Share

ตอนที่14 ข่าวลือ

"พี่หญิง..ท..ทำไมมีสภาพแบบนี้ล่ะจ้ะ"

เกือบเที่ยงวันที่คำแก้วจะมาถึงกระท่อมเพราะต้องเตรียมอาหารมาที่นี่ด้วยเมื่อเปิดประตูเข้ามาหญิงสาวถึงกับผงะปิ่นโตที่อยู่ในมือแทบร่วงเมื่อเห็นสภาพของนรีนาถที่ฟุบนอนอยู่กับฟูกนอนน้ำตาไหลพรากเนื้อตัวมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดทั้งเสื้อผ้าก็ยังขาดวิ่นกองอยู่ข้างตัว

"แก้ว..ฮึก..ฮือๆๆๆ..ไอ้พ่อเลี้ยงบ้านั่น..ฮือๆๆๆ.."

นรีนาถเห็นคำแก้วเข้ามาหาก็รีบคว้าตัวหญิงสาวเข้ามากอดเพื่อระบายความกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจ

"หา.."

"ฮือๆๆๆ..."

คำแก้วสัมผัสได้ว่านรีนาถเนื้อตัวยังสั่นไม่หายสภาพของนรีนาถที่เป็นแบบนี้คำแก้วเองพอจะดูออกว่าคงเป็นเพราะอารมณ์โทสะของพ่อเลี้ยงเป็นแน่ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดหากเธออยู่เฝ้าเท่านั้นเรื่องทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้นเลย

"เดี๋ยวแก้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นะจ้ะ.."

คำแก้วค่อยๆโน้มตัวนรีนาถให้นอนลงและรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอในขณะที่นรีนาถยังคงสะอื้นไม่หยุด

"ฮือๆๆๆ.."

ข้าวเที่ยงยังไม่ทันได้กินหญิงสาวก็หลับไปเสียก่อนหลังจากเช็ดตัวเสร็จด้วยความเพลีย

"แก้วขอโทษที่ไม่ดูพี่หญิงให้ดี..แก้วขอโทษนะจ้ะ.."

คำแก้วเองถึงแม้จะไม่ได้กินข้าวเช้าเหมือนกันถึงปิ่นโตจะวางอยู่ตรงหน้าเธอก็กินมันไม่ลงเอาแต่นั่งมองคนที่ตัวมีแต่รอยแดงและคราบน้ำตาอย่างเวทนา

"เดี๋ยวฉันเฝ้าต่อเองเอ็งไปช่วยแม่จันทร์เถอะคำแก้ว"

"จะพ่อเลี้ยง"

เมืองรามกลับมาที่กระท่อมในช่วงเย็นเขาสั่งให้คำแก้วกลับไปที่เรือนเพราะไม่อยากให้เดินกลับมืดค่ำนักส่วนนรีนาถเขาจะดูต่อเอง

"อืม..นาย.."

เพี๊ยะ...

นรีนาถรู้สึกตัวว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่หน้าจึงลืมตาขึ้นเมื้อมองว่สเป็นชายหนุ่มจึงรีบลุกขึ้นทั่งมือเรียวยังฟาดไปที่หน้าของเขาอย่างแรงให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ

"เธอตบฉัน..อยากตายรึไงห้ะ"

เมืองรามบีบแขนหญิงสาวจนน้ำตาเธอไหลออกมาอีกรอบ

"ฆ่าฉันสิ...ฆ่าฉันเลย..ฮือๆๆๆ"

"ฉันไม่ฆ่าเธอตอนนี้หรอกจะปล่อยให้ทรมานในโลกความเป็นจริงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าพ่อเธอจะมารับ"

เมืองรามบีบคางมนอย่างเต็มแรง

"ฮือๆๆ...อย่ามาแตะตัวฉัน"

หญิงสาวพยายามแกะมือชายหนุ่มออกจากใบหน้าของเธอ

"ฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรกับตัวเธอก็ได้จำเอาไว้"

"ฮื่อๆๆๆ.."

