเอา"

"ก็ได้จะแม่จันทร์"

เมื่องานบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วคำแก้วก็รีบเดินมาที่กระท่อมลำธารทันที

"พี่หญิง..."

เมื่อมาถึงสิ่งที่ทำให้คำแก้วหน้าถอดสีเมื่อเห็นว่ามีมีดพร้าอยู่หนึ่งเล่มวางอยู่ข้างๆกองเชือกที่ถูกตัดขาดไปแล้วและตอนนี้แล้วนรีนาถก็ไม่ได้อยู่ในนี้แล้วด้วย

"ไปทางไหนต่อนะ.. ทางนี้ละกัน"

ทางด้านนรีนาถตอนนี้หญิงสาวเดินก้าวไปไม่ถูกไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเพราะทางแยกมันมีถึงสองสามทางและเกิดความกลัวขึ้นมาหลังจากท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดครึ้มลงเพราะฝนน่าจะตกในอีกไม่นาน

"ฉันบอกให้เอ็งเฝ้าไว้ไงคำแก้ว"

เมืองรามกลับมาเมื่อได้รับข่าวจากคำแก้วก็หัวเสียขึ้นมาครั้งใหญ่เพราะดูเหมือนคำสั่งของเขาจะไม่ศักดิ์สิทธิ์เอาเสียเลย

"แก้วผิดเองแก้วจอโทษจะพ่อเลี้ยง"

หญิงสาวก้มหน้างุดยอมรับความผิดของตนเพราะเธอเองก็ไม่คิดว่านรีนาถจะหนีไปได้ด้วยตัวคนเดียว

"ฉันจะออกไปตามเดี๋ยวนี้"

เมืองลำดับอุปกรณ์ป้องกันตัวนิดหน่อยแล้วเขาจึงรีบจ้ำอ้าวเดินไปที่แนวน้ำตกเพื่อหาร่องรอยการหลบหนีก่อนที่ฟ้าจะมืดกว่านี้

ไม่นานเขาก็ได้เจอร่องรอยกิ่งไม้หักใหม่ๆทางเข้าไปในป่าและรู้ว่าน่าจะเป็นหญิงสาวคนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้าไปเพราะคนที่นี่ต่างรู้กันดีว่าเส้นทางนี้มันอันตรายแค่ไหน

"พี่สอนจ้ะฉันเห็นมีดนี่อยู่ที่กระท่อมพี่ไปหาพี่หญิงมารึเปล่า"

คำแก้วรู้สึกคุ้นกับมีดพร้าเล่มนั้นอย่างมากและเธอก็ใช้เวลาไม่นานเธอก็นึกออกเพราะเธอเคยเห็นคำสอนนั้นใช้อยู่บ่อยๆจึงรีบวิ่งไปหยิบมีดที่กระท่อมริมธารและวิ่งไปที่บ้านคำสอนเพื่อถามสิ่งที่คาอยู่ในใจทันทีว่าเขานั้นได้ไปที่กระท่อมนั้นหรือไม่

"มีดน่ะของพี่แต่เล่มนี้บุญตามันยืมไปเมื่อตอนบ่ายมีอะไรเหรอ"

คำสอนเห็นมีดของเขาก็นึกออกทันทีว่าเมื่อกลางวันนี้เองที่บุญตารีบวิ่งมายืมมีดของเขาไปเขายังแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าบุญตานั้นจะเอาไปตัดอะไร

"พี่บุญตาอยู่ไหนจ้ะ"

เมื่อรู้ดังนั้นคำแก้วจึงถามหาบุญตาจากคำสอนอย่างหน้าตาตื่น

"อยู่บ้านมันนั่นแหละ..อ้าวจะรีบไปไหนแก้ว"

ยังไม่ทันพูดจบคำแก้วก็ได้วิ่งไปเสียแล้วทำเอาคำสอนเองก็งงอยู่เหมือนกันว่าวันนี้มีแต่คนที่ทำตัวแปลกพิกล

"พี่บุญตา.."