"ร้องไปนะ..จะโวยวายร้องให้จนไม่มีน้ำตาก็แล้วแต่เธอเพราะฉันไม่สนใจและไม่เคยสงสาร"

"คนใจดำ..นายมีหัวใจบ้างรึเปล่า.."

นรีนาถหมดคำจะพูดกับคนตรงหน้าที่ดูจะไม่สะทกสะท้านกับความผิดของตัวเองแม้แต่นิดเดียว

วันต่อมา

ไร่วัฒนพรรณ

"ปากหมานักนะพวกมึง"

ตุ้บ.. ตับ.. ตุ้บ.. ตับ.. พลัก

เช้าๆแบบนี้ทศพลหมายจะมาเดินเล่นที่ไร่วัฒนพรรณเสียหน่อยแต่เมื่อได้ยินบางคนนินทาเรื่องของคำแก้วเขาก็อดใจที่จะมีเรื่องกับสมานลูกน้องคนสนิทของพันแสงไม่ได้

"กูพูดเรื่องจริงใครเค้าก็ลือกันไปทั่ว"

สมานไม่ได้อยากนินทาแค่พูดกับกลุ่มเพื่อนตนตามที่ได้ยินมาเท่านั้น

"ไม่จริงโว้ย...คำแก้วมันไม่ทำตัวเป็นแม่หญิงใจง่ายมึงอย่ามาพูดหมาๆไม่งั้นจะโดนยิ่งกว่านี้"

ปั้ง.

"พ่อเลี้ยง"

ในระหว่างที่ทั้งคู่จะปล่อยหมัดใส่กันอีกรอบก็มีเสียงปืนของพันแสงยิงขึ้นฟ้าระงับเหตุการณ์เสียก่อน

"พวกมึงกัดกันเหมือนหมา...ทะเลาะอะไรกันห้ะ"

พันแสงตะคอกเสียงฝาดเขาเกลียดการทะเลาะเบาะแว้งกันที่สุดโดยเฉพาะคนที่รู้จักมักจี่กันอยู่แล้ว

"ฉันไปก่อนนะพ่อเลี้ยง..ลาล่ะ"

สมานถึงขั้นต้องลาหนีวิ่งออกไปเสียก่อนเพราะหากเจ้านายของตนรู้ว่าตนเองพูดถึงเรื่องอะไรมิวายถูกถีบล่วงเขาเป็นแน่

"มึงทะเลาะอะไรกับไอ้หมาน"

พันแสงส่ายหัวกับพฤติกรรมของสมานทั้งหันมาเค้นถามกับทศพลคนของเพื่อนเขาแทน

"ก็ฉันแค่เดินมาที่ไร่พ่อเลี้ยงเจอไอ้หมานมันปากหมาถามฉันว่าคำแก้วมันได้กับพ่อเลี้ยงจริงรึเปล่าเพราะได้ยินคนทั้งไร่เค้าลือกันฉันไม่ชอบให้คนพูดกันแบบนั้นเพราะรู้ว่ามันไม่จริง"

ทศพลพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ

"อืม..แล้วกูจะจัดการคนของกูให้"

พันแสงเท้าเอวขมวดคิ้วเขาคิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องแบบนี้

"ฉันถามหน่อยเถอะพ่อเลี้ยงอย่าหาว่าฉันปากหมาใส่เลยนะวันนั้นทำไมพวกเราไปเจอพ่อเลี้ยงถึงได้กอดกับคำแก้วแบบนั้น"

"กูแค่เห็นคำแก้วมันหนาวเป็นมึงจะทำยังไง"

พันแสงเลิกคิ้วถามอีกฝ่ายให้คิดตาม

"ฉันเชื่อพ่อเลี้ยงแต่คนอื่นน่ะสิ...ฉันกลับล่ะวันนี้ไม่มีอารมณ์เดินเที่ยวแล้ว"