"เอ็งมาทำไมนังแก้ว"

บุญตาเห็นคำแก้ววิ่งมาที่หน้าบ้านก็ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัยเพราะปกติคำแก้วนั้นไม่ค่อยจะมาบ้านเธอสักเท่าไร

"พี่ใช่ไหมที่ปล่อยพี่หญิงหนีไป"

คำแก้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง

"ใครบอกเอ็ง"

บุญตาถึงกับหน้าเจื่อนที่ถูกจับได้

"แก้วรู้แล้วกันพี่หญิงหนีไปตรงไหนทำไมคนในไร่ไม่เห็น"

"ฉันก็ให้มันออกไปทางป่าน่ะสิมันขอร้องฉันเองฉันไม่ได้บังคับ"

บุญตาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา

"พี่ก็รู้ว่าทางป่ามันอันตรายสัตว์ร้ายก็เยอะแล้วพี่ก็ให้เค้าไปเนี่ยนะ"

"ถ้ามันรอดก็ถือว่าดวงดีถ้าไม่รอดก็ถือว่าดวงซวยของมันเอง"

"ใจพี่มันทำด้วยอะไรกัน"

คำแก้วไม่อยากจะเชื่อว่าบุญตาจะใจร้ายใจดำขนาดนี้ทั้งรู้เรื่องแล้วว่านรีนาถไปทางไหนเธอจึงรีบวิ่งกลับไปที่เรือนและเตรียมตะเกียงกับอาวุธป้องกันตัวเป็นมีดสั้นที่เมืองรามเคยให้ไว้และเตรียมตัวออกไปทันที

"เดี๋ยวแก้ว..พ่อเลี้ยงไปแล้วเอ็งจะไปทำไม"

ฟองจันทร์อยากจะค้านคำแก้วนักเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายหากเข้าป่าไปตอนนี้

" แก้วรู้จะว่าพี่หญิงไปทางไหนแก้วไปก่อนนะจ้ะ"

" คำแก้ว... คำแก้วว"

ฟองจันทร์สุดจะรั้งคำแก้วเพราะสาวเจ้าวิ่งออกไปไวเสียเกินกว่าที่คนแก่อย่างเธอจะตามทันได้แต่ภาวนาตามหลังว่าให้ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น

ครู่ต่อมา

"อยู่คนเดียวเหรอแม่จันทร์"

"พ่อเลี้ยงมาพอดีเลยตอนนี้พ่อเลี้ยงรามเข้าป่าไปตามหาคุณหญิงตอนนี้คำแก้วมันก็ตามไปเหมือนกันยังไงฉันวานพ่อเลี้ยงตามแก้วมันไปหน่อยนะถือว่าฉันขอล่ะ"

ฟองจันทร์ที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ตอนนี้นึกว่าฟ้ามาโปรดเมื่อพันแสงเข้ามาในบ้านพอดีเธอจึงขอร้องให้เขานั้นตามคำแก้วไปเพราะกลัวว่าหญิงสาวตัวคนเดียวจะเป็นอันตราย

"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แม่จันทร์"

พันแสงขมวดคิ้วเล็กน้อยคิดในใจว่าคำแก้วไม่น่าสร้างปัญหาเพิ่มเพราะรู้ว่าเพื่อนเขาคนเดียวน่าจะพานรีนาถกลับมาได้

ครื่นๆๆ

"ทำไมน่ากลัวอย่างนี้นะ"

นรีนาถเดินตัวสั่นอยู่กลางแ่าเพราะตอนนี้มืดสนิทจะเห็นทางอีกทีก็ตอนฟ้าแลบเท่านั้นตอนนี้เธอจึงได้แต่ยืนกอดตัวเองให้คลายความกลัวแต่ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเอาเสียเลย

กรู...กรู...กรู....

"ฮึก..ฮือ...พี่สิงน้องกลัว..ฮือๆๆๆ.."