ทศพลเชื่อในตัวพ่อเลี้ยงพันแสงและคำแก้วดีแค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นแต่ก็รู้ว่าคนอื่นคงไม่น่าจะเชื่อสักเท่าไร

"เอ็งไปกัดกับหมาที่ไหนมาไอ้ทศ"

สายๆหลังจากฟองจันทร์ทำงสนบ้านเสร็จก็ออกมานั่งรับลมที่หน้าเรือนหญิงชราถึงแม้จะสายตาไม่ดีเท่าไรแต่ก็มองออกว่าทศพลที่กำลังเดินเข้ามาหน้าตาบอบช้ำปูดจนเห็นได้ชัด

"หมาแถวไร่โน้นน่ะแม่จันทร์"

ทศพลนั่งลงที่แคร่ไม้ข้างๆฟองจันทร์

"มีปัญหาอะไร"

เมืองรามเดินเข้ามาได้ยินสิ่งที่ทศพลพูดพอดีเลยถามด้วยความอยากรู้

"พ่อเลี้ยง"

ทศพลหน้าเจื่อนเล็กน้อย

"กูถามก็ตอบ.."

ยิ่งเห็นสีหน้าของทศพลที่ดูออกว่ามีปัญหาเมืองรามเลยต้องรีบเค้น

"คือฉันแค่ไปทะเลาะกับไอ้หมานจะพ่อเลี้ยง"

"เรื่องอะไรก็รีบๆพูดมาสิวะอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้"

"ก็มันบอกว่าคำแก้วกับพ่อเลี้ยงได้เสียกันแล้วฉันแค่ไม่ชอบเท่านั้น"

"..อืม.."

ทั้งฟองจันทร์และเมืองรามเองก็ต่างพูดอะไรไม่ออกไปตามๆกันกับคำพูดจากปากทศพลเมืองรามขมวดคิ้วเคร่งเครียดยังไงเรื่องนี้เขาก็จะปล่อยไว้ไม่ได้​

ไร่วัฒนพรรณ

"มาที่นี่มีธุระอะไรวะ...ถ้าเรื่องไอ้ทศกูขอโทษแทนไอ้หมานมันก็แล้วกัน"

พันแสงเห็นคนเป็นเพื่อนเข้ามาในเรือนของเขาค่อนข้างจะเย็นแล้วทั้งรีบขอโทษเรื่องที่คนสนิทของตัวมีปัญหากับคนของเพื่อนทันที

"กูมาเรื่องคำแก้ว"

เมืองรามมองหน้าพันแสงอย่างเคร่งเครียด

"มึงมีอะไร"

พันแสงก้มหน้าเล็กน้อยทั้งจ้องหน้าคนเป็นเพื่อนกลับไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขาก็พร้อมจะรับฟังทุกอย่าง

"เรื่องที่เค้าลือกัน"

"มึงจะให้กูรับผิดชอบยังไง"

พันแสงไม่ต้องให้เพื่อนเขาอธิบายยืดยาวก็พอรู้ว่าเมืองรามต้องการอะไร

"กูขอบใจที่มึงตามไปช่วยคำแก้ว..แต่มึงก็รู้ว่าคนเค้าเห็นมึงกับคำแก้วกอดกันกลมแบบนั้นคงจะคิดเป็นอื่นได้ยาก"

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เมืองรามลำบากใจอย่างมากที่จะพูดอะไรกับพันแสงแต่เขาก็จำเป็นต้องทำ

"....."

พันแสงยังคงนิ่งฟังไม่โต้ตอบจากคนขี้เล่นกลายเป็นคนไม่มีปากไปเสียแล้ว

"มึงก็รู้ว่ากูเอ็นดูคำแก้วเหมือนลูกกู...มึงช่วยรักษาชื่อคำแก้วหน่อยเถอะว่ะ"

เมืองรามกำมือแน่นรู้ว่าเพื่อนลำบากใจเขาเองก็ใช่ว่าจะสบายใจที่มาขอร้องเพื่อนแบบนี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status