เสียงหรีดหริ่งเรไรสัตว์ป่าที่ออกหากินตอนกลางคืนเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆจนหญิงสาวนั้นกลัวจนนั่งร้องให้ทำอะไรไม่ถูกภาวนาในใจให้เธอรอดปลอดภัยไปได้ในคืนนี้

"หวังว่าจะยังไปไม่ไกลนะแม่จอมพยศ"

เมืองรามเดินเข้าป่าอย่างชำนาญเพราะเขาเข้ามาที่นี่บ่อยครั้งเมื่อต้องการหาของป่าแม้จะถูกเตือนว่าเส้นทางมีอันตรายแต่เขาก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้งตอนนี้เขาเห็นรอยเท้าของหญิงสาวที่เดินค่อนข้างย่ำอยู่กับที่หลายครั้งเขาพึมพำอย่างหนักใจว่าเธอนั้นจะยังไม่เข้าป่าลึกมากนักจนถึงสถานที่ที่น่ากลัว

"ไปถึงไหนกันนะพี่หญิง...พ่อเลี้ยงก็ไม่เห็น...อ..โอ้ยย..อึก..ง...งู"

ทางด้านคำแก้วเธอเองก็เดินจ้ำอ้าวตามรอยเท้าของคนทั้งสองไปแต่ดันไม่ระวังจึงลื่นล้มและตอนนี้ตรงหน้าเธอก็มีงูเห่าชูคออยู่ใกล้ๆจึงทำให้เธอเป็นลมไปด้วยความตกใจ

ครื่นนนน.. ซ่าาาาาาาา

"คำแก้ว..ไป..สัตว์ก็อยู่ส่วนสัตว์"

ดีที่พันแสงนั้นตามมาทันเขารีบไล่งูตัวนั้นไปทันทีทั้งรีบอุ้มคำแก้วขึ้นหมายจะพากลับไปแต่ฝนดันลงมาหนักเสียก่อนจึงต้องเดินไปหลบในถ้ำใกล้ๆที่เขาดูแล้วว่ามันน่าจะปลอดภัยหากเขาจะพาหญิงสาวกลับตอนนี้คงไม่ดีแน่เพราะเธอยังไม่ได้สติเขาไม่สามารถแบกเธอไปด้วยและระวังสัตว์ร้ายในคืนฝนตกไปด้วยได้

"ฮึก..ๆๆ..ฮือๆๆๆ"

"อยู่นี่ๆเอง"

พันแสงยกยิ้มแม้หยาดฝนจะเทลงมาหยักสายตาของเขาก็มองเก็นคนที่นั่งคัวสั่นเป็นลูกนกอยู่ในพุ่มไม้ได้เป็นอย่างดี

"นาย.."

ตอนนี้ศรัตรูที่น่ากลัวอย่างเมืองรามก็ไม่น่ากลัวเท่าความมืดของป่านี้เธอจึงรู้สึกใจชื้นเล็กน้อยที่เห็นคนตรงหน้าแม้เขาจะทำท่าแยกเขี้ยวใส่เธอก็ตาม

"มานี่.."

เมืองรามฉุดกระชากลากถูหญิงสาวด้วยความโมโหให้กลับมาถึงกระท่อมริมธารในเวลาไม่กี่ชั่วโมงและเขาก็เหวี่ยงเธอด้วยโทสะอย่างไม่ปราณีลงไปที่ฟูกนอนจนหญิงสาวหัวทิ่มหัวตำมิวายที่มือหนาจ่อปากกระบอกปืนสั้นมาทางเธอ

พลั้กก..

"โอ้ยย..ฮึก..ฮือๆๆ..ปล่อยฉันไปเถอะฉันไหว้ล่ะ.."

นรีนาถถึงกับตัวสั่นยกมือไหว้ชายหนุ่มประหงกๆน้ำตานองหน้าไหลพรากจนมองอะไรไม่ชัดแต่รู้ว่าเขากำลังจ่ออะไรมาทางเธอ

"ปล่อยให้โง่สิ...บอกแล้วไงหนีจากที่นี่ยังไงก็หนีไม่รอดแล้วก็อยากจะหนี"

"อื้อ...เจ็บ..ฮือๆๆ"

ชายหนุ่มบีบไหล่หญิงสาวอย่างแรงจนเธอสีหน้าเหยเกสะอื้นให้หนักกว่าเดิม

"อยู่เฉยๆ"

"อื้อ...จะทำอะไร..ปล่อยนะ"

นรีนาถหน้าเหวอตกใจเมื่อจู่ๆคนตัวโตก็มายุ่มย่ามดึงเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มของเธอออกแต่มีหรือว่าคนอย่างเธอจะยอมสองมือน้อยคอยปัดป้องอย่างสุดชีวิตทั้งหมายจะลุกหนีแต่ก็ถูกชายหนุ่มกระชากลงมานั่งคร่อมให้เธออยู่ใต้ร่างของเขาเสียก่อน

"ทำในสิ่งที่ฉันน่าจะทำตั้งนานแล้วน่ะสิ"

แคว้กกก

"ปล่อยนะ.."

เมื่อมือหนาฉีกเสื้อของเธอจนขาดวิ่นทั้งยังดึงซับในให้ขาดออกจนเผยให้เห็นเนินอกอวบอูมขาวอมชมพูตั้งชูชันประจันหน้ามือหนาหรือจะอยู่เฉยได้รีบบีบเค้นขยำอย่างสนุกมือโดยไม่คำนึงว่าคนที่ถูกกระทำเต็มใจหรือไม่

"ดิ้นไปก็เท่านั้น..อยู่เฉยๆ"

"อื้อ.."

แสงไฟระเรื่อใต้แสงตะเกียงดวงน้อยบนหัวฟูกนอนค่อยๆดับลงด้วยฝีมือพ่อเลี้ยงหนุ่มผ้าผ่อนที่เปียกชุ่มบนตัวตอนนี้ปลดออกล่อนจ้อนทั้งตัวของเขาเองและหญิงสาวอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือคนเอาแต่ใจเมื่อหมดปราการป้องร่างกายชายหนุ่มก็สามารถทำอะไรๆได้ตามอำเภอใจอย่างที่หญิงสาวขัดขืนอะไรไม่ได้

"จำเรื่องวันนี้ไว้ให้ดีๆล่ะว่าฉันทำอะไรกับเธอบ้างจะได้เล่าให้พ่อเธอฟังถูก"

"ล..เลว..อร้ายยยยย"

หญิงสาวร้องเสียงหลงหลังจากคนตัวโตพูดเสร็จตัวตนของเขาก็บดเบียดเข้ามาทางช่องทางรักของเธออย่างที่ไม่ทันตั้งตัวความเจ็บจุกแล่นเข้าตัวหญิงสาวจนเธอไม่มีแม้เสียงจะร้องแม้จะหายใจยังลำบากน้ำตาความเสียใจหลั่งไหลออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนป่าเถื่อนเยี่ยงพ่อเลี้ยงจอมโหดคนนี้

ครื้นนน...ซ่าาาาา

"หยุดซะที..ฮือๆๆ"

"ไม่..ร้องให้ตายฉันก็ไม่หยุด"

เม็ดฝนที่ตกลงมาจากฟ้ายังคงซัดสาดระห่ำพร้อมเสียงฟ้าร้องลงมาไม่ยอมหยุดเปรียบดังหยาดน้ำตาของหญิงสาวที่ตอนนี้เธอเองก็ร้องไม่หยุดเช่นกันแม้จะไม่มีเสียงสะอื้นแล้วก็ตามเพราะคนตัวโตยังกระทำการเอาแต่ใจเสพสุขกับร่างกายของเธอไม่ยอมหยุดจนระบมไปทั้งตัวเธอเอ่ยขอร้องแล้วเขาก็ไม่เคยที่จะปราณีทั้งยังดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงสวาทโหมกระหน่ำมาที่ตัวเธอจนเนื้อตัวมีแต่รอยช้ำไปทั้งตัวไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจของเธอแบบนี้จะจบลงเมื่อไรได้แต่ก้มหน้ายอมรับมันไปเพราะอย่างไรมันก็เลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